วันนี้เครื่อง HPLC พึงถูกปลุกขึ้นมาใช้งานจากที่หลับไหลมาหลายวัน เพราะไฟตกแล้วฟิลล์ขาด ใจชั่ว ๆของฉํนแอบลุ้นให้มันใช้งานไม่ได้ เพราะว่าจะได้ลาพักผ่อนได้สบาย ๆ แบบไม่มีงานค้าง ในพฤหัสบดีและศุกร์นี้ แต่แล้วเครื่องมันก็ใช้งานได้ ทำไงดีหล่ะทีเนี๊ย ไม่ว่าจะไม่อยากทำแค่ไหน หน้าที่ก็คือหน้าและต้องทำให้ดีที่สุด อย่างที่ครูท่านสอน ฉันค่อย ๆ ลงมือทำงาน อย่างตั้งใจ ด้วยความตั้งใจมาก ๆ จนมากไป ทำให้ฉันรู้สึกเครียด โดนกิเลสเล่นงาน แบบตะหลบหลังอีกแล้ว ต้องบอกมันว่า
"ฉันเห็นนะว่าแกเครียด แต่เครียดก็ต้องทำ"
พอเริ่มจะคล้อยบ่าย เอาหล่ะซิ เครียดหนักขึ้น ทำไงดี ทั้ง ๆ ที่ลมหายใจก็ยังชัดเจนอยู่ แต่ความกังวล จึงนั่งลงหายใจสบาย แล้วพิจารณา
"อะไรทำให้รู้สึกเครียด เพราะงานที่ฉันรับผิดชอบ ไม่ทราบขอบเขตชัดเจนว่า ต้องการแค่ไหน และฉันก็รู้สึกกลัวที่จะเดินไปคุยกับพี่ ว่าท่านตั้งเป้ามากเพียงใดในการมอบหมายงานนี้ ความกลัวจู่โจมรุนแรงมาก จนฉันรู้สึกหิว เหมือนจะหน้ามืด ได้แต่หายใจ"
หลบออกจากห้อง lab ไปนั่งหายใจที่ชั้น 2 ได้น้ำเต้าหู้ ผสมข้าวกล้องจากพี่ที่เมตตา 1 แก้ว มาหล่อเลี้ยงจิตใจและร่างกาย ฉันจึงบอกกับตนเองว่า
“เอาวะ ตายก็ตายสำคัญที่สุดคือ ว่า พฤหัสบดี และศุกร์นี้ฉันต้องขอลาพักผ่อน ถ้าไม่ให้ลาพักผ่อนก็จะขอลาป่วยหรือกิจ ตามแต่เหตุและปัจจัย เพราะว่าเป็นภารกิจที่สำคัญมากที่จะต้องทำ”
เดินกลับมาที่หน้าเครื่อง HPLC ดูงานตนเอง พี่เดินผ่านมาพอดี จึงขอโอกาสเรียนปรึกษาและขอความรู้เกี่ยวกับงาน ได้ความว่างานที่ออกมาดีที่เดียว หนูยิ้มออก แล้วจึงขอสอบถามว่า ต้องทำขนาดไหน เพื่อให้เป็นไปตามเป้าหมายที่พี่วางไว้ ท่านตอบว่า
“เราเพียงได้เรียนรู้แค่นี้ก็ โอเคแล้ว และนี่ ผลที่ออกมาก็ถือว่าดีทีเดียว” หนูรู้สึกโล่งใจ
“ถ้าเช่นนั้นพฤหัสบดีและศุกร์นี้หนูขอลาพักผ่อนได้หรือไม่”
พี่ยิ้มและตอบว่า “ได้เลย” เหมือนเสียงสวรรค์มาก
หนูรู้สึกโล่งใจ เหมือนความกังวลที่เกิดขึ้นขมุกขมัวทั้งวัน มลายหายไปทันที
ทำให้ฉันทบทวนว่า ความกลัวที่เกิดขึ้นมานี้ เป็นสิ่งที่ฉันสร้างขึ้นเอง
แล้วมันก็ทำร้าย ตัวฉันเลย
สุดท้ายการที่ฉันยอมรับความจริงและอาจหาญที่จะยอมรับกับพี่
ทำให้ฉันปลดปล่อยตัวเอง
วันนี้ได้เรียนรู้ว่า ถ้าปล่อยให้อารมณ์ครอบงำจิตใจ แล้วไม่ทำความเข้าใจ หรือ ยอมรับมัน มีแต่ดึงรั้งความกลัวไว้ทำร้ายกาย ทำร้ายใจตนเอง ขอบคุณนะคะทุกสิ่งที่เข้ามาสอน ขอบคุณนะคะ คุณครู ที่ครูเคยสอนหนูว่า
“ปลดปล่อยเธอซะ ปลดปล่อยผู้หญิงที่หนูกักขังเขาไว้ภายในซะ หนูพึ่งเข้าใจก็วันนี้เอง หนูไม่เคยเชื่อมาก่อนว่าหนู ทำร้ายตนเอง แต่วันนี้ ประจักษ์ซึ้งในใจว่า ไม่มีใครทำร้ายหนูเลย มีแต่ตัวหนูนี่เองที่คอยแต่ ทำร้ายตนเอง”
เหมือนคำสอนของครูผุดขึ้นมาสอนหนู มันน่าทึ่งมาก ๆ ค่ะ เรื่องนี้ครูสอนหนูนานมาแล้ว แต่หนูเอง "พึ่งจะเข้าใจ"
สวัสดี ครับ
“ปลดปล่อยเธอซะ ปลดปล่อยผู้หญิงที่หนูกักขังเขาไว้ภายในซะ หนูพึ่งเข้าใจก็วันนี้เอง หนูไม่เคยเชื่อมาก่อนว่าหนู ทำร้ายตนเอง แต่วันนี้ ประจักษ์ซึ้งในใจว่า ไม่มีใครทำร้ายหนูเลย มีแต่ตัวหนูนี่เองที่คอยแต่ ทำร้ายตนเอง”
อ่านบันทึกนี้ แล้ว คิดถึงหนังสือเล่มหนึ่งที่เคยอ่านนานมากแล้ว
...ใครเอาเนยแข็งของฉันไป...
การจะผ่านเขาวงกตให้ได้นั้น ต้องหาหนทางเอง
บางทีก็หลง สับสน แต่หากศรัทธาแล้ว ทางออกของเราดีเสมอ
หนังสือเล่มนี้..
ซ่อนมุมมองความคิดเอาไว้...ให้คิด...และก่อให้เกิดแรงบัยดาลใจอย่างมากมาย
ชื่นชมความคิดของคุณ
มีความสุขกับการทำงานเช้านี้ นะครับ
ขอบพระคุณมากค่ะ
(^_______^)