ช่วงเปลี่ยนผ่าน(วัย)


ไม่มีคำว่าไกล ถ้าใจยังสู้ ไม่มีคำว่าช้า ถ้าใจยังคอย

               วันนี้ วันเสาร์ วันหยุดของใครหลายๆคน (ที่คิดว่าตัวเองเป็นคนศิวิไลซ์) เช้านี้ตื่นขึ้นมา  อย่างไม่ค่อยยินยอมพร้อมใจนัก เพราะสายลมเย็นๆ (ยังไม่ถึงหนาว แม้จะเป็นฤดูหนาวก็ตาม แต่ไม่อยากโทษภาวะโลกร้อนแล้ว) จากทิศตะวันออกเฉียงเหนือที่อาจจะพัดผ่านมาจากดินแดนอันไกลโพ้น ผ่านทะเล ผ่านป่าเขาลำเนาไพร  เล็ดลอดผ่านหน้าต่างชั้นห้าของแมนชั่น ซอกซอนเข้ามาลูบไล้ผิวกายอย่างไม่เกรงใจ ทำปฏิกิริยากับระบบขี้เกียจในร่างกาย ให้เกิดความผูกพันกับที่นอนและผ้าห่มอย่างหัวปักหัวปำ ดื่มด่ำ เคลิบเคลิ้ม แต่แม้จะผูกพันมากขนาดไหน เมื่อถึงเวลาก็ต้องพรากจากกันไป เพราะมีงานรออยู่........ไว้คืนนี้ค่อยพบกัน

                เข้ามาทำงาน ทานอาหารเที่ยงเสร็จก็ถือโอกาสแวะไปชมแหล่งบันเทิงแห่งใหม่ gotoknow ดูว่ามีอะไรให้เสพเป็นเครื่องเคียงอาหารเที่ยงบ้าง ก็ได้เจอบันทึกของพี่ฝน “ภาพที่เห็นตอนจิตสงบ”  อันเป็นแรงบันดาลใจของการเกิดบันทึกนี้ขึ้น

                เพราะเหตุว่า. อ่านบันทึกพี่ฝนแล้ว อดทำให้คิดไม่ได้ว่า พวกเราเริ่มแก่กันแล้วมั้ง อันนี้ไม่ได้คิดเองอย่างเลื่อนลอย มีหลักฐานและพยานยืนยันชัดเจนหลายประการ ที่ส่งสัญญาณผ่านพฤติกรรมต่างๆ ตรงตามคำพังเพยแต่โบราณ (หรือเปล่าไม่แน่ใจ เพราะไม่รู้ว่าใครคิด คิดเมื่อไหร่ คิดทำไม คิดให้ใคร  เอ๊ะ..... แล้ว จะสงสัยอะไรมากมาย )  

                ที่ว่า “กินของขม ชมเด็กหนุ่มสาว เล่าความหลัง นั่งนัตถุ์ยา” จำได้แค่นี้ ต้นฉบับอาจจะมีมากกว่านี้ก็ได้  ใครรู้ช่วยเสริมให้ด้วยนะครับ ซึ่งเป็นสิ่งบ่งบอกลักษณะของผู้เข้าสู่วัยชรา (ตามศัพท์แปลว่า เสื่อม) แต่ในที่นี้หมายถึงอายุมากขึ้น หรือ “แก่” ลองนึกดูนะ ถ้าใครมีครบตามลักษณะนี้ก็ไม่ต้องสงสัยแล้วคับ

                แต่ เสื่อม หรือ แก่ ของหลายคนในที่นี้เป็นเพียงการเปลี่ยนแปลงทางกายภาพ ไม่ใช่คุณภาพ เปลี่ยนแปลงแต่รูปลักษณ์ ส่วนคุณลักษณ์ มีแต่เพิ่มขึ้นอยู่ตลอดเวลา คงไม่ได้ตามคำพังเพยอีกบทว่า  “แก่เพราะกินข้าว เฒ่าเพราะอยู่นาน” หรือ “แก่ขี้พร้า น้ำเต้า”

               ตรงนี้คิดว่าคงต้องอธิบายนิดนึง เพราะเป็นภาษาใต้ ขี้พร้า คือ ฟักเขียว น้ำเต้า คือ ฟักทอง ทั้งสองอย่างนี้ถ้าแก่มาก หรือสุกแล้ว ก็ทำอะไรไม่ได้ แกงก็ไม่ได้ ทำขนมก็ไม่ได้ นอกจากทำปุ๋ย เหลือเพียงเมล็ดเท่านั้นที่ทำพันธุ์ได้ ส่วนที่เหลือไม่มีประโยชน์ 

              โดยคุณสมบัติ พืชทั้งสองชนิดนี้มีประโยชน์มากถ้าเอามาใช้ในช่วงเวลาเหมาะสม โดยเฉพาะน้ำเต้า เพราะมีคุณสมบัติช่วยป้องกันมะเร็ง ขับสารพิษในร่างกาย ฯลฯ แต่ใครจะแก่แบบไหน หรืออย่างไร ก็เลือกกันเอาเองครับ

            ถึงอย่างไรก็ตาม วันเวลาไม่เคยหยุดนิ่ง อายุวัยก็เปลี่ยนไปไม่หยุดหย่อน และสิ่งหนึ่งที่เราจะไม่หยุด ก็คือพร้อมที่จะสร้างสรรค์สิ่งดีๆ เพื่อสังคม ชุมชน และคนที่เรารัก อย่างไม่ท้อถอย

                ไปต่อไปครับ keep walking วลีนี้ของโฆษณาน้ำอะไรซักอย่างที่กินแล้วเมา แต่ดันบอกให้เราไปต่อไป แถมยังชวนไปด้วยกันอีก  จะไปถึงเป้าหมายไหมนะ น่าสงสัย

                ไม่มีคำว่าไกล ถ้าใจยังสู้

                ไม่มีคำว่าช้า ถ้าใจยังคอย

มอบบันทึกนี้แด่ พี่ฝน คับ

คำสำคัญ (Tags): #ข้อคิด#คำพังเพย
หมายเลขบันทึก: 321438เขียนเมื่อ 19 ธันวาคม 2009 14:15 น. ()แก้ไขเมื่อ 6 กันยายน 2013 22:05 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (12)

เป้นช่วงเปลี่ยนผ่านของชีวิตจริงๆด้วยสิครับ เวลาที่ผ่านไปเรื่อยๆ ทำให้เราหวนคิดถึง อดีตที่มีประสบการณ์ดีๆ การนึกย้อนพาเราเข้าสู่รากฐานของชีวิต แม้ว่าเดินห่างออกมาไกลเเล้วแต่สิ่งที่เคยเรียนรู้จดจำยังเป็น "สัญญา" ให้ได้ทบทวน

ไม่รู้จะเรียกว่า แก่มากขึ้นไหม.. แต่หากคิดว่าแก่เเล้วมาทบทวนชีวิตก่อนหน้าเพื่อใคร่ครวญดูว่า เป็นเพราะสิ่งนั้นนั่นเอง เราจึงเป็นเเบบนี้ ผมว่าได้ประโยชน์อยู่ไม่น้อยนะครับ

-----------------

ทำงานวันเสาร์กันด้วยเหรอครับ??

การทบทวนชีวิต ก็เป็นสิ่งหนึ่งของชีวิตที่มีความสำคัญจริงๆครับ โดยเฉพาะกับความผิดพลาดในอดีต ถือว่าเป็นครูชั้นดีครับ

และตอบอ.เอกครับ ไม่มีวันหยุดที่แน่นอน คือ วิถีชีวิตคนพอช. ส่วนใหญ่ครับ เพราะต้องทำงานสนับสนุนชุมชน ปัญหาของชุมชน รอแก้วันจันทร์ - ศุกร์ไม่ได้ครับ ต้องทำเลย(ถ้าจำไม่ผิด อดีตผอ.เคยพูดไว้ครับ) เพราะความเดือดร้อนของชุมชนไม่ยอมหยุดเสาร์ อาทิตย์ซะด้วย

ปัญหาของชุมชน รอแก้วันจันทร์ - ศุกร์ไม่ได้ครับ

ไม่คิดว่าจะได้คำตอบแบบนี้ สุดยอดเลยครับท่าน

เยี่ยมยอดเลยครับ...

คมทั้งความคิดและการกระทะ

เห็นแววนักเขียนจาง ๆ แล้วครับ

เขียนอีกครับ จะรออ่าน

ไม่มีคำว่าไกล ถ้าใจยังสู้

ไม่มีคำว่าช้า ถ้าใจยังคอย

กำลังคอยใครอยู่ท่านมหา

.......

เห็นแววนักเขียนจาง ๆ แล้วครับ

คมทั้งความคิดและการกระทะ

หนานเกียรติครับสำหรับท่านมหาท่านนี้ ....

จะแนะนำให้เติมเกลือหรือนำปลาดี ......

กำลังบอกว่าท่านมหานันท์ท่านอ่อนเค็มไปหน่อยใช่ไหมครับ

 

         IMG_5003 by picstation.

  เก็บตกมาฝากจาก อ.เอก ครับ เอาไว้เตือนเพื่อนๆนักเรียนร่วมชั้น ที่ยังไม่ลงมือเขียน  ฝากบอกพวก "ศูนย์ใจ" "ว่าอย่าได้บิวท์อารมณ์มากนัก"และพวก "ศุนย์หัว" "อย่าได้ใช้เวลาคิดใคร่ครวญนาน" เพื่อนๆ "ศูนย์ท้อง"เขาไปถึงไหนแล้วลูกพี่5555555ๆๆๆๆๆ

 

  • เห็นด้วยอย่างยิ่งค่ะ

แต่ เสื่อม หรือ แก่ ของหลายคนในที่นี้เป็นเพียงการเปลี่ยนแปลงทางกายภาพ ไม่ใช่คุณภาพ เปลี่ยนแปลงแต่รูปลักษณ์ ส่วนคุณลักษณ์ มีแต่เพิ่มขึ้นอยู่ตลอดเวลา

  • รู้สึกว่าพี่สุเทพจะนำภาพคุณเอกและป้าศิลาเผยแพร่เป็นกำลังใจให้    พี่น้อง พอช. ทุกท่านเลยค่ะ...ไหน ๆ ก็เป็นเป้าสายตาหลายคู่แล้ว หวังว่าจะมีกำลังใจเขียนต่อเนื่องเยอะ ๆ นะคะ

พี่นันท์

ภาพ "หมีเดินทาง" นั่นเป็นสมุดบันทึก หรือพ็อคเก็ตบุ้ค หรือกรอบรูป หรือว่าอะไรอ่ะ ทำให้นึกถึงหนังสือเรื่อง "Bearwish" หรือ "The Bear Wish Project" ของวงศ์ทนง ชัยณรงค์สิงห์ เลยค่ะ (ถ้ายังไม่อ่าน แนะนำให้อ่าน ด่วน!! ฉบับพิมพ์ครั้งล่าสุดที่เจซื้อ ตอนนี้อยู่กับพี่ ญ ยืมอ่านได้ค่ะ)

ตอบ เจ ภาพ "หมีเดินทาง" เป็นป้ายขายของที่ตลาดน้ำอัมพวา ไปถ่ายมาคราวไปอบรมการจัดระบบข้อมูลให้ภาคตะวันตก หนังสือเดี๋ยวรอต่อจากหญิงก็ได้

ขอบคุณครับ ท่านมหา

เดินทางไปพร้อมกันนะครับ

ตอบพี่นันท์ >> The Bear Wish Project มีอยู่ที่หยิงสองเล่ม พิมพ์ครั้งแรกของหยิง แต่ครั้งล่าสุดของเจ เนื้อหาในเรื่องต่างจากพิมพ์ครั้งแรกนิดหน่อย ตรงมีการอัพเดทสถานที่ให้ทันสมัยขึ้น

แต่เดาว่า หมีเดินทาง ไม่ใช่โกวเล้ง ไม่ใช่อาจารย์เล่าจื้อ ไม่ใช่แนวพี่นันท์

แต่ถ้าอยากมีหนังสือเบาๆ ไว้อ่านตอนหยุดปีใหม่ซักเล่ม ก็ยินดีให้เอาไป อยู่ที่ออฟฟิศพรุ่งนี้มาสะกิดเอาได้เลย

ปล. ที่พี่นันท์เขียนมาข้างบ่น คงรู้ได้ว่า "แก่หรือไม่แก่" ^o^

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท