การคอรัปชั่น ของ หน่วยงานราชการ รูปแบบที่ผม พึ่งเจอ (อาจจะเชยนะครับ)
การคอรัปชั่น ของ หน่วยงานราชการ รูปแบบที่ผม พึ่งเจอ
เรื่องนี้อาจจะเชยสำหรับหลายๆท่านที่รู้ก่อนผมนะครับ
พอดีผมเป็นนักวิจัย ปกติการรับทุนวิจัยก็จะสมัครทุน โดยใช้ความรู้ความสามารถ เขียนโครงการ และแนบประวัติที่ดี เพื่อเข้าแข่งขันจากผู้สมัครทุนมากมาย ถึงจะได้โครงการวิจัยนั้นๆมาทำงาน เพื่อสร้างประโยชน์ให้ประเทศชาติตามลำดับ
แหล่งที่ให้ทุนวิจัยก็มีระบบที่เข้มข้น และทำให้นักวิจัยรู้สึกถึงความภาคภูมิใจ เมื่อผ่านเกณฑ์ได้รับทุนวิจัยมาดำเนินการ เช่น แหล่งทุนอย่าง สกว. สวทช. Biotech หรือ ทุนต่างประเทศที่ผมเคยได้รับ เช่น IFS ของ sweden เป็นต้น
นักวิจัยแต่ละคน กว่าจะผ่านด่านอรหันต์เข้าไปรับทุนวิจัย ต้องแสดงความสามารถเต็มที่ ประวัติต้องดี เก่งชำนาญในสาขานั้นๆ แหล่งทุนวิจัยก็มีหลายแบบ แบบที่ต้องใช้ความสามารถเราเอง และอีกแบบ คือเขาเชิญเราให้เข้ามาทำ ประเภทหน่วยงานกรมกองที่ชอบจ้างอาจารย์มหาวิทยาลัยมาทำงานนั่นเอง โดยใช้คำสวยหรูว่า "วิธีจัดซื้อจัดจ้างโดยวิธีพิเศษ"
ผมเคยทำงานลักษณะถูกจ้างทำวิจัยจากหน่วยงานกรมกองในกระทรวงต่างๆมาหลายครั้ง ก็ช่วยทำครับ สมัยจบ ป.เอก ใหม่ๆ คิดว่าทำประโยชน์ให้หน่วยงานเขาได้พอสมควร ก็ผมเองไม่ค่อยปลื้มเท่าไหร่ครับ เพราะเรารู้สึกว่า ประเทศชาติได้ประโยชน์ไม่เต็มที่ เพราะช่วงที่ผมรับงาน ก็ผ่านมาจากผู้อื่นขอร้องให้ทำ(เพราะเขาทำไม่ได้) มีการหักนั่นนี่เต็มไปหมด
และไม่กี่อาทิตย์นี่เอง ผมก็ถูกเชิญให้รับทุนแบบดังว่าอีกครั้ง ผ่านอาจารย์เด็กๆสายสังคมวิทยา ให้มาช่วยโครงการหนึ่ง ของกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี (แปลกมาก)
ตอนแรกงงมากครับ แต่อาจารย์ท่านนั้น มาขอให้ผมทำ และบอกว่า พี่เอาไปเลย ทำเลย ด้วยหนูตีโจทย์ไม่ออก(คงเพราะน้องเขาจบสังคม ไม่ถนัดทำไม่ได้มั้ง) เราก็บอกว่า ได้ แต่ต้องทำเป็นทีม ในนามมหาวิทยาลัย และผมขอทำในนามหน่วยงาน
มันแปลกตั้งแต่ การติดต่อของเจ้าหน้าที่จาก กระทรวงวิทยาศาสตร์ ผ่านไปยังอาจารย์ผู้จบสังคมศาสตร์ มาทำงานนี้
ผมก็ทำไปไม่คิดอะไร คิดเพียงว่า โครงการนี้ ต้องใช้ศาสตร์ด้านสังคมมาช่วย เพราะมันต้องเขียนแผนไปด้วย ผมก็ทำงานแบบเป็นทีม เชิญผู้ร่วมทีมด้านวิทยาศาสตร์ เศรษฐศาสตร์ การจัดการ มาทำช่วยงานผมตรึม ตอนแรกงานก็เดินหน้าไปได้ด้วยดีครับ แต่มาสดุด เมื่อหล่อนเกิดฐาตุไฟเข้าแทรก ป่วนทีมผมจนระส่ำ(เราก็นั่งมองดูนานมาก ว่าหล่อนจะเอาไง) ผมเดาว่า คงเป็นเพราะเรื่องงบประมาณที่ผมขอไป ด้วยเรามีประสบการณ์ในการขอทุนมาเยอะ จึงสามารถร้องขอทุนจากแหล่งทุนเกินงบที่หล่อนเคยคาดคิดไว้หลายเท่าตัว(งบที่ได้รับมันเอยะเกินคาดครับ) ก็ไม่รู้ว่าเธอคิดอะไรของเธอ มาโวยวาย หลายเรื่อง ผมก็งง มันก็ดีมิใช่รึ....ทีมจะได้ทำงานสบาย และด้วยเหตุผลอะไรมิทราบได้ ทีมผมถูกหล่อนป่วนไปหมด ก็เลยต้องเชิญหล่อนออกไปนั่งดูข้างเวทีแทน และบอกว่า หากจะร่วมงานกันก็ต้องทำงานเป็นทีม ไม่ยึดติด ไม่มีอีโก้ โปร่งใส เคารพการตัดสินใจของหัวหน้าโครงการ(ผมเอง หุหุ) และอย่าเรื่องมาก โดยในที่สุด หล่อนขอออกจากโครงการนี้ไปแบบไม่สบอารมย์เท่าที่ควร ผมเองก็เฉยๆ ไม่ค่อยรู้สึกอะไร แต่ขอบอกว่า ลูกทีมผม เฮฮากันใหญ่ ดีใจที่หล่อนออกไป
เงินก็เยอะครับสำหรับโครงการนี้ แต่ผมบริหารให้ทุมลงเนื้องานทั้งหมด งานก็สนุกดี แต่ล่าสุด กระทรวงวิทยาศาสตร์ มีการส่งโครงการเข้ามาอีก แต่เป็นหนังสือเจาะจงส่งไปที่หล่อนเจ้าปัญหานี่เลยครับ เป็นงานการถ่ายทอดเทคโนโลยี วิทยาศาสตร์ และนวัตกรรม หนังสือก็ส่งตรงมาที่หล่อน ลงนามโดยหัวหน้าฝ่ายวิจัย ใหญ่โตมากครับ.....
หล่อนเจ้าเดิมที่จบสังคมศาสตร์ รับงานด้านวิทยาศาสตร์ ผมก็เริ่ม งง แล้ว กับ กระทรวงวิทยาศาสตร์ คิดในใจว่า เออ TOR จัดซื้อจัดจ้างวิธีพิเศษ มันหาอาจารย์คนที่จบวิทยาศาสตร์ เข้าใจวิทยาศาสตร์ มารับงานไม่ได้หรือ มีเยอะแยะในหลายมหาวิทยาลัย
ความมาเฉลยครับ ผมเลยให้เครือข่ายเพื่อนๆ ที่ใหญ่โตในกระทรวง สืบประวัติแก้งนี้ดู............เอ๋อ.......มันอย่างนี้นี่เอง ทำกันเป็นทีม รุ่นพี่ รุ่นน้อง จบที่เดียวกัน อยากให้ได้งบไปใช้จ่าย .......เออ ประเทศชาติ ล่มจมแน่ๆ หากหัวหน้างานฝ่ายวิจัย เอาเงินทองประเทศชาติ มาเสี่ยงเช่นนี้ ใช้คนผิดประเภท.... เอาพวกพ้องมารับเงินหลวง โดยไม่คำนึงถึงภูมิความรู้ของผู้ที่จะมารับทำงานให้กระทรวงวิทย์ฯ
นี่เป็นอีกบทชีวิต ที่ผมเจอครับ ได้แต่หัวเราะ 5555 กับความเป็นประเทศไทย
เราก็ทำวิจัยมาเยอะ จะบอกว่า การรับโครงการ โดยวิธีจัดซื้อจัดจ้างด้วยวิธีพิเศษ โครงการที่ผมและทีมงานกำลังทำอยู่นี้ จะเป็นโครงการสุดท้ายครับ ผมไม่อยากเข้าไปในวังวนของ ระบบ ฮั้ว เอาเงินมาใช้ในกลุ่มของตัวเองและพวกพ้อง
และอยากฝากถึงผู้ที่เป็นผู้บริหารว่า หยุดวงจรนี้เสีย การจ่ายเงินวิจัยทุกบาททุกสตางค์ไปยังนักวิจัย ควรดูผลงาน ประวัติ และความสามารถที่เหมาะกับงานนั้นๆด้วย
ด้วยความเป็นห่วงครับ เพื่อประเทศชาติของเรา หรือพวกท่านว่าไง
ใน หลังองค์พระ : กลุ่มก่อตั้งศูนย์ส่งเสริมการวิจัยและถ่ายทอดเทคโนโลยี
ความเห็น (3)
อ่านแล้วก็ขำค่ะ อะนะ ไม่ทราบว่าทางผู้จัดจ้าง ไม่กลัวว่าผลงานที่ได้มันจะไม่เกิดประโยชน์อันใด หรือการสอบกลับของหัวหน้าของเค้าเอง ถึงคุณสมบัติของผู้รับทุนที่ไม่เหมาะสม จะย้อนกลับมาสร้างความหายนะให้เค้าได้หรือไม่ (ซึ่งถ้าการตรวจสอบเป็นธรรมจริง เค้าคงได้รับผลจากการ "ฮั้ว" แน่ๆ)
เฮ้อ.. อ่านแล้วก็นึกถึงคำว่า "จรรยาบรรณนักวิจัย" หากมีกันอยู่บ้าง ก็คงไม่เกิดเหตุการณ์ส่งข้อเสนอวิจัยเพื่อหวังแต่เอาเงินมาใช้จ่ายอย่างเดียว โดยไม่นึกว่ามีความสามารถในการทำงานให้มันลุล่วงไปได้ด้วยดีหรือไม่
อาจจะมีอีกแนวคิดนึงเกิดขึ้นมาว่า เค้าอาจจะเปลี่ยนสายงานวิจัย ทำไม ไม่ให้โอกาสเค้าบ้าง
แหม่ สายงานด้านสังคมศาสตร์ กับ วิทยาศาสตร์ มันแลจะห่างกันไปมังคะ
อะนะ พูดแบบกลางๆ ใครมีความเห็นยังไง ก็ช่วยมาแชร์ให้ฟังกันหน่อยค่ะ
