ถ้าไม่ติดธุระอะไรตอนเย็นๆผมชอบที่จะไปเดินเล่นที่บึงทุ่งสร้างขอนแก่น เป็นบริเวณหนองน้ำธรรมชาติขนาดใหญ่ที่เหมือนเป็นแก้มลิง ที่รับน้ำเสียทั้งหมดของตัวเมือง
เมื่อพระอาทิตย์กำลังจะตก มุมกว้างบริเวณนี้จะดูท้องฟ้าสวยงาม แตกต่างกันไปทุกวัน
ท่านที่ไม่ใช่คนขอนแก่นก็อาจจะนึกไปต่างๆนานา เมื่อมองภาพนี้แล้ว เช่น อือ สวยดี, ท้องฟ้าวันนี้ค่อนข้างโล่งนะ, ตัวเมืองขอนแก่นกำลังเติบโตนะ เห็นตึกกำลังขึ้นใหญ่ๆทั้งนั้นเลย.... ประโยคหลังสุดนี่แหละครับ หากเป็นคนขอนแก่นเห็นภาพนี้ก็คงรู้ว่า เจ้าตึกหลังที่สองและที่สามจากซ้ายมือสุดทั้งคือตึกร้างที่ก่อสร้างไม่เสร็จ
ตึกหลังที่สองนั้นอยู่ตรงโรงแรมโฆษะ เป็นที่ตั้ง โอเอซิส หรือตึกคอมพ์ ส่วนตึกหลังที่สามนั้นคือความพยายามที่จะสร้างโรงแรมชั้นหนึ่ง แต่เจ้งเสียก่อน ทั้งสองตึกพังเพราะฤทธิ์ต้มยำกุ้ง
หากผมผนวกเข้ากับพระอาทิตย์กำลังตก ก็นึกผูกโยงไปว่า ธุรกิจขาลง หรือตกลง หรือล่มสลาย ผมไม่ทราบรายละเอียดมากนักว่าผู้เป็นเจ้าของนั้นไปฆ่าตัวตายหรือไปนอนเลียแผลที่ไหน หรือไปยืนขายแฮมเบอร์เกอร์ที่ไหนหรือเปล่า บอกไม่ถูกว่าสงสารหรือ โสน้าน่า
เมื่อวันเวลาเคลื่อนไป สิ่งใหม่ๆก็ผุดขึ้นมาใหม่อีก
ตรงสี่แยกไกลๆในรูปนี้นั้นคือสี่แยกสามเหลี่ยม ที่กำลังสร้างอุโมงค์ลอดแนวทิศเหนือใต้ เดิมทีจะสร้างสะพานเมื่อสิบกว่าปีที่แล้วก็เปลี่ยนมาเป็นสร้างอุโมงค์เหมือนเชียงใหม่ตรงข่วงสิงห์ ตรงนี้ เช้าๆ เย็นๆ รถติดวินาศสันตะโร การสร้างไม่ว่าอุโมงค์หรือสะพานก็จะช่วยให้การจราจรเบาบางลงบ้าง แต่ก็จะไปติดตรงอื่นต่อไป
รูปข้างบนนี้ ตรงสี่แยกที่ใกล้ที่สุดเรียกสี่แยกประตูเมือง กำลังมีงานก่อสร้างมหึมา น่าจะใหญ่ที่สุดของต่างจังหวัด คือ ห้างเซนทรัลและโรบินสันในอาคารเดียวกัน สร้างตรงมุมสี่แยกประตูเมืองพอดี ตรงนี้เดิมเป็นที่ลุ่ม เป็นโรงลีเก่า ฝนตกทีไรน้ำก็ไหลมารวมที่ตรงนี้ และค่อยๆระบายออกไปทุ่งสร้าง
ใครๆก็เดาออกมาอะไรจะเกิดขึ้นบ้างตรงนี้หลังจากที่งานก่อสร้างเสร็จและจะเปิดเป็นทางการในต้นเดือนธันวาคมศกนี้ ต้อนรับปีใหม่ เลย....รถจะติดวินาศสันตะโรแทนที่สี่แยกสามเหลี่ยมน่ะซี ปัจจุบันก็ติดอยู่แล้ว เช้า เย็น
วันก่อนพบเพื่อที่เป็นอดีตนักบริหารเทศบาลเมืองขอนแก่น บอกว่า ด้วยอิทธิพลอำนาจเงินไม่มีใครฟังเสียงใคร จะอนุญาตให้สร้างซะอย่าง เพื่อนกล่าวอีกว่า ตรงนี้เป็นที่รวมน้ำของตัวเมืองตั้งแต่อดีต น้ำจากชุมชนศรีฐานจะมารวมลงที่นี่ แล้วจะอย่างไร น้ำก็จะท่วมถนน และปริมาณรถที่มากมายอยู่แล้วจะมากมายอีกหลายเท่าเพราะห้างนี่แหละ และรถที่วิ่งจากอุดรเข้ากรุงเทพ ผ่านอุโมงค์ตรงสามเหลี่ยมมาดีดี ก็จะมาติดแหงกที่นี่ เพราะไม่มีอุโมงค์ ไม่มีสะพานลอย แม้จะมีโครงการมานานแต่ก้ไม่สร้างซะที
ทางออกที่เพื่อนเสนอคือ อดีตขอนแก่นนั้นเคยย้ายถนนสายหลักที่วิ่ง กรุงเทพฯ-อุดร-หนองคายนั้นผ่านกลางเมืองขอนแก่นที่เรียกเมืองเก่า แต่นักบริหารสมัยก่อนย้ายถนนเส้นนี้ออกมาจากกลางเมืองมาอยู่ถนนมิตรภาพปัจจุบัน เขาเสนอว่าถึงเวลาที่จะต้องย้ายถนนเส้นนี้อีกครั้งให้ไปอยู่เส้นวงแหวนรอบเมืองขอนแก่นเสีย ห้ามรถที่วิ่งจากกรุงเทพฯไปอุดรไปหนองคายเข้าตัวเมืองในเส้นถนนมิตรภาพปัจจุบัน หากทำได้จะช่วยลดความหนาแน่นของรถได้มาก
จากรูป หมายเลขหนึ่งคือเส้นทางสายหลักเดิมที่รถจากกรุงเทพฯไปอุดร หนองคายจะวิ่งผ่ากลางเมืองขอนแก่น หมายเลขสองคือถนนมิตรภาพที่ได้ย้ายเส้นทางเดินรถดังกล่าวออกมาจากตัวเมือง แต่ปัจจุบันก็กลายเป็นกลางเมืองไปอีกแล้ว จึงเสนอให้ย้ายถนนเส้นนี้อีกครั้งให้ไปอยู่ที่หมายเลข 3 ซึ่งเป็นถนนวงแหวนขอนแก่น
ข้อคิดนี้ผมเห็นด้วย แต่จะทำได้หรือไม่นั้น สังคมขอนแก่นต้องช่วยกันหาทางออก
นำภาพพระอาทิตย์จะตก หน้าที่ทำงานมาฝากครับ
เห็นด้วยกับเส้นเลี่ยงเมืองครับ
แต่คนที่ชำนาญทางแล้ว เค้าก็ใช่เลี่ยงเมืองกันมากขึ้นครับ
ระยะทางมากขึ้น แต่เวลาลงลด
ถ้าผ่านเมืองอย่างเดียวไม่ได้แวะอะไร ออกเลี่ยงเมืองเร็วมากเลยครับ จะมีรถใหญ่มากหน่อยละครับ
...
สุขสนุกกับงานครับ
ตาหยูครับ เอารูปสวยมาให้ชม ขอบคุณครับ
การขยายตัวเมืองเป็นเรื่องปกติ แต่การแก้ไขปัญหาควรที่จะคำนึงประโยชน์สูงสุดของสังคม ของประเทศเป็นหลัก โดยมาก การแก้ปัญหาคือการแฝงผลประโยชน์จนการแก้ปัญหามิได้ประโนชร์สูงสุด
ขนาดขอนแก่นมาสภาประชาชนที่ค่อนข้างเข้มแข็ง ก็ต้องดูกันต่อไป อีกประการหนึ่งคือการประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนทราบนั้นอ่อนมากๆ หวังว่าการมีสภาประชาชนขอนแก่นจะมีบทบาทคัดหางเสือการบริหารบ้านเมืองนี้มากขึ้น
น้องสิงห์ พี่ก็ชอบอยู่ต่างจังหวัด ชอบชนบท
ไปๆมาๆก็สามสิบปีแล้ว อิอิ
คนขอนแก่น จะไม่ผ่านสี่แยกนั้นเด็ดขาดค่ะช่วงเช้าและเย็น
ปรากฏการณ์ รถติดลามไปถึง หัวเมืองกันเเล้ว เเละอีกหน่อยก็เป็นปรากฏการณ์สามัญของหัวเมืองเหล่านี้ครับ
ให้กำลังใจคนที่อยู่ครับ
อิอิ น้องแก้ว เหมือนกันแหละครับ หากไม่จำเป็นจริงๆ อ้อมไปไกลๆๆเลยครับ สงสารคนที่จำเป็นต้องผ่าน เหมือนกรุงเทพฯ
เหมือนถนนประชาสโมสรตอนเช้าๆ เย็นๆนะ ติดตั้งแต่หน้าอำเภอไปจนสี่แยกจะไปวิทยาลัยบัณฑิตเอเซีย เพราะคนทำงานนอกเมืองเข้ามาพร้อมๆกัน ทั้ง ถนนศรีจันทร์ และประชาสโมสร
พี่อยู่มิตรสัมพันธ์ คนข้างกายเลยไปในมอสายๆหน่อย
ใช่แล้วเอกเอ้ย....
เมืองไม่ได้ออกแบบมาสำหรับอนาคตแบบนี้ เมื่อเป็นเช่นนี้ก็ทุ่มเงินมหาศาลมาแก้จนเงินที่จะไปพัฒนาด้านอื่นๆลดลงครับ โดยเฉพาะงบประมารด้านการพัฒนาคน น้อยมากๆ
ขอนแก่นเริ่มใหญ่โต..เลยหนีมาอยู่ลำปางค่ะ อิอิ
ลำปางน่าอยู่ครับ เราเพิ่งผ่านมาเมื่อวันหยุดที่แล้ว ไปธุระที่อุทยานแจ้ซ้อนครับ ชอบมากครับ นอนแช่น้ำแร่ร้อน และขับรถกลางป่าที่สวยมากๆ ชอบจริงๆ
พี่บางทราย สวัสดีครับ
นำภาพจากงานแต่งของน้องเดย์มาฝากครับ
ปล. หนังสือ 'ควอนตัมกับดอกบัว' อ่านยากส์...ไหมครับ (ผมแปลเองครึ่งหนึ่ง ยังงงๆ อยู่เลย..อิอิ)
คู่นี้สมกันจริงๆครับ ชิว เจ้าบ่าวก็หล่อเจ้าสาวก็สวย งามหยดย้อย ชื่นชมครับ
ควอนตัมกับดอกบัวนั้นเป็นหนังสืออีกเล่มที่ชอบมากครับ เพราะสมัยเรียนหนังสือก็เคยถกกันถึงเรื่องพุทธศาสนากับวิทยาศาสตร์ เพราะอาจารย์ที่เคารพท่านศรัทธาท่านพุทธทาสมาก
มีอยู่ครั้งหนึ่งไปนั่งฟังการอภิปรายทางวิชาการของ ดร.นิพนธ์ ศศิธร อดีตคณะบดีคณะสังคมศาสตร์ มช. อดีตรัฐมนตรีกระทรวงศึกษาธิการ ท่านกล่าวไว้ว่า เมื่อนักวิทยาศาสตร์เข้าสู่ภวังค์แห่งสัจจธรรมทางวิทยาศาสตร์ขั้นสูงสุด ก็จะเป็นเรื่องเดียวกันกับที่พุทธเจ้าค้นพบ พี่ฟังไปก็ค้านไป แต่เมื่อเวลาผ่านไปมาอ่านฟริจอบ คับปรา เรื่องเต๋าแห่งฟิสิกส์ ชอบมากๆ อ่านคืนเดียวจบเลย ก็ย้อนไปนึกถึงคำพูดของ ดร.นิพนธ์ครับ ว่ามันคือเรื่องเดียวกัน
เล่มนี้อีกเล่มครับที่ชอบ แม้จะยังอ่านไปได้นิดเดียวก็ชอบมากครับ ตั้งใจว่า หากอ่านจบจะหยิบมาเขียนสักกะหน่อยครับ อิอิ