คนนับพันที่มารวมตัวกัน ณ ที่วัดอัมพวันแห่งนี้ คงมาด้วยหลายวัตถุประสงค์ เชื่อว่าวัตถุประสงค์ใหญ่ๆ คือการมาเรียนรู้ ธรรมะ ปฏิบัติธรรม กรรมฐาน ตามแนวทางของท่านหลวงพ่อจรัญ ซึ่งท่านเปิดรับผู้สนใจในธรรมะ แบบไม่จำกัด ขอให้มาถึงวัดก่อน 1600 น.ก็จะรับไว้ทุกราย จึงทำให้เกิดความหนานแน่นในการปฏิบัติธรรมครั้งนี้
หลังจากที่เปลี่ยนเป็นชุดขาว ไปตามเวลานัดหมายเพื่อทำพิธีรับศีล 8 และฟังเทศน์ ตั้งแต่ 1600-2130 น. ดังที่เล่าไปบันทึกที่แล้วนั้น ก็ถึงเวลาที่เป็นกังวลของพอลล่าอีกช่วงเวลาหนึ่งคือ ช่วงเวลาการกินและการนอน... เพราะคืนนี้ไม่ได้ทานอาหารเย็นและต้องนอนในที่ร้อนและแออัด เป็นบทพิสูจน์ ความเข้มแข็งของจิตใจ ว่าเราจะทำได้หรือไม่ ???
ระหว่างเดินไปอาคารหน้าเมรุ ซึ่งจะเป็นที่พักของพอลล่าในระหว่างสองวันสองคืนที่ปฏิบัติธรรมที่วัดแห่งนี้ ยอมรับว่ายังกังวลและคิดอยู่ตลอดว่า เราจะผ่านคืนนี้ไปได้อย่างไร อยากให้เช้าเร็วๆ ไม่ต้องนอนก็ได้ คิดอย่างนั้นจริงๆค่ะ แต่พอเข้ามาในห้อง เห็นหลายๆท่าน เริ่มเปลี่ยนชุดนอน กำลังจะนอนแล้ว เราซึ่งมีที่นอนอยู่ด้านในสุดของห้อง ต้องเดินฝ่าคนที่นั่งและนอนอยู่มากกว่า 10 คน ด้วยความเกรงใจ กลัวจะไปเหยียบเขาทำให้เราต้องงค่อยๆ ก้าวเท้าและกล่าวขอโทษไปตลอดทาง นึกถึงคติในการปฏิบัติกรรมฐานที่ว่า กินน้อย นอนน้อย พูดน้อย ทำความเพียรให้มาก มองดูคนในห้องและคนข้าง ๆ ยังไม่บ่นเลย แล้วเราจะบ่น จะถอยไปทำไม ลองดูสักตั้ง และแล้วก็ไปเข้าคิวอาบน้ำ แปรงฟัน อย่างรวดเร็ว เพราะนึกถึงคนที่รออาบน้ำอยู่ข้างนอกด้วย
หลังจากอาบน้ำเสร็จแล้วก็มาเตรียมนอน โดยฝึกกำหนดจิตไว้ที่การพอง และยุบของหน้าท้อง ยุบหนอ พองหนอ..ยุบหนอ พองหนอ จนเผลอหลับไป สะดุ้งตัวตื่นมาอีกครั้ง เมื่อได้ยินเสียง สุนัข เห่าหอน เดาไม่ได้เลยว่าจะมีจำนวนเท่าใด แต่ฟังจากเสียงเห่าหอนแล้ว ไม่น่าจะน้อยเลยทีเดียวค่ะ ดูนาฬิกาตอนนั้น เพิ่งจะเที่ยงคืนกว่าๆ เอง อีกนานกว่าจะเช้า...
หลังจากนั้นก็ ไม่ได้นอนอีกเลย พยายามข่มตาให้หลับ แต่ความร้อน ความคัน ความไม่สบายเริ่มมาทดสอบเรา พอลล่าภาวนาตามที่พระท่านสอน ...ร้อนหนอ ..คันหนอ ...ยิ่งภาวนา ก็ยิ่งคัน ยิ่งร้อน จะไปอาบน้ำก็ไม่กล้าออกไป เพราะ...เสียงหมาหอนที่ได้ยินสักครู่ น่ะสิคะ ทำเป็นหลับตา แต่จริงๆ ไม่ได้หลับเลยค่ะ
ตีสองกว่าๆ แม่ต้อยก็ตื่นมาปลุกให้พอลล่า ลุกอาบน้ำได้แล้ว พอลล่าจึงลุกไปเข้าคิวอาบน้ำอีกครั้ง แต่งชุดขาวเตรียมพร้อมปฏิบัติตามแนวทางของวัด ซึ่งมีการปฏิบัติธรรมเป็น 4 ช่วงในแต่ละวัน ได้แก่ ช่วงแรก 0400-0630 น. ช่วงที่สอง 0800-1100 น. ช่วงที่สาม 1300 – 1600 และช่วงที่ 4 เวลา 1800-2100 น. ค่ะ เต็มเหยียดกันไปเลยคะ
เมื่อไปถึงอาคารปฏิบัติมีเพื่อนๆมากันเยอะแล้ว เสียงของแม่ชีบอกว่า เร่งหน่อยค่ะ เร่งหน่อยค่ะ เราก็เร่งเดินเพื่อไปนั่ง สวดมนต์ทำวัตรเช้า เป็นครั้งแรกที่ได้เรียนรู้การทำวัตรเช้า เป็นการสวดมนต์ ที่ต้องท่องช้าๆ อ่านคำแปลอย่างตั้งใจ เป็นการฝึกสมาธิอย่างหนึ่งค่ะ ซึมซับได้ว่าพระพุทธเจ้า พระธรรม พระสงฆ์ที่รวมเรียกว่าพระรัตนตรัยนั้นมีความสำคัญอย่างไร และกล่าวเคารพ บูชารัตนตรัยอย่างตั้งใจ หลังจากนั้นเราได้เดินจงกรมและนั่งสมาธิกันสามสิบนาที ผลปรากฏว่าไม่เป็นที่พึงพอใจ แม่ชีท่านจึงขอให้พวกเราผู้มาวัดครั้งแรก ได้เรียนรู้ใหม่อีกครั้ง สาธิตและฝึกปฏิบัติกันอีกสถานที่หนึ่ง ที่กว้างกว่าเดิม มีพรมแดงปูรองนั่ง พอให้สบายขึ้นจากพื้นปูนธรรมดาค่ะ
ขอบคุณภาพจาก website ค่ะ
คราวนี้ท่านแม่ชี สอนละเอียดมากๆ ถึงเรื่องของการฝึกแบบสติปัฎฐาน สี่ โดยการภาวนา ยุบหนอ พองหนอ เริ่มตั้งแต่การยืนหนอ 5 ครั้ง แล้วเดินจงกรม ต่อด้วยนั่งสมาธิ คราวนี้ได้ผลมากขึ้น เราทำได้ เรานิ่งมากขึ้น แต่ยังหายใจไม่พอง เท่าไหร่ค่ะ แต่รู้สึกสงบมากขึ้น มีสมาธิอยู่กับการเดินมากขึ้น แต่อาจารย์ชื่อว่า...ปวด เมื่อย ชอบมาทดสอบเราเวลาเรานั่งสมาธิ เราจะปวด เหน็บ ชาที่ขา ท่านสอนว่าให้กำหนดจิตไว้ที่เท้าที่ปวด แล้วระลึกรู้ว่าปวดหนอ ปวดหนอ หรือ ชาหนอ ชาหนอ ชาหนอ จนกว่าอาการเหล่านั้นจะหายไปค่ะ พอลล่าทดลองทำแล้ว ไม่หายปวดค่ะ แสดงว่า สมาธิยังไม่ค่อยจะดีค่ะ ต้องอาศัยการฝึกฝนอีกมากเลยค่ะ วันนี้เราสามารถเดินจงกรมได้ 45 นาทีนั่งสมาธิได้ 45 นาที ต่อด้วยเดินจงกรม 45 นาที และ สมาธิอีก 45 นาที เราสวดถวายเป็นพระราชกุศลให้พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวด้วยค่ะ รู้สึกอิ่มเอมใจมากมายค่ะ วันนี้ภูมิใจตัวเองมากค่ะ ที่ทำได้
ขอเชิญชวน ชักชวน ชี้ชวน พุทธศาสนิกชนทุกท่านมาปฏิบัติธรรมกันนะคะ เราจะได้มียารักษาโรคทั้งยากินและยาทา ซึ่งเป็นยาที่รักษาได้ทั้งโรคทางกาย โรคทางใจ เพิ่มพูนสติปัญญาและเก็บหน่วยกิตไว้ชาติหน้าได้ด้วยค่ะ
เคยไปปฏิบัติกับคุณแม่ค่ะ
ช่วงเป็นสาวน้อยใหม่ๆ(บ่อยมากๆ)
ตอนนี้เป็นสาวมากขึ้นไปบ้างไม่ได้ไปบ้างด้วยภารกิจ
คิดว่าต่อไปภายภาคหน้าช่วงเป็นสาวเหลือน้อยคงได้ไปถี่ขึ้น
ชื่นชมคุณพอลล่าที่เป็นตัวแบบที่ดีค่ะ.
ตอนนี้คนไทย คงต้องทั้งทาและทาน
โดยเฉพาะ คน กทม.
ที่เชียงใหม่ ยังพอแค่ทา อิอิ
สวัสดีค่ะน้องสาว..ปฏิบัติธรรมเป็นสิ่งที่ดีงามจิตใจเบิกบาน มีสมาธิ..จากการอ่านนะคะ..แล้วจะลงมือปฏิบัติเมื่อไหร่นั้นคงต้องรอเวลา และจังหวะของชีวิตนะน้องจ๋า..พี่งานเริ่มเข้าอีกแล้วค่ะ..
ไม่นึกว่าลูกสาวสวย จะสนใจในเรื่องธรรมะเป็นเรื่องเป็นราว ดีจังเลย แม้คนไทยอื่นๆจะทะเลาะกัน แต่เรายังคิดถึงกันเสมอ
ดีใจด้วยครับที่ได้ไปปฎิบัติธรรม น้องพอลล่า หมามันเห็นเราหรือเปล่า ฮ่าๆๆๆๆๆ
พอลล่า ไปแล้วให้ช่วยอะไรได้บ้าง กลัวไปแล้วไม่มีงานทำ มีเคือง... อยากเจอป้าแดงมากๆๆๆๆๆๆ
โห... ป๋ษ พอลล่า ซะอย่าง เดี๋ยวจัดการให้ แบ่งกันให้ดี วิทยากร มีเยอะกว่าผู้ร่วมประชุม อิอิ
สวัสดีครับ
- ถือว่าเป็นคนเก่ง อย่างน้อยๆ ก็สามารถปฏิบัติและเอาชนะใจตนเองได้
- จะมีสักกี่คนที่เลือกปฏิบัติทางนี้
- ขอบคุณสำหรับเรื่องเล่าดีๆ
ดีใจด้วยครับ
เล่าเก่งจังครับ...