ผมจะใช้เวลาราว ๑ ชั่วโมงต่อจากนี้ระหว่างรอ Blueberry Cheesecake ในตู้เย็นแข็งตัว เล่าที่มาของเค้กก้อนนี้ให้กัลยาณมิตรใน gotoknow รับทราบ
.....
ยังไม่ทันที่แสงแรกแห่งวันจะมาเยือน เสียงลมพริ้วพัดยอดไผ่สลับกับเสียงน้ำไหลเอื่อยของน้ำแควน้อยที่อยู่ด้านล้างเรือนที่ผมใช้หลับนอนในคืนที่จะผ่านพ้นไปในอีกไม่กี่อึดใจ
เรีอนพักอยู่ชายเขา รายล้อมด้วยกอไผ่หนาตา อากาศเย็นพอดิบพอดี จึงมิจำเป็นต้องใช้ความเย็นจากแอร์ เพียงแง้มหน้าต่างให้ลมถ่ายเทเข้ามาพร้อมสรรพเสียงจากธรรมชาติ ทำให้บรรยากาศการนอนหลับพักผ่อนของผมในยามค่ำคืนนี้เป็นไปอย่างวิเศษ ตื่นขึ้นมาอย่างมีกำลังวังชา โปร่งโล่งและแจ่มใส ทั้งที่ได้นอนพักไม่ถึง ๖ ชั่วโมง
ผมตื่นนอนตอนเช้าที่ภูไอยรารีสอร์ท อ.ทองผาภูมิ จ.กาญจนบุรี ห่างจากที่ผมนั่งอยู่ ณ ขณะนี้ ราว ๓๐๐ ก.ม.
เพื่อนผมคนหนึ่งเป็นเพื่อนสนิทกับเจ้าของรีสอร์ทนี้ ซึ่งเมื่อรู้ว่าผมจะทำ de’Musoi ก็กุลีกุจอให้ผมไปเรียนรู้ระบบงานเพื่อเป็นต้นทุนให้ผมดูแลให้กิจการเจริญก้าวหน้าขึ้น
เอาไว้จังหวะดี ๆ เพื่อนคนนี้ผมอยากจะนินทาให้ฟังสักบันทึกนึง ฮิ ฮิ
สองสามีภรรยาเจ้าของรีสอร์ทน่ารักเป็นหนักหนา ให้การต้อนรับอย่างดีเมื่อรู้ว่าผมเป็นเพื่อนของเพื่อนเธอและเขา รวมไปถึงถ่ายทอดความรู้จำพวกเทคนิคการบริหารจัดการต่าง ๆ ให้อย่างไม่ปิดบัง ตามคำถามซอกแซกของผม
แหะ แหะ อยากจะบอกว่าความรู้ต่าง ๆ ที่ผมได้รับเนี่ย ผมเข้าใจว่ามันคือ Tacit Knowledge ดี ๆ นี่เอง
มีกลเม็ดเคล็ดลับจำนวนมากที่ผมได้รับ และจำนวนไม่น้อยเป็นเรื่องที่ผมคาดไม่ถึง และจำนวนไม่น้อยอีกเช่นกันที่ผมได้คำตอบกระจ่างแจ้งจากการบอกเล่าอย่างเต็มอกเต็มใจ
...แต่ยังไม่ขอเล่าเรื่องราวเหล่านั้นในที่นี่นะครับ
สิ่งที่อยากเล่าคือที่มาของบันทึกในวันนี้ คือการทำ Blueberry Cheesecake
ปกติแล้วผมเป็นคนทำอาหาร แต่จะเน้นหนักไปทางกับข้าวและกับแกล้มซะเป็นส่วนใหญ่ ขนมนี่ไม่ได้ทำเลย จำได้ว่าเคยเป็นลูกมือช่วยย่าทำเมื่อสมัยเป็นเด็ก ๆ
คุณเอผู้ภรรยาเจ้าของกิจการรีสอร์ท เป็นผู้หญิงที่เก่งมาก ๆ เธอทำทุกหน้าที่ในรีสร์ทได้ทุกอย่าง โดยเฉพาะการทำอาหารและขนม ช่วงที่ผมไปเยือนแม่ครัวลาคลอด เธอจึงต้องมาทำหน้าที่แทนแม่ครัว
ผมนั่งคุยกับเธอเกี่ยวกับการจัดการด้านอาหารหลายเรื่องราว ก่อนจะกลับเธอบอกจะสอนการทำ Blueberry Cheesecake ให้ ทั้งที่จะต้องรีบกลับเพราะมีนัดกับสหายคนนึงไว้ แต่ก็จำต้องอยู่ต่อเพราะวิชาที่คุณเอจะสอนให้จะเป็นประโยชน์อย่างยิ่งที่ผมจะเอาอกเอาใจแม่เฌวา เพราะเธอชอบ Blueberry Cheesecake เป็นชีวิตจิตใจ
ผมใช้เวลาประมาณราวชั่วโมงครึ่งเรียนทำ Blueberry Cheesecake กับคุณเอ จริง ๆ แล้วผมควรจะเรียกเธอว่าครูเอ เพราะเธอสอนอะไรต่อมิอะไรให้ผมหลายอย่างมากมาย
ครูเอสอนผมทำ Blueberry Cheesecake แบบ learning by doing
ผมลาครูเอกลับบ้าน เมื่อ Cheesecake ถูกนำไปแช่ตูแย็น
ผมขับรถกลับมาพร้อมกับนึกในใจ วันนี้จะต้องมีเซอร์ไพรส์ให้แม่เฌวาซะหน่อย
ผมขับรถเลยบ้านไปห้างสรรพสินค้านึง ซื้อบรรดาส่วนประกอบสำหรับการทำ Blueberry Cheesecake
ได้แก่ ขนมปังแครกเกอร์ ๒ ห่อ เนยชนิดเค็ม ครีมชีส อย่างละห่อ นมข้นหวาน และบลูเบอรี่กวนอย่างละกระป๋อง โยเกริตรสธรรมชาติแพ็คนึง (๔ ถ้วย) จริง ๆ จะใช้แค่ถ้วยเดียวแต่ไม่มีแบบแยกขาย ส่วนมะนาวและนมจืดซึ่งต้องใช้ไม่ได้ซื้อเพราะมีอยู่ที่บ้าน
ทันทีที่ถึงบ้าน ผมลงรถแล้วปรีไปที่ครัวเริ่มลงมือ โดยมีเฌวาเป็นลูกมืออยู่ข้าง ๆ
ผมและเฌวาช่วยกับบดบี้แครกเกอร์ให้ละเอียดทั้งสองห่อ ตอนแรกบี้ในถุงแล้วเอาออกใส่กะละมังจากนั้นก็ใช้ช้อนกระบวนบดอีกรอบนึง
ก่อนหน้าจะบดแครกเกอร์ผมเอาเนยชนิดเค็มหั่นครึงนึง เอาใส่หม้อสแตนเลสตั้งบนเตาแกสโดยใช้ไฟอ่อนที่สุด
แครกเกอร์บดละเอียดได้ที่แล้วก็นำเนยที่ละลายไว้เทราดแล้วคลุกเคล้าให้ทั่ว จากนั้นก็นำเอาไส่แบบพิมพ์ กดจนแน่น แล้วนำไปแช่ช่องฟรีสในตู้เย็น
จากนั้นก็มาทำ Cheesecake เริ่มจากนำ ครีมชีสทั้งห่อใส่ลงไปในถ้วยแก้วใบโต ตามด้วยโยเกริตถ้วยนึง นมข้นหวานและนมจืดอย่างละ ๔ ช้อนโต๊ะ แล้วก็ตี ตี ตี แล้วก็ตี สักใหญ่จนเข้ากัน ใช้เวลาราว ๒๐ นาที เดินไปเดินมาล้างถ้วยล้างชาม แล้วพาเฌวาไปล้างมือเตรียมขึ้นนอน
แครกเกอร์ที่แปรสภาพไปอยู่ในแบบที่ถูกนำไปแช่ไว้ในช่องฟรีสถูกนำออกมาแล้วก็นำชีสที่ผสมกับส่วนประกอบต่าง ๆ เทราดลงไปบนก้อนเค้กในแบบพิมพ์ แล้วก็นำไปแช่ไว้ที่เดิม
แช่ได้ไม่ทันไรแม่เฌวาพาเฌวาขึ้นไปนอน ผมเลยไม่ทันได้เซอร์ไพรส์
ผมนึกในใจ พรุ่งนี้เช้าก็ได้วะ...
ตั้งใจว่าเช้าตื่นขึ้นมาก็จะนำ Cheesecake ออกจากตู้เย็น ตัดแบ่งเป็นชิ้น แล้วเอาบลูเบอรี่กวนเทราดเอาไปให้แม่เฌวา
และจะกันไว้ชิ้นนึงใส่กล่องเอาให้เฌวาไปกินที่โรงเรียนตอนกลางวัน ฝากไปให้คุณครูเฌวาอีกชิ้นนึงด้วย
ขอตัวไปดู Cheesecake ในตู้เย็นก่อนนะครับ
น่าจะอร่อยนะคะ รอชมค่ะ
ว้าว! ๆๆๆๆๆ น้องหนานเกียรติเก่งจังเลย แสดงว่ามีความสามารถจริง เพราะเล่าได้ เหมือนทำได้ ก็ต้องทำได้ พี่สุนึกว่าน้องหนานเกียรติจะหักมุม ว่าพอเปิดตู้เย็น ก็ไม่เห็นเสียแล้ว เพราะเข้าใจผิด แม่เฌวา ไม่ได้กิน เอาไปทำอย่างอื่น ต่อ อิอิ ผิดคลาดหรือเปล่า
โอ้โห ขอสักชิ้นได้มะคะ อิอิ สอนมั่งนะพี่เกียรติ ดูท่าทางทำไม่ยากป่ะ
สวัสดีครับพี่แก้ว..อุบล จ๋วงพานิช
แหะ แหะ พี่ครับ ต้องรอพรุ่งนี้เช้าครับ...
พรุ่งนี้เช้าจะถ่ายรูปมาให้ดูนะครับ...
สวัสดีครับ พี่ สุ-มหาวิทยาลัยชีวิต ที่ไม่มีวันปิดทำการ
แบบว่าได้ครูดีหนะครับ...
ตอนนี้เค้กก้อนนั้นนอนหนาวอยู่ในตูเย็น สักพักจะเอาออกลงมาแช่ช่องธรรมดา
พรุ่งนี้จึงจะได้ชิม
ผมว่านะ มันต้องอร่อยอยู่แล้วแหละ เพราะว่า
เพราะ เอ่อ..
.....
....
...
..
.
ผมใช้ใจทำครับ
อยากเป็นแม่เฌวา
วันนี้ ป้าแดง ก็ทำ น้ำสำรอง โดยไม่มีใครเป็นลูกมือ
วันหลัง ทำเค้กบ้างดีกว่า อย่างน้อย ก็อาจจะใช้เป็นอาวุธได้ อิอิอิ
พลอยครับ...
ผมว่านะ รอกินดีกว่าเหอะ
นะ นะ...
สวัสดีครับ pa_daeng
พี่รับเค้กไปกินกะน้ำสำรองสักชิ้นไหมครับ ฮิ ฮิ...
นี่เป็นคร้ังแรกต้ังแต่โตมาที่ได้ทำขนมครับป้าแดง
จะกินได้หรือเปล่าต้องรอลุ้นพรุ่งนี้ครับ...
แหม กำลังลุ้นอยู่เลย
จบซะแล้ว
ไว้มีตอนต่อไป
บ่ ดี ลืมแวะไปชวนมาผ่อโตยเน้อเจ้า
สวัสดีค่ะ
น่าลุ้น...น่าทาน ไม่ยากใช่ไหมคะ แต่มันภูมิใจนะคะ วันนี้พี่คิมก็ลงมือทำน้ำพริกอีก มีพวกร่ำร้องมาจากบันทึกคุณหนานเกียรติ ได้นิดหน่อยเอง
กำลังแต่งใบงานค่ายนักเรียนค่ะ บางอันยากเกินไปเสียเวลาต้องทำใหม่ ไปดูพี่คิมถูกตอกหน้าหน่อยดิ
สวัสดีเจ้า ปี้เขี้ยว มนัญญา ~ natachoei ( หน้าตาเฉย)
วันพุ่งจะโดยมาชิมเค้กเน่อเจ้า...
สวัสดีครับ พี่ครูคิม
แวะไปอ่านบันทึกมาแล้วครับ สุดยอดเลย...
เค้กที่นอนหนอวอยู่ในตู้เย็นไม่รู้จะกินได้หรือเปล่า
พรุ่งนี้จะส่งข่าวนะครับ...
พี่ครับ ทำไม่ยาก...เคยทำ อิอิ ....หมูๆ อร่อยๆ อิอิ
สวัสดีคุณน้องคำหล้า... ♥paula .`๏'- ที่ปรึกษาตัวน้อย.`๏'-
ช่าย ๆ ทำไม่ยาก
แต่ไม่รู้จะอร่อยหรือเปล่า
พรุ่งนี้จะรายงานให้ทราบครับ...
ของโปรดเลยค่ะ
อยากทานฝีมือน้องเฌวาจัง :-)
สวัสดีค่ะคุณหนานเกียรติ
พูดซะเห็นภาพเลยค่ะ น่ารักจังเลย หัดทำขนมด้วย คราวนี้แหละไม่ต้องง้อใครแล้ว อยากกินเมื่อไหร่ทำเองเลย สบายมากกกก
สวัสดีค่ะท่านหนาน....
อันนี้ blueberry cheese-cake ชิ้นแรกที่ดาวฝึกทำค่ะ
อาจจะดูไม่สวย...แต่หมดเกลี้ยงเลย อิอิ
จะรอดูฝีมือท่านหนานนะคะ ^^
ตามมามอบกาแฟรอขนมที่คุณหนานเกียรติตั้งใจทำด้วยความรักต่อแม่เฌวาค่ะ
คุณพ่อเฌวา..
สวัสดีเจ้าพี่หนาน...
เพิ่งมีโอกาสได้เข้ามา...หลังจากห่างหายไปนานพอสมควร..
เห็นบันทึกเรื่องนี้ก็เลยแวะมา ว่าจะขอชิมซะกะหน่อย แต่เสียดายเจ้าของบ้านไม่ได้ลงรูป...อิอิ อดเลยสิเรา..
แนนเองตอนนี้ก็ทำพายมะพร้าวอ่อน และพายฟักทอง สูตรแบบไทยๆ เอาไปขายให้เพื่อนๆ ใน ม. ก็ขายดีจนเกลี้ยงทุกที..
แต่บลูเบอรี่ชีสเค้กยังมะเคยทำอ่ะค่ะ...ว่าจะลองดู แต่ขอไปหาบลูเบอรี่ดีๆอร่อยๆ ก่อนนะคะ...แล้วจะมาเล่าให้ฟังค่ะ
ฝากความคิดถึงไปให้น้องเฌวาตวยเน้อเจ้า....
ปล. ไปดอยดินแดง(ร้านเครื่องปั้นดินเผา อ.สมรักษ์ ที่พี่หนานถามว่าเคยไปไหม..ก็เพิ่งได้ไปไม่นานนี่เองค่ะ..อิอิ เชยเน๊าะ) ที่บ้านดู่มาแล้วค่ะ ทำเป็นร้านมีที่รับรองแขกน่ารักเชียวค่ะ เครื่องปั้น และสถานที่สวยมาก คุณทามาโกะและอ.สมรักษ์ก็ใจดีมากมาย...น่ารักมากค่ะ