เกษตรกรหลายๆท่านที่เป็นเจ้าของสวนปาล์มน้ำมันเคยสงสัยกันบ้างหรือเปล่าว่า ราคาปาล์มน้ำมันที่เจ้าของสวนขายในแต่ละครั้งนั้น ราคาที่ลานเทหรือโรงงานรับซื้อนั้นมาได้อย่างไร แล้วราคาดังกล่าวนั้นใครเป็นคนกำหนด เป็นราคาที่ถูกต้องพอใจต่อเกษตรกรหรือโรงงาน
ราคาปาล์มน้ำมันที่มีขึ้นมีลงเหมือนกับน้ำทะเลอยู่ในขณะนี้ ได้ถูกกำหนดด้วยตัวของปาล์มน้ำมันเอง กล่าวคือ หลังจากที่เกษตรกรหรือลานเทได้ส่งทะลายปาล์มน้ำมัน เข้าสู่โรงงานเพื่อหีบเป็นน้ำมันปาล์มดิบ หากทะลายปาล์มน้ำมันมีคุณภาพ มีเปอร์เซ็นต์น้ำมันสูง โรงงานสกัดสามารถซื้อในราคาที่สูงได้ เนื่องจากปัจจัยหลักในการกำหนดราคาทะลายปาล์มสดขึ้นอยู่กับปัจจัยที่สำคัญ 2 ประการ ประการแรก คือ ราคาน้ำมันปาล์มดิบ ประการที่สอง คุณภาพของวัตถุดิบ นั้นคือ เปอร์เซ็นต์น้ำมันของทะลายปาล์มสดที่โรงงานสกัดได้ ตัวอย่างเช่น ปาล์มทะลายสด 100 กิโลกรัม สกัดน้ำมันปาล์มดิบได้ 20 กิโลกรัม แสดงว่าเปอร์เซ็นต์น้ำมันเท่ากับ 20 เปอร์เซ็นต์ โรงงานก็จะเอาเปอร์เซ็นต์ที่ได้ไปกำหนดราคารับซื้อปาล์มน้ำมัน ถ้าเกษตรกรตัดปาล์มสุกวัตถุดิบมีคุณภาพ เปอร์เซ็นต์น้ำมันสูง ราคาก็จะสูง แต่ถ้าเกษตรกรตัดปาล์มดิบเปอร์เซ็นต์น้ำมันต่ำราคาก็จะต่ำตาม
แต่ในปัจจุบันการซื้อขายปาล์มน้ำมันไม่ได้ซื้อตามชั้นคุณภาพของสิ้นค้า
ไม่ว่าปาล์มคุณภาพดีหรือไม่ดีก็ได้ในราคาเท่าๆกัน แล้วผลประโยชน์และผลเสียที่เกิดขึ้นใครที่รับผิดชอบนอกจากตัวของเกษตรกร
สุดท้ายแล้วเกษตรกรก็ต้องเป็นผู้รองรับความเสี่ยงกับราคาที่ขึ้นๆลงๆของปาล์มน้ำมัน ฉนั้นไม่ว่าเกษตรกร ลานเท โรงงานสกัด หรือผู้เกี่ยวข้องต้องรับผิดชอบร่วมกันเพื่อการพัฒนาวงการปาล์มน้ำมันให้มีคุณภาพต่อไป
ต่างฝ่ายต่างก็รู้ว่าสิ่งที่เห็นอยู่นั้นแหละคือตัวปัญหา
แล้วจะมีฝ่ายไหน ที่เข้ามาแก้ปัญหา หากไม่ใช่ทุกๆฝ่ายเข้ามาช่วยกัน