Subject: FW: [Fwd: Fw: นิติภูมิ นวรัตน์]
Date: Tue, 27 Oct 2009 13:00:16 +0700 Something to think about
whether true or not.
ปี
2553 จุดจบประเทศไทย
ถ้ายังเป็นคนไทยอยู่ช่วยอ่านด้วย
เรื่องนี้คนไทยทุกคนควรที่จะได้รู้ ประเทศต่าง ๆ ในโลกนี้มีเกิด
มีดับตลอดเวลา .....ประเทศไทยก็ไม่พ้นวิถีนี้เช่นกัน
สืบเนื่องจากการบรรยายของคุณนิติภูมิ ซึ่งเป็นสื่อมวลชน
จบการศึกษาจากมหาวิทยาลัยมอสโค
ซึ่งเป็นสถาบันที่สตาลินสร้างขึ้นเพื่อสร้างภูมิปัญญาหวังครองโลกในสมัยหนึ่ง
เมื่อหลายปีก่อนคุณนิติภูมิ ได้ทำนายไว้ว่า
ประเทศอินโดนีเชียจะแตกเป็น 6-14ประเทศ
ซึ่งในตอนนั้น นักรัฐศาสตร์ในมหาวิทยาลัยต่าง ๆ หัวเราะจนฟันกระเด็น
แต่ต่อมาพอปี 2542 เหตุการณ์เริ่มเป็นจริง!
ประเทศอินโดฯได้เริ่มแตกเป็น ติมอร์ และตอนนี้ก็กำลังจะเกิดประเทศ
อาเจะ และอีกหลายประเทศที่จะเกิดตามมา ในวันที่ 11 ธันวาคม 2543
ที่ผ่านมาที่งานคนดีศรีสังคม ณ หอประชุมวัฒนธรรมฯ
คุณนิติภูมิได้บรรยายว่า ประเทศไทยจะต้องแตกเป็นประเทศใหม่อีก 4 - 6
ประเทศแน่นอน!ทั้งนี้ไม่ใช่เกิดขึ้นโดยบังเอิญ
แต่เกิดขึ้นอย่างมีกระบวนการ โดยสถานการณ์จะเริ่มชัดขึ้นในปี 2553
ซึ่งเป็นปีที่ข้อตกลง GATTs จะเริ่มมีผลสมบูรณ์
การค้าเสรีจะมีผลสมบูรณ์ สินค้าเกษตรต่าง ๆ
จากต่างประเทศจะทะลักเข้ามาในประเทศไทยจำนวนมหาศาล
ในขณะที่เกษตรกรของไทยจะไม่กินสินค้าเกษตรของไทยด้วยกัน
และสินค้าเกษตรของไทยก็จะขายไม่ออก
เนื่องจากมีต้นทุนที่สูงกว่าสินค้าเกษตรจากต่างประเทศ
ประกอบกับการที่การพัฒนาการเกษตรของไทยได้พัฒนาอย่างผิดทิศทาง
เป็นการพัฒนาแบบปลูกพืชเชิงเดี่ยว
ทำให้คนปลูกลำใยไทยก็จะปลูกแต่ลำใย
จะกินข้าวก็ต้องซื้อข้าวเวียดนามมากิน
คนปลูกข้าวไทยก็ต้องไปซื้อหอมกระเทียมจากจีนมากิน คนปลูกหอม
กระเทียมจะไม่ซื้อลำใยจากไทยแต่จะไปซื้อจากเกาหลีมากิน
เป็นวงจรอย่างนี้ ทำให้สินค้าเกษตรของไทยขายไม่ได้
เพราะแม้แต่เกษตรกรไทยด้วยกันก็ยังไม่ซื้อของเกษตรไทยด้วยกันมากิน
เนื่องจากสินค้าของต่างประเทศมีต้นทุนถูกกว่าสินค้าเกษตรของไทยมีต้นทุนที่สูงกว่า
เพราะใช้ปัจจัยการผลิตปุ๋ยของต่างประเทศ
พันธุ์พืชก็ต้องนำเข้าจากต่างประเทศ เนื่องจากในอีก 10
ปีข้างหน้าพันธุกรรมท้องถิ่นจะถูกทำลายจาก GMOs
และเมื่อเกษตรกรไทยซึ่งเป็นคนส่วนใหญ่ร้อยละ 80
ของประเทศอยู่ไม่ได้
วิกฤตที่มหาโหดสุดก็จะเกิดขึ้นกับประเทศไทย
รัฐบาลไทยจะไม่มีปัญญาที่จะแก้ไขปัญหาได้
เพราะมาตรการทางการเงินก็จะใช้ไม่ได้
เนื่องจากธนาคารไทยกลายเป็นของต่างประเทศหมดแล้ว
ไฟฟ้าก็แพงขึ้น น้ำมันก็แพงขึ้น
โทรศัพท์แพงขึ้นเนื่องจากวิสาหกิจเหล่านี้กลายเป็นของต่างชาติหมดแล้ว
เขาสามารถตั้งราคา
ได้ตามใจชอบถ้ารัฐบาลไปขอให้ลดราคาก็จะได้รับคำตอบว่า เขาจะไม่มีกำไร
ธุรกิจจะอยู่ได้ด้วยกำไรเท่านั้น ถ้าเขาไม่มีกำไรเขาก็จะตัดน้ำ
ตัดไฟ ตัดโทรศัพท์
คุณเลือกเอาว่าจะยอมจ่ายในราคาที่แพงหรือว่าจะยอมไม่มีใช้ ดังนั้น
รัฐบาลในอนาคตจะได้แต่นั่งทำตาปริบๆๆ เมื่อเ?ษตรกรไทยอยู่ไม่ได้
การขายที่ดินราคาถูกๆ และจำนวนมหาศาลจะตามมา
คนที่มีกำลังซื้อก็คือชาวต่างชาติซึ่งปัจจุบันก็ปรากฏแล้วว่าที่ดินบริเวณภาคตะวันออกได้ถูกต่างชาติกว้านซื้อไปเป็นจำนวนมากแล้ว
เกษตรกรไทยที่ขายที่ดินได้
ก็ไม่สามารถนำเงินที่ได้ไปลงทุนให้เกิดรายได้ได้
เพราะธุรกิจอื่นได้ตกอยู่ในกำมือของต่างชาติแล้ว
ไม่ว่าจะเป็นการค้าปลีกก็ตกอยู่ในมือของ BigC,Lotus,Carrefour,
ธุรกิจอาหารก็ตกอยู่ในมือของ KFC, Pizzahat,
McDonal, สิ่งทอเสื้อผ้าก็ของพวกฝรั่งเศส ฯลฯ ดังนั้น
เงินตราของไทยก็มีแต่จะถูกดูดออก
เหมือนกับคนที่เลือดไหลไม่หยุด... เมื่อคนจนอยู่ไม่ได้
...รัฐจะอยู่ได้ฤา ?
4 จังหวัดชายแดนภาคใต้ จะเป็นแห่งแรกที่จะขอแยกตัวออกจากประเทศไทย
เนื่องจากความแตกต่างที่เห็นชัดเจนและความแตกต่างทางวัฒนธรรม ในปี
2553 คนไทยภาคใต้จะเห็นด้วยกับการแยกประเทศ
เพราะเห็นความล้มเหลวของรัฐบาลไทย
การเมืองไทยการคัดค้านจะน้อยลง การสนับสนุนให้แยกจะทวีความรุนแรงขึ้น
จนรัฐบาลไทยไม่สามารถควบคุมได้ถ้ารัฐบาลใช้กำลังทหาร
ก็จะถูกต่างชาติส่งทหารมาต่อต้านกองทัพไทย
ซึ่งแน่นอนกองทัพไทยไม่มีปัญญาไปต่อสู้อยู่แล้ว
การแยกตัวจะสำเร็จได้ในไม่นาน จากนั้น ภาคตะวันออก
บริเวณจันทบุรี ตราด ระยอง
ฉะเชิงเทรา จะขอแยกตัวตามมา
เนื่องจากที่ดินแถบนั้นกลายเป็นของต่างชาติหมดแล้ว
เนื่องจากที่ดินบริเวณดังกล่าวถูกใช้เป็นแหล่งพันธุกรรมของต่างชาติ
ทั้งสมุนไพร อาหารต่าง ๆ เมื่อรัฐบาลไทยเป็นอุปสรรคของต่างชาติ
การขอแยกตัวก็จะทำได้ไม่ยาก
นั่นหมายถึง การซื้อประเทศไทย คล้ายกับที่สหรัฐอเมริกาซื้อรัฐ Alaska
จาก Russia ถ้าไทยต่อต้าน เจอทหารต่างชาติแน่
เราจะเตรียมรับมือกับวิกฤติในอนาคตอย่างไร
?
ผมติดตามงานเขียนคุณนิติภูมิมาหลายปี
และสิ่งที่เขียนในไทยรัฐหน้า 2 เกือบทุกวันนั้น ไม่น่าเชื่อเลยว่า
หนังสือพิมพ์ต่างประเทศจะเอาข้อมูลงานเขียนของนิติภูมิ
ไปแปลลงหนังสือพิมพ์ต่างประเทศ ในการวิเคราะห์บ่อยครั้งที่นิติภูมิ
มองการค้า การเมือง
สังคมไปพร้อมกันรวมทั้งประวัติศาสตร์เขามองอาเจนติน่าก่อนล่มสลายทางเศรษฐกิจ
ก่อนล่มจริง... เขาทำนาย การเกิดสงคราม อเมริกากับอิรัค ข้อคิด
รวมทั้งอนาคตชาวเชเชนไว้น่าสนใจ ผมว่า
สิ่งที่เราพูดเป็นไปได้นิติภูมิทำให้ผมต้องกลับมาซื้อของโชห่วยของคนไทย
แทนที่ไปเดิน big-c, lotus, careflour, เพราะผมบอกแม่บ้านและลูก ๆ ว่า
เราซื้อของร้านโชห่วย ข้างบ้าน ไม่ต้องไปห้างใหญ่อีกเพราะอะไร
เพราะเราไป คาร์ฟู เงิน 100บาทที่เราจ่ายไปจะไปสู่ฝรั่งเศส 86
บาทเหลือให้คนไทย14บาท เพราะของต่างชาติเกือบ 100 เปอร์เซนต์
บิกซี
โลตัสเหมือนกันนิติภูมิเคยเอาเปอร์เซนต์ที่ต่างชาติถือหุ้นมาลงให้ดู
ของ 3 ห้างดัง ผมตกใจมาก
และตัดสินใจซื้อน้ำปลาข้างบ้านตั้งแต่วันนั้น
เพราะว่าต่างชาติถือหุ้นกว่า 90 เปอร์เซ็นต์ แล้วบางห้าง 86
เปอร์เซ็นต์ สอนลูกว่ามันจะแพงกว่าห้าง 3 บาท
ก็ซื้อที่นี่มันจะแพงกว่า 5 บาทก็ซื้อที่นี่ เพราะมันจะเป็นภาษีคนไทย
กลับมาหาลูกเอง ผมคิดแบบนี้จริง ๆ ๆ ถ้าซื้อจากห้าง 1,000บาท
มันไหลไปต่างประเทศ 900บาทที่เหลือ 100บาท
ที่เห็นจ่ายค่ายามเฝ้าห้างไง
มองอาเจนติน่าง่ายนิดเดียวห้างต่างชาติบุกไปตั้งมากกว่า 400 ห้าง
ทั่วประเทศคนอาเจนติน่าจึงทำเงินส่ง คาร์ฟู ส่งห้างต่างชาติ เกือบ100
เปอร์เซ็นต์เงินคนทั้งชาติของชาวอาเจน จึงไหลไปหมด
ในประเทศจึงไม่เหลืออะไร ทางสุดท้ายที่ไม่น่าเชื่อเลยว่าทำได้
ผมพาลูกผมหัดทานขนมกรอบให้น้อยลง เลิกกิน kfc และพยายามทานให้ลดลง
และจำนวนหน ต่อปีน้อยสุดผมอธิบาย
วิธีสิ้นชาติแบบทางเศรษฐกิจตั้งแต่เริ่มจนจบให้เด็กที่บ้าน
และลูกฟังหัดให้ลูกมาทานบัวลอย ขนมชั้น ข้าวเหนียวเปียกแทน
ถั่วดำข้าวเหนียว ดีครับ ได้ผล... ลูกเปลี่ยนวิธีกิน... วิธีคิดไปเลย
... เปลี่ยนไปได้มากพอเย็นสั่งผมซื้อเต้าส่วนบ้าง ขนมชั้นบ้าง
ลูกเดือยบ้าง ผมพูดนิดนึงที่เขาเข้าใจคือ ผมไปตลาดซื้อไก่ทอดแม่ค้ามา
3 ขาไก่ทอดแบบไทย ๆ แล้วผมไป kfc ซื้อมา 3 ชิ้น
เลือกน่องครับเหมือนกัน ราคาต่างกันลิบเลยผมก็อธิบายคำว่า
license ( ค่าลิขสิทธิ) ให้ลูกฟัง ผมบอกว่า ซื้อไก่ 35บาท ค่าไก่
15บาทที่เหลือเป็นค่าลิขสิทธิิ
ไก่แม่ค้าที่ถูกเพราะไม่มีค่าลิขสิทธิใบตองที่ห่อขนมไทยไม่มีลิขสิทธิ
มันเป็นวัสดุธรรมชาติ ย่อยสลายได้ไม่ถึง 3 เดือน
ขนมต่างชาติ ห่อสวย แพง เพราะยี่ห้อมันมีลิขสิทธิเวลามันหล่นที่พื้น
ไม่มีคนเก็บมันจะย่อยสลายภายใน 200 ปีผมสอนแบบนี้
ลูกผมเปลี่ยนวัฒนธรรมไปเลย ผมทำได้และได้ทำแล้ว
ปล. เรามาสอนลูก สอนหลาน ให้ดำเนินชีวิตตามลอยเศรษฐกิจพอเพียงกันได้หรือยัง
ผืนแผ่นดินถิ่นนี้ที่พำนัก เราแสนรักและแสนจะแหนหวง
แผ่นดินไทยไทยต้องครองทั้งปวง ชีพไม่ล่วงใครอย่าล้ำมาย่ำยี
เธอร้องเพลงชาติไทยมั่นใจเหลือ พลีชีพเพื่อชาติที่รักทรงศักดิ์ศรี
เพลงกระหึ่มก้องฟ้าก้องธาตรี แม้ไพรีได้ฟังยังถอนใจ
แต่สิ่งหนึ่งซึ่งไทยร้าวใจเหลือ คือเลือดเนื้อเป็นหนอนคอยบ่อนไส้
บ้างหากินบนน้ำตาประชาไทย บ้างฝักใฝ่ลัทธิชั่วน่ากลัวเกรง
ทุกวันนี้ศึกไกลยังไม่ห่วง แต่หวั่นทรวงศึกใกล้ไล่ข่มเหง
ถ้าคนไทยหันมาฆ่ากันเอง จะร้องเพลงชาติไทยให้ใครฟัง!
จากเนื้อหาข้างบนเป็นบทกวี "เพลงชาติ" นี้ ประพันธ์โดย คุณนภาลัย สุวรรณธาดา (นามสกุลเดิม ฤกษ์ชนะ)เพื่อส่งเข้าประกวดที่สถานีวิทยุแห่งหนึ่งและได้รับรางวัลชนะเลิศ ในปีพ.ศ.๒๕๑๐ สมัยที่คุณนภาลัยยังเป็นนิสิตอักษรศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
ถ้าคนไทยหันมาฆ่ากันเอง จะร้องเพลงชาติไทยให้ใครฟัง!
------------------------------------------------------------- มีข้อความตอนต้นว่า -------------------
ธงชาติไทยไกวกวัดสะบัดพลิ้ว
แลริ้วริ้วสลับงามเป็นสามสี
ผ้าผืนน้อยบางเบาเพียงเท่านี้
แต่เป็นที่รวมชีวิตและจิตใจ
ชนรุ่นเยาว์ยืนเรียบระเบียบแถว
ดวงตาแน่วนิ่งตรงธงไสว
"ประเทศไทยรวมเลือดเนื้อชาติเชื้อไทย"
ฟังคราวใดเลือดซ่านพล่านทั้งทรวง
ผืนแผ่นดินถิ่นนี้ที่พำนัก
....................................ฯลฯ