วันนี้ใคร่ขอนำเสนอเกี่ยวกับปัญหาที่มักจะเกิดขึ้นในการทำ KM ในมหาวิทยาลัย ดังนี้ครับ
1. บุคลากรในมหาวิทยาลัยมีภาระกิจมาก ไม่ว่าจะเป็นงานสอน งานวิจัย และอื่นๆ จึงไม่ค่อยมีเวลามาร่วมในการประชุมหารือเพื่อ Share idea ซึ่งกันและกัน
2. บุคลากรในมหาวิทยาลัยล้วนแต่ทรงเป็นผู้รู้ สูงด้วยคุณวุฒิ มากด้วยประสบการณ์ จึงไม่ค่อยรับฟังความคิดเห็นของบุคลากรในองค์กรด้วยกันเอง
ในเบื้องต้นผมใคร่ขอนำเสนอ 2 ประเด็นก่อนที่มักจะเป็นสาเหตุให้การพัฒนาองค์กรเป็นไปได้ช้า อย่างไรก็ตามถ้าหากพวกเราชาวมหาวิทยาลัยได้เสียสละเวลา และลดทิฎฐิ ลงบ้างผมเชื่อว่าการพัฒนามหาวิทยาลัย และการพัฒนาด้านวิชาการก็จะสามารถพัฒนาไปได้เร็วยิ่งขึ้น
ท่านผู้อ่าน หรือท่านผู้รู้ เห็นเป็นอย่างไรครับ หากท่านจะกรุณาในการที่จะเสนอแนะจักเป็นพระคุณยิ่งพบกันวันพรุ่งนี้นะครับขอบคุณครับคุณอุทัยค่ะ,
จุดหนึ่งที่สำคัญคือ อาจเป็นเพราะไม่เห็นประโยชน์ที่จะได้รับจากการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ มองว่าเป็นการเพิ่มภาระ ซึ่งแน่นอนการผลักดันช่วงแรกต้องฝ่าฟันอุปสรรคบ้าง ผู้ประสานงานต้องอดทนและสร้างความตื่นเต้น ชวนติดตาม สรุปว่าหากเป็นการประชุมแบบเก่า เป็นใครก็ต้องเบื่อ ลองหาวิธีใหม่ๆ หัวข้อที่ทันสมัย แต่ต้องเชื่อมโยงได้กับงานประจำ ได้เพื่อนใหม่ ได้เทคนิค เคล็ดลับใหม่ไปพัฒนางานประจำ ก็น่าจะเป็นทางเลือกทางหนึ่งค่ะ
อุรพิณ สคส.
นั่นถือว่า เป็นภาระอันหนักหนาของคุณอำนวย และคุณต่างๆ ที่ต้องแสดงศักยภาพเพื่อชักจูงหรือโน้มน้าวให้ผู้เข้าร่วมคล้อยตาม...
ผมคิดว่าบุคลากรในมหาวิทยลัยพร้อมที่จะเปิดใจยอมรับ KM และนำไปปฎิืบัติ..
1) ถ้าเขาเหล่านั้น.... เห็นว่า การทำ km จะไม่ไปเพิ่มภาระงานของบุคลากรในมหาวิทยาลัย และตระหนักว่าเป็นสิ่งจำเป็น ซึ่งจะมีประโยชน์ต่อต่อเองและองค์กรในระยะยาว
2) นั่นเป็นสิ่งยึดมันถือมั่นในตัวตนของปุถุชน ซึ่งถือว่าเป็นกรรมของตน ครับ เราอาจะไม่สามารถไปเปลี่ยนแปลงในสิ่งเหล่านั้นได้
ขอบุณมากครับคุณบีเวอร์
กำลังเริ่มทดลองครับ แล้วจะเล่าให้ฟังอีกครั้ง อย่าลืมเป็นกำลังใจนะครับ
อุทัย