วิศวกร หมวกฟาง และการขอแบบให้ก่อนรับ


Appreciative Inquiry : การขอแบบให้ก่อนรับ

นี่ก็ 2 วันมาแล้วครับ ที่ขอนแก่นอากาศอึมครึมมากมาย

ฝนตกไม่รู้จักเหนื่อย เล่นเอาผมออกไปไหนมาไหนไม่สะดวกเลย

เพราะผมมีแต่น้อง Wave คู่ใจ แถมในห้องไม่มีแม้แต่ร่มหรือเสื้อกันฝน

เป็นพวกคนไม่กลัวฝนหนะครับ  แต่แบบนี้ก็ไม่ไหวเหมือนกัน ออกไปกินข้าวยังลำบากเลย

อากาศแบบนี้... เขาบอกกันว่าจะมีคนเหงาเพิ่มขึ้นมากกว่าปกติ ไม่รู้ว่าจริงไหม ^^



เหงาๆแบบนี้ อย่าไปคิดอะไรมากครับ มาอ่านเคสการขอที่น่าสนใจ แก้เหงากันดีกว่า... ตามผมมาเลยครับ ^^

เรื่องราวในวันนี้ผมได้ฟังมาจากประสบการณ์ของอาจารย์ของผมสมัยที่ท่านทำงานเป็นวิศวกรครับ

ท่านเล่าให้ผมฟังว่า "สมัยผมทำงานผมก็มีประสบการณ์ในการขอคล้ายๆกับเคส"บุหรี่"ของคุณนะ

แต่ผมเป็นคนไม่สูบบุหรี่" ผมถาม "จริงเหรอครับอาจารย์... แล้วอาจารย์ใช้วิธีอะไรครับ"

อาจารย์ผมตอบ "ตอนนั้นผมทำงานอยู่ที่บริษัทแห่งหนึ่ง เหตุการณ์เหมือนกันเคสของคุณเลย คือพวกนายช่างไม่ชอบขี้หน้าผม

คงเป็นเพราะ วิศวกรคนเก่าๆทำไม่ดีกับเขาไว้ แต่ผมจับจุดได้อย่างหนึ่ง คือพวกช่างเขาจะไม่ชอบเข้าไปคุยกับนายฝรั่ง

ผมเลยเข้าไปพูดให้ เห็นนายฝรั่งก็เข้าไปคุยให้เลย อะไรประมาณนั้น พวกช่างเขากลัวภาษาอังกฤษหนะ"



ผมถามต่อ "ก็จริงนะครับอาจารย์ พวกช่างเขาไม่เก่งภาษาอังกฤษ แล้วใช้ได้ผมไหมครับวิธีนี้" อาจารย์ผมตอบ "ยังหรอก..

พวกช่างก็ยังไม่ยอมเปิดใจให้ผมอยู่ดี การทำงานก็ลำบาก ถามอะไรเขาเขาก็ไม่บอก เพราะหลายๆอย่างพวกช่างจะเก่งกว่าเรา

แต่ถ้าเรื่องเทคนิคจากตำราผมก็แชร์เขานะ... จนมาวันหนึ่งมันมีจุดเปลี่ยน คืองานที่ทีมของผมได้รับมาในวันนั้นเป็นงานกลางแจ้ง

แดดร้อนมาก ผมเลยไปซื้อ "หมวกฟาง" แบบชาวไร่ มาให้พวกนายช่างใส่ และก็ซื้อน้ำซื้ออะไรมาให้กิน ก็ไม่ได้หวังอะไรตอบแทนหรอก

ผมก็ร้อน แต่เชื่อไหมไพรัชช์... นี้ละจุดเปลี่ยนในชีวิตผมเลย หลังจากงานในวันนั้นพวกช่างเปลี่ยนไป ผมทำงานกับพวกเขาง่ายขึ้น

มีอะไรเขาก็ช่วยเขาก็แนะนำ เราก็แนะนำเขาในเรื่องเทคนิคบางอย่าง เชื่อไหมว่าตอนผมลาออก พวกช่างถึงกับประท้วง

ฝ่ายบริหารว่าทำไมไม่รั้งผมไว้ ทำไมยอมให้ออก ร้องไห้กันใหญ่เลย"



ตัดมาที่จุดนี้ครับ... มาดูกันว่าเคสนี้ให้อะไรกับเราบ้าง แล้วมันเกี่ยวกับการขอตรงไหนน๊าาาาา ^^

ปัญหาของเคสนี้อยู่ที่ นายช่างไม่ชอบหน้าวิศวกร(อาจารย์ผม) อาจารย์ของผมพยายามหาจุดที่จะทำให้พวกนายช่างเปิดใจ

โดยใช้เทคนิค"การขอแบบให้ก่อนรับ" สิ่งแรกที่พบคือ การเข้าไปคุยกับนายฝรั่ง ซึ่งเป็นอะไรที่พวกนายช่างกลัว

เพราะเขาฟังภาษาอังกฤษไม่รู้เรื่อง... จุดนี้คือจุดที่ทำให้นายช่าง "เริ่มที่จะเปิดใจ" รับอาจารย์ของผม

แต่ก็ยังไม่สำเร็จ จนมาเจอจุดเปลี่ยนที่แท้จริงคือ "หมวกฟาง"ครับ  โดยการซื้อ"หมวกฟาง"มาให้พวกนายช่างกันแดด (การให้)

ทั้งๆที่ไม่มีใครบอกหรือขอให้อาจารย์ผมทำ และนี้ละครับคือสิ่งที่ทำให้นายช่างรู้สึกดี (ได้รับ)

และเปิดใจยอมรับอาจารย์ของผมในที่สุด ถึงขนาดไม่อยากให้ลาออก


เป็นอย่างไรกันบ้างละครับ.. กับ"การขอแบบให้ก่อนรับ"ในกรณีนี้ ใครจะเชื่อละครับว่า "หมวกฟางสามารถซื้อใจคนได้"

นอกจากนั้นการวางตัวที่ดี และการช่วยเหลือนายช่างในการสื่อสารกับนายฝรั่งก็เป็นอีกปัจจัยหนึ่งที่ทำให้การขอในครั้งนี้สำเร็จครับ

ลองนำไปปรับใช้กันดูครับ
... ผมว่าการให้โดยไม่หวังสิ่งตอบแทน จะนำพาสิ่งดีๆมาสู่ชีวิตคุณเหมือนอย่างอาจารย์ของผมนี้ละครับ ^^




แล้วคุณละคิดยังไง

หมายเลขบันทึก: 330156เขียนเมื่อ 22 มกราคม 2010 22:04 น. ()แก้ไขเมื่อ 6 กันยายน 2013 22:17 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (13)

สวัสดีครับท่านเอิร์ท

รักจะเป็นเจ้าสาวแล้วกลัวฝนทำไม

ผมว่าฝนตกเยอะๆก็ดีขี้หมูจะได้ไหล อิ.อิ.

ในกรณีนี้ ถ้าอาจารย์ท่านอยู่ต่อ ผมก็ต้องยืนยันว่า แถวบ้านเรียกสินบน อยู่ดี

แต่พอสมเจตตนาแล้วลาออก แถวบ้านเลยเรียกว่า "แหย่ให้อยาก...แล้วจากไปเลย"

ช่วยเติมคำว่า "ร่วมงาน" ไว้หลังคำว่า "อยาก" ให้ด้วยครับ ขออภัยพิมพ์ตกครับ....แฮ

บทความ ยังดีประล่ำประเหลือ เช่นเคย ไปหละ

เห็นด้วยค่ะ บรรยากาศ แบบนี้คนเหงากันเยอะ

จากเรื่องราวที่ คุณเอิร์ทเอามาเล่าให้ฟังนี่น่าสนใจค่ะ

ธรรมชาติของคน จะต่อต้านกับสิ่งที่พบเจอครั้งแรกค่ะ

เมื่อนานๆไป เริ่มเห็นความเปลี่ยนแปลง

ก็เหมือนกับคุณวิศวกรที่กล่าวมาค่ะ

แรก ๆ ช่างก็ไม่ยยอมรับด้วยเหตุผลใด ไม่รู้

แต่วิศวกรคนนี้ก็ทำดี เพื่อให้เห็นความจริงใจค่ะ

แบบนี้เค้าเรียกว่า "ทำดี เพื่อลบอคติของคน" ค่ะ อิอิ

บุญรักษาค่ะ ^_^

พี่ว่าบรรยากาศเเบบนี้มันน่านอนชะมัด ไม่มีเวลาเหงาครับเพราะว่าลงเวรดึก

ขอบคุณเรื่องราวสนุกๆ ครับ

เห็นว่าคนเหงาเยอะนะครับช่วงนี้ ผมเลยเอา เรื่องความเหงา จาก TRY ของ วงศ์ทนง ชัยณรงค์สิงห์ มาฝากครับ

ตัดมาแค่บางส่วนนะครับ

ผู้เขียนเขาอยากให้เปลี่ยนความคิดว่า ความเหงาไม่ใช่ความทุกข์ ความเหงาไม่ใช่สิ่งน่าอาย ความเหงาไม่ใช่เรื่องเลวร้าย

หากความเหงานั้นมีประโยชน์ ความเหงาสร้างงานได้ ความเหงาทำให้เราถ่องแท้กับตัวเอง ความเหงาทำให้เราได้ทบทวนและค้นหาความสนใจใคร่รู้ของตัวเอง

สำคัญกว่านั้น ความเหงาคือความกล้า

และแน่นอน คนขี้เหงาก็คือคนกล้า

ถ้าเป็นอย่างงั้นตอนนี้ผมก้เป็นคนกล้าคนนึกหนะสิครับ

ใครเป็นคนกล้ายกมือขึ้นนนนนนนนน

ขอบคุณสำหรับความเห็นนะครับ

@ท่านชาวฝนแปดแดดสี่ >>> ขอบคุณที่ติดตามผลงานไม่มีขาดครับท่าน แหมๆ... เคสการขอแบบให้ก่อนรับ ในทางกฏหมายก็คงหมายถึงการติดสินบนนั้นละครับ ทุกเคสที่ขอแบบนั้ก็ใช่หมดละ 555+ เรื่องเดียวกันแต่เรามองคนละมุมครับ แต่ก็จริงอย่างท่านว่านะครับ อาจารย์ผม ทำให้อยากแล้วจากไปจริงๆ ขอบคุณสำหรับคอมเม้นครับท่าน ^^

@คุณsOul_ >>> จะเรียกแบบนั้นก็ได้ครับ เหมือนๆกัน ขอบคุณสำหรับความคิดเห็นครับ ^^

@คุณกุ้งนาง สุธีรา >>> ผมก็ว่างันละครับ... น่าคลุมโปงหลับข้ามวันกันไปเลย ไงก็ตั้งใจทำงานนะครับ ขอบคุณที่แวะมา ^^

@พี่เทพดรุณ >>> ขอบคุณสาระดีๆเรื่องความเหงา ที่ให้กำลังใจ "คนกล้า" อย่างผมครับพี่ ขอบคุณครับ ^^

ขอบคุณทุกท่านที่แวะเข้ามานะครับ

แสดงความคิดเห็นกันได้เต็มที่ ไม่ว่าจะเป็น ติ ชม หรือแชร์ประสบการณ์ความรู้ ได้เต็มที่เลยนะครับ

ห้อง "จิตวิทยาการขอ" แห่งนี้ ดีใจเสมอครับ ที่ทุกท่านเข้ามาเยี่ยมชม ยิ่งได้อ่านคอมเม้นด้วยแล้ว ยิ่งรู้สึกอบอุ่นอย่างบอกไม่ถูก

ขอบคุณมากครับ ^^

Congratulations ครับอาจารย์ ^^

ขอบคุณที่แวะมาเยี่ยมครับผม

อยากมีวันนี้เหมือนอาจารย์จังค่ะ

หมวกฟางคงจะไม่ทำให้ได้ใจเหล่านายช่างเพียงอย่างเดียว

คงจะรวมกับความพยายามของอาจารย์ที่จะ "ให้" นายช่างเหล่านั้นด้วยค่ะ

ขอบคุณสำหรับเรื่องราวดีๆที่นำมาแบ่งปันนะคะ ^^

ขอบคุณ คุณ Charmmy ครับ

ใช้แล้วครับ... จิตใจที่พร้อมที่จะให้ของอาจารย์ครับ ที่ทำให้การขอในเคสนี้ประสบความสำเร็จ ^^

  • ข้อนี้เคยใช้บ่อยค่ะ
  • แต่เป็นการให้แบบ ไม่หวังผล นะคะ

ก็เป็นอีกกรณีหนึ่ง คล้าย ๆ กับกรณีที่คุณเอิร์ทเคยเล่ามาคือการให้ก่อนที่จะได้รับ..ซึ่งจะเห็นแล้วนะคะว่า 2 กรณีนี้ผู้ให้ให้โดยไม่ได้หวังผลตอบแทนแต่อย่างใด ให้ด้วยการมีน้ำใจ แต่ผลที่ได้รับกลับมานั้นเป็นสิ่งที่ไม่คาดคิดจริง ๆ ค่ะ..เป็นผู้ให้กันตั้งแต่วันนี้นะคะ

วิธีการที่อาจารย์ใช้ ก้เคยใช้หลายครั้ง

มีทั้งหวังผลและไม่หวังผลแต่ จริงๆมันก็ได้ผลนะคะ

ขอบคุณทุกความเห็นครับ

@คุณมนัสนันท์ >>> ขอบคุณมากครับ แล้วผลเป็นยังไงบ้างครับ สำเร็จไหม แชร์ให้พวกเราหน่อยก็ดีนะครับ ^^

@คุณนัท >>> ถูกต้องเลบครับ อย่างที่เค้ากล่าวกันไว้ว่า "มือของผู้ให้ สูงกว่ามือของผู้รับเสมอ" มาเป็นผู้ให้กันเถอะครับ ^^

@คุณนาง...มณีวรรณ ตั้งขจรศักดิ์ >>> ขอบคุณมากครับ อย่างน้อยๆวิธีการนี้ก็ช่วงเปิดใจคนที่มีอคติได้ดีนักแลครับ ยิ่งการซื้อใจลูกน้องด้วยแล้ว ถ้าใช้อย่างเหมาะสมมันจะให้ผลที่สุดยอดเลยละครับ ขอบคุณมากครับ ^^

ขอบคุณทุกท่านที่แวะเข้ามานะครับ

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท