การสร้างวัฒนธรรมองค์กร "Share & Learn Organization"


“อยากให้จำลองความรู้สึกผูกพันที่มีต่อคนในครอบครัวมาไว้ที่นี่ ณ องค์กรแห่งนี้” ซึ่งเราถือว่าเป็นบ้านที่สองของเรา

“อยากให้จำลองความรู้สึกผูกพันที่มีต่อคนในครอบครัวมาไว้ที่นี่ ณ องค์กรแห่งนี้” ซึ่งเราถือว่าเป็นบ้านที่สองของเรา   เป็นคำพูดที่ศิลาได้บอกเล่าในวง SMART AEROTHAI ที่จัดขึ้นได้อย่างประทับใจเมื่อวันที่  ๖ พฤศจิกายน  ๒๕๕๒ ที่ผ่านมา

       

                     ชีวิตเราส่วนใหญ่อยู่ที่บ้านและที่ทำงาน

 

        

ความมุ่งมั่นในการสร้างวัฒนธรรมองค์กรมีอยู่ในหัวใจของผู้รักองค์กรทุกคน แต่คำถามที่เกิดขึ้นในใจอยู่เสมอคือว่า “แล้วเราจะต้องทำกันอย่างไร แสดงออกมาทางไหนได้บ้าง”

 

   

 

ขอย้อนกลับไปถึงความสำคัญของที่มาว่า “ทำไมเราจะต้องสร้างวัฒนธรรมองค์กร”    วัฒนธรรมองค์กรไม่ใช่สิ่งที่มีอยู่แล้ว  แล้วนำมาอธิบายภายใต้บริบทที่เป็นอยู่คือ มิใช่หรือ

        

    ธรรมชาติในที่ทำงานของเรา สัตว์และต้นไม้ต่างอาศัยพึ่งพากัน

หากตอบว่า “ใช่” ก็อาจจะทำให้เราไม่อยากทำอะไรต่อกับสิ่งที่เป็นเช่นนั้นเองอีกต่อไป  จึงขอตอบตามความเข้าใจของตนเองว่า ส่วนหนึ่งก็อาจจะใช่  แต่หากเราพบว่าวัฒนธรรมองค์กรที่มีอยู่เริ่มกำลังเกิดความไร้ระเบียบ (chaos)  เพราะองค์กรเติบโตทางด้านกายภาพและทางด้านวัตถุอย่างรวดเร็วมาก  ทำให้หลงลืมคุณค่าทางจิตใจ และความเคารพในตัวตนของกันและกัน  จึงทำให้ต้องกลับมาเริ่มนับหนึ่งใหม่  จาก “หัวใจของผู้ให้” เป็นใบเบิกทาง  เดิมอาจจะ self center ก็จะค่อย ๆ เปลี่ยนเป็น AEROTHAI center

 

    

ในสังคมคนทำงาน ข้อมูลข่าวสารคืออำนาจ  ใครมีความรู้มากกว่า นำเสนอความรู้ได้ดีกว่าคือผู้มีอำนาจ กำลังจะเปลี่ยนแปลงไป  “เก่ง” อย่างเดียว ไม่สามารถสร้างจุดร่วมที่ผูกพันเหนียวแน่นได้  ผู้นำที่เก่งทุกทาง ไม่สามารถเป็นผู้นำการเปลี่ยนแปลงในทางพัฒนาอย่างสร้างสรรค์ได้     ผู้นำที่ดีมีคุณธรรมและทำให้ทุกคนมีความสุขเมื่ออยู่ใกล้ต่างหากจึงจะนำพาให้องค์กรขับเคลื่อนไปได้  ไม่ว่าในทิศทางใด ใคร ๆ ก็อยากจะเดินตาม  การเปลี่ยนแปลงจากองค์กรภายนอกล้อมรอบตัวที่ประจักษ์ชัดในขณะนี้คือ "การสร้างองค์กร KM" ที่มุ่งเน้นการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ซึ่งกันและกัน

 

ในฐานะของผู้มีใจที่อยากจะเปลี่ยนแปลงองค์กรให้ก้าวตามทันยุคสมัยที่กำลังมุ่งไปสู่ Share & Learn Organization โดยจะให้ความสำคัญกับคำว่า “ทำอย่างไรจึงจะทำงานร่วมกันให้ได้ทั้งใจคนและคนทำงานให้ด้วยใจ”

 

จุดเริ่มต้นที่ดีของการสร้างวัฒนธรรมองค์กรในวันนี้คือสร้างทีมงานที่เข้มแข็งมีหนึ่งใจเดียวกันคือ “ความรู้สึกว่าเป็นเจ้าขององค์กรเสมือนเป็นครอบครัวเดียวกัน”

 

SMART อาสา จึงก่อกำเนิดขึ้นมา โดยฝ่ายบริหารบุคลากร ชักชวนกันอย่างไม่เป็นทางการให้หน่วยงานต่างกองมาร่วมมือ ร่วมแรง ร่วมใจกัน จะว่าไปก็เป็นวิธีการใช้ปากต่อปาก เน้นจิตอาสา  มาท้้งที่ก็ยังไม่ชัดเจนว่าจะมารวมตัวทำอะไรกันบ้าง   รู้อย่างเดียวว่าขอให้ตัวกับใจมาก่อน มาทำเพื่อองค์กรของเรา  ส่วนจะทำอะไร อย่างไรบ้างนั้น  ไม่รู้หรอก   กล่าวได้ว่าการรวมตัวกันของ SMART อาสา  คือภาพสะท้อนหนึ่งของจุดเริ่มต้นในการสร้างวัฒนธรรมองค์กรที่เริ่มจากการเปลี่ยนแปลงภายใน ให้หันมาใส่ใจกันและกัน   ลองมาดูกันนะคะว่าวันนี้  SMART อาสาทำอะไรกันบ้าง

                                   เกมส์สร้างชาติ

   

เกมส์ดึงชิ้นไม้ออกไม่ให้ตึกล้ม  แต่ละคนผลัดเปลี่ยนหมุนเวียนกันมาดึงออกทีละชิ้น จะใช้ศาสตร์ ศิลป์อะไรก็ได้ ด้วยมือเดียวเท่านั้น ที่จะดึง ดัน  ชิันไม้ออกแล้ววางต่อขึ้นไปใหม่โดยไม่ให้ตึกไม้ล้ม

      

    

ต้องขอปรบมือชมเชยทั้งผู้คิดเกมส์ และผู้เล่นทุกท่านที่เล่นกันอย่างตั้งใจมีสมาธิและมีศิลปะชั้นเชิงไม่ธรรมดาจริง ๆ เล่นเก่งสุดยอด ไม่ทำให้ตึกถล่มเลย

บทสรุปสุดท้ายของเกมส์นี้สอนให้เราคิดอุปมาอุปมัยว่าฝีมือเราคนเดียว  ขาดสติ ไม่ระมัดระวัง ก็อาจจะทำให้องค์กรพังทะลายลงมาได้  แต่การที่เรามีความมุ่งมั่นตั้งใจประคับประคององค์กรเราไว้ จึงทำให้องค์กรของเราอยู่รอดปลอดภัยได้เป็นอย่างดี  "พลังสามัคคี" คือหลักการพื้นฐานของการเริ่มต้นสร้างวัฒนธรรมองค์กร

                  บอกเล่าความในใจ  วัฒนธรรมองค์กรของ AEROTHAI

        

          

ทุกคนมีหัวใจดวงเดียวกันที่อยากให้เรารักกันผูกพันเสมือนพี่น้องในครอบครัวเดียวกัน ยิ้มให้กัน ทักทายกัน ไว้วางใจกัน รู้สึกเป็นเจ้าขององค์กรแห่งนี้ (Sense of Ownership) และทำอะไรเพื่อองค์กรของเราบ้าง

 

ทานขนมจีนแกงไก่ ขนมจีนน้ำยา และขนมปังเป็นอาหารกลางวันร่วมกันบนเสื่อสนามหญ้าใต้ต้นไม้  เป็นภาพแห่งความประทับใจมาก

ไม่มีภาพมานำเสนอค่ะ ขออยู่ในใจก็แล้วกันนะคะ เป็นความผิดของช่างภาพที่มัวแต่ทาน ลืมเก็บภาพเด็ดเอาไว้ จินตนาการดูก็ได้ค่ะ เวลาทานอาหารฟรี บนเสื่อใต้ร่มไม้ มีความสุขแค่ไหน  ใครขับรถผ่านไปมาก็ทักทายด้วยความงุนงง ถามว่าสโมสรร้านอาหารไม่มีที่นั่งหรือ  เปล่าเลยนะคะ เรากำลังดัดจริตกัน ดัดจากจริตเดิมที่นั่งในห้องแอร์หรู ๆ มานั่งติดดิน ติดธรรมชาติในบ้านหลังที่สองของเรา ซึ่งเราเคยแต่เดินผ่านสนามหญ้า แต่ไม่ได้สัมผัสไอดินกลิ่นหญ้ามาก่อนเลยนานนับสิบกว่าปี (สำหรับรุ่นพี่บางคน)

 

         ปลูกฝังการตรงต่อเวลา รวมตัวกันบ่ายโมงตรงร่วมวง Dialogue

พี่อ๊อด พี่ใหญ่ของเราปิ๊งไอเดีย ขอให้พวกเรายก logo มาประดับเวทีก่อนเริ่มบรรยาย Dialogue  ภาพที่เห็นก็เป็นอย่างนี้  นี่เป็นเพราะแรงขับเคลื่อนจากขนมจีนหม้อเดียวกันนั่นเอง

   

      

จากนั้น เราก็เริ่มวง Dialogue กันด้วยหัวข้อที่ว่า "เพราะ SMART เราจึงอาสา"

  

ศิลาอยู่ในวงตามภาพข้างต้นนี้ค่ะ เป็น FA วงนี้ จึงขอนำเสนอสิ่งที่ได้เรียนรู้จากวงนี้ค่ะ

กระบวนการ :  บางท่านที่อยู่ในวงเป็นมือใหม่หัดขับ เพิ่งรู้จัก Dialogue ก็วันนี้เอง แต่เมื่ออยู่ในวงกลับกลมกลืนเหมือนผู้ที่ผ่านการทำ Dialogue มากันแล้วทุกท่าน  ในช่วงเริ่มต้น ต่างก็กล่าวถึงว่าทำไมตนจึงมาเป็น SMART อาสา บทสรุปที่ได้ไปในทิศทางเดียวกันคือหัวใจที่อยากจะทำอะไรให้องค์กร  เมื่อทุกคนบอกเล่าเหตุผลลึก ๆ กันแล้ว ต้องขอบอกว่า "อิน" กันมาก บางท่านน้ำตาไหล เพราะรักองค์กร อยากทำอะไรเพื่อองค์กร แม้ไม่รู้ ไม่ชัดเจนว่าจะต้องทำอะไรกันบ้าง     เมื่อจบประเด็นเรื่องทำไมฉันจึงมาเป็น SMART อาสาแล้ว ศิลาก็ตั้งประเด็นว่าแล้วอยากให้ขับเคลื่อนไปในทางไหนบ้าง โดยขอให้แต่ละท่านตั้งใจฟังผู้พูดและต่อยอดความคิดจากสิ่งที่ฟังผู้พูดพูดไปแล้ว  เพื่อดึงสติมาอยู่กับเรื่องราวที่กำลังฟังจากเพื่อนร่วมวง  เหลือเชื่อค่ะว่าทุกท่านต่อยอดความคิดกันเป็นทอด ๆ เกิด flow of meaning อย่างเห็นได้ชัด  ทุกท่านฟังอย่างใคร่ครวญคำพูดของเพื่อนร่วมวงและเสนอแง่มุมความคิดของตนเป็นเสมือนกับการต่อจิ๊กซอว์เป็นภาพใหญ่ด้วยกัน

 

เนื้อหา  :  ผู้ที่อยู่ในวงเสนอความเห็น ได้แก่

  • อยากให้มีการสร้างเครือข่ายที่เข้มแข็ง เช่น ติดต่อทาง email กันบ่อย ๆ, ทำ Blog และ COP,  พบปะกันอย่างไม่เป็นทางการมากขึ้น, ทำกิจกรรมด้วยกันและให้เพื่อนชวนเพื่อนเข้ามาร่วมกิจกรรมแล้วสมัครเป็น SMART อาสา, การกระตุ้นให้ทุกคนเสนอความคิดเห็นและรวบรวมความคิดเห็นของทุกคนเก็บไว้เพื่อรอโอกาสนำมาแปลงผลสู่การปฏิบัติ ซึ่งเป็นการสร้างความเคารพความคิดเห็นของทุกคน

  • การสร้างพฤติกรรมที่ดีในกลุ่ม  ได้แก่ การยิ้ม ทักทาย ห่วงใยกัน และชื่นชมสิ่งดี ๆ ที่แต่ละคนตั้งใจทำเพื่อส่วนรวม การยกย่องคนที่ทำความดี เสียสละ การช่วยเหลือเกื้อกูลกัน

  • การสร้างความรู้สึกว่า SMART อาสาคือ "จุดประสาน" หรือแกนกลางที่พักพิงใจ ยกตัวอย่างดี ๆ ของคุณนก ก็คือการที่มีพนักงานมาติดต่อขอผู้เชี่ยวชาญด้านภาษาอังกฤษไปสอน  ในทีมงาน SMART อาสา ไม่มีกูรูเฉพาะทาง แต่ก็สามารถเป็นตัวกลางเชื่อมต่อให้พนักงานที่เชี่ยวชาญภาษาอังกฤษเจอตัวผู้ที่อยากเรียนรู้ และต่างฝ่ายต่างก็ถ่ายทอดความรู้ให้แก่กัน เกิดนิยามใหม่ในวงว่า "คิดไม่ออก บอก SMART อาสา"

  • การนำ Enneagram มาใช้ในการรู้จักตัวตนและคนอื่น  รวมกลุ่มคนที่มีศักยภาพคล้ายคลึงกันเพื่อดึงศักยภาพแฝงเร้นนั้นออกมาใช้ตามที่ถนัดเพื่อสนับสนุนทีมงานในด้านต่าง ๆ  รวมถึงเป็นการพัฒนาจิตตนจากแนวคิดพื้นฐานที่ว่าการเปลี่ยนแปลงให้เริ่มจากภายในตนเองก่อน

  • การริเริ่มสร้างพื้นที่ทางกายภาพ ได้แก่ การปรับภูมิทัศน์บริเวณซุ้มกาแฟในองค์กรให้เอื้อประโยชน์ต่อการมานั่งคุยกันแบบสภากาแฟในวงกว้างมากยิ่งขึ้น

 

จากแผนภาพนี้ ที่พี่อ๊อด พี่ใหญ่ของเรานำเสนอ ซึ่งเป็นแนวคิดของ ดร.วรภัทร์ ภู่เจริญ  บทสรุปของวงที่ศิลาเป็น FA นั้น ปรากฎว่าการทำ Dialogue ของเราอยู่ในขั้น I in you   เป็นจุดเริ่มต้นที่ดีของการสร้างวัฒนธรรมองค์กรโดยเริ่มจากทีมเล็ก ๆ นามว่า SMART อาสา ซึ่งอาจจะพา "ไวรัสดี" แพร่ระบาดทั่วทั้งองค์กรเร็ว ๆ นี้

 

ถ่ายภาพเป็นที่ระลึก เพื่อเป็นหลักฐาน การเติบโตขยายเครือข่ายต่อไปให้ทั่วทั้งองค์กร  จากจุดเริ่มต้นในวันนี้ของ Share & Learn Organization โดยใช้ Dialogue มาเป็นเครื่องมือให้ "เรารู้จักฟังกันอย่างลึกซึ้งด้วยใจใคร่ครวญ" 

   

       ----------------------------------------------------------------------

                        รักกันไว้เถิด เราเกิดร่วมแดนไทย

      

  

                                            

บ้านของเรา เราต้องรักษา ดูแล และแคร์ผู้อยู่อาศัยร่วมกัน

หมายเลขบันทึก: 311812เขียนเมื่อ 8 พฤศจิกายน 2009 10:26 น. ()แก้ไขเมื่อ 6 กันยายน 2013 21:51 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (16)

สวัสดีค่ะ

  • มาทักทายวันหยุดค่ะ
  • ค่อย ๆอ่านและทำความเข้าใจเพลินและมีความสุขกับบรรทัดสุดท้ายค่ะ
  • ขอขอบพระคุณค่ะ

บันทึกนี้สั้นมาก ๆ ครับ เมื่อเปรียบเทียบกับสิ่งที่ยังถ่ายทอดออกจากมันสมองของท่านอาจารย์นพลักษณ์ ๙ ที่ยังคั่งค้างอีกมากมาย อิ อิ ;)

วัฒนธรรมองค์กร ชี้วัดความเจริญและก้าวหน้าขององค์กรได้อย่างน่ากลัวทีเดียว

อาจารย์สบายดีแล้วเนาะ ... ;)

  • สวัสดีค่ะอาจารย์ Sila Phu-Chaya
  • อ่านบันทึกนี้แล้ว ได้สาระเติมเต็มในเรื่องของการสร้างความเข้มแข็งให้องค์กร
  • " ผู้นำที่ดีมีคุณธรรมและทำให้ทุกคนมีความสุขเมื่ออยู่ใกล้ต่างหากจึงจะนำพาให้องค์กรขับเคลื่อนไปได้ ไม่ว่าในทิศทางใด ใคร ๆ ก็อยากจะเดินตาม การเปลี่ยนแปลงจากองค์กรภายนอกล้อมรอบตัวที่ประจักษ์ชัดในขณะนี้คือ "การสร้างองค์กร KM" ที่มุ่งเน้นการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ซึ่งกันและกัน"
  •  "บ้านของเรา เราต้องรักษา ดูแล และแคร์ผู้อยู่อาศัยร่วมกัน"
  • ที่สำคัญคือ บุคลากรที่อยู่ในองค์กร จะปฏิบัตตนอย่างไร? จึงจะรักษาบ้านของเรา
  • "จริงใจ จริงจัง ยอมรับซึ่งกันและกัน และรู้จักเป็นผู้ให้...มากกว่าเป็นผู้รับ"
  • การแลกเปลี่ยนซึ่งกันและกันจึงจะประสบความสำเร็จนะคะ

แหม...SMART เกินร้อยเลยนะครับ พี่ศิลา

วันหยุดพักผ่อน ยังอุตส่าห์ รวบรวมพละกำลัง

หลังฟื้นจากอาการป่วย มาบรรจงสร้างสรรบันทึกอันงดงามเช่นนี้ได้

ขอคารวะงามๆ ซักสามครั้งกับจิตวิญญาณ SMART AEROTHAI

...

เห็นบันทึกดีๆ แบบนี้ ก็นึกเสียดายแทนบริษัทเรานะครับ

ที่ไม่มีพื้นที่ส่วนตัว ให้คนในองค์กรได้แสดงความคิด ความรู้สึก

ในทางสร้างสรรค์แบบนี้ มีแต่กระทู้ ที่ส่วนใหญ่ก็ไม่รู้ใครเป็นใคร

อ่านไปก็เจอแต่เรื่องลบๆ บ่นๆ กันไป  พาใจแห้งเหี่ยว

และเสื่อมศรัทธาต่อกันและกัน

หวังว่า วันนึงคงพอจะมีใครเห็นบ้าง

แต่ถ้าไม่มีใครเห็น ก็น่าจะลองทำมันเองเลยดีมั๊ยเนอะ

คิดไกลไปแล้ว

เอาใกล้ตัวก่อนดีกว่า

เดี๋ยวว่าจะไปชวนเครือข่ายเข้ามาอ่านกันก่อน

และอาจจะไปลงในกระทู้ CoP อีกทีครับ

แหม...SMART เกินร้อยเลยนะครับ พี่ศิลา

วันหยุดพักผ่อน ยังอุตส่าห์ รวบรวมพละกำลัง

หลังฟื้นจากอาการป่วย มาบรรจงสร้างสรรบันทึกอันงดงามเช่นนี้ได้

ขอคารวะงามๆ ซักสามครั้งกับจิตวิญญาณ SMART AEROTHAI

...

เห็นบันทึกดีๆ แบบนี้ ก็นึกเสียดายแทนบริษัทเรานะครับ

ที่ไม่มีพื้นที่ส่วนตัว ให้คนในองค์กรได้แสดงความคิด ความรู้สึก

ในทางสร้างสรรค์แบบนี้ มีแต่กระทู้ ที่ส่วนใหญ่ก็ไม่รู้ใครเป็นใคร

อ่านไปก็เจอแต่เรื่องลบๆ บ่นๆ กันไป  พาใจแห้งเหี่ยว

และเสื่อมศรัทธาต่อกันและกัน

หวังว่า วันนึงคงพอจะมีใครเห็นบ้าง

แต่ถ้าไม่มีใครเห็น ก็น่าจะลองทำมันเองเลยดีมั๊ยเนอะ

คิดไกลไปแล้ว

เอาใกล้ตัวก่อนดีกว่า

เดี๋ยวว่าจะไปชวนเครือข่ายเข้ามาอ่านกันก่อน

และอาจจะไปลงในกระทู้ CoP อีกทีครับ

  • ขอบพระคุณพี่ ครูคิม มากค่ะที่แวะมาให้กำลังใจ เห็นพี่ครูคิมมาเยี่ยมทีไร เบิกบานใจทุกครั้งค่ะ
  • อยากตามรอยไปเที่ยวภาคใต้ในสถานที่ที่พี่ครูคิมไปมากเลยค่ะ
  • จริง ๆ นะคะ ท่านอาจารย์นพลักษณ์ 10  P อยากเขียนอะไรสั้น ๆ มากเลย แต่สงสัยเก็บกด เลยเขียนบันทึกทีไรเบรคไม่อยู่สักที เขียนจบไปแล้ว ยังรู้สึกไม่สุด (อย่าคิดเป็นอื่นนะ)
  • วัฒนธรรมองค์กรเป็นเครื่องชี้วัดความเจริญทางจิตใจและทุก ๆ ด้านจริงด้วยแหละค่ะ  แต่ว่าเพราะเราไม่แข็งพอ เราจึงต้องทำ ต้องสร้างขึ้นมา ที่ผ่านมามัวไปเน้นด้านวัตถุ   ยังไม่ทราบเลยค่ะว่าเราจะก้าวไปถึงจุดไหน ขอเพียงได้ขยับแข้ง ขยับขาบ้างเล็กน้อยก็ยังดี จะได้ไม่เป็นตะคริวเน๊าะ
  • กลับจากอยุธยาหน้าก็บวมเพราะแพ้อะไรไม่ทราบ พอยุบปั๊บก็มาเขียนเรื่อยเปื่อยอย่างที่เห็นนี่แหละค่ะ...แปลกจัง หน้าไม่ขาวไป ก็บวมไป...ทำไมคนหน้าตาดีจึงแต่เรื่องอยู่บนใบหน้า ก็ไม่ทราบค่ะ (อิอิ)
  • ประทับใจความเห็นคุณเอื้องแซะ P มากเลยค่ะ  คืนนี้ยิ้มหวานทั้งคืนแน่เลย
  • น้องซวง P คะ อะไร ๆ ที่ทำไว้แล้วและทำอยู่ขณะนี้ ขอชมว่าทำได้ดีมากค่ะ ทำต่อไปเรื่อย ๆ ด้วยกันนะคะ ถนัดอะไร สะดวกแบบไหน เราก็ทำกันต่อไป ไม่คาดหวัง ทุกอย่างขอเพียงมีผู้เริ่มต้น มีคนจุดไป สักวันก็จะมีสหายมาร่วมทางเดินกับเราเอง  ทางใด ถ้าไม่มีรอยคนเดิน ก็มักไม่มีผู้เดินตาม  เชื่อมั่นว่าจะมีต้องมีการเปลี่ยนแปลงในทางที่ดี อย่างน้อยก็ภายในของเราเองที่นับวันก็เติบโตขึ้นอย่างเห็นได้ชัด ต่างจากเมื่อก่อน  สังเกตเห็นแล้วใช่ไหมคะ  ณ วันนี้ ขอใช่คำพูดเชย ๆ ที่ควรจะพูดนานแล้ว แต่ก็เพิ่งพูดคือว่า "ดีใจที่ได้รู้จักคนดี ๆ แบบน้องซวงค่ะ" จะต้องมีคนดี ๆ แบบนี้อีกแน่นอน รอเวลาดึงดูดมาพบกันเป็น COP คนดี ๆ

สวัสดี... จ๊ะ

เข้ามาทักทาย ศิลาและ ซวง

สวัสดี ครับ คุณsila

เป็นบันทึกที่สุดแสนจะวิเศษ ในบริบท ของคนทำงาน ภายใต้ชายคาเดียวกัน

ชื่นชม...สังคมเยี่ยงนี้ ที่นับวัน จะสึกกร่อน ร่อยหรอ ลงไปบ้าง

โดยเฉพาะอย่างยิ่ง องค์กรบางองค์กร ที่ห้ำหั่นกันด้วย.... วุฒิภาวะทางอารมณ์

การยึดติด...ในอัตตาและตำแหน่ง...โดยขาดการเหลียวแลทางจิตใจ

มีภาวะผู้นำ...แต่ขาดจิตสำนึก   มีภาวะของการให้...แต่เว้นวรรคการกระทำ

หาก...สิ่งที่คุณ sila ได้ตั้งใจถ่ายทอด ผ่านสังคม online

ด้วย วัตถุประสงค์ เดียว คือ การให้  และนำกลับไปใช้...

รอยยิ้ม...แห่ง หัวใจของผู้ให้  ก็จะเปี่ยมไปด้วยพลังแห่งความสุข

ไฉนเลย...เราจะไม่ร่วมกันสร้างวัฒนธรรมองค์กร แบบนี้ ให้ปรากฏแบบยั่งยืน ซะที

หวังอยู่ ลึก ๆ ครับว่า ภาวะผู้นำที่ ดี ไม่ใช่สร้างกันได้ง่าย ๆ หากในใจไม่เต็มไปด้วยหัวใจของการให้

มาด้วยความระลึกถึง แบบหัวใจเนื้อ เนื้อ ครับ คุณ sila 

 

 

 

 

 

ขอบคุณค่ะ..ได้ข้อคิดดีๆมากมาย...อย่าลืมให้ความสนใจบุคคลทึ่องค์กรถือว่าเป็น "ซากทางวัฒนธรรม" (remnant) ~ ผู้เฒ่าเล่าขานตำนานทางประวัติศาสตร์ขององค์กร..เพื่อให้การต่อยอดวัฒนธรรมองค์กร..มีความกลมกลืนกับเอกลักษณ์ขององค์กรอย่างสง่างาม..

  • จ๊ะเอ๋ น้องน้ำแข็ง P น่ารักจังเลย รออ่านบันทึกนะ เขียนเร็ว ๆ ล่ะ เขียนช้าจะตามไปจิกที่โต๊ะทำงาน หรือไม่ก็อีเมล์ไปแหย่ทุกวัน

การยึดติด...ในอัตตาและตำแหน่ง...โดยขาดการเหลียวแลทางจิตใจ

มีภาวะผู้นำ...แต่ขาดจิตสำนึก   มีภาวะของการให้...แต่เว้นวรรคการกระทำ

หาก...สิ่งที่คุณ sila ได้ตั้งใจถ่ายทอด ผ่านสังคม online

ด้วย วัตถุประสงค์ เดียว คือ การให้  และนำกลับไปใช้...

รอยยิ้ม...แห่ง หัวใจของผู้ให้  ก็จะเปี่ยมไปด้วยพลังแห่งความสุข

ไฉนเลย...เราจะไม่ร่วมกันสร้างวัฒนธรรมองค์กร แบบนี้ ให้ปรากฏแบบยั่งยืน ซะที

หวังอยู่ ลึก ๆ ครับว่า ภาวะผู้นำที่ ดี ไม่ใช่สร้างกันได้ง่าย ๆ หากในใจไม่เต็มไปด้วยหัวใจของการให้

  • สังคมกำลังเปลี่ยนแปลงไปสู่ยุคของการเรียนรู้ตัวตนและคนอื่น แลกเปลี่ยนสิ่งดีงามด้วยกัน การ "นำ" ผู้อื่นฝ่ายเดียวกำลังเข้าสู่ยุคถอยหลัง หากใครประพฤติเยี่ยงนั้น ก็อาจจะต้องฉุกคิดใหม่ แม้ไม่มีใครพูดออกมา แต่ก็รู้แก่ใจกันดี
  • คนละไม้ คนละมือ เชื่อว่าสังคมต้องมีแต่ความเมตตาและสันติค่ะ
  • ศิลาจะจดจำคมคำของพี่นงนาทไว้นะคะ P  ซากทางวัฒนธรรม" (remnant)
  • จะให้เกียรติเคารพยกย่องและศรัทธาบุคคลที่เสียสละเพื่อองค์กร และถอดความรู้ของท่านเหล่านั้นมาสอนรุ่นลูกหลานสืบต่อไปค่ะ

อาจารย์รับงานให้คำปรึกษาและเป็นวิทยากรสำหรับองค์กรทั่วๆไปด้วยหรือไม่คะ อยากขอคำปรึกษาสำหรับการอบรมและพัฒนาพนักงานค่ะ

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท