จากซางคำถึงหมาน้อย (3)


KM Spy

หมาน้อยเพื่อนรัก....

         เราสบายดีจ๊ะ.. ที่หายเงียบไป เพราะไปจัดประชุมเกี่ยวกับการควบคุมและป้องกันโรคธาลัสซีเมีย ที่จังหวัดขอนแก่น  สิ่งที่เราได้จากการจัดประชุมในครั้งนี้ ไม่ว่าจะเป็นความรู้เกี่ยวกับเทคนิคในการตรวจหายีนทีผิดปกติเพื่อหาคู่เสี่ยงที่จะให้กำเนิดบุตรที่เป็นโรคธาลัสซีเมียแล้ว ยังได้คำอีกคำหนึ่งเกี่ยวกับการแตกประวัติครอบครัวของผู้ที่เราต้องการจะวินิจฉัยว่าเป็นโรคหรือไม่   ภาษาไทยใช้คำว่า การศึกษาพงศาวลี แต่ภาษาลาวใช้คำว่า การแตกสาแหรกโคตร   ภาษาลาวทำให้เห็นภาพชัดขึ้น  หมาน้อยเห็นด้วยกับเราไหมหล่ะ .. แต่ที่เราอดชื่นชมผู้เข้าร่วมประชุมไม่ได้ คือแม้ว่าทุกคนบ้านจะอยู่ไกล (ชัยภูมิ โคราช, สุรินทร์, บุรีรัมย์) แต่ทุกคนก็ไม่กลับบ้านก่อนที่จะปิดประชุม ซึ่งวันสุดท้ายเลิกเกือบ 4 โมงเย็นแน่ะ.. หมาน้อยรู้ไหมจ๊ะว่า อะไรทำให้ผู้เข้าร่วมประชุมอยู่กันครบ ความมุ่งมั่นหรือการให้ความสำคัญกับงานของตนเอง ไงล่ะ  ผู้เข้าร่วมประชุมเป็นบุคคลที่รับผิดชอบงานธาลัสซีเมีย ไม่ว่าจะเป็นนักวิชาการ พยาบาล หรือนักเทคนิคการแพทย์ ดังนั้นทุกคนจึงมาไขว่คว้าเอาความรู้ไปใช้ในการพัฒนางานของตนเอง จะกลับบ้านค่ำแค่ไหน ทุกคนก็ไม่บ่น เนื้อหาวิชาจะเข้าใจยาก ทุกคนก็ไม่รู้สึกเหน็ดเหนื่อยที่จะตอบคำถามจากอาจารย์ เห็นแล้ว ชื่นใจจริงๆ ...สิ่งนี้แหละที่จุดประกายให้เราคิดถึงกิจกรรมที่จะทำกระบวนการจัดการความรู้ในศูนย์อนามัยที่ 5 ของเรา... เจ้าหน้าที่ทุกคนต้องมีความมุ่งมั่น......

         หมาน้อยจ๋า... เราตื่นเต้นมากเลยที่จะบอกนายว่า กิจกรรมที่เราพูดถึง ... นายคิดว่าเราจะทำอย่างไงใช่ไหมหล่ะ.... ปัญหาของหน่วยงานของเราทุกคนจะไม่ค่อยมีเวลามาร่วมประชุม เพราะมีงานประจำที่มากมาย การที่จะดึงเอา Tacit  Knowledge  ของทุกคนออกมาได้ต้อง ทำ Direct sale เคาะประตูที่หน้าบ้านเลย และคนที่จะเข้าไปคุยด้วยก็ต้องเป็น......คนที่เขาไว้วางใจ  ....เราก็นัดประชุมคณะกรรมการ KM ศูนย์อนามัยที่ 5 .......ผลจากการประชุมก็เป็นที่มาของคำว่า  KM Spy   โดยเริ่มต้นจากคณะกรรมการทุกคนในทีมต้องไปแสวงหาความรู้ที่เป็น Tacit  Knowledge ของเพื่อนร่วมงาน แล้วนำมาเล่าให้คนในทีม KM ฟังและสรุปประเด็นเก็บเป็นหมวดหมู่ขององค์ความรู้   ..... นายดีใจกับเราไหมหล่ะ หมาน้อย .... นี่เพิ่งเริ่มต้นเท่านั้นนะ ตอนนี้เราได้เรื่องมาเกือบ 20 เรื่องแล้วหล่ะ ยกตัวอย่างเช่น น้องพยาบาลก็มาเล่าเทคนิคการอุ้มเด็กที่ร้องไห้แล้วให้หยุดร้อง  ซึ่งเทคนิคของน้องฟังแล้วง่ายมากเลย  อุ้มเด็กพาดบ่าแล้วตบก้นเบาๆ    หมาน้อยรู้ไหม...พอเราไปทำไม่เห็นหยุดร้องเลย  หลังจากลองฝึกทำซัก 4-5 ครั้ง ได้ผลเลย.. หมาน้อย ... สิ่งที่เราขาดไปคือ การสัมผัสที่แผ่วเบา .....เป็นไงหล่ะ..คนที่ไม่เคยมีลูก ไม่เคยอุ้มเด็ก ทำแล้วได้ผลดีก็ไม่ต้องบอกหล่ะว่าเทคนิคนี้ดีจริงไหม...  ซึ่งเทคนิคนี้น้องพยาบาลก็สอนให้คุณพ่อและคุณแม่มือใหม่ที่มาคลอดที่โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพ ของเราไปใช้กับสมาชิกใหม่ในบ้าน..... นี่แค่เรื่องเดียวนะ ยังมีอีกหลายเรื่องเลย.... แต่ฉบับนี้แค่นี้ก่อนนะ... ฉบับหน้าจะเล่าให้ฟังใหม่.. ไม่ว่าเทคนิคการไม่ให้อาเจียนในขณะแพ้ท้อง ทานอะไรไม่ได้เลย ทานทีไรอาเจียนทุกที  ได้ผลนักแล  ... ซึ่งมีผู้นำไปทำแล้วได้ผลทุกรายเลยแหละ...... ขอบอกไม่มีในตำรานะจ๊ะ....... บ๊ายๆ.....

                                             รักจ๊ะ.......

                                             ซางคำ

คำสำคัญ (Tags): #กิจกรรม#km#spy
หมายเลขบันทึก: 36008เขียนเมื่อ 28 มิถุนายน 2006 19:38 น. ()แก้ไขเมื่อ 11 กุมภาพันธ์ 2012 15:13 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (2)

วันนั้น (19 กค.49) ที่เฟลิกซ์ก็คุยกับคุณเสิดนะคะ เรื่องอุ้มเด็กนี่ละ แต่เป็นศูนย์เด็กเล็ก ... คุณเสิดถามครูพี่เลี้ยงเด็ก ทำยังไงน่ะ ที่สามารถปลอบเด็กที่งอแง ให้หยุดร้องไห้งอแงได้ ... พี่เลี้ยงก็ตอบคล้ายๆ กันนี้ละค่ะ ว่า

"เราก็โอบเขาเข้ามากอด และก็คิดว่า เขาเป็นลูก ไงคะ" ... ฮื่อ เท่านี้อารมณ์ก็จะตามมาอย่างพรั่งพรูละค่ะ

มีข่าวมาบอกจ๊ะ สคส.กำลังจะจัดงานมหกรรมการจัดการความรู้แห่งชาติวันที่ 1-2 ธ.ค.49 ณ ไบเทค มีค่าลงทะเบียนด้วย งานนี้ถ้าสนใจ โจ้เข้าเว็ปไซดืสคส.สมัครด่วน เพราะได้ข่าวว่าใกล้เต้มแล้วค่ะ
พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท