สื่อรัก...ภาพจากชีวิตจริง 1
เช้าวันนี้ได้มีโอกาสเข้าไปเยี่ยมชมเว็บ http://www.thaiwbi.com/pre_en/eng/index.htm
ก็เนื่องจากทำการทดสอบความรู้ทางภาษาของสมาชิกในครอบครัวเราเอง
เป็นการทดสอบที่สร้างความสุข สนุก ขบขันกันในครอบครัวเล็กๆของเรา
ทำให้เกิดแรงบันดาลใจควานหาข้อสอบแบบทดสอบมาเล่นกัน
ฉันเกิดความคิดขึ้นมาว่า หากฉันสามารถนำพาให้เด็กน้อยปรับเปลี่ยนทัศนคติ
เรื่องการทำแบบทดสอบคือยาขมหม้อใหญ่ มาเป็นความรู้สึกว่าการทดสอบสามารถให้ความสุขได้และผลของการทดสอบยังเป็นเรื่องที่เรานำมาสนทนาหยอกเย้ากันในครอบครัวได้ ตามมาด้วยความท้าทายว่า นัดหน้า..ฉันจะทำคะแนนได้ดีกว่านี้
มีบททดสอบมากมายในชีวิตที่..
บ่อยครั้งเราไม่คิดอยากเข้าไปเกี่ยวข้องเลยแม้แต่น้อยนิด
แต่สถานการณ์นำพา
ฉันจึงสร้างแบบทดสอบการสนทนาภาษาอังกฤษจากภาพแห่งความทรงจำ
ของเด็กน้อยที่ครั้งหนึ่งได้มีโอกาสร่วมกิจกรรมจิตอาสากับโรงพยาบาลสมุทรสาคร
สื่อรัก...ภาพจากชีวิตจริง 1
โดยแบ่งเด็กๆออกเป็นกลุ่มย่อย แล้วดำเนินการดังนี้
1. แจกภาพข้างล่างนี้กลุ่มละ 1 ภาพ
2. แต่ละกลุ่มระดมความคิดกับสิ่งที่ได้เห็นจากภาพแล้วพูดและเขียนสิ่งที่พบเห็นอย่าง
นักเรียนทุกคนในกลุ่มต้องเสนอความคิดของตัวเองออกมาว่าเห็นอะไร...
และมีความคิดเกียวกับสิ่งที่เห็นอย่างไรบ้าง
3. สรุปภาพความคิดของกลุ่ม
4. นำถาพความคิดทั้งหมดที่สรุปได้ มาแต่งบทสนทนาเป็นภาษาอังกฤษ
โดยใช้ภาพความคิดของนักเรียนเป็นประเด็น
สิ่งที่นักเรียนได้จากการทำกิจกรรมสื่อรัก..ภาพจากชีวิตจริง
1. นักเรียนมีความภูมิใจที่ได้พูดถึงประสบการณ์การทำงานจิตอาสาของตนเอง
2. นักเรียนรู้สึกขอบคุณที่โรงเรียนให้นักเรียนมีโอกาสทำงานร่วมกับชุมชน
3. นักเรียนเกิดภาพแห่งความประทับใจและเกิดจินตนาการ
จากการปะทะประสบการณ์กับบุคคลหลากหลายอาชีพ
สิ่งที่ฉันได้รับในกิจกรรมนี้
1.เด็กน้อยมีทัศนคติที่ดีต่อการทำงานกับชุมชน
2.เด็กน้อยมีภาพแห่งความทรงจำที่ประทับใจ เป็นแรงบันดาลใจ
กระตุ้นให้รักการเรียนรู้ และทำความดี
3.ได้สื่อการเรียนรู้ เพิ่มทักษะทางภาษา การพูด และกระบวนการคิด
และนี่เป็นตัวอย่างประโยคที่นักเรียนแต่ละกล่มเสนอตามความคิดค่ะ
กลุ่มที่ 1
ประโยคแนะนำตัวเอง My name.........................
This is Dr.........................
He is a teacher.
He......
What do you do ?
I'm glad to meet you.
Nice to meet you.
Nice to meet you,too.
กลุ่มที่ 2
ประโยคถามอาการป่วยไข้ ถามทุกข์สุข Hello.What's the matter?
What about you?
I feel good.
My heart sick.
How are you?
I'm Fine.Thanks.
ประโยคกล่าวลา และนัดหมาย
Good bye. See you.
See you soon.
See you again tomorrow.
...............
ขอขอบคุณ
น้องอ.ขจิต ฝอยทอง น้องแหม่ม สังคมสงเคราะห์ นพ.อภิชาติ ชัฏอนันต์ และ
น้องมด เภสัชกร โรงพยาบาลสมุทรสาคร และขอบคุณ
ที่นำพาให้พวกเราได้รับประสบการณ์และเติมเต็มความรู้
ที่มีความหมายต่อการดำรงชีวิตที่ดี
ขอบคุณผู้อ่านทุกท่านค่ะ
2 เมษายน เป็นวันรักการอ่านค่ะ
ขอบคุณค่ะ
ความเห็น (9)
รักษาสุขภาพนะคะ พี่ครูต้อย
สวัสดีค่ะ...krutoiting...
ใช่ค่ะนึกถึงตอนเรียนมัธยมเลยค่ะ...อาจารย์ให้ฝึกสนทนาภาษาอังกฤษกับเพื่อน ๆ ชอบค่ะ เป็นภาษาสากล ถ้าเด็กไทยฝึกพูดบ่อย ๆ ค่ะ สามารถนำพาประเทศไทยสู่กากล ได้อย่างสบายค่ะ..."สิ่งใดถ้าเราฝึกพูด ฝึกทำบ่อย ๆ ชำนาญไปโดยไม่รู้ตัวค่ะ" ไม่มีใครเก่งมาตั้งแต่เกิดค่ะ ...ขอบคุณสำหรับ WebSite ค่ะ...
ขอสิ่งเลิศประเสริฐใดในโลกหล้า จงรวมมาพิทักษ์จิตมิตรของฉัน
สิ่งศักดิ์สิทธิ์ในพิภพมาครบครัน ให้มิตรฉันรับแต่สุขไร้ทุกข์ไกล
สวัสดีค่ะ มาร่วมสื่อรักด้วยคนค่ะ (สองคน) อิอิ
สุขสันต์วันคริสมาสต์กั๊บ..
ขอบคุณค่ะ..น้องบุษยมาศ
อากาศที่นั่นหนาวไหมคะ
รักษาสุขภาพด้วยค่ะ
ขอบคุณน้องสุ
ถ้าอยู่ใกล้ๆ จะสมัครเป็นรุ่นน้องด้วยคน
การเรียนรู้แบบมหาวิทยาลัยชีวิต
ขอบคุณค่ะ
น้องน้อยน่ารักจังเลยค่ะ
ฝากหอมแก้มวักฟอดค่ะ อิอิ
- ได้เรียนรู้วิธีสอนจากkrutoiครั้งใด น่าสนใจๆทั้งนั้นเลยครับ บันทึกนี้ก็เช่นกัน..สื่อรัก ภาพจากชีวิตจริง
- ขอบคุณตัวอย่างดีๆ และสวัสดีปีใหม่2553ที่กำลังจะมาถึงครับ
ขอบคุณค่ะ
อ.ธนิตย์เองก็มีเทคนิคการสอนวิทย์ที่ครูต้อย
นำมาใช้สอนภาษาแบบบูรณาการเช่นกันค่ะ
การนำวิทยาศาสตร์มาเป็นแกนหลัก
ในการเรียนรู้ภาษาทำให้สนุกทั้งผู้สอนและผู้เรียนค่ะ
เด็กๆก็ชอบ ขอบคุณค่ะ