ผมเคยเขียนไ้ว้ในบันทึกของผมเกี่ยวกับแนวคิด และเป้าหมายในการนำ KM มาใช้ในวลัยลักษณ์ รวมทั้งเคยเหล่าให้พวกเราฟังเสมอ ๆ ว่าสิ่งสำคัญของการทำ KM ในองค์กรของเรา ที่จะส่งผลต่อการพัฒนาคน พัฒนางานที่แท้จริง จะต้องทำให้การทำ KM เนียนเข้ากับเนื้องานที่เราทำ หรือพูดง่าย ๆ ก็คืิอ การที่เราทำงานแล้วไม่รู้ว่าเรามีการทำ KM นั่นเอง ผมเฝ้าสังเกตุการเปลี่ยนแปลงในการทำงานของพวกเราหลายชุมชน หลายหน่วยงาน หลายกลุ่มงาน หลังจากที่พวกเราหลาย ๆ คนได้มีความรู้ ความเข้าใจ ในเรื่อง KM และมีทัศนคติที่ดีต่้อการทำงานเพื่อวลัยลักษณ์ของเราแล้ว รูปแบบการทำงานเปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดีขึ้นมาก ๆ ทีเดียว ด้วยเหตุนี้จึงทำให้การเปลี่ยนแปลงหรือการพัฒนาระบบการทำงาน ที่ปกติจะมีความยากลำบาก และยากที่จะประสบความสำเร็จดังเช่นที่หน่วยงานอื่น ๆประสบอยู่ แต่ที่วลัยลักษณ์กลับดูจะง่ายดายกับการเปลี่ยนแปลงหรือพัฒนาหรือแก้ไขปัญหาต่าง ๆ ที่เกิดขึ้น ผมเชื่อเหลือเกินว่าการที่เกิดบรรยากาศ หรือสิ่งดี ๆ เหล่านี้ขึ้นในองค์กรของเราเป็นเพราะพวกเราเข้าใจร่วมกันแล้วว่า คำว่า รักวลัยลักษณ์ ทำงานเพื่อวลัยลักษณ์ นั้นต้องทำอย่างไร ผมยกตัวอย่างเช่น การที่วลัยลัีกษณ์กำลังยกเปลี่ยนระบบสารบรรณขององค์กรของเราให้เป็นระบบ eoffice อย่างเต็มรูปแบบ การทำงานของหัวหน้าส่วนสารบรรณฯ คุณประไพ และเพื่อน ๆ ในชุมชนคนทำ eoffice กำลังดำเนินการอยู่ในขณะนี้ ผมคิดว่าผมต้องขออนุญาตที่จะไม่เหล่ารายละเอียดถึงกระบวนการทำงาน แต่ผมคิดว่าเดี๋ยวคุณประไพได้อ่านบันทึกนี้ก็คงจะอดไม่ได้ที่จะนำสิ่งดี ๆ มาเล่าให้พวกเราฟัง แต่ที่ผมอยากจะบอกให้ชุมชนคน eoffice ได้รับรู้ก็คือ สิ่งที่พวกเรากำลังทำอยู่นั้น ถือได้ว่าเป็นการทำงานที่ได้นำ KM มาใช้ได้เนียนกับเนื้องานแล้ว และได้ระดับของความเนียนที่น่าจะได้นำไปถ่ายทอดให้คนอื่น ๆ ได้รับรู้และชื่นชมด้วยได้ทีเดียวครับ อีกชุมชนหนึ่งที่มีการขับเคลื่อนและเห็นภาพชัดเจนมากขึ้นในการทำงานที่ทำให้เกิดการพัฒนาคน พัฒนางานก็คือ ชุมชนคน 5 ส ซึ่งขณะนี้ก็ได้บูรณาการร่วมกับโครงการสถานที่ทำงานน่าอยู่น่างานไปแล้ว ซึ่งก็มีหน่วยงานมากมายในวลัยลักษณ์เข้าร่วมโครงการ และคิดว่าในไม่ช้าคงจะมีเรื่องดี ๆ มาเล่าให้ฟัง ส่วนชุมชนคนประหยัดพลังงานที่คุณโสภิดา แห่งส่วนอาคารสถานที่ ที่ทำหน้าที่เป็นหัวเรี่ยวหัวแรงของชุมชนนี้ก็กำลังวางแผนเตรียมกิจกรรมต่าง ๆ ที่จะกระตุ้นให้คนวลัยลักษณ์ทุกคนได้เห็นความสำคัญ และเทใจร่วมกันในการช่วยวลัยลักษณ์ของเราในการลดการใช้พลังงานที่ไม่มีความจำเป็นลง โดยเฉพาะในเรื่อง ไฟฟ้า น้ำมัน และค่าเดินทาง ซึ่งถือว่าเป็นต้นทุนค่าใช้จ่ายด้วยพลังงานที่สูงมากของวลัยลักษณ์เรา หากพวกเราช่วยกันคนละไม้คนละมือลดลงได้สัก 10 % ก็จะดีมากทีเดียว เพราะผมเชื่อว่าการทำเช่นนี้ จะช่วยให้พวกเราชาววลัยลักษณ์ทุกคน ได้อยู่ร่วมกันอย่างมีความสุขในองค์กรแห่งนี้ได้อย่างยั่งยืนนะครับ ถ้ายังไงชุมชนคนประหยัดพลังงานมีโครงการดี ๆ ออกมาเมื่อไหร่อย่าลืมนำมาเล่าให้พวกเราชาว KM ได้ฟังได้รับรู้ด้วยนะครับ สุดท้ายคงเป็นข่่าวฝากนะครับว่า ประมาณกลางเดือน กค. นี้ หน่วย OD ก็จะมีการจัด โครงการ KM รุ่น 4 ครับ ซึ่งถ้าพวกเราสนใจก็ติดตามข่าวสารหรือข้อมูลได้จาก intranet ของวลัยลักษณ์ หรือที่หน่วย OD ก็ได้นะครับ องค์กรที่ดี น่าอยู่ น่าทำงาน ไม่มีใครสร้างให้ได้นะครับ นอกจากพวกเราทุกคนในองค์กรต้องช่วยกัน ขอบคุณครับ
ได้อ่านบันทึกของอาจารย์แล้วอดใจไม่ได้ที่จะบอกว่า KM
มีส่วนสำคัญที่จะทำให้เกิดการพัฒนาคน พัฒนางานจริงคะ
เห็นได้จากเวทีเสวนาผู้ประสานชุมชนวันนี้ซึ่ง OD
ในฐานผู้สนับสนุนวันนี้คึกคักมากเข้าร่วมเต็มกำลัง ทั้งพี่อูฐ
พี่หน่อง น้องป๊อบและเม บรรยากาศสนุกสนานและน่าประทับใจมากคะ
มีผู้ประสานชุมชน ได้แก่ ชุมชนคนพัสดุ ชุมชุนคนประหยัดพลังงาน
ชุมชนคนทำ E-office ชุมชนคน 5ส. ชุมชนคนทำงานเพื่อคน รวมแล้ว 9 ท่าน
ได้ร่วมพูดคุยแลกเปลี่ยนกันอย่างเมามัน
โดยเริ่มคุยถึงการทำงานที่ผ่านมา 1 เดือนว่าใครได้ไปเจอะเจออะไรบ้าง
ทั้งเรื่องการเรียนรู้ระบบสารบรรณอิเล็กทรอนิกส์
การได้มีการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ไม่ว่าจะเป็นชุมชนคน 5ส โครงการ Healty
Work Places ชุมชนคนประหยัดพลังงาน ฯลฯ เมเห็นอะไรดีๆ
คะอาจารย์....
จาการบอกเล่าทำให้เห็นถึงบรรยากาศการทำงานเปลี่ยนไป
ความรู้สึกอบอุ่นในการทำงาน จริงใจ
คนทำงานมีความพยายาม
เรียนรู้และพัฒนอย่างต่อเนื่องความร่วมมือมีมากมาย
ทัศนคติที่ดีในการทำงาน
มองปัญหาเป็นสิ่งท้าทาย ยกตัวอย่าง
พี่เปี๊ยก
ผู้ประสานชุมชนคนทำ E-office
ซึ่งในระยะนี้ค่อนข้างยุ่งมีปัญหา/ข้อคำถามต้องแก้ไข
อธิบายมากมายให้กับ Users ที่น่าชื่นชมคือ
พี่เปี๊ยกคิดว่าการที่คนมีปัญหามาถามเราแสดงว่าเขาได้เข้าไปใช้ในระบบแล้วพบข้อขัดข้องซึ่งเป็นสิ่งที่ดี
เป็นสิ่งท้าทายที่จะต้องช่วยแก้ปัญหานั้นและต้องช่วยกันแบ่งเบา
ช่วยเหลือปัญหาที่เกิด
และที่พิเศษพี่เขายังคิดว่าการได้ช่วยแก้ไขปัญหายังทำให้เขาได้ใช้จินตนาการ
คิดสิ่งใหม่ๆ
หรือพัฒนาระบบให้ดีขึ้นและใช้เป็นแนวทางในการให้ข้อมูลกับคนต่อไปเมื่อพบปัญหานี้
...นี้สิคะ เมถึงเห็นว่า KM ช่วยให้เรามีทัศนคติที่เปลี่ยนไป
ช่วยในการพัฒนาคน พัฒนางาน บรรยากาศในการทำงานเป็น Care and Share
ของจริง
เมื่อวันที่ 30 มิ.ย. ที่ผ่านมา ได้มีโอกาสเข้าร่วมกิจกรรมแลกเปลี่ยนเรียนรู้ของชุมชนคน Cops ประจำเดือนมิถุนายน ซึ่งการจัดในครั้งนี้ มีแม่งานใหญ่เป็นพี่ต้อย (ชุมชนคน 5 ส ) เป็นแม่งาน บรรยากาศเป็นกันเอง น่าประทับใจมาก ( มีการจัดเตรียมของว่างเป็นกล้วยแขกมาบริการด้วย ) ในส่วนของประเด็นหลักที่มีการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ในช่วงแรกนั้น ผมไม่ขอเล่าแล้วน่ะครับ เพราะรู้สึกว่าพี่รถเมล์จะเก็บประเด็นไว้หมดแล้ว ก็ขอเล่าในส่วนของแผนการดำเนินการของแต่ละชุมชนก็แล้วกัน ซึ่งจะเห็นได้ว่าในแต่ละชุมชน ได้กำหนดแผนการดำเนินการแล้วมีการนำ KM มาใช้เข้ากับแผนด้วยเช่นกัน ซึ่งสอดคล้องกับที่ท่านอาจารย์ได้แจ้งไว้ก่อนหน้านี้ว่า ขณะนี้ KM เริ่มที่จะเนียนเข้ากับเนื้องานของคนวลัยลักษณ์แล้ว
- ชุมชนคนประหยัดพลังงาน (พี่เอ๋) มีแผนกลยุทธ์ รุกประชิดตัว หน่วยงานต่าง ๆ โดยที่จะนำความรู้เรื่องการประหยัดพลังงาน ไปเคาะประตูส่งถึงหน้าบ้าน(สำนัก,หน่วยงาน) มีทั้งสื่อแผ่นพับ สติกเกอร์รณรงค์มากมาย คิดว่าคงจะได้เห็นกันในเร็ว ๆ นี้ครับ
- ชุมชนคนทำงานเพื่อคน (พี่ฝ้าย) ได้นำเสนอ Idia ใหม่ ๆ มากมาย เพื่อคนวลัยลักษณ์ล้วน ๆ เช่น การบริการจัดสายรถรับ-ส่งพนักงานให้ตรงใจกับคนใช้งานมากที่สุด หรือการจัดกิจกรรมให้คำปรึกษาด้านกฎหมาย ซึ่งก็คงจะต้องดูกันต่อไปครับว่าจะออกมาหน้าตาเป็นอย่างไร
- ชุมชนคนพัสดุ (พี่หนึ่ง) มีแผนการจัดเสวนา เรื่องการออกสเปก ฯ โดยนำรูปแบบของ KM มาใช้ ประมาณกลางเดือน มิ.ย.นี้ รวมถึงมีแผนต่อไปเป็นเรื่อง การใช้งานระบบ MIS และเครือข่ายผู้ควบคุมระบบในหน่วยงาน ซึ่งหากโครงการสำเร็จเมื่อไร คงเป็นประโยชน์ต่อหน่วยงาน และมหาวิทยาลัยไม่มากก็น้อยครับ
- ชุมชนคน 5 ส (พี่ต้อย) ช่วงนี้ก็จะเห็นได้ว่า เจอพี่ต้อยเมื่อไร จะเห็นว่ายิ้มอยู่เสมอ ก็จะไม่ให้ยิ้มได้อย่างไร ก็ไปที่ไหน ๆ ก็มีแต่คนทำ Big cleaning กันถ้วนหน้า อีกทั้งโครงการ Healthy Workplace ในปีนี้ ก็มีสมาชิกมาเข้าร่วมกันอุ่นหน้าฝาคั่ง อีกทั้งมีแผนการจัดกิจกรรม 5 ส. และกิจกรรมเพื่อสุขภาพอีกมากมายตลอดปี ก็คงต้องคอยติดตามดูกันต่อไปครับ
- ชุมชนคน E-office (พี่เปี๊ยก) ก็ไม่น้อยหน้าใคร ได้รับความสนใจอย่างล้นหลาม ถึงแม้ว่าจะอยู่ในช่วงพัฒนาระบบ ก็สู้ไม่ถอย คอยแก้ปัญหาตอบข้อซักถามเรื่องระบบให้กับทุกคน ที่สอบถามมา โดยถือสโลแกนที่ว่า " ความสำเร็จของท่าน คือ ความภูมิใจของเรา " ตามที่ท่านอาจารย์สมนึกได้เคยให้ไว้ และวางแผนพัฒนาระบบให้ครอบคลุมการใช้งานให้มากที่สุด เพื่อให้ง่ายต่อการใช้งานในอนาคตครับ
นี้ก็เป็นตัวอย่างและแผนการดำเนินงานคร่าว ๆ ของแต่ละ Cop ที่มุ่งหวังที่จะให้ ชุมชนคนวลัยลักษณ์ได้พัฒนา ทั้งคุณภาพงานและคุณภาพชีวิต ควบคู่กันไป ในส่วนของทีมงาน OD เอง ก็ขอเป็นกำลังใจ และขอมีส่วนร่วมสนับสนุนกับทุก Cop ขอเป็นเฟืองตัวเล็ก ๆ ที่จะช่วยผลักดันให้วลัยลักษณ์ ก้าวต่อไป อย่างไม่หยุดยั้ง...
ผมได้เขียนสรุปประเด็นที่ผมได้เรียนรู้ / ได้รับจากการลปรร.เมื่อวันที่ 30/5/49 แล้ว (บางส่วน / อาจจะไม่ครบถ้วนทุกประเด็น) อาจารย์สามารถเข้าไปอ่านได้ที่ http://km.wu.ac.th ในหัวข้อลปรร. กระทู้ "วัฒนธรรมองค์กร" ครับ