ครูอ้อยเล็กติดละครอีกแล้วค่ะ..หลังจากที่ติดซีรีย์เกาหลี
"แดจังกึม" เป็นเรื่องแรก
แดจังกึมนี้ครูอ้อยเล็กติดแบบว่าหน้าจอวันไหนงดเป็นต้องหงุดหงิดจะลงแดงซะให้ได้ว่างั้นเลย..เรื่องนี้ชอบพิเศษเพราะนางเอกทำกับข้าวเก่งจังเลย..
ต่อมาก็
"ลีซาน จอมบัลลังก์พลิกแผ่นดิน"
เรื่องนี้นางเอกวาดภาพเก่ง...
เรื่องต่อมาก็จูมงก็เริ่มดูก็ได้ไม่ดูก็ได้..ก้เริ่มห่างเหินจากการดูละคร..และกลับมาดูละครอีกครั้งคราวนี้เป็นซีรี่สิงคโปร์ค่ะ
เรื่อง บ้าบ๋า ย่าหย๋า รักยิ่งใหญ่จากหัวใจดวงน้อย
บ้าบ๋า ย่าหยา...รักยิ่งใหญ่จากใจดวงน้อย (The Little Nyonya) ชื่อภาษาจีนว่า "小娘惹" เป็นละครซีรีย์ประวัติศาสตร์ที่ถือว่ายิ่งใหญ่ที่สุดของสิงคโปร์ เป็นเรื่องราวของชาวบ้าบ๋า ย่าหยา ซึ่งถูกกลืนหายไปกับสงครามโลกครั้งที่ 2 โดยนำเสนอเกี่ยวกับความรักและการต่อสู้ชีวิตอย่างไม่ยอมพ่ายแพ้ต่อโชคชะตาของสาวน้อยผู้อาภัพ ที่ถูกปลูกฝังคุณธรรมและวัฒนธรรมที่ดีงามมาจากบรรพบุรุษ แต่ชีวิตเธอกลับถูกกำหนดด้วยจารีตประเพณีที่เป็นขวากหนามยากเกินกว่าจะฝ่าฟัน เนื้อเรื่องเริ่มเมื่อปี 2473 และมีลูกหลานอีกหลายรุ่นต่อมา
ภาพยนตร์เรื่องนี้ เป็นละครที่มีเรตติ้งสูงที่สุดของช่อง 8 สิงคโปร์ ในช่วง 15 ปีที่ผ่านมา ออกอากาศเมื่อวันที่ 25 พ.ย. 2551 มีทั้งสิ้น 34 ตอน โดยมีผู้ติดตามชมเฉลี่ย 993,000 คนต่อวัน ยกเว้นในตอนจบที่มีผู้ชมมากถึง 1,672,000 คน หรือคิดเป็น 33.85 % ของผู้ชมทีวีในสิงคโปร์ และไทยเป็น 1 ใน 7 ประเทศที่นำภาพยนตร์เรื่องนี้มาฉาย
เวลาออกอากาศ : ทุกวันพุธ-พฤหัสบดี เวลา 20.20 น. ทางทีวีไทย (ThaiPBS)
เรื่องนี้นางเอกเป็นใบ้นะคะ..แต่ก็สู้ชีวิตและเป็นแม่บ้านแม่เรือน ทำขนม ทำอาหาร ทำการฝีมือ เก่งมากๆ ที่สำคัญสู้ชีวิตมาก ท่านใดสนใจติดตามชมได้นะคะ..เขาขายวัฒนธรรมประเพณี วิถีชีวิตความเป็นอยู่..ของคนสิงคโปร์ในยุคนั้นไว้อย่างน่าชม พอๆกับแดจังกึมเลยค่ะ..
ขอบคุณที่มาของภาพ จากอินเตอร์เน็ตค่ะ..
สวัสดีค่ะ
ตั้งแต่ติดบล็อก ก็ห่างหายจากจอทีวีมาแสนเนิ่นนาน อิ..อิ..อิ...
ฟังเพลงซะเป็นส่วนใหญ่ค่ะ
สงสัยได้ฤกษ์หันกลับไปดูทีวีบ้างแล้วหล่ะค่ะ
จะติดตามดูนะคะ ถ้าไม่ลืม 55+ ขอบคุณครูอ้อยเล็กมากค่ะที่นำมาบอกกล่าว
พี่อ้อยเล็กจ๋า.........
คิดถึงค่ะ
ไม่ติดหนังค่ะ พี่
ติด โก ค่ะ อิอิ
คิดถึงๆๆๆ จัง งงงงงงงงงงง
พี่อ้อยยยยยยยยย....
มาเยี่ยมครับ
ตอนนี้อยู่อุดรครับพี่
ไม่อยากดูอ่ะพี่ละครเรื่องนี้กลัวติด
ไม่ได้ดูละครมานานๆๆๆ มากๆๆค่ะ แต่ถ้าดูละครเกาหลี หรือเรื่องนี้ สงสัยติดหลาวแล ;) เพราะเคยติดแดจังกึม มาแล้ว ค่ะ อิ อิ
ชอบละครที่สื่อถึงประเพณี ว้ฒนธรรม เช่นกันค่ะ ... ละครไทยน่าจะพลิกกระแสบ้าง
มีวิธีเดียวที่จะเเก้โรคนี้ได้นะเพื่อนอ้อย..จะบอกให้..รับรองหาย...นั่นคือ....ปิดทีวีและดึงปลั๊กออกซะ แฮะๆๆๆๆ
สวัสดีค่ะ
เห็นตอนที่เค้าเชิญพระเอกนางเอกมาให้สัมภาษณ์ ก็คิดว่าคงน่าดู
แต่ยังไม่มีโอกาสได้ดูเลยค่ะ
คิดถึงจังค่ะ ช่วงนี้มือเป็นลิง ไม่ค่อยได้เข้าบล็อคเลย
พี่อ้อยเล็กคะ
อ่านแล้ว น่าดูจริง ๆ ด้วย...
แต่ตอนนี้เวลานอนให้เต็มอิ่มยังหายาก..5555....
รอพี่อ้อยเล่ารายละเอียดอีกดีกว่า
คิดถึงค่ะ
(^___^)
สวัสดีค่ะ ครูอ้อยเล็ก
ชอบแดจังกึมค่ะ
"รักยิ่งใหญ่จากใจดวงน้อย"
น่าสนใจ
ขอบคุณค่ะ
สวัสดีค่ะคนสวย
สวัสดี นางเอกของลีซานค่ะ..ชอบดูเรื่องนี้ค่ะ..ลุ้นตลอดเลย..อยากให้คู่กัน..สบายดีน่ะคุณพี่..
* ครูใจดีดูละครซีรีย์เกาหลี "แดจังกึม" เป็นเรื่องแรกเหมือนกันค่ะ แล้วก็ดูมาเรื่อย ทางช่อง 3 แต่ช่วงนี้ ห่างไป แต่กลางคืน ไม่ค่อยได้ดีค่ะ จะดูข่าวทุกช่อง แล้วดูข่าว 3 มิติ ของคุณกิตติ จากนั้น ก็ปิดทีวี ทำงาน และฟังเพลง เปิดอีกที ตอนข่าววันใหม่ ฮิ ฮิ สาธยาย เสียยาวเลย...
* เรื่องที่ครูอ้อยเล่ามาน่าสนใจนะคะ.... คงต้องหาซื้อ เป็น ดีวีดี มาดูค่ะ ช่วงปิดเทอม น่าจะพอมีเวลาดู ฮิ ฮิ....
* วันนี้มีส่งความสุขให้ครูอ้อย ช่วงเทศกาลวานเลนไทน์ค่ะ
* ขอให้มีความสุขมากๆ นะคะ
* ระลึกถึงค่ะ
สวัสดีค่ะ
นำรักมาฝากค่ะ
สวัสดีครับ พี่อ้อยเล็ก
..น้องครูบันเทิงนางฟ้าของน้องไอซ์...มีความสุขมากๆนะจ๊ะ เรื่องหนังละครนี่เราครูศิลปะมิอาจหลีกเลี่ยงได้ บางที่ต้องดูได้ทุกระดับ เหมือนกับการร้องเพลง การร้อง เล่น เต้น รำ ทุกกระบวนท่าต้องรู้ต้องทำให้เด็กได้เรียนรู้ บางทีการดูทำให้เรามีความทันสมัยในวิชา..และสามารถเลือกสรร และให้เด็กแยกแยะความเป็นละครและชีวิตจริงได้จ้า...
เมื่อคืนกับคืนนี้ไม่ได้ดูค่ะเพราะว่ากล่องรับสัญญาณของTrue เสียค่ะยังไม่ได้ตามช่างมาเปลี่ยนเลยค่ะ...อดไปเลย..เอาไว้ดูย้อนหลังในเน็ตก็ได้ค่ะ..อิๆๆ
วันไหนไม่ได้ดูละครที่คอยติดตาม มีวิธีเเก้ขอรับ คือ....
1.ให้คนใกล้ตัวดูเเล้วเล่าให้ฟัง
2.โทรไปหานายสถานีโทรทัศน์ให้เล่าให้ฟัง
3.เดินทางไปประเทศที่ผลิตขอให้ชาวบ้านที่นู้นเล่าให้ฟังจ๊ะ
ความต้องการของมนุษย์นั้นมีหลายรูปแบบ บางครั้งเราต้องการวัตถุเช่น บ้านและอาหาร แต่ในบางโอกาสเราก็ต้องการความรู้สึกเช่น ความรักและความอาทร เป็นต้น แต่ถ้าความต้องการทางจิตใจนั้นมีมากถึงระดับขาดไม่ได้ นักจิตวิทยาเรียกอาการดังกล่าวว่า ติด เช่น ติดยา ติดพนันหรือติดเหล้า เป็นต้น โลกทุกวันนี้มีอาการติดอีกชนิดหนึ่งที่ผู้คนเป็นกันมากคือ ติดโทรทัศน์ จนพ่อแม่บางคนมีความรู้สึกว่า ลูกของตน (และบางครั้งก็ตนเอง) ติดทีวี ซึ่งหมายความว่า เขาใช้เวลาดูทีวีนานและมากกว่าที่จิตใจเขาต้องการ และถึงแม้เขาจะพยายามลดเวลาการจ้องจอทีวีสักเท่าใด เขาก็ทำไม่สำเร็จ ในกรณีการติดอย่างรุนแรง ชีวิตในครอบครัวและชีวิตในสังคมของคนติดทีวีจะบกพร่อง และในที่สุดคนคนนั้นก็จะหลบหนี ตัดขาดจากสังคมไปอย่างถาวร
นักจิตวิทยาได้รู้มานานพอสมควรแล้วว่า รายการทีวีที่แสดงพฤติกรรมก้าวร้าวรุนแรง สามารถเหนี่ยวนำให้คนที่มีความรู้สึกอ่อนไหว ลอกเลียนพฤติกรรมภัยได้ แต่นั่นก็มิได้หมายความว่า การดูทีวีเป็นเรื่องผิดจริยธรรม คุณธรรมและศีลธรรม เพราะรายการโทรทัศน์หลายรายการให้ความรู้เชิงความบันเทิงแก่คนดู นอกจากนี้การดูภาพยนตร์หรือละครโทรทัศน์ก็ยังเป็นทางออกเชิงอารมณ์ให้คนดู (บางคน) ได้หลบหนีจากชีวิตที่น่าเบื่อหน่าย และสุดเซ็งของตนในแต่ละวันได้ด้วย
แต่ปัญหาของการติดทีวีสามารถเกิดได้ เมื่อคนบางคนรู้อยู่แก่ใจว่า ตนไม่ควรใช้เวลาดูทีวีนาน แต่ก็อดเดินไปเปิดทีวีและนั่งดูหรือนอนดูนานเป็นชั่วโมงจนเสียงานเสียการที่ตนตั้งใจทำ ดังนั้น การศึกษาว่าเหตุใดคนจึงติดทีวีจะสามารถช่วยให้คนติดสื่อประเภทนี้สามารถควบคุมจิตใจ และชีวิตตนเองได้ดีขึ้น
ในวารสาร Scientific American ฉบับเดือนกุมภาพันธ์ พ.ศ. 2545 R. Kubey แห่งมหาวิทยาลัย Rutgers ในสหรัฐอเมริกาได้รายงานว่า คนอเมริกันดูโทรทัศน์โดยเฉลี่ยวันละ 3 ชั่วโมง ซึ่งคิดเป็น 50% ของเวลาว่างในแต่ละวันที่เขามี และถ้าเขาดูทีวีทุกวันเช่นนี้ หากเขามีอายุยืนถึง 75 ปี เขาก็จะใช้เวลาดูทีวีนานถึง 9 ปี และในการสำรวจโดย Gallup โพลก็ได้สถิติว่าในปี พ.ศ. 2543 ผู้ใหญ่ 40% และเด็ก 70% มีความรู้สึกว่าตนใช้เวลาดูทีวีมากเกินไปจนถึงระดับ "ติด" อย่างรุนแรง และคนติดทีวีเหล่านี้เวลาจะดูทีวีก็มักให้เหตุผลว่าการดูโทรทัศน์ จะทำให้ตนรู้สึกผ่อนคลายอารมณ์ แต่ทันทีที่ปิดทีวีความเครียดก็จะหวนกลับมาทันที ในการตรวจสอบการอ้างนี้ Kubey ได้ถ่ายภาพสมองและวัดชีพจรของคนเวลาดูทีวี
เขาได้พบว่า ขณะดูทีวีอารมณ์ของคนดูจะไม่เครียดและไม่กระตือรือร้นใดๆ และเมื่อถึงเวลาปิดทีวีความเครียดจะคลายลงไปมาก แต่ความไม่กระตือรือร้นก็ยังคงมีต่อไป ข้อมูลที่ได้นี้แสดงให้เห็นชัดว่า โทรทัศน์ได้ดึงดูดพลังชีวิตไปจากคนดู จนทำให้เขารู้สึกอ่อนเพลียไร้สมาธิ ซึ่งก็ตรงกับผลการสำรวจที่ได้ในเวลาต่อมาว่า สมาธิของคนหลังดูทีวีแย่กว่าก่อนดู แต่ถ้าเป็นการเล่นกีฬาออกกำลังกาย เรามักพบว่าสมาธิหลังเล่นดีกว่าก่อนเล่น
Kubey ได้พบอีกว่า เวลาจะเปิดทีวีคนทั่วไปมักรู้สบายๆ ไม่เครียดเสมือนจะบอกตนว่า เวลาต่อไปนี้คือเวลาพักผ่อนแล้ว แต่เมื่อดูไปๆ คนดูจะรู้สึกอ่อนล้า หรือเวลาไม่มีทีวีดูเขาก็จะรู้สึกเครียด เพราะคิดไปว่า การดูทีวีคือการคลายเครียด ความคิดเช่นนี้ทำให้เขาต้องเปิดทีวีดูทุกครั้งที่เครียด และการเปิดทีวีบ่อยๆ จะทำให้คนคนนั้นติดทีวีในที่สุดhttp://www.ipst.ac.th/thaiversion/publications/in_sci/tv.html
มาชม... หนังดัง หนังดี คิดถึงน่ะ
ถ้าชอบฟังเพลงประกอบซีรี่ ลองเข้าไปดูในเวป www.krajong.com นะจ๊ะ รู้สึกจะมี 3 เพลง
ชอบดูบ้าบ๋า ย่าหยา เหมือนกันสงสารแม่นางเอกและพ่อนางเอกมากเย่เหนียงก็น่าสงสารมากจะดูตลอดไป
นางเอกไม่ได้เป็นใบ้ค่ะ