งานนี้ TKT ให้เราใช้บริการของ Royal Air Nepal เครื่องออกเวลา 14.20 น. ใช้เวลาบินประมาณ 2.40 ชั่วโมง ซึ่งเราไปสมทบกับ "พี่ปู" ซึ่งมา flight 10.00 น. ของการบินไทย ซึ่งทางทัวร์ก็ให้ลูกค้าเลือก flight ได้ตามใจชอบ รวมเบ็ดเสร็จแล้ว 20 คน
โชคดีด้วยที่ได้ที่นั่งติดหน้าต่างด้านขวา...เห็นเทือกเขาหิมาลัยแน่นอน เผอิญรอบเดือนเจ้ากรรมดั้นมาอะไรตอนนี้ รุนแรงถึงขึ้นป่วยเลย รูปเริปไม่สนใจถ่าย ได้แต่นึกเสียดายย้อนหลังกับภาพที่มองจากหน้าต่างเครื่องบิน โดยเฉพาะบ้านเรือนในหุบเขากาฐมัณฑุตอนเครื่องลง...มันสวยงามมาก เพราะการปวดท้องเจ้ากรรมเลยไม่ได้สักรูปที่ว่ามาสักรูปเลย...ใครนั่งติดหน้าต่างนอกจากเทือกเขาแล้ว...อย่าลืมเก็บภาพตอนเครื่องลงมาฝากกันบ้าง...สวยจริงๆ ไม่ได้โม้
ถึงสนามบินตรีภูมิวันประมาณ 17.00 น. ได้รับพวงมาลัยดอกดาวเรืองพวงใหญ่เป็นการ welcome บางทีในฤดูหนาวจะใช้เป็นผ้าพันคอแทน
ต้องเทียบเวลาเวลาใหม่ เวลาเนปาลช้ากว่าบ้านเราประมาณ 1 ชม...มีเวลาเตร็ดเตร่แน่นอน อากาศเริ่มหนาว น่าจะประมาณ 14 องศา คืนนี้เรานอนกันที่ Kathmandu resort hotel, Mandara street : [email protected] อยู่ใจกลางทาเมล ย่าน Sagarmatha Bazar, Tel: +977 1 4701242 แถบนี้คล้ายกับถนนข้าวสารของคน กทม. สภาพห้องใช้ได้ทีเดียว, Staff OK แต่น้ำอุ่นบ้างไม่อุ่นบ้าง ซึ่งเป็นเรื่องธรรมดาของชาวเนปาลีที่เค้าชินกัน แต่คนขี้หนาวอย่างป้าไม่ชิน จึงเชื่อคำแนะนำว่าถ้าพออาบน้ำได้ต้องรีบอาบเลย นอกจากน้ำแล้ว ยังมีเรื่องไฟฟ้าอีก มักดับตอนดึกๆ อย่าลืมเอาไฟฉาย หรือเทียนไขไปด้วยหล่ะ และหากไม่ประสงค์ฟังเสียงเพลงที่ดังมาจาก Pub ตรงข้ามหล่ะก้อ ขอเป็นห้องด้านหลังนะ จะได้ไมีมีเสียงรบกวน
น้องพจน์ จัดอาหารญี่ปุ่นให้เป็นอาหารเย็นมื้อแรกในเนปาล ระหว่างนั้นเพื่อไม่ให้เป็นการเสียเวลาก็ประสานงานให้แลกเงินด้วยไปซะเลย ราคาดีกว่า Exchange หน่อยนึง
กิจกรรมที่ทำควบคุ๋กันไปคือ การแนะนำตัวเอง...ทริปนี้เพื่อนร่วมทริปน่ารักค่ะ อัธยาศัยดี ตรงเวลา และไม่มีใครเรื่องมาก...สมาชิกเล็กๆ ที่ได้รู้จักป้าก็เล็งกลุ่ม 4 สาว เล็ก นุช มล ผึ้ง...น่าจะช่วยป้าตุ่นในการแลกเงินได้ คล่องปรืด คล่องปรืดเชียว พี่ตู่ก็เป็นแรงจูงใจในการดูแลสุขภาพและใช้ชีวิตให้คุ้ม เจ้าเอนี่ก็ช่วยได้มากในการซื้อผ้า...หมอบีมได้จ่ายยาคลายกล้ามเนื้อให้ในวันไปสรังก๊อต น๊อตนี่ใช่เลยเป็นเพื่อนกิน ทำให้ป้าไม่อายเวลาตักบุฟเฟต์
หลังอาหารเย็นเป็น Free time หลายคนเดินเล่น เราเองได้แต่สอบราคา...แต่ราคาบอกนักท่องเที่ยวแพงชะมัด...รอก่อน อยู่อีกหลายวันอิอิ ซื้อก่อนกลัวได้ราคาแพงกว่าเพื่อน...ไม่อยากบอกหรอกว่าผ่านไปอีกหลายวันก็ยังได้ของแพงกว่าใครเพื่อนอยู่ดี
ไป Drink for Health กัน ตั้งใจกับแอ้ว่าจะลองกินเบียร์ Tongba ซึ่งเป็นเบียร์พื้นบ้านหมักในถังไม้ ทำจากข้าวฟ่าง เวลากินใช้หลอดไม้ดูดจากระบอกไม้ไผ่ คล้ายการดูด อุ จากไหของชาวอีสาน ก็ดันหาไม่เจอ จริงๆ ไมรู้ว่าเป็นแบบไหน แถมภาษาอังกฤษก็ "เหรอๆ ก๊าบๆ" ถามซื้อไม่ถูกซะงั้น
เสียงเพลงลอยลมมาจาก Pub ส่วนใหญ่ร้องสากลกัน น่าฟังชะมัด Pub&Resturant ที่นี่มักจะอยู่ชั้นบนหรือดาดฟ้า “เรา” นั่นหมายรวมพี่ปูที่ไม่ดื่มด้วย แวะไป Pub แห่งสองแห่ง แต่ลักษณะเป็นห้องแบบปิด แพ้กลิ่นบุหรี่กัน จึงต้องระเห็จออกมาหาร้านกาแฟนั่ง ได้เบียร์ Eeverest จากร้านขายของชำมากินเป็นเพื่อนพี่ปู ที่สั่งกาแฟร้อนพร้อมสลัดในร้านกาแฟน่านั่ง ในซอยหรือถนน Mandara นี้มีร้านกาแฟตกแต่งน่ารักหลายร้าน ส่วนใหญ่มีบริการ Wi-fi ให้ด้วย ในบรรยากาศหนาวๆ อย่างนี้ ทั้งเบียร์และกาแฟทำให้ร่างกายอบอุ่นขึ้นได้
น่าเสียดายที่นั่งนานไม่ได้ พรุ่งนี้ไปต้องโพคาราตอน 7 โมงเช้า...ไปนอนกันดีกว่า
ก่อนนอนขอกล่าวคำว่า "นมัสเต เนปาล" อย่างเป็นทางการ สำหรับการเริ่มต้นทริปอย่างจริงจังในวันพรุ่งนี้
ข้อมูลแน่นมากครับ เป็นแนะโยชน์สำหรับผุ้ที่จะเดินทางตามไป ขอบคุณครับ
หลานม่อนครับ...ถ้าไม่เบื่อกัน ก็แวะมาบ่อยๆ นะครับ
เพราะคุณยายตุ่นมีเรื่องเล่ามากมาย ได้เป็นการเปิดหู เปิดตา และเปิดกะลาตัวเองด้วย
ไปที่นู้นก้ได้เป็นป้า...เป็น MOM...อิอิ แต่ใจยังไหวอยู่น้า...
ฝากความคิดถึงถึงคุณตาน้องม่อนและครอบครัว ทุกคนคงสบายดีนะคะ
ฮ่าๆ ชวนได้ครับ เอารายละเอียดมาคุยกัน
บรรยากาศดี ทิวทัศน์งาม ..
ตื่นตาตื่นใจจริงๆจ้าพี่ตุ่น..เฮ่อ..เสียดายจัง..
อิจฉา....
^^
นมัสเต
อยากเห็นหิมาลัยบ้างจัง
สวยมั่กมาก
เอิร์ธเอ้ย
หิมาลัยหน่ะสวยน้อยกว่า นางแบบ นะ จะบอกให้
โดยเฉพาะ Miss lady's pink
ว๊าว...อยากไปด้วยจัง
ไม่ได้ไปด้วย อ่านที่พี่ตุ่นเขียน เหมือนได้ไปเที่ยวด้วยเลย
อากาศท่าจะสดชื่น ใกล้ภูเขาหิมาลัยเชียว
ไว้ทริปต่อไปจะหิ้วเป้ตามนะคะ...อิอิ
คิดถึงเสมอจ้า
กุ๋มกิ๋ม
กุ๋มกิ๋มเอ้ย ให้มันแน่เถอะว่าจะหอบกระเป๋าตาม
คนมีพันธะหัวใจหน่ะ...เป็นอุปสรรคต่อการเดินทางนะจะบอกให้
ยืนยันมาแล้วจากเพื่อนร่วมทริป ร้อยละ 80 ที่ไป.....โสด