สืบเนื่องจากการเข้ามาแสดงความเห็นของท่านอาจารย์แฮนดี้ (พินิจ พันธ์ชื่น) ในบันทึกก่อนหน้านี้ ว่าปัจจุบันเราจัดการทรัพยากรไม่ถูกต้อง ทำให้ใช้ความรู้ไม่เหมาะสมจนเกิดการสร้าง “ขยะ” ในกระบวนการพัฒนาขึ้นมาอย่างมากมาย
พอผมอ่านก็ต้องสะดุ้งอย่างเป็นธรรมชาติ เพราะแค่มองไปรอบๆตัวในที่ทำงานของผม มี “ขยะ” มากมายจริงๆ และไม่น่าเชื่อว่าทั้งผม นักศึกษา และเพื่อนร่วมงานในรูปแบบต่างๆ ได้สนับสนุนและร่วมกันสร้าง “ขยะ” อย่างมากมาย ขนาด กำจัดทุกวันก็ยังเรียกได้ว่า “ล้นห้อง”
อันได้แก่
นอกจากนี้ยังมีของสะสมส่วนตัวอีก ได้แก่ ธนบัตรนานาชาติประดับโต๊ะทำงาน ของโบราณ หินจากที่ต่างๆ ทั่วโลก และ ฟอสซิล ที่ใช้ทั้งประดับ และใช้สอน
และที่นับว่าเป็นขยะแบบสมบูรณ์แบบก็ได้แก่ อุปกรณ์สำรองคอมพิวเตอร์ และเครื่องมือในการทำงาน ที่ยังไม่กล้าทิ้ง
นี่ยังไม่นับขยะที่เก็บไว้ในห้องเก็บของ ทั้งตัวอย่างดิน ตัวอย่างพืช เครื่องมือ และเอกสารฝึกอบรมอีกหนึ่งห้องเต็มๆ
และ ขยะ ที่ย้ายไปเป็นขยะที่บ้านหลังที่สอง อีกหลายคันรถ
ทั้งขยะเก่า และขยะใหม่
ล่าสุดก็ยังมี “พระเครื่อง” ที่ทั้งของเก๊ “เกรดเอ” ที่เลือกเก็บไว้ดูเป็นตัวอย่าง และของแท้ ของเก่า ของโบราณแบบเต็มบ้าน และห้องนอน ในส่วนห้องนอนนั้นจัดแล้วจัดอีก ก็ยังดูเต็มห้องนอนอยู่ดี จนภรรยาทนดูไม่ได้ เลยยกห้องนอนให้เป็นห้องส่วนตัวไปเลย
คิดไปคิดมา จึงรู้ว่าตัวเองได้สร้าง “ขยะ” มากมายเหลือเกิน
นี่แค่ที่เห็นชัดๆ นะครับ
ที่คนทั่วไปอาจไม่ทราบก็คือ ผมได้ไปร่วมสร้างที่เก็บ “อัฐิ” ของตระกูลไว้อีกสองแห่ง ที่จังหวัดนครราชสีมา คือที่บ้านเกิดพ่อแห่งหนึ่ง บ้านเกิดแม่อีกแห่งหนึ่ง และยังนำอัฐิบางส่วนของพ่อและแม่มาเก็บไว้ในห้องนอน และที่นา
ในที่นาก็เป็นที่เก็บขยะอีกกองใหญ่พอสมควร ทั้งของที่เสียๆ ของที่คิดว่าจะใช้ และอุปกรณ์ที่ใช้ในการทำนาของผม
ในเนต Gotoknow นี้ ผมก็ได้ร่วมเขียนบันทึกไว้ ที่บางทีก็ไม่ค่อยมีคนอ่านเท่าไหร่ (ประมาณว่าเป็น "ขยะ" ในระบบเนต) อีกเป็นจำนวนมาก และยังเหลือค้างในคอมพิวเตอร์และอุปกรณ์สำรองข้อมูลอีกเป็นร้อยกิกกะไบท์
ที่มีคนมาใช้ประโยชน์ต่อเนื่อง มีไม่ถึงครึ่งของบันทึก
และ แน่นอน ในสมองผมยังมีขยะมากมายเหลือเกิน ทั้งความจำสมัยเด็ก สมัยเรียน ชื่อเพื่อน นิสัยและวันเกิด นิทานเก่าๆ ประสบการณ์ เคยพูดอะไรกับใคร เคยดีกับใคร เคยทะเลาะกับใคร ยังเก็บไว้เพียบ
ยิ่งกว่านั้นผมยังมีเสื้อผ้า รองเท้า เครื่องมือของใช้ที่มีบทบาทซ้ำซ้อน ส่วนใหญ่ไม่ได้ใช้อีกมากมาย
ผมจึงเริ่มนึกไต่ตรองว่าสาเหตุของการสร้างขยะเหล่านี้คืออะไร
แน่นอนครับ ความรู้ไม่พอใช้
แล้วทำให้เกิดอะไร
อุตส่าห์เคยหลงว่าตัวเองมีความรู้ดีพอสมควร
แต่วันนี้ “โดนท่านแฮนดี้มาเคาะแบบเจ็บๆ คันๆ”
จนทำให้รู้ว่าตัวเองมีความรู้ไม่พอใช้ และได้ร่วมสร้าง “ขยะ” ไว้ให้กับโลกไม่น้อยทีเดียว
หวังแต่เพียงว่าส่วนที่ไม่ใช่ขยะจะมีคุณค่าพอที่จะทำให้ “กองขยะ” ดูมีเหตุผล และคุ้มค่าในตัวของมันเอง
นี่คิดเข้าข้างตัวเองแบบสุดๆเลยครับ
สงสัยจะต้องเริ่มกำจัด “ขยะ” ได้แล้วมั้งครับ
ขอบคุณกับความเห็นดีๆ ที่ทำให้ผมได้ข้อคิดดีๆ กับตัวเอง สังคม และโลกในวันนี้ครับ
"...ทั้งความจำสมัยเด็ก สมัยเรียน ชื่อเพื่อน นิทานเก่าๆ ประสบการณ์ที่เคยพูดกับใคร ดีกับใคร ยังเก็บไว้เพียบ..."
ขอเจริญพรอาจารย์ ถ้ามีเวลาขอให้อาจารย์นำเรื่องราวความจำในอดีตมาถ่ายทอดให้คนรุ่นหลังได้ศึกษาเรียนรู้บ้างโดยเฉพาะในชุมชน
ครับ ผมก็นำมาเขียนบ่อยๆ แบบแทรกๆไว้นะครับ
ถ้าเขียนตรงๆ เกรงว่าจะเข้าใจยากและน่าเบื่อครับ
ขอบพระคุณที่แนะนำครับ
เคยมีความคิดว่าจะเอาเอกสารหลักฐานต่างๆมาถมที่แทนดินค่ะอาจารย์..แต่กำจัดทีไรได้เรื่องทุกทีต้องมีอันเรียกเก็บเรียกตรวจเลยยังไม่ได้เอาไปถมที่สักที..
ด้วยจิตคาระวะค่ะท่านอาจารย์
อ่านบันทึกนี้แล้วได้คิดค่ะ จะหาทางทำ 5ส ที่บ้าน สักวัน
สวัสดียามเช้าครับ
1. ขยะที่เกิดจากการอุปโภค บริโภคด้วยความ "ไม่รู้" หรือความหลงผิดของผู้คน
2. ขยะที่เป็นผลพวงจากการที่บุคคลหรือองค์กร ใช้ความรู้แบบไม่ครบถ้วน ใช้เพียงบางเสี้ยวบางส่วน (โดยไม่เจตนา) มาจัดการกับเรื่องต่างๆ
3. ขยะที่เกิดจากการที่บุคคลหรือองค์กร "แสร้งทำไม่รู้" แล้วใช้ความรู้แบบไม่ครบถ้วน ไปจัดการ แก้ปัญหา พัฒนา ในด้านต่างๆ .. ข้อนี้นับว่าเลวร้ายที่สุด เพราะเขาทำไปด้วยเจตนา ด้วย กิเลสหนา-ปัญญาหยาบ โดยแท้ เพื่อแสวงประโยชน์ให้ตนและพวกพ้องเป็นหลัก
ผมคิดว่าอาจารย์แฮนดี้เป็นต้นแบบในการกำจัดขยะที่ดีได้ในระดับหนึ่ง
กำจัดจนแทบไม่เหลือแล้ว
เหลือแต่ของดีๆ น่าอิจฉาจริงๆ
อิอิ
สวัสดี ครับ อาจารย์
อาจารย์ ครับ ...ขยะบางอย่าง เก็บไว้ก็เป็นความสุข ทางใจ เหมือนกัน นะครับ
.....
แต่สิ่งที่อาจารย์ แนะนำไว้ ผมจะจดจำไว้ครับ
อาจารย์สบายดี นะครับ
ด้วยความเคารพ และระลึกถึง
สวัสดีค่ะอาจารย์
อ่านแล้วก็สะดุ้ง หันมาดูตัวเอง ขยะเยอะเหมือนกันค่ะ ทั้งเป็นวัตถุเห็นๆ กับขยะรกๆ ในสมองที่ต้องชำระสะสางซะแล้ว
ขอบคุณนะคะ
เท่าที่อ่านบทความของอาจารย์ช่วงหลังๆ อาจารย์เริ่มจะเข้าทางธรรม
เห็นความจริงของชีวิต จริงๆแล้วชีวิตทางโลกไม่ต้องทำอะไรมาก
อาจารย์เริ่มปล่อยวางงานที่เป็นขยะ แม้นแต่ความคิดของเราก็เป็นขยะ
แต่ละวันก็ฝันกันตอนตื่นนี่แหละ หลงคิดสิ่งที่ไร้สาระ
พอเรามีสติจึงได้เห็นว่ามันส่งออกไปคิดอยู่ตลอดเวลา
มีแต่เรื่องของตัณหาพาไปทั้งนั้นเลย
ชีวิตที่เกิดมาทั้งทีสิ่งควรทำที่สุด
คือการทำจิตให้หลุดจากอำนาจของกิเลสที่มาบงการ
อยากให้อาจารย์มาศึกษาธรรม จาก หลวงพ่อ ปราโมทย์ ปราโมชฺโช
ดูนะครับ ขอขมาอาจารย์ด้วยครับที่ล่วงเกิน
ชัยมงคล
ความคิดของผม ก็วนไปวนมาแถวๆนี้แหละครับ
นึกอะไรออก ก็บันทึกไว้ก่อน เกรงว่าจะไม่ได้บันทึก หรือบันทึกไม่ทัน
ก็เป็นกิเลสอีกอย่างของผมครับ
เรียนอาจารย์แสวง ที่เคารพค่ะ
ขยะอาจมีอยู่รอบตัวเรามากมายทั้งมองเห็นและมองไม่เห็น
แต่สิ่งหนึ่งที่หนูเห็นคืออาจารย์ทำให้ขยะมีประโยชน์ มหาศาล
เพราะอาจารย์ไม่ได้มองแค่ขยะแล้วผ่านเลยแต่อาจารย์มองแล้วเห็นประโยชน์
นาอาจารย์คือแหล่งเรียนรู้ที่ดีมากๆๆเลยค่ะ
ขอบพระคุณอาจารย์มากค่ะที่ให้โอกาสนักศึกษาโง่ๆอย่างหนู แต่คิดอีกที
นักศึกษาคงไม่ไช่หนูขอเป็นนักเรียนดีกว่าเพราะหนูยังต้องเรียนรู้อีกมากมายหลายเรื่องในชีวิตนี้
ถ้าในสังคมการศึกษามีอาจารย์อย่าอาจารย์แสวงประเทศไทยคงมีการเกษตรที่พัฒนามากกว่านี้
และมีคนที่คิดคล้ายๆอาจารย์สังคมไทยคงยืนด้วยตังเองอย่าภาคภูมิใจและอยู่อย่าพอเพียง
วันนี้แค่นี้ก่อนค่ะ ขอบคุณอาจารย์อีกครั้งค่ะ หนูจะไปจัดการขยะรอบตัวเอง
ทำขยะให้เป็นประโยชน์ เราจะไม่มีขยะเหลืออีกต่อไป
แท้จริง โลกนี้ไม่มีขยะหรอก ที่มีเพราะเราสร้าง และใช้ไม่เป็น
เท่านั้นเองครับ
ขอขอบพระคุณสำหรับประกายปัญญาที่อาจารย์มอบให้สังคมครับ
ขอบคุณครับที่ชม