หมาน้อยเพื่อนรัก....
เราสบายดีจ๊ะ.. ที่หายเงียบไป เพราะไปจัดประชุมเกี่ยวกับการควบคุมและป้องกันโรคธาลัสซีเมีย ที่จังหวัดขอนแก่น สิ่งที่เราได้จากการจัดประชุมในครั้งนี้ ไม่ว่าจะเป็นความรู้เกี่ยวกับเทคนิคในการตรวจหายีนทีผิดปกติเพื่อหาคู่เสี่ยงที่จะให้กำเนิดบุตรที่เป็นโรคธาลัสซีเมียแล้ว ยังได้คำอีกคำหนึ่งเกี่ยวกับการแตกประวัติครอบครัวของผู้ที่เราต้องการจะวินิจฉัยว่าเป็นโรคหรือไม่ ภาษาไทยใช้คำว่า การศึกษาพงศาวลี แต่ภาษาลาวใช้คำว่า การแตกสาแหรกโคตร ภาษาลาวทำให้เห็นภาพชัดขึ้น หมาน้อยเห็นด้วยกับเราไหมหล่ะ .. แต่ที่เราอดชื่นชมผู้เข้าร่วมประชุมไม่ได้ คือแม้ว่าทุกคนบ้านจะอยู่ไกล (ชัยภูมิ โคราช, สุรินทร์, บุรีรัมย์) แต่ทุกคนก็ไม่กลับบ้านก่อนที่จะปิดประชุม ซึ่งวันสุดท้ายเลิกเกือบ 4 โมงเย็นแน่ะ.. หมาน้อยรู้ไหมจ๊ะว่า อะไรทำให้ผู้เข้าร่วมประชุมอยู่กันครบ ความมุ่งมั่นหรือการให้ความสำคัญกับงานของตนเอง ไงล่ะ ผู้เข้าร่วมประชุมเป็นบุคคลที่รับผิดชอบงานธาลัสซีเมีย ไม่ว่าจะเป็นนักวิชาการ พยาบาล หรือนักเทคนิคการแพทย์ ดังนั้นทุกคนจึงมาไขว่คว้าเอาความรู้ไปใช้ในการพัฒนางานของตนเอง จะกลับบ้านค่ำแค่ไหน ทุกคนก็ไม่บ่น เนื้อหาวิชาจะเข้าใจยาก ทุกคนก็ไม่รู้สึกเหน็ดเหนื่อยที่จะตอบคำถามจากอาจารย์ เห็นแล้ว ชื่นใจจริงๆ ...สิ่งนี้แหละที่จุดประกายให้เราคิดถึงกิจกรรมที่จะทำกระบวนการจัดการความรู้ในศูนย์อนามัยที่ 5 ของเรา... เจ้าหน้าที่ทุกคนต้องมีความมุ่งมั่น......
หมาน้อยจ๋า... เราตื่นเต้นมากเลยที่จะบอกนายว่า กิจกรรมที่เราพูดถึง ... นายคิดว่าเราจะทำอย่างไงใช่ไหมหล่ะ.... ปัญหาของหน่วยงานของเราทุกคนจะไม่ค่อยมีเวลามาร่วมประชุม เพราะมีงานประจำที่มากมาย การที่จะดึงเอา Tacit Knowledge ของทุกคนออกมาได้ต้อง ทำ Direct sale เคาะประตูที่หน้าบ้านเลย และคนที่จะเข้าไปคุยด้วยก็ต้องเป็น......คนที่เขาไว้วางใจ ....เราก็นัดประชุมคณะกรรมการ KM ศูนย์อนามัยที่ 5 .......ผลจากการประชุมก็เป็นที่มาของคำว่า KM Spy โดยเริ่มต้นจากคณะกรรมการทุกคนในทีมต้องไปแสวงหาความรู้ที่เป็น Tacit Knowledge ของเพื่อนร่วมงาน แล้วนำมาเล่าให้คนในทีม KM ฟังและสรุปประเด็นเก็บเป็นหมวดหมู่ขององค์ความรู้ ..... นายดีใจกับเราไหมหล่ะ หมาน้อย .... นี่เพิ่งเริ่มต้นเท่านั้นนะ ตอนนี้เราได้เรื่องมาเกือบ 20 เรื่องแล้วหล่ะ ยกตัวอย่างเช่น น้องพยาบาลก็มาเล่าเทคนิคการอุ้มเด็กที่ร้องไห้แล้วให้หยุดร้อง ซึ่งเทคนิคของน้องฟังแล้วง่ายมากเลย อุ้มเด็กพาดบ่าแล้วตบก้นเบาๆ หมาน้อยรู้ไหม...พอเราไปทำไม่เห็นหยุดร้องเลย หลังจากลองฝึกทำซัก 4-5 ครั้ง ได้ผลเลย.. หมาน้อย ... สิ่งที่เราขาดไปคือ การสัมผัสที่แผ่วเบา .....เป็นไงหล่ะ..คนที่ไม่เคยมีลูก ไม่เคยอุ้มเด็ก ทำแล้วได้ผลดีก็ไม่ต้องบอกหล่ะว่าเทคนิคนี้ดีจริงไหม... ซึ่งเทคนิคนี้น้องพยาบาลก็สอนให้คุณพ่อและคุณแม่มือใหม่ที่มาคลอดที่โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพ ของเราไปใช้กับสมาชิกใหม่ในบ้าน..... นี่แค่เรื่องเดียวนะ ยังมีอีกหลายเรื่องเลย.... แต่ฉบับนี้แค่นี้ก่อนนะ... ฉบับหน้าจะเล่าให้ฟังใหม่.. ไม่ว่าเทคนิคการไม่ให้อาเจียนในขณะแพ้ท้อง ทานอะไรไม่ได้เลย ทานทีไรอาเจียนทุกที ได้ผลนักแล ... ซึ่งมีผู้นำไปทำแล้วได้ผลทุกรายเลยแหละ...... ขอบอกไม่มีในตำรานะจ๊ะ....... บ๊ายๆ.....
รักจ๊ะ.......
ซางคำ
วันนั้น (19 กค.49) ที่เฟลิกซ์ก็คุยกับคุณเสิดนะคะ เรื่องอุ้มเด็กนี่ละ แต่เป็นศูนย์เด็กเล็ก ... คุณเสิดถามครูพี่เลี้ยงเด็ก ทำยังไงน่ะ ที่สามารถปลอบเด็กที่งอแง ให้หยุดร้องไห้งอแงได้ ... พี่เลี้ยงก็ตอบคล้ายๆ กันนี้ละค่ะ ว่า
"เราก็โอบเขาเข้ามากอด และก็คิดว่า เขาเป็นลูก ไงคะ" ... ฮื่อ เท่านี้อารมณ์ก็จะตามมาอย่างพรั่งพรูละค่ะ