พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เสด็จพระราชดำเนินด้วยพระบาท เข้าไปในป่ายางท่ามกลางฝนตกหนัก โดยมีสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ ตามรอยพระยุคลบาทไปไม่ห่าง เป็นระยะทางถึง ๒ กิโลเมตรเศษ
นี่คือสิ่งมิใช่สามัญธรรมดาในความรู้สึกของผู้คน และความไม่สามัญธรรมดานี้ก็ยิ่งไม่ธรรมดามากยิ่งขึ้นเป็นทวีคูณ เนื่องเพราะบริเวณนี้คือ "ดงทาก" หรือ "รังทาก" อันมีทากชุกชุมที่สุดแห่งหนึ่งของภาคใต้
กว่าจะถึงจุดหมาย คือบริเวณพื้นที่จะพิจารณาสร้างอ่างเก็บน้ำเพื่อให้มีน้ำไว้ใช้สำหรับพื้นที่ ๕,๐๐๐ ไร่ ใน ๓ เขตตำบลคือ เชิงคีรี มะยูง และรือเสาะ เกือบทุกคนก็โชกฝนและโชกเลือด แม้ทูลกระหม่อมทั้งสองพระองค์ก็มิได้รับการยกเว้น
ค่ำวันนั้น ระหว่างที่เสด็จพระราชดำเนินกลับพระตำหนักทักษินราชนิเวศน์ อากาศปลายฤดูฝนกำลังสบาย ดวงดาวบนฟ้าเริ่มจะปลายแสง ขบวนรถยนต์พระที่นั่งได้หยุดลงกะทันหันโดยไม่ทราบสาเหตุบนทางหลวงที่มืดสงัด เป็นเวลาหลายนาที ถามไถ่ได้ความภายหลังว่า ยังมีทากหลงเหลือกัดติดพระวรกายอยู่อีก เมื่อรู้สึกพระองค์จึงได้หยุดรถยนต์พระที่นั่ง และรับสั่งให้สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ ช่วยจับทากตัวที่เป่งไปด้วยพระโลหิตออกจากพระวรกาย
ทรงเรียกการทรงงานวิบากที่เชิงคีรีครั้งนี้ในภายหลังว่า "สงครามกับตัวยึกยือ ที่เชิงคีรี"
ที่มา : ที่สุดของหัวใจ
สำนักพิมพ์ : กันตนา
พระองค์ทรงงานหนัก เพื่อประชาชนของพระองค์โดยแท้
ขอทรงพระเจริญ
ว่าแต่ เล่มที่ 5 นั้นชื่อเรื่องอะไรครับเห็นเป็น ... มานานแล้ว