๓๒. ป่าสักริมทางขุนตาน : สื่อกับตนเอง เยียวยาและฟื้นฟูตนเอง


                            ภาพ : ป่าสักริมทางรถไฟขุนตาน โดย วิรัตน์ คำศรีจันทร์ เทคนิค : ลายเส้นหมึกดำบนกระดาษ 

  สองสามวันมานี้   ผมทั้งเป็นวิทยากรบรรยายและเดินทางอย่างต่อเนื่อง นับแต่วันพฤหัสบดี ๘ เมษายน ๒๕๕๓ ก็ไปเป็นวิทยากรกระบวนการวิจัยให้กับเครือข่ายวิจัยพัฒนานโยบายส่งเสริมศักยภาพ อสม สู่ระบบบริการสุขภาพชุมชน ของรองศาสตราจารย์ ดร.ลือชัย ศรีเงินยวง ซึ่งทำให้กับสำนักงานวิจัยเพื่อปฏิรูประบบสุขภาพแห่งชาติ จากเช้าจรดเย็น

พอเสร็จก็แวะนอนกับแม่และน้องที่บ้านตาลิน อำเภอหนองบัว นครสวรรค์ รุ่งเช้าก็ไปร่วมสัมมนาและระดมสมองมหาวิทยาลัยนครสวรรค์เพื่อท้องถิ่น ที่บึงเสนาถ นครสวรรค์ ตกเย็นก็กลับไปกินข้าวเย็นกับแม่ แล้วก็ไปรอรถนอนเที่ยว ๔ ทุ่มครึ่งที่สถานีรถไฟชุมแสง เพื่อไปขนหนังสือซึ่งทำให้แม่เพื่อแจกในวันทำบุญเทศกาลสงกรานต์และพิมพ์ที่โรงพิมพ์เชียงใหม่ ทางโรงพิมพ์เขาจะเร่งทำให้เสร็จในวันเสาร์

ด้วยความที่ตะรอนๆอย่างต่อเนื่องแล้วได้มาโดยสารรถนอนซึ่งไม่สะดวกสำหรับทำกิจกรรมทั้งปวงนอกจากนอน ผมจึงได้โอกาสปลดปล่อยตนเองและนอนรวดเดียวจนถึงเกือบ ๗ โมงเช้า แต่พอตื่นขึ้นมาและลงจากเตียงชั้นบนเพื่อล้างหน้าแปรงฟันและให้พนักงานเก็บเครื่องนอนให้ ผมก็เกิดอาการที่ไม่เคยเป็นมาก่อนเลยในชีวิตคือมึนศีรษะ คลื่นไส้ มวนในท้อง และคล้ายกับจะอาเจียร หลังล้างหน้าแปรงฟันแล้วก็ไม่ดีขึ้น เมื่อกลับไปยังที่นั่งก็เลยหาวิธีที่ตนเองเคยใช้ได้ผลคือทำสมาธิ

ผมนั่งกำหนดการรับรู้และตามลมหายใจเข้าออก พอได้ความนิ่งพอสมควรแล้วก็เริ่มน้อมความรู้สึกไปรู้ส่วนต่างๆของร่างกาย นานๆครั้งจึงจะมีโอกาสได้ทำอย่างนี้ จึงได้ความรู้สึกหลายอย่างเหมือนกับร่างกายกำลังพยายามสื่อสะท้อนรายงานตนเองให้ผมได้ทราบ ผมรู้สึกล้าและตึงไปตามไหล่ หลัง พอส่งความรู้สึกไปรู้ ก็รู้สึกวาบตามไปด้วยทีละจุด สักพักหนึ่งก็รู้สึกค่อยยังชั่ว เห็นได้จากภายในว่าร่างกายมีพลังบางอย่างในการเยียวยาและบำบัดตนเอง

จากนั้น ก็รู้สึกสดขึ้น ผมนั่งทำสมาธิฟื้นฟูข้างในตนเองอยู่สักพักหนึ่งก็ลืมตา ก็พบว่ารถไฟถึงเขตขุนตานน้อยและใกล้ถึงอุโมงค์ถ้ำขุนตานอุทยานแห่งชาติขุนตานแล้ว เมื่อลืมตามองไปนอกหน้าต่างรถไฟก็เห็นป่าสักยืนต้นเป็นแนวรายทางรถไฟและได้ความรู้สึกสดชื่นไปกับอากาศยามเช้า ผมรู้สึกสดชื่น มีกำลัง หายคลื่นไส้และมึนศีรษะ ซึ่งตรงข้ามกับเมื่อแรกตื่นขึ้นมามากเลยทีเดียว

เพื่อหาวิธีที่จะอยู่กับภาวะที่กำลังเกิดขึ้นนี้ให้นานที่สุด ผมเลยดึงเอาสมุดวาดเขียนซึ่งก็มักจะมีติดตัวอยู่ตลอดเวลาอย่างน้อยก็ ๑ เล่มออกมานั่งวาดรูป ภาพที่ไหลเข้ามาให้ชมจากกรอบหน้าต่างรถไฟนั้น เป็นภาพโทนสีน้ำตาลที่มีสีเขียวแซมเป็นหย่อมๆของหมู่แมกไม้ยามร้อนแล้ง โดยเฉพาะต้นสักที่หนาแน่นเป็นแนวยาว ลีลาเหมือนบทเพลงทำนองซ้ำๆและต่อเนื่อง ให้น้ำหนักแสงเงาเรียบง่ายแต่มีจังหวะและความเป็นเอกภาพกลมกลืน ผมนั่งเขียนภาพอย่างต่อเนื่องเพื่อให้ความเป็นสมาธิสื่อสะท้อนกันและกันบนเส้นปากกากับความรู้สึกภายใน

เป็นอีกหนึ่งบทเรียนเล็กๆของวิธีการทางศิลปะเพื่อสื่อกับตนเอง กับเยียวยาและฟื้นฟูตนเอง.

หมายเลขบันทึก: 350951เขียนเมื่อ 11 เมษายน 2010 02:07 น. ()แก้ไขเมื่อ 6 กันยายน 2013 22:44 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้าจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (28)

สวัสดีค่ะอาจารย์

ตื่นมายามเช้า ก็ได้ชมภาพวาดอาจารย์ ตาสว่างเลยค่ะ

อาจารย์เก่งจังค่ะ ทำอะไรบนรถที่กำลังเคลื่อนที่ได้ ดิฉันไม่สู้ค่ะ เวียนหัวจะอาเจียน (กลับกันค่ะ อิอิ)

ภาพวาดสวยมากเลยครับ เข้าใจว่าอาจารย์เดินทางมากและทำงานมากไปหรือเปล่าครับ เพราะการนอนหลับในรถจะนอนหลับสนิทได้ยาก การนั่งสมาธิแบบอาจารย์ว่าช่วยได้จริงๆๆด้วย ขอบคุณสำหหรับบันทึกประสบการณ์ดีๆๆครับ

  สวัสดีครับคุณณัฐรดาครับ 

  • ใช้เทคนิคลายเส้นปากกาก็เลยง่ายครับ สนุกและท้าทายอีกแบบ ทั้งวาดยากและเพิ่งได้เรียนรู้ไปด้วยว่าภาพ Monochrome ที่เป็นลายเส้นปากกานั้นมีเสน่ห์มากเลย น้ำหนักและแสงเงามมันมีน้ำหนักเดียว แต่เราต้องทำให้เหมือนมีหลายน้ำหนักโดยเล่นช่องไฟ ขนาดของการลงหมึก และการเคลื่อนไหวของเส้น สนุกจนคลายความไม่สบายกายใจ พอเสร็จก็รู้สึกสดไปกับบรรยากาศยามเช้า
  • ตอนที่ถึงปลายทางสถานีเชียงใหม่แล้ว เนื่องจากรถถึงปลายทางช้า ผมเลยบอกเวลาที่แน่นอนไม่ค่อยได้ เลยต้องนั่งรอภรรยาไปรับอีกเกือบ ๓๐ นาที ระหว่างที่รอก็ดึงเอารูปวาดขึ้นมาตบแต่งรายละเอียด ขณะที่นั่งวาดอยู่ก็ได้มิตรครับ ตอนแรกก็นั่งชะโงกดู ไปๆมาๆก็ถามไถ่แสดงความสนใจบอกว่าหากมีจัดอบรมหรือทำค่ายศิลปะที่ไหนก็บอกว่าอยากไปเรียนรู้ด้วย ผมบอกว่าไม่มีหรอก มีแต่กลุ่มสนใจเฉพาะและทำงานศิลปะเป็นศิลปะภาวนาที่กรุงเทพฯและต่างจังหวัด
  • แต่มิตรร่วมสถานีเพื่อรอการเดินทางของผมก็กลับยิ่งแสดงความสนใจมากเข้าไปอีกพร้อมกับบอกวายิ่งสนใจใหญ่เลย เพราะเขากำลังจะไปปฏิบัติธรรมกันในช่วงเทศกาลสงกรานต์
  • ความงามของศิลปะเหมือนมีความดีงามต่อการสร้างสรรค์สังคมให้คนแปลกหน้ากันมีความเป็นญาติมิตรกันและชักชวนกันไปหาโอกาสทำสิ่งดีๆของชีวิตดีจริงๆนะครับ

                           

                            เวลานั่งมองลอดใต้แนวกิ่งก้านของป่าสักยามเช้า ให้ลีลาแสงเงา และการจัดวางน้ำหนักตนเองของธรรมชาติที่น่าตื่นตาตื่นใจ ข้ามความร้อนแล้ง เห็นจังหวะความเคลื่อนไหว น่าเดินเข้าไปเห็นอีกฟากหนึ่งของแนวป่า

                           

ช่่อดอกสักที่แห้งกรอบและรอผลิใบอีกครั้ง ดูมีลีลาที่เป็นอิสระ มีน้ำหนักทั้งเป็นตัวของตัวเองและจัดวางตนเองให้เป็นส่วนเสริมรอบข้างให้ดูงดงาม ลงตัวและไม่หลุดออกจากกัน ในขณะที่ภาพอย่างนี้ไหลผ่านหน้าที่มองจากกรอบหน้าต่างรถไฟ ลีลาความเคลื่อนไหวก็ราวกับเป็นพลิ้วท่วงทำนองเพลง มีประกายแดดยามเช้าลอดใต้แนวกิ่งหนาแน่นวับ-วับ ตบให้จังหวะผสมกลมกลืน

มาชมอีกครั้ง

ภาพขยายดูแล้วยิ่งงามค่ะ

 สวัสดีครับอาจารย์ขจิตครับ

  • ขอบพระคุณครับอาจารย์
  • คิดอย่างข้อสังเกตอาจารย์เหมือนกันครับ ว่าเพลียจนหลับ แต่ก็สงสัยอีก ๒ ทาง
  • หากหลับผล็อยเพราะเพลียมากเพราะความล้าจากงาน พอตื่นนอนก็น่าจะสดชื่นกระปรี้ประเปร่า แต่นี่กลับมึนหัวและไม่สดครับ
  • เลยพิจารณาตนเองว่าน่าจะได้อากาศไม่เพียงพอ แต่ก็คิดเฉยๆ เพราะในตู้นอนเดียวกันก็มีผู้โดยสารอยู่เยอะแยะ อีกทั้งส่วนใหญ่เป็นชาวต่างประเทศ ก็ไม่เห็นจะมีใครไวต่ออากาศไม่พอ
  • ตอนที่นั่งทำสมาธิและรู้สึกฟื้นความสดให้ตนเองได้นั้น รู้สึกข้างในมันเยียวยาตนเอง เลยคิดอีกทางหนึ่งว่ากินข้าวเยอะเกินไป เพราะกลับบ้านทีไรก็เป็นอันกินข้าวไม่ยั้ง จึงอาจจะย่อยไม่ดีและแน่น เมื่อบวกกับเจออากาศร้อนตับแล่บเลยออกอาการ
  • แต่ก็ดีครับที่ร่างกายเขาพยายามบอกให้เรียนรู้ตนเองในอีกสภาพหนึ่ง
  • สุขสันต์วันปีใหม่สงกรานต์นะครับอาจารย์

งั้นขอมอบให้คุณณัฐรดา อาจารย์ขจิต และทุกท่าน เพื่อมีความสุขในวันสงกรานต์ปีใหม่ไทยครับ

สวัสดีค่ะพี่ชาย อาจารย์ดร.วิรัตน์ คำศรีจันทร์

  • ไปเที่ยวเชียงใหม่เพิ่งกลับมาเมื่อวันที่ 6 นี้เอง ขับรถไปทางพะเยา เข้าลำปางไปเชียงใหม่ มองออกไปสองข้างทาง สัมผัสถึงความแห้งแล้งของดินฟ้าอากาศ บ้างก็ถูกไฟไหม้ น่าเสียดายป่าไม้มากค่ะ
  • วันนี้ไปเที่ยวสวนมะนาวที่ชัยนาทอีกครั้งหนึ่งค่ะ
  • ในระหว่างที่ขับรถจากนครสวรรค์ไปกับเพื่อนสาวๆ(เหลือน้อย)  ได้คุยถึงงานศิลปะของพี่ชายให้เพื่อนครูฟังด้วยค่ะ   ภาพวาดลายเส้นธรรมดาคงเป็นเรื่องง่ายๆสำหรับพี่  แต่พวกเราอาจจะยากหน่อย แต่ก็มีแรงบันดาลใจให้เราอยากฝึกหัด และนำไปเป็นสื่อให้กับเด็กๆค่ะ
  • ภาพนี้รับความรู้พร้อมกับคำบรรยาย สื่อความหมาย และงามตามแบบฉบับของธรรมชาติ
  • นอนหนุนตักแม่ หลับสบายเต็มอิ่มแล้วนะคะ
  • รักษาสุขภาพด้วยค่ะ

ผมต้องพกปากกาหมึกดำ เเละ กระดาษวาดภาพ ติดตัวไปบ้างเเล้ว ดูมีเสน่ห์จังครับ

สวัสดีครับน้องคุณครูจุฑารัตน์ครับ

  • ช่วงนี้ไปทางเหนือก็ออกจะร้อนแล้งไปสักหน่อยนะครับ แต่ก็ดีกว่ากรุงเทพฯมาก
  • วันนี้พี่ก็ทำร้านให้ต้นมะนาวซึ่งออกลูกเต็มไปหมด แต่ละกิ่งมันดกมาก ต้องเด็ดลูกทิ้งพวงละหลายลูก เด็ดไปก็นึกถึงคนทั่วไปในหน้านี้ที่จะต้องกินมะนาวลูกละ ๘ บาท
  • ขอให้มีความสุขในปีใหม่สงกรานต์นะครับ
  • สวัสดีครับคุณเอก จตุพร
  • ลายเส้นมีเสน่ห์มากเลย ผมเองก็เพิ่งจะเคยวาดและเรียนรู้เทคนิคนี้เพื่อลองนำมาใช้ทำงานอย่างจริงๆจังๆ
  • เมื่อก่อนผมเชื่อว่าผมจะทำงานสีน้ำได้ดีกว่า การเขียนลายเส้นเป็นงานซ้อมมือให้ได้สื่อสารกับตนเอง ทำงานความคิด และสร้างกำลังภายในให้กับตนเองอยู่เสมอ แต่ทำไปก็กลับได้หลายอย่างไปด้วย

                            Stilllife 

ขอบพระคุณครับอาจารย์ธนิตย์ครับ ขอสวัสดีปีใหม่ท่านอาจารย์ธนิตย์ด้วยเช่นกันนะครับ  ขอให้อาจารย์มีความสุขมากๆในเทศกาลปีใหม่สงกรานต์ครับ

 สวัสดีครับอาจารย์ณัฐพัชร์  รูปนี้และอารมณ์ภาพ คงเป็นประสบการณ์ร่วมของคนเดินทาง โดยเฉพาะไปทางภาคเหนือ มากพอสมควรนะครับ คงได้ย้อนรำลึกบรรยากาศกับสัมผัสแรกที่ตื่นขึ้นมาในยามเช้าแล้วเห็นทิวทัศน์สองข้างทาง แต่เดิมก็คงจะเห็นความสวยงามน่ารื่นรมย์ก็แต่ในหน้าฝนและต้นหน้าหนาว ไม่ค่อยได้สังเกตว่าหน้าร้อนและหน้าแล้งก็เห็นลีลาของแสงที่ลอดตามทิวป่ากับเงาที่ทอดยาวเป็นเส้นนำสายตา วิบวับไปตลอดทาง ว่าให้ความตื่นตัวและสดใสในยามเช้าได้อย่างมากด้วยเหมือนกัน หายเมื่อยล้าและหายมึนศีรษะได้เลยทีเดียวครับ

อาจารย์วิรัตน์ค่ะ : มันเป็นภาพที่ติดตามากๆ ค่ะ ผสมกับความตื่นเต้น และความเศร้าใจ เพราะถือว่าเป็นการนั่งรถไฟขึ้นเหนือเป็นครั้งแรก หลังจากลาออกจากที่ทำงานที่เราทำงานมานาน ๑๐ ปี คือ สถาบันพัฒนาการสาธารณสุขอาเซียน มหาวิทยาลัยมหิดล และไปเริ่มงานใหม่ ก่อนที่จะเตรียมตัวเรียนหนังสือต่อไป และเป็นการห่างครอบครัวไปนานถึง ๖ เดือนเพื่อไปทำงานวิจัยร่วมกับนักศึกษาระดับปริญญาเอก จากมหาวิทยาลัยเบิร์กเลย์ สหรัฐอเมริกา ที่โรงพยาบาลมหาราชนครเชียงใหม่ (โรงพยาบาลสวนดอก) ของคณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ค่ะ ... 

ถือว่าภาพของป่าสักริมทางรถไฟขุนตาลได้ช่วยเยียวยา และฟื้นฟู จิตใจ ให้อยู่เหมือนกันค่ะ เพราะเผลอใจลอย ชื่นชมไปกับบรรยากาศงามๆ ยามเช้าที่ป่าสักแห่งนี้จนลืมความเศร้าไปเลยค่ะ ..

((คิดว่าน่าจะนำมาโพสคุยในบันทึกของภาพป่าสักริมทางรถไฟขุนตาลที่พูดคุยถึงกันค่ะ  เลยก๊อปปี๊ไดอาล็อคจากบันทึก blog to book ดังลมหายใจ มาไว้ที่บันทึกนี้ค่ะ))

รูปแนวนี้ดูหาความทราบซึ้งแง่มุมทางศิลปะไปด้วยก็ได้ความเพลิดเพลินและให้ความคิดดีมากด้วยเหมือนกันครับ
Repetition การซ้ำ : แพทเทิร์นของธรรมชาติอย่างในภาพนี้ ภาษาศิลปะเรียกว่าเป็นความงามในแง่ของจังหวะและการจัดองค์ประกอบแบบซ้ำๆกัน หากเรียนรู้ให้ได้ปัญญาและความคิดจากธรรมชาติอย่างนี้ เราก็จะได้แนวคิดว่าในโลกความเป็นจริงนั้น สิ่งเดิมๆและสิ่งที่เรามีอยู่นั้น เติมทรรศนะทางศิลปะเข้าไปในการจัดการ ก็ทำให้ได้ความงามอยู่เสมอจากสิ่งนั้นเช่นกัน
Form and Unity รูปทรงและความเป็นเอกภาพ : แนวของทิวไม้ เมื่อมองแยกๆกันแล้วก็มีความเป็นอิสระมากครับ แต่พอผสมผสานกันแล้วมองในภาพรวมก็ทำให้เกิดกลุ่มก้อนที่เป็นเอกภาพ เห็นรูปร่างและรูปทรงเลื่อนไหลที่น่าสนุกมาก หากปล่อยใจ ละวางความคิด ให้สัมผัสต่างๆเป็นปัจจุบันไปกับการเห็น ก็จะสนุกมากครับ เดาไม่ได้เลย ธรรมชาติมีความสร้างสรรค์และจัดวางตนเองที่ยิ่งใหญ่มาก
Mass and Pointivism น้ำหนักและการกระจายโดยการจุด : ภาพวาดนี้ใช้ปากกาหมึกดำสีเดียวและน้ำหนักเดียว การสื่ออารมณ์เชิงสัมผัสและการทำให้ได้มิติอย่างที่เห็นในภาษาของธรรมชาติ จึงต้องได้จากการจัดวางน้ำหนักและการกระจายตัวของจุด เพื่อให้ความเป็นภาพและความกลมกลืนต่างๆเกิดการผสมกันขึ้นด้วยสายตาและการประมวลผลทางการรับรู้ของผู้ชม สีสัน น้ำหนัก ความกลมกลืน ความสวยงาม และการเกิดมิติต่างๆของภาพที่เขียนในลักษณะนี้ จะเป็นกระบวนการทางสมองและเป็นสุนทรียภาพในตัวผู้ชม คงเทียบได้กับการดูหนังและการ์ตูนแอนนิเมชั่นที่ภาพนิ่งและสีสันแยกส่วนแต่ละภาพ กลายเป็นภาพเคลื่อนไหวและเกิดบรรยากาศความมีชีวิตชีวาเนื่องจากเกิดมิติการสร้างข้อมูลภาพขึ้นใหม่อีกชุดหนึ่งในตัวผู้ชม

เป็นการนำชมการแสดงภาพเลยละครับเนี่ย

 การถ่ายทอดพลังทางศิลปะสู่สังคม

ธาตุความเป็นศิลปินของอาจารย์ช่างมีพลังล้นเหลือ โดยเฉพาะในงานศิลปะที่อาจารย์แสดงออกไปตามประสบการณ์ของอาจารย์และการรับรู้โลกภายนอกผสานกับพลังการขับเคลื่อนภายในที่สะท้อนความเป็นตัวตน กระบวนคิด ความสุนทรีย์ของอาจารย์ ส่งผ่านสู่สังคมด้วยความจริงใจ และคำอธิบายเรื่องศิลปะด้วยภาษาที่การรับรู้ของหลายๆ คนสามารถเข้าใจได้ เรียกได้ว่า ไม่เคืองตา อย่างนั้นเลยทีเดียว ..

อาจารย์บอกว่า "ธรรมชาติมีความสร้างสรรค์และจัดวางตนเองที่ยิ่งใหญ่มาก" เห็นด้วยมากๆ ค่ะ มนุษย์อาจจะมองว่า มนุษย์นั้นเก่ง เป็นผู้พิชิตได้ในทุกมิติ บนดิน ใต้น้ำ ในอวกาศ แม้กระทั่งพยายาม สร้างธรรมชาติให้แสร้งเหมือนธรรมชาติ แต่ในปัจจุบันธรรมชาติกำลังทำให้มนุษย์ทุกคนตื่นตระหนก ใจหายใจคว่ำได้ตลอดเวลา มนุษย์กำลังจะพ่ายแพ้ต่อธรรมชาติ แล้วหล่ะค่ะ ....

ขอบคุณค่ะอาจารย์กับการพานำชมภาพผ่านบล๊อคค่ะ ..

กราบสวัสดีปีใหม่ไทยค่ะท่านอาจารย์

ภาพงามมากๆ เลยนะคะ ทั้งแสง เงา ลำต้น กิ่ง ก้าน และ ใบ พริ้วไหว

จนอยากจะพรรณาออกมาเป็นบทกลอนเลยนะคะเนี่ย

ขอบพระคุณมุมคิดดีๆ และภาพศิลป์เปี่ยมเสน่ห์ค่ะ

 

ด้วยความยินดีครับอาจารย์ณัฐพัชร์ครับ

 สวัสดีครับคุณ poo ครับ น่าจะเขียนสะท้อนออกมาเป็นกลอนเลยนะครับ ชอบครับ
ดีใจที่แวะเข้ามาชมและได้ความเพลิดเพลินจากการดูงานศิลปะครับ มีความสุขครับ

ตามมาชมภาพวาดป่าสักกับลำแสงที่ทอดตัวยาวในยามเช้า... งดงามจริง ๆ ค่ะ..

โดยส่วนตัวใบไม้ฯ เป็นคนชอบภาพวาดลายเส้นอยู่แล้ว จะด้วยดินสอ ปากกา หรือลายจุด หรือแม้แต่ลายเส้นจากพู่กัน

จำได้ว่า...สมัยเป็นวัยรุ่นถึงขั้นหลงใหลเสียงดินสอสัมผัสกับกระดาษ เป็นเสียงที่ไพเราะค่ะ เลยยังชอบใช้ดินสอเขียนหนังสืออยู่ตอนนี้ แถมยุคนั้น เวลาไม่สบายใจ ใบไม้ฯ ก็ชอบชมภาพศิลปะ ช่วยให้จิตใจแช่มชื่นขึ้นมากค่ะ

ศิลปะบำบัดน่าจะเป็นอีกหนึ่งวิถีในการภาวนา ที่น้อมใจให้เป็นหนึ่งเดียวกับศิลปะและธรรมชาติที่วาดลงบนกระดาษ

เยียวยาและฟื้นฟูตัวเองด้วยวิธีนี้ นับเป็นความสุขอย่างประณีตได้ไหมคะอาจารย์

แถมคนที่ได้ชมก็พลอยได้เยียวยาตัวเองด้วยความงามจากภาพวาดไปด้วย...^__^... 

  • ในภาษาไทย งานวิจิตรศิลปสาขาการวาดรูป ก็มีคำเรียกว่า จิตรกรรม ซึ่งแปลมาจากคำว่า Painting เหมือนกับเป็นนิยามให้ทราบไปในตัวว่าเป็น Mind Practice ให้ความหมายคล้ายกับคุณใบไม้ฯว่ามาเลย คือ เป็นงานจากการน้อมใจเข้าไปเป็นหนึ่งเดียวกับศิลปะและธรรมชาติที่เป็นแรงบันดาลใจ
  • การใช้วิธีทำงานศิลปะเพื่อเยียวยาและฟิ้นฟูตัวเอง คงจำเป็นต้องมีองค์ประกอบด้านความละเอียดอ่อนและมิติด้านในจิตใจอันประนีตเป็นส่วนผสมด้วยมากเหมือนกันนะครับ
  • สังเกตได้ว่าหากใจไม่นิ่ง ร้อนวุ่นวายใจ หรือหยุดรำงับในความคิดและจิตใจไม่ได้ละก็ ความวุ่นวาย ความทุกข์ ก็จะสะท้อนออกมากับเส้นสายแสงเงาได้เหมือนกันนะครับ

เรียนท่านปรมาจารย์งานศิลป์ค่ะ

มาตามสัญญา มาส่งบทกลอน ภาพ และภาษา เชิญทัศนาค่ะ

http://gotoknow.org/blog/lanandaman/353101

ขออภัย ไปตามสถานการณ์ จึงพ่วงการบ้านเมืองนิดนึงนะคะ;)

 

ขอบคุณคุณ poo มากอย่างยิ่งครับ แวะเข้าไปอ่านมาแล้วครับ ถึงแม้ตอนท้ายๆจะไถลไปหาการเมืองในขณะนี้สักหน่อย แต่ก็เพราะและลื่นไหลต่อเนื่องดีครับ

"เพื่อหาวิธีที่จะอยู่กับภาวะที่กำลังเกิดขึ้นนี้ให้นานที่สุด ผมเลยดึงเอาสมุดวาดเขียนซึ่งก็มักจะมีติดตัวอยู่ตลอดเวลาอย่างน้อยก็ ๑ เล่มออกมานั่งวาดรูป ภาพที่ไหลเข้ามาให้ชมจากกรอบหน้าต่างรถไฟนั้น เป็นภาพโทนสีน้ำตาลที่มีสีเขียวแซมเป็นหย่อมๆของหมู่แมกไม้ยามร้อนแล้ง โดยเฉพาะต้นสักที่หนาแน่นเป็นแนวยาว ลีลาเหมือนบทเพลงทำนองซ้ำๆและต่อเนื่อง ให้น้ำหนักแสงเงาเรียบง่ายแต่มีจังหวะและความเป็นเอกภาพกลมกลืน ผมนั่งเขียนภาพอย่างต่อเนื่องเพื่อให้ความเป็นสมาธิสื่อสะท้อนกันและกันบนเส้นปากกากับความรู้สึกภายใน

เป็นอีกหนึ่งบทเรียนเล็กๆของวิธีการทางศิลปะเพื่อสื่อกับตนเอง กับเยียวยาและฟื้นฟูตนเอง"

..............................

บทเรียนเล็กเล็กที่ยิ่งใหญ่

โลกภายในใบหนึ่งมหาศาล

กินพรมแดนอเนกอนรรฆครอบจักรวาล

มีแก่นสารหรือไม่มีตรงนี้เอง

ครูกานท์

ทุ่งสักอาศรม

...

ปล.

 มีข่าวฝาก ปชส.ด้วยนะครับ

..............................................................

รวมรุ่น...อบอุ่นเพลงกวีอ่านชีวิต

คืนสู่รัก...ทุ่งสักอาศรม

......................................

 

ใกล้วันนัดพบรวมรุ่น ๒๘-๒๙ เมษายน ๒๕๕๓ ครูรากแก้วการอ่านและนักเรียนโรงเรียนกวีต่อสายกันเข้ามาที่ทุ่งสักอาศรมคึกคัก บ้างถามวันเวลาที่นัดหมาย บ้างถามถึงกิจกรรมในวันงาน...จึงขอแจ้งกิจกรรม “รวมรุ่น” ดังนี้

.

๒๘ เมษายน ๒๕๕๓

ภาคเช้า...หลังจากอาหารเช้า เรียนรู้กับ “ครูไวท์” (ศักดิ์สิริ มีสมสืบ)

ภาคบ่าย...หลังจากอาหารกลางวัน ร่วมกิจกรรมตำข้าวเม่า / เผาข้าวหลาม

ภาคเย็นค่ำ...ร่วมลานอาหารแบบปูเสื่อ...การแสดง และการอ่านบทกวีของครูรากแก้วการอ่านและนักเรียนโรงเรียนกวี (พี่/น้อง รวม ๕ รุ่น) / ฟังเพลงพวงมาลัย จากพ่อเพลงพื้นบ้าน (บัว สังข์วรรณะ) /...ร่วมฟัง/ชม สาระชีวิต อ่าน คิด เขียน และขับขาน กับศิลปิน ศุ บุญเลี้ยง (จุ้ย) / ศักดิ์สิริ มีสมสืบ (ครูไวท์) / พจนาถ พจนาพิทักษ์ (เอก) / พรชัย แสนยะมูล (กุดจี่) / กวีและนักเขียนกลุ่มคนตะวันตก (วัฒน์ วรรลยางกูร / วงเดือน ทองเจียว / สุธีร์ พุ่มกุมาร / อนันต์ คู่มณี / ยุทธ โตอดิเทพย์ / สัจภูมิ ละออ / ชูชาติ ครุฑใจกล้า / ชาคร บัวเกตุ ฯลฯ)

.

๒๙ เมษายน ๒๕๕๓

ภาคเช้า...ร่วมบุญตักบาตร...อาหารเช้าแบบเรียบง่าย / ฟัง “ธรรมกวี” จาก “ท่านจันทร์” (สมณะเพาะพุทธ จนฺทเสฏโฐ) / เพลินเพลงภาษากับ “ชินกร ไกรลาศ” / ทบทวนและถักทอเส้นทางแห่งเรา โดย “ครูกานท์” (ศิวกานท์ ปทุมสูติ)

ภาคบ่าย...หลังอาหารกลางวันมื้ออร่อย...กิจกรรมอำลา ครูรากแก้วการอ่านและนักเรียนโรงเรียนกวี รุ่น ๑ ถึงรุ่น ๕

.

ค่าใช้จ่ายในการจัดกิจกรรม...โดย ครูกานท์และกองทุนทุ่งสักอาศรม / พี่น้องครูรากแก้วการอ่าน / หนุ่มสาวโรงเรียนกวี / กัลยาณมิตรและกัลยาณธรรม / กวี นักเขียน และศิลปินร่วมใจ

.

ขอบคุณแรงใจจากคณะครูรากแก้วและนักเรียนโรงเรียนกวีรุ่นพี่ที่มีต่อรุ่นน้อง...ทั้งคณะนครศรีธรรมราช,นครราชสีมา,บุรีรัมย์,สุรินทร์,ชัยภูมิ,เชียงใหม่,เชียงราย,ตาก,ลำปาง,พระนครศรีอยุธยา,สุพรรณบุรี,กาญจนบุรี,กรุงเทพมหานคร,ร้อยเอ็ด,นครปฐม...ฯลฯ

  สวัสดีครับ  ครูกานท์   : ผู้ช่วยศาสตราจารย์ศิวกานท์ ปุทมสูติ

                            

  • เป็นความสุขและความยินดีในวันปีใหม่สงกรานต์ไปด้วยเลยครับ ทั้งการได้มีโอกาสสันถวะ และได้ทราบกิจกรรมความเคลื่อนไหวของทุ่งสักอาศรม กับเครือข่ายครูรากแก้วการอ่าน นักเรียนโรงเรียนกวี และเครือข่ายกวี-นักเขียน คนทำงานศิลปวรรณกรรม ดูแล้วก็ต้องเรียกว่าเป็นขุมกำลังทางปัญญาทางศิลปวรรณกรรมหลายแนวเลยนะครับ น่าสนุกครับ
  • อยากขอให้น้องๆได้มีโอกาสไปเข้าร่วมกิจกรรมบ้างสักคน-สองคนได้ไหมครับอาจารย์ นอกจากอยากให้คนรุ่นใหม่ๆได้มีประสบการณ์กับกิจกรรมดีๆในเชิงปฏิรูปการเรียนรู้อย่างนี้แล้ว ก็อยากให้เครือข่ายคนทำงานในแนวอย่างนี้ได้มีโอกาสเชื่อมโยงการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ผ่านการสัมผัสกิจกรรมที่เป็นการขับเคลื่อนสิ่งที่สนใจไปด้วยจริงๆของทุ่งสักอาศรมกับเครือข่ายครูรากแก้วการอ่าน
  • ผมอาจจะถือโอกาสไปร่วมกิจกรรมด้วยในบางช่วงครับ ช่วงนั้น ๒๘-๓๐ พฤษภาคม ๒๕๕๓ ผมมีกลุ่มไปทำศิลปะภาวนา รวมกับกลุ่มที่ไปทำกิจกรรมเจริญสติภาวนา เนื่องในวันวิสาขบูชาอยู่ที่ศูนย์ปฏิบัติธรรมเบิกฟ้าธรรมาศรม ที่สุพรรณบุรีอยู่ด้วยพอดีเหมือนกันครับ

สวัสดีค่ะท่านอาจารย์

ค่ำคืนนี้ออกจะว้าวุ่นเหตุเกิดจากความต้องการเรียนรู้ ทำความเข้าใจกับคำว่าศิลปภาวนา

ด้วยมีภาระงานต้องจัดกิจกรรม GIVE ANG TAKE ให้จิตอาสาน้อย

และพยายามคิดว่าเด็กน้อยควรได้รับอะไรบ้างโดยผ่านกิจกรรม

และในยามที่เราเริ่มรับรู้ถึงคุณค่าของงานศิลปะ

เหมือนโลกเปิดประตูกว้างจนแทบมองไม่เห็นตัวเอง

เมื่อมาเจอภาพวาดด้วยปากกาของท่านอ.ทำให้นึกถึงภาพเย็นวันนั้น

วันที่มุ่งหน้าขึ้นแม่สะเรียง รุ่งเช้าตระเวณไต่ขอบเขาจนไปถึงปายแล้วเลยเชียงดาว

ได้เห็นต้นไม้มากมาย เห็นแนวสักที่ปลูกใหม่ก็เยอะ

 ท่านอ.วาดได้เหมือนมากๆเลยนะคะ

ยิ่งเงาไม้นั่นกลับให้ความรู้สึกร่มเย็น และสงบ

ความเป็นระเบียบของแสงที่พยายามผ่านดงสักเข้ามา

รวมทั้งแสงที่พยายามเล็ดลอดช่องว่างของใบ

ทำให้นึกถึงลมหายใจของผู้ป่วยที่พยายามให้มันเข้าและออกอย่างสะดวก

แต่ก็ไม่สามารถทำได้ ความรู้สึกขณะนั้นมันช่างอึดอัด และน่าสงสาร

หากเราสามารถนำเขาคนนั้นมานั่ง นอนใต้ร่มเงาสักนี้ได้

เขาคงมีความสุขมากไม่น้อยเลยนะคะ

นี่คงเป็นเพราะอิทธิพลของแสงและเงามั๊งคะ

อีกทั้งสีของเส้นที่ตัดกับความว่างเปล่าเบื้องหน้าทิวสัก

สวยงามมากค่ะฃ

ขอบคุณค่ะ

 

สวัสดีครับ krutoiting ครับ

  • อ่านการสะท้อนคิดตนเองออกมาของ krutoiting แล้ว ทั้งรู้สึกดีและขนลุกเลยครับ รู้สึกได้ความงอกงามและปลื้มปีติไปด้วย ลึกซึ้งครับ ลึกซึ้ง
  • เป็นการใคร่ครวญตนเอง การจัดวางองค์ประกอบภายนอกที่ถูกกับตนเอง ให้วาระสำหรับการได้อยู่กับตนเอง หาความลึกซึ้ง เห็นตนเอง แล้วก็ทำให้มีกำลังแก่ตนเองมากขึ้นอย่างนี้ เป็นตัวอย่างกระบวนการเจริญสติภาวนาและการโยนิโสมนสิการ ที่นำมาใช้กับการงานและชีวิตประจำวันที่ดีมากเลยครับ
  • คุณครู krutoiting เป็นคนดู ชม และอ่านงานศิลปะเป็นมากเลยนะครับ
  • วิธีดูและได้กำลังในการใคร่ครวญตนเอง เจริญสติภาวนา และทำกำลังปัญญาที่แยบคายในเรื่องต่างๆให้กับตนเองอย่างนี้ หากได้เดินออกจากตนเองแล้วกลับไปทำการงานและดำเนินชีวิตอีกครั้ง ก็จะทำให้เกิดความสำนึกใหม่ๆและความสร้างสรรค์สิ่งใหม่ ๆให้เกิดขึ้นทีละนิด ด้วยกำลังแห่งสติปัญญาอยู่เสมอ
  • จัดว่ามีวิธีเห็นและสร้างแรงบันดาลใจให้ตนเอง ด้วยวิธีที่ละเอียดประนีตและเป็นกระบวนการแห่งสติปัญญา ในความหมายของการเจริญสติภาวนาที่วิธีการทางศิลปะช่วยเป็นสภาพแวดล้อมหรือเป็นกัลยาณมิตรให้เลยครับ

ขออนุญาตท่านผู้อ่านหมายเหตุไว้สักหน่อยครับ

กิจกรรมที่ผมกล่าวถึงว่าจะไปจัดกิจกรรมศิลปะภาวนาให้กับหมู่มิตรและกลุ่มที่สนใจ รวมทั้งตนเอง ที่ศูนย์ปฏิบัติธรรมเบิกฟ้าธรรมาศรมนั้น ได้งดจัดด้วยเหตุจำเป็นบางประการครับ เนื่องจากก่อนถึงวันวิสาขบูชาไม่กี่วันก็ได้มีฝนตกหนักอย่างต่อเนื่อง ศูนย์ปฏิบัติธรรมเบิกฟ้าธรรมาศรมที่ผมจะไปร่วมทำกิจกรรมด้วยนั้นมีที่ตั้งอยู่ในพื้นที่โอบล้อมของภูเขา เลยประสบกับสิ่งที่ไม่ได้คาดคิดมาก่อนอย่างกระทันหัน คือ น้ำฝนที่ไหลมาจากภูเขาได้รวมกันเป็นไหลบ่า พัดเศษดินและหินมาด้วย แล้วก็โถมเข้าใส่ทุกอย่างที่อยู่ในหุบเขารวมทั้งศูนย์ปฏิบัติธรรมเบิกฟ้าธรรมาศรม ผลก็คือเกิดความเสียหายจากดินโคลนถล่มใส่และข้าวของเปียกน้ำเสียหายมากมาย

พี่ๆที่เป็นผู้บุกเบิกต้องเดือดร้อนวุ่นวาย มีหมู่มิตรและน้องๆไปช่วยกันโกยดินโคลนและหินออก แล้วก็ยังคงเตรียมจัดกิจกรรมเนื่องในวันวิสาขบูชาอยู่ต่อไปเช่นเดิม แต่ในส่วนของผมนั้น ชั่งน้ำหนักดูแล้ว ก็คิดว่าคนที่ไปสมทบและไปร่วมกิจกรรมก็คงได้สิ่งดีๆที่ตนเองสนใจ ทว่า คนที่เป็นกลุ่มหลักในการดูแลอยู่เบื้องหลังที่เพิ่งประสบกับสภาพปัญหาดังกล่าวก็จะต้องอดทนรับภาระจัดการอีกหลายอย่างเพิ่มขึ้นมาอีก ก็เลยขอให้งดจัดกันไปก่อน 

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท