ชีวิตที่พอเพียง : ๙๘๒. ทุกคนมีพื้นที่ของตัวเอง



          ผมกำลังจะเล่าเรื่องในครอบครัวของผม   เพื่อโยงเข้าสู่นิสัยและวิถีดำเนินชีวิตของผม   ซึ่งก็ไม่ทราบว่าดีหรือไม่ดีอย่างไรบ้าง   แต่มันก็ทำให้ผมเป็นคนแบบที่เห็นอยู่นี่แหละ   คือคล้ายๆ เป็น “กระทิงโทน” ไม่เป็น “กระทิงฝูง”   ทั้งๆ ที่มีวิญญาณรักญาติพี่น้องเพื่อนฝูงอยู่ไม่น้อย  

          ขณะนี้ลูกสาวคนหนึ่งขึ้นไปเชียงใหม่กับ “น้องๆ” อีก ๓ สาว    เพื่อไปร่วมค่ายเยาวชนลาหู่ ที่จัดเป็นประจำทุกปี   เขานั่ง (จริงๆ นอน) รถทัวร์ไป    ผมไปส่งที่สถานีรถโดยสารจตุจักรเมื่อคืนวันที่ ๑๑ มี.ค. ๕๓ ได้เรียนรู้รถติดที่ถนนกำแพงเพชร ๒   ที่ผมนึกแบบคำหยาบในใจว่าเป็นความงี่เง่าของตำรวจจราจร    ที่ปิดช่องยูเทิร์นหมดทุกช่อง   ทำให้รถที่มาจากทิศเหนือต้องแล่นไปจนสุดถนนจึงจะยูเทิร์นได้    ภรรยาปลอบใจว่า เขาคงเตรียมไว้รับมือกับม็อบเสื้อแดง 

          ลูกๆ ทุกคนเป็นครูสอนผม   ลูกคนนี้ให้บทเรียนรู้แก่ผมว่า เขาต้องการพื้นที่ส่วนตัวสำหรับทำสิ่งที่เขามีความสุข    และสิ่งนั้นคือการได้อยู่ในกลุ่มผู้คนธรรมดา ที่ไม่มีวัฒนธรรมเมือง และวัฒนธรรมที่เรียกกันว่า “คนชั้นกลาง” หรือบางคนอาจบอกว่า “คนชั้นสูง” ต่างหาก

          การทำงานมูลนิธิ ให้ทุนช่วยเหลือนักเรียนขาดแคลน    และการมีกิจกรรมในชนบท   ช่วยให้เขาละจาก “พื้นที่” ที่ได้มาจากกำเนิดและการศึกษาในระบบ    ออกไปสู่อีกพื้นที่หนึ่งที่เขาโหยหา ในฐานะ “สัตว์ป่า”    เขาเกิดมาเป็น “สัตว์เมือง” มีร่างเป็น “สัตว์เมือง”    แต่มีวิญญาณเป็น “สัตว์ป่า”    คือมีความขัดแย้งอยู่ในตนเอง   เป็นคนมีแรงเหวี่ยงออกจากศูนย์กลาง (centrifugal force) ชีวิตของตนเอง    รุนแรงพอที่จะแสวงหา “พื้นที่” ของตนเองพบ และอยู่กับมันได้อย่างมีสมดุลกับ “พื้นที่” ของครอบครัว  

          ผมคิดว่า ลูกคนนี้ได้รับมรดกทางจิตใจแบบนี้มาจากผม   แต่แสดงออกในต่างกรรมต่างวาระ

          ลูกอีกคนหนึ่ง กำลังนอนพักฟื้นยาว จากไข้เลือดออก อยู่ที่บ้านบางขุนนนท์   นี่ก็วิญญาณเดียวกัน   ต้องการ “พื้นที่” สำหรับความเป็นตนเองสูงยิ่งกว่า   จึงใช้ชีวิตในลักษณะ “ปฏิเสธ” หลายสิ่งหลายอย่าง

          ผมตีความ (ไม่ทราบว่าถูกหรือผิด) ว่า เรามีลักษณะของโรค ออทิสซึ่ม (autism) อยู่ในตัวรุนแรงกว่าคนโดยทั่วไป   คือชอบมีเวลาอยู่กับตัวเอง   ไม่ชอบสังคม (มากนัก)   เมื่อไรมีเวลาสงบอยู่กับตัวเอง คุยกับตัวเอง ก็จะมีความสุขมาก   เราจึงมีนิสัย antisocial นิดๆ (พองาม – อ้วก)

 

วิจารณ์ พานิช
๑๓ มี.ค. ๕๓
    
         
    

หมายเลขบันทึก: 350341เขียนเมื่อ 8 เมษายน 2010 09:30 น. ()แก้ไขเมื่อ 21 มิถุนายน 2012 17:09 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (3)

เมื่อถูกกำหนดมาให้เป็น "สัตว์เมือง"...และเมื่อเราได้ทำความเข้าใจของการเป็นสัตว์เมืองแล้ว ห้วงเวลาที่เราอยู่เมือง ... เราได้ฝึกฝนความอดทนต่อการอยู่ และแล้วท้ายที่สุด เราก็เคลื่อนกลับไปสู่ธรรมชาติที่จากมาด้วยความโหยหา  พร้อมซึมซับความสุขความงามจาก...พื้นที่ที่นั้นของเรา

ธรรมชาติ...ให้ความกล้าหาญอย่างมาก

ต่อการที่ทำให้เรากล้าคืนกลับสู่ธรรมชาติที่เป็นที่ของเรา

เป็นความรู้สึก "ปลดปล่อย" ในพื้นที่ของเรา ทั้งเป็น รูปธรรม และ นามธรรม..ไร้กฏเกณท์ ไร้ขีดจำกัด..เป็นความสุขมากๆค่ะ..

ทุกคนก็จะพื้นที่ของตัวเองไม่มากก็น้อยค่ะ

1 ครอบครัวก็จะมีคนแบบลูกสาวอาจารย์เช่นกันค่ะ ไม่แปลกค่ะ

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท