๒.เมื่อถูกร้องเรียน


          คราวที่เป็นครูบรรจุใหม่  ยังไม่พ้นทดลองปฏิบัติราชการครบ ๖ เดือน  ฉันถูกผู้ปกครองนักเรียนร้องเรียนไปยังบ้านผู้ใหญ่บ้านและผู้ใหญ่บ้านได้นำตัวผู้ปกครองนักเรียนมาพบกับครูใหญ่ 

          สาเหตุแห่งการร้องเรียน  เนื่องจากเด็กไปฟ้องผู้ปกครองว่า "ไม่อยากมาโรงเรียนเพราะถูกครูใหม่ตี ครูใหม่คนนั้นเป็นครูผู้หญิง ผมยาว   ตัวเล็กและสวมแว่นสายตา  ที่สำคัญเด็กมีบาดแผลเขียวเป็นจ้ำ ๆ ยาวเหมือนโดนไม้เรียวที่ขา

         เมื่อมาเผชิญหน้ากัน  ผู้ปกครองที่เป็นคุณพ่อของเด็กยืนยันว่าจะเอาเรื่องให้ถึงที่สุด ครูใหญ่และผู้ใหญ่บ้าน  รวมทั้งครูรุ่นพี่ที่บรรจุอยู่ก่อนฉัน  ได้สอบถามเด็กก็ยืนยันว่าเป็น "ครูคิม"  เพราะเป็นคนเดียวที่ตัวเล็ก ผมยาวและสวมแว่นสายตา  เด็กและผู้ปกครองยืนยันตรงกันว่า "ลูกของเขาถูกตีเมื่อวันพุธที่ผ่านมา" วันที่มาพบกันเป็นวันจันทร์เวลาล่วงเลยมาถึง ๖ วัน 

        ความเป็นจริงวันพุธฉันรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาล  เพราะเกิดอุบัติเหตุตั้งแต่วันเสาร์  และวันนั้นฉันยังอยู่ในสภาพเข้าเฝือกที่แขนข้างขวาเนื่องจากกระดูกแตก 

        ครูใหญ่ให้ครูบรรจุใหม่ที่เป็นสตรีเดินมาในห้องทีละคนและให้เด็กชี้ว่าครูคนไหนกันแน่ที่ตี เด็กบอกว่าไม่ใช่สักคน  และฉันเข้ามาอีกรอบสุดท้ายเด็กก็บอกว่าไม่ใช่ แก้ตัวใหม่ว่า "ผมลืมครับครูที่ตีผมเป็นครูผู้ชาย"  ตอนนั้นมีครูผู้ชายบรรจุใหม่ ๒ ท่าน ครูใหญ่ลองให้เข้ามาทีละคน  เด็กชายคนนั้นก็บอกว่าไม่ใช่  ขั้นสุดท้ายให้ครูทั้งโรงเรียนเก่าและใหม่นั่งเรียงกันให้เด็กชี้  เด็กไม่ยอมชี้บอกว่า "จำหน้าตาของครูไม่ได้

        จนกระทั่งมีนักเรียนรุ่นพี่ทราบข่าวได้ออกมายืนยันว่า "นักเรียนคนนี้ได้ไปกระโดดน้ำที่คลองหน้าวัดแล้วขาฟาดกับท่อนไม้"  จึงเห็นเป็นรอยเขียวฟกช้ำ  พ่อของเด็กโมโหรุนแรงมากกระโดดตบและเตะลูกแทบกระอักเลือด  ทำให้คณะครูงงและช่วยไม่ทัน 

         ครอบครัวของเด็กคนนี้ย้ายถิ่นฐานบ่อยมาก  ไม่มีอาชีพแน่นอน ทั้งพ่อและแม่เป็นโรคติดสุรา  และเด็กเพิ่งจะย้ายมาเข้าเรียนในชั้นประถมศึกษาปีที่ ๒ ตอนที่พวกเรา ๕ คนไปบรรจุเป็นครูใหม่นั่นเอง  

         ฉันจำเหตุการณ์นี้ไม่เคยลืม  วันนี้กลับมาอ่านบันทึกอีกครั้ง  รวมทั้งตำราและทฤษฏีว่าด้วยการจัดการศึกษาและจิตวิทยาการศึกษาสมัยใหม่  เด็กคนนี้เป็นเด็กประเภท "จินตนาการสูง" เพราะโกหกครูได้ทุกเรื่อง  และถูกครูลงโทษทุกวันก็ไม่เคยหลาบจำ  ตลอดชีวิตการเป็นนักเรียนคงถูกตีมากที่สุดเป็นประวัติการณ์  นึกถึงทีไรยังรู้สึกว่า...ไม่น่าเลย

         สมัยนั้นทฤษฏีว่าด้วย "วินัยเชิงบวก" หรือ "การศึกษาหรือเด็กพิเศษ"หรือ"การดูแลช่วยเหลือ" ยังไม่เฟื่องฟูในวงการศึกษาของครู  โดยเฉพาะฉันที่เริ่มต้นจากครูบ้านนอกทุรกันดาร  พร้อม ๆกับ"ภาพยนตร์เรื่องครูบ้านนอกเวอร์ชั่นหนองหมาว้อ" บากบั่นด้วยการสอนเลขคัดเลิก ..ขอยืนยัน

         ถึงแม้เด็กจะกล่าวหาว่าฉันเป็นคนตีให้เขาได้รับบาดเจ็บและสร้างเรื่องจินตนาการให้คนอื่นเดือดร้อน  ฉันก็ยังคิดถึงและเห็นใจเขาเสมอ  ถ้าเขาได้เกิดเป็นเด็กในสมัยปัจจุบัน "คงไม่ถูกตีมากมาย" และอาจจะได้รับการเยี่ยวยาและฟื้นฟูสภาพจิตใจ  อาจถูกนำมาฝึกด้วยวินัยเชิงบวกหรือกระบวนการแก้ปัญหาที่ถูกวิธี 

       หากท่านใดสนใจคู่มือการลดไม้เรียวสามารถโหลดได้ที่นี่ค่ะhttp://www.noviolenceinschools.net/books/download/handbook_teacher1.pdfและหากได้อ่าน Intelligence ของ Osho แปลโดยอาจารย์ประพนธ์ ผาสุขยืด ก็คงจะเข้าใจเด็กโกหกได้มากขึ้นค่ะ

หมายเลขบันทึก: 330407เขียนเมื่อ 23 มกราคม 2010 22:26 น. ()แก้ไขเมื่อ 4 มิถุนายน 2012 20:31 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่าน


ความเห็น

สวัสดีค่ะพี่ครูคิมขอบคุณมากค่ะที่มีบล็อก "วินัยเชิงบวก" สมัยนี้เด็กยังอยากให้ครูตีอยู่นะ..ชอบท้าทายครูว่าจะตีผมไหมครับ..ครูจึงไม่ยอมเอาไม้มาไว้ใกล้มือนะ..กลัวมือเร็วค่ะ..

  • สวัสดีค่ะครูคิม
  • ตลกมากเลย บันทึกนี้ของครูคิมชื่อเมื่อถูกร้องเรียน บันทึกเมื่อ 22.33 น.
  • บันทึกของครูแจ๋วชื่อเมื่อถึงเวลา บันทึกเมื่อ 22.40 น.
  • ณ วันที่ 23 มกราคม 2553
  • แต่บันทึกของครูคิมให้ข้อคิด อ่านเพลิน ใช้ภาษาสละสลวย เป็นบันทึกของมืออาชีพ
  • ส่วนของครูแจ๋ว บันทึกตามใจฉัน...บันทึกไปเรื่อย ๆ ตามอารมณ์
  • บางทีก็รู้สึกไม่ค่อยดีกับตัวเองเหมือนกันค่ะว่าเรานี่ช่างทำอะไรที่ไม่มีประโยชน์เลย...
  • แต่ก็เข้าข้างตัวเองเรื่อยเลยค่ะว่า...เอาน่า...เขียนดีกว่าไม่เขียน
  • อ่านดีกว่าไม่อ่าน
  • ฝันดีนะคะ

ก็ไม่ทราบว่าเด็กคนนั้นปัจจุบันจะเป็นอย่างไรบ้างนะคะ

 พ่อแม่ขี้เหล้าปัจจุบันนี้ก็ยังมีมาก และลูกก็ดื่มเหล้าเป็นแต่เด็ก

กลายเป็นเรื่องธรรมดาไปเลย  ซื่งมีมากเลยวัยรุ่นปัจจุบัน

ดื่มเบียร์ เหล้ากันเป็นปกติธรรมดา ทั้งหญิงทั้งชาย

ผู้ใหญ่เห็น ก็ทำอะไรไม่ได้ได้แต่มอง

  

             

สวัสดีค่ะพี่คิม

*** พี่คิมถุกเล่นแรงตั้งแต่เริ่มเป็นครูเลยนะนั่น...อ่านแล้วได้ลุ้นค่ะ

สวัสดพี่คุณครูคิม

เด็กโกหกเป็นคนมีจินตนาการ แต่เราต้องส่งเสริมให้เขาคิดในทางที่สร้างสรรค์ครับ

มาสอบถามวิทยากรที่ตอบรับมาร่วมค่ายจิตอาสา จะได้ลงในบันทึกใหม่ครับ

คิดถึงจังค่ะพี่คิม ไม่ได้เจอกันหลายวัน  สบายดีน่ะค่ะ  บรรจุคราวเดียว 5 คน  คงไม่เหงาเลยน่ะค่ะ

จุ๊บ จุ๊บ

สวัสดีครับคุณครูคิม

  • "พ่อของเด็กโมโหรุนแรงมากกระโดดตบและเตะลูกแทบกระอักเลือด"
  • พ่อแม่ในบ้านเรามักมีพฤติกรรมอย่างพ่อแม่ของเด็กที่คุณครูคิมกล่าวถึงกันเป็นส่วนมาก แม้โดยทั่วไปไม่รุนแรงเท่านี้ แต่จะเป็นการใช้อำนาจในดีกรีต่าง ๆกันเพื่อควบคุม กำกับหรือจัดการให้เด็กเปลี่ยนพฤติกรรมไปตามที่ตนประสงค์
  • แม้ในพ่อแม่ที่มีการศึกษา อาจจะดูเหมือนมีเหตุผล หรือใช้ปัญญาในการจัดการกับปัญหาต่าง ๆ กับเด็ก แต่ถ้าลองติดตามสังเกตให้ดี ๆ เราจะพบว่า ผู้ใหญ่ในบ้านเรามีจิตสำนึกของอำนาจนิยมแฝงฝังอยู่ถ้วนทั่วทุกตัวคน คนฉลาด คนมีสติก็เห็นได้ยาก ในทางตรงกันข้าม ก็จะ "โมโหรุนแรงมากกระโดดตบและเตะลูกแทบกระอักเลือด
  • ในครอบครัวจึงอวลไปด้วยบรรยากาศของอำนาจนิยม ละเอียด หยาบ มากน้อยต่างกันไปตามพื้นเพของแต่ละคน แต่ละครอบครัว
  • โรงเรียนก็เป็นอีกแหล่งหนึ่งที่มีบรรยากาศของอำนาจนิยมอบอวลอยู่ จากบันทึกที่แล้วกัลยณมิตรของเราหลายคนได้สะท้อนให้เห็นบรรยากาศของอำนาจนิยมที่แฝงฝังอยู่ในโรงเรียน
  • ผมเห็นว่า อำนาจนิยมเป็นศัตรูตัวฉกาจของการสร้างวินัยเชิงบวก
  • จึงใคร่จะเรียกร้องให้พวกเราหันมาสนใจเจ้ามารร้ายตัวนี้ด้วย
  • เพียงใส่ใจในวิธีการเสริมสร้างวินัยเชิงบวกอย่างเดียวไม่พอ ตราบใดที่หัวใจของเรายังเปี่ยมด้วยอำนาจนิยม วิธีการเสริมสร้างวินัยเชิงบวกจะทำงานได้ผลน้อยมาก
  • ขอบคุณครับ ที่ให้โอกาสเสนอความเห็น
  • สวัสดีครับ


paaoobtong
24/01/53
04:09

เรื่องร้องเรียนไม่มีใครอยากให้เกิด

ในทุกวงการ

โดยเฉพาะในวงการสาธารณสุข

เพราะเกี่ยวกับความเป็นความตายซะด้วย

ฉะนั้นก่อนจะทำ หรือพูดสิ่งใดๆ

ให้ตรองก่อน

แวะมาเรียนรู้ประสบการณ์ดีมีสาระจากพี่ครูขอรับ..

 

สวัสดีค่ะน้องrinda

  • ขอขอบคุณค่ะ
  • ที่กรุณาให้เกียรติมาเป็นประธานเปิดเม้นท์ค่ะ ฮิ ๆ ๆ ๆ 
  • คู่มือการลดไม้เรียวอยู่ที่นี่ค่ะ

http://www.noviolenceinschools.net/books/download/handbook_teacher1.pdf

  • เรื่องเล่านี้คัดมาจากไดอารี่เก่า ๆค่ะ

อืม พูดไม่ออก สงสารเด็กจังเลยค่ะ

สวัสดีค่ะครูแจ๋วคุณครู วรางค์ภรณ์ เนื่องจากอวน

  • ตลกมากเลย บันทึกนี้ของครูคิมชื่อเมื่อถูกร้องเรียน บันทึกเมื่อ 22.33 น.
  • บันทึกของครูแจ๋วชื่อเมื่อถึงเวลา บันทึกเมื่อ 22.40 น.
  • ณ วันที่ 23 มกราคม 2553
  • ขอมีใจตรงกันสักครั้งไม่เสียหาย...ไม่ใช่หรือคะ
  • ครูแจ๋วคงสบายดีนะคะ  เป็นห่วงค่ะ
  • แต่บันทึกของครูคิมให้ข้อคิด อ่านเพลิน ใช้ภาษาสละสลวย เป็นบันทึกของมืออาชีพ
  • ส่วนของครูแจ๋ว บันทึกตามใจฉัน...บันทึกไปเรื่อย ๆ ตามอารมณ์
  • ไม่เป็นไรนะคะ  อย่าคิดมาก  ครูคิมก็คิดว่าเขียนไปตามเรื่องเหมือนกันค่ะ
  • สาระขึ้นอยู่กับการรับได้ของแต่ละท่านที่อ่านค่ะ  อย่าไปกังวลนะคะ
  • บางทีก็รู้สึกไม่ค่อยดีกับตัวเองเหมือนกันค่ะว่าเรานี่ช่างทำอะไรที่ไม่มีประโยชน์เลย...
  • แต่ก็เข้าข้างตัวเองเรื่อยเลยค่ะว่า...เอาน่า...เขียนดีกว่าไม่เขียน
  • ใช่เลยค่ะ..ดีกว่าไม่เขียน
  • เป็นกำลังใจและห่วงใยเสมอนะคะ
  • รักและคิดถึงเช่นกันค่ะ

สวัสดีค่ะคุณกานดา น้ำมันมะพร้าว

  • สมัยนั้นพวกเราเป็นครูใหม่  ไม่มีความรู้อะไรมากมายค่ะ
  • ถ้าเป็นปัจจุบัน  จะได้รับการดูแลจากครูทั้งครอบครัวและเด็กก็จะได้รับการอบรมให้ถูกกับจริตของเด็กค่ะ
  • เรื่องนี้คัดมาจากบันทึกเล่มเก่าเก๋ากึ๊กค่ะ
  • ขอขอบคุณที่มาให้กำลังใจพี่คิมค่ะ

สวัสดีครับ

  • มาเยี่ยมเยือนพี่ครูคิม ด้วยความระลึกถึงครับ
  • มาอ่านบทความดีๆ เรื่องราวดีๆ ครับ
  • ขอบคุณสำหรับเรื่องราวดีๆ ครับ

เห็นด้วยกับท่านอ.เชาว์นะคะ

เป็นกำลังใจให้น้องครูคิมคนเก่งค่ะ

เรื่องเก่าที่ยังมีประโยชน์ต่อวงการค่ะ

ขอบคุณค่ะ

สวัสดีค่ะน้องกิติยา เตชะวรรณวุฒิ

  • โดนลองของตั้งแต่ยังไม่พ้นทดลองราชการเลยนะคะ
  • ตอนแรกก็ตกใจมาก  แต่วันที่เด็กอ้างนั้น พี่คิมยังนอนอยู่โรงพยาบาลค่ะ
  • วันนั้นแขนยังเข้าเฝือกอยู่เลย จะเอาแรงที่ไหนไปตีเขาละ
  • พ่อแม่..หน้าตาบวมฉุบ่งบอกว่าเป็นคนโรคติดสุราชัด ๆค่ะ
  • นึกย้อนไป...น่าสงสารมากค่ะ
  • พี่คิมคัดลอกมาจากบันทึกเก่า ๆ เก๋ากึ๊กค่ะ
  • ขอขอบคุณที่แวะมานะคะ

สวัสดีค่ะ ผอ.พรชัย

  • ถ้าหากได้อ่านเรื่อง  เป็นไปได้ด้วยปัญญา  ของท่าน Osho แปลโดยอาจารย์ประพนธ์ ผาสุขยืด
  • รับรองไม่มีครูคนไหนอยากจะตีเด็กโกหกได้ลงคอหรอกนะคะ
  • วันนี้จะส่งให้นะคะ  ขอหาวิธีก่อนค่ะ

สวัสดีค่ะน้องNew.ครูบันเทิง

  • บรรจุทีเดียวกัน ๕ คน  ชาย ๒ หญิง ๓
  • และครูในโรงเรียนมีคนแก่อยู่ ๑ คนคือครูใหญ่ค่ะ
  • นอกนั้นหนุ่มสาวทุกคน  บรรยากาศสนุกสนานมากค่ะ แต่โรงเรียนกันดารไม่มีน้ำไม่มีไฟฟ้าค่ะ
  • ขอขอบคุณที่มาเยี่ยมนะคะ

สวัสดีค่ะพี่ครูคิม

อ่านแล้วได้ลุ้นระทึก...

อุปสรรคมากมาย หมายถึงเส้นทางของความสำเร็จค่ะ

และชื่นชมพี่ครูคิมที่แม้จะถูกกล่าวโทษ แต่ก็ยังมีใจเมตตาและเข้าใจเด็ก...

ขอบคุณค่ะ

(^___^)

สวัสดีค่ะอาจารย์paaoobtong

  • "พ่อของเด็กโมโหรุนแรงมากกระโดดตบและเตะลูกแทบกระอักเลือด"
  • พ่อแม่ในบ้านเรามักมีพฤติกรรมอย่างพ่อแม่ของเด็กที่คุณครูคิมกล่าวถึงกันเป็นส่วนมาก แม้โดยทั่วไปไม่รุนแรงเท่านี้ แต่จะเป็นการใช้อำนาจในดีกรีต่าง ๆกันเพื่อควบคุม กำกับหรือจัดการให้เด็กเปลี่ยนพฤติกรรมไปตามที่ตนประสงค์
  • ตอนนั้นพวกเราเป็นครูใหม่ ไม่มีความรู้อะไรกันมากมายยังสนุกสนานตามประสาของคนหนุ่มสาวอยู่นะคะ
  • ถ้าเป็นสมัยนี้พวกเราคงไปทำหน้าที่นักพัฒนาไปเยี่ยวยาและดูแลครอบครัวและฟื้นฟูจิตใจของเด็กและพูดคุยกับผู้ปกครองในการทำความเข้าใจกับการปกครองดูแลเลี้ยงดูลูกหลาน
  • และเด็กก็จะได้รับการดูแลเป็นกรณีพิเศษ ไม่ถูกทอดทิ้งหรือละเลยให้เป็นไปตามบุญตามกรรมค่ะ
  • แม้ในพ่อแม่ที่มีการศึกษา อาจจะดูเหมือนมีเหตุผล หรือใช้ปัญญาในการจัดการกับปัญหาต่าง ๆ กับเด็ก แต่ถ้าลองติดตามสังเกตให้ดี ๆ เราจะพบว่า ผู้ใหญ่ในบ้านเรามีจิตสำนึกของอำนาจนิยมแฝงฝังอยู่ถ้วนทั่วทุกตัวคน คนฉลาด คนมีสติก็เห็นได้ยาก ในทางตรงกันข้าม ก็จะ "โมโหรุนแรงมากกระโดดตบและเตะลูกแทบกระอักเลือด
  • อำนาจของครูอยู่ที่สายตาก็เกินพอแล้วนะคะ
  • และการแสดงออกให้เด็กรักและศรัทธาเป็นการสร้างอำนาจในตัวครูได้ค่ะ
  • ในครอบครัวจึงอวลไปด้วยบรรยากาศของอำนาจนิยม ละเอียด หยาบ มากน้อยต่างกันไปตามพื้นเพของแต่ละคน แต่ละครอบครัว
  • โรงเรียนและครูมีหน้าที่อยู่แล้วตาม "จรรยาบรรณ" ที่ครูทุกคนท่องไปก่อนสอบบรรจุว่า "จะตั้งใจสั่งสอนอบรมให้ลูกศิษย์เป็นคนดี"
  • ดิฉันไม่ได้เรียนสายครูและไม่ได้จบวิชาครูในระดับปริญญาตรีนะคะ
  • และปริญญาโทก็สนใจเรียนการบริหารการศึกษา เพราะอยากเป็นลูกน้องที่ดีและเข้าใจผู้บริหารค่ะ
  • จิตวิทยาการสอน  ไม่ได้ร่ำเรียนมาจากสถาบันสอนครูแต่อย่างใด  แต่หากเกิด้วยใจค่ะ  และไม่ได้คิดว่าสิ่งที่ตนเองทำไปนั้นจะถูกหรือดีมากน้อย แต่ไตร่ตรองแล้วว่า "ควรทำ"
  • โรงเรียนก็เป็นอีกแหล่งหนึ่งที่มีบรรยากาศของอำนาจนิยมอบอวลอยู่ จากบันทึกที่แล้วกัลยาณมิตรของเราหลายคนได้สะท้อนให้เห็นบรรยากาศของอำนาจนิยมที่แฝงฝังอยู่ในโรงเรียน
  • หลายคนคิดว่าเป็นเรื่องใหม่ค่ะ  เมื่อมีคำบัญญัติใหม่ ๆ ขึ้นมาอาจรับไม่ได้
  • เพราะความมีอัตตาในตนเองสูงเกินไป เหมือนน้ำชาล้นถ้วยค่ะ
  • ผมเห็นว่า อำนาจนิยมเป็นศัตรูตัวฉกาจของการสร้างวินัยเชิงบวก
  • จึงใคร่จะเรียกร้องให้พวกเราหันมาสนใจเจ้ามารร้ายตัวนี้ด้วย
  • เพียงใส่ใจในวิธีการเสริมสร้างวินัยเชิงบวกอย่างเดียวไม่พอ ตราบใดที่หัวใจของเรายังเปี่ยมด้วยอำนาจนิยม วิธีการเสริมสร้างวินัยเชิงบวกจะทำงานได้ผลน้อยมาก
  • การเปิดใจรับรู้ การสำนึกในหน้าที่ การลดอัตตาในตนเองจะทำให้อำนาจนิยมเบาบางลงค่ะ  รวมทั้งการได้ขัดเกลาภายในจากหลักธรรมและการแสวงหาความรู้บ้างน่าจะเป็นทางเลือกนะคะ
  • ขอขอบพระคุณอาจารย์เป็นอย่างสูงค่ะ  ที่กรุณามาเติมเต็ม

สวัสดีค่ะน้องมนัญญา ~ natachoei ( หน้าตาเฉย)

  • ตอนอยู่ในสถานการณ์ปัจจุบันมันก็ทุกข์แสนสาหัสนะคะ
  • แต่เวลาได้ผ่านพ้นไป  นึกขึ้นได้ว่า..ไม่น่าเลย
  • กลับเป็นบทเรียน..ให้มีบันทึกนี้ด้วยค่ะ
  • ขอขอบคุณน้องเขี้ยวที่มาให้กำลังใจค่ะ

นมัสการพระคุณเจ้าธรรมฐิต

  • กราบขอบพระคุณเจ้าค่ะ
  • ที่มาอ่านเรื่องเล่าความหลังของพี่คิม
  • แต่พี่คิมว่าเป็นบทเรียนดีในปัจจุบันนะคะ

สวัสดีค่ะน้องแมวมนัสนันท์

  • อืม ๆ ๆ ๆ ๆ น้องแมวเคยเจอเด็กแบบนี้ป่ะ
  • ถ้าเจอ..วิเศษเลยค่ะน้องแมวจะได้นวัตกรรมใหม่
  • พี่คิมออกแรงเชียร์ ๆ ๆ ๆ ค่ะ

สวัสดีค่ะคุณณัฐวรรธน์

  • ขอขอบคุณค่ะ
  • เรื่องเก่าจากไดอารี่แต่ให้ประโยชน์ในปัจจุบันค่ะ
  • อ่านทบทวนดู..ก็รู้สึกว่า...ไม่น่าเลย

สวัสดีค่ะคุณพี่krutoiting

  • ขอขอบพระคุณค่ะ
  • พี่ต้อยโหลดเอกสารไปอ่านได้นะคะ  น้องตั้งชื่อใหม่ว่า "เอกสารการลดไม้เรียว"ค่ะ
    เพิ่งเพิ่มเติมลงในบันทึกค่ะ
  • พี่ต้อยสบายดีนะคะ  ไปรับรางวัลอะไรมาไม่เห็นเล่าเลยนะคะ  ถ้าได้เยอะก็น่าจะมาแบ่งปันกันบ้างนิ
  • เรื่องเก่า..แต่คิดว่าน่าจะนำมาเล่าเพื่อเป็นข้อคิดในปัจจุบัน  และคิดว่าเด็กแบบนี้และครอบครัวแบบนั้นยังน่าจะมีในสังคมอยู่นะคะ

สวัสดีค่ะน้องคนไม่มีราก

  • เมื่อเรารู้ที่มาที่ไป ก็ไม่น่าจะโกรธเด็กนะคะ
  • พี่คิมคิดว่าเด็กในปัจจุบันและครอบครัวแบบนั้นยังคงมีอยู่
  • จึงตัดสินใจนำมาเขียนเล่า..เพื่อการแก้ปัญหาอย่างมีกระบวนการค่ะ
  • ขอขอบคุณค่ะที่มาแลกเปลี่ยน
พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท