๗.เป็นนักกฎหมายอย่างผม(อัยการ๓ สินบนหรือสินน้ำใจ)


ข้างในมีข้าวกล้อง มีมะเขือที่เริ่มเหลืองแล้ว มีพริกสดมาอีกหน่อยหนึ่ง..นี่แหละครับสินน้ำใจให้อัยการอย่างผม จะเรียกว่าสินบนได้ไหมครับ.....

ผมเข้ามาเป็นอัยการในช่วงที่กรมอัยการกำลังพัฒนาในระบบการช่วยเหลือทางกฎหมายแก่ประชาชน ในปี ๒๕๒๘ เป็นช่วงที่ต้องออกไปบรรยายกฎหมายตามหมู่บ้านต่างๆ ผมรับราชการอยู่ที่จังหวัดตรัง สมัยนั้นไม่มีอะไรพร้อมสักอย่าง รถก็ไม่มี ต้องใช้รถส่วนตัวขับปุเลงๆเข้าไปสวนยางพาราไปถึงหมู่บ้านเริ่มบรรยายกฎหมาย บรรยายเสร็จเวลาเย็นชาวบ้านเขาชวนกินข้าว บางทีก็ชวนกินเหล้าขาว แฮ่ะๆ ผมก็ร่วมวงพอเป็นพิธี การเข้าไปคลุกกับชาวบ้าน อย่างน้อยผมได้รู้จักกำนันผู้ใหญ่บ้านเพราะต้องประสานงานกัน ทีนี้ก็จะมีกำนันผู้ใหญ่บ้านเอาเรื่องชาวบ้านมาปรึกษาบ่อย เราก็ได้สนุกด้วยเพราะบางทีก็หาเรื่องไปเที่ยวกับกำนันผู้ใหญ่บ้าน รู้พื้นที่ไปด้วย ได้ใจกำนันผู้ใหญ่บ้านด้วย

ผมมีลูกพี่(อัยการจังหวัด)ที่ดี คนหนึ่งเก่งงานวิชาการ เหตุผลในการสั่งสำนวนเฉียบขาดแม่นยำ อีกคนหนึ่งเก่งในเรื่องมนุษยสัมพันธ์ แต่พอถึงเวลาสังสรรค์ลูกพี่ผมฟิวส์ขาดทุกที ผมมีหน้าที่พาลูกพี่ขึ้นไปนอน ฮ่าๆ แต่ลูกพี่คนนี้ท่านสอนให้ผมให้เกียรติลูกน้อง คอยดูแลลูกน้องประคับประคองให้เขาอยู่ในทิศทางที่เหมาะสม ท่านบอกว่าพวกคุณไปใหญ่กันได้เต็มที่ เขาจะได้รู้ว่า ขนาดลูกน้องยังใหญ่ขนาดนี้ แล้วลูกพี่จะใหญ่ขนาดไหน อิอิ

ตอนที่เราเป็นอัยการรุ่นเล็ก เราเข้าใจว่าลูกพี่ให้เราไปวางมาดได้เต็มที่แต่พอเราเติบโตขึ้นและตามดูการทำงานของลูกพี่เราถึงได้รู้ว่า ลูกพี่สอนให้เราใช้อำนาจให้ถูกต้องและเต็มศักยภาพต่างหาก ลูกพี่ไม่เคยไปใช้อำนาจบาตรใหญ่กับชาวบ้านเลย แม้แต่พนักงานสอบสวนท่านบอกว่า “เตะก้นมันได้ แต่อย่าฆ่ามัน” หมายถึงว่าถ้าพนักงานสอบสวนทำสำนวนบิดเบี้ยว อย่าถึงกับจัดการให้เขาต้องออกจากราชการ เพราะนั่นเป็นเรื่องของสำนักงานของเขากันเองที่จะต้องจัดการกัน  แต่เราใช้เครื่องมือที่มีอยู่จัดการกับเขา เช่น สั่งสอบสวนเพิ่มเติมให้ส่งพยานมาให้เราซักถามข้อเท็จจริงเอง วิธีนี้ได้ผลมานักต่อนักแล้ว

        ที่นี่เองที่ผมซาบซึ้งกับคำว่าน้ำใจของชาวบ้าน มีคดีอยู่เรื่องหนึ่งที่ชาวบ้านถูกจับฐานมีอาวุธปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต ผมรับสำนวนมาแล้วยังไม่ทันได้เขียนความเห็น ก็รู้สึกว่าคดีนี้มันมีอะไรแปลกๆเพราะปืนของกลางเป็นของบิดาที่จดทะเบียนถูกต้อง แต่บิดาตายไปหลายปีแล้ว จำเลยครอบครองปืนกระบอกนี้ต่อจากบิดา คำถามคาใจก็คือ ลูกผิดด้วยหรือ ผมก็เลยใช้เวลาค้นหาคำพิพากษาและคำวินิจฉัยของอธิบดีกรมอัยการ และผมก็พบว่ามันมีกฎหมายเฉพาะว่า ถ้าผู้ครอบครองอาวุธปืนมรดกไม่แจ้งการครอบครอง โทษก็คือปรับ อายุความเพียง ๑ ปี เมื่อผู้ต้องหาครอบครองอาวุธปืนตั้งแต่แรกมาจนถึงวันที่ถูกจับเป็นระยะเวลานานถึง ๕ ปี ก็ดำเนินคดีกับจำเลยไม่ได้

        ยังไม่ทันได้เขียนสำนวนเลยครับ มียายคนหนึ่งหิ้วตะกร้ามาขอพบเจ้าของเรื่องคือผม แกเล่าให้ฟังถึงความยากลำบากว่าหลังจากสามีแกตาย แกต้องสู้ชีวิตอย่างไร ลูกชายที่ถูกจับก็เพี้ยนๆมาตั้งแต่ยังหนุ่ม ชอบนุ่งขาวห่มขาวและชอบอยู่ที่สูง ไปอยู่ในสวนบนเขา วันดีคืนดีก็ปีนไปอยู่บนต้นไม้และมาเอาปืนไปนาน ๓-๔ ปีแล้ว ช่วยยายด้วยเหอะ แต่ยายไม่มีตังค์อะไรหรอก มาขอความช่วยเหลือจริงๆ ผมเวทนายายที่อายุก็มากแล้วก็ยังต้องมาประกันตัวลูก ทำเพื่อลูก และจากข้อกฎหมายลูกยายก็ไม่ผิดด้วย จึงรับปากช่วย(ทั้งๆที่จริงๆแล้ว ก็ไม่เรียกว่าช่วยเพราะทำไปตามหน้าที่)

ผมเสนอความเห็นควรสั่งไม่ฟ้องและแนบคำวินิจฉัยชี้ขาดของอธิบดีกรมอัยการไปด้วย ปรากฏว่าลูกพี่เห็นด้วย จึงสั่งไม่ฟ้องเสนอผู้ว่าราชการจังหวัด และผู้ว่าราชการจังหวัดให้ความเห็นชอบด้วย พราหมณ์ลูกยายก็รอดคุกมาด้วยประการะฉะนี้

หลังจากนั้น ๒-๓ เดือน ผมกลับมาจากศาลในตอนบ่าย มาเจอยายนั่งเคี้ยวหมากแหย่บๆ อยู่ที่หน้าสำนักงานมีตะกร้ามาด้วย เจอหน้าผมยายจำได้ด้วยเรียก “ลูกอัยการ ยายไม่มีอะไรมาฝาก เก็บมะเขือไว้สองสามวันแต่ไม่ได้ลงมา(จากภูเขา) กับข้าวไร่ยายสีไว้ให้” แล้วยื่นให้ผม ผมดีใจมากๆที่ยายรักเราเหมือนลูกหลาน ถุงที่ใส่ของมาฝากก็เก๊าเก่า..กรุณานึกภาพถุงพลาสติกเก่าๆที่ผ่านการใช้มาแล้วสักสิบครั้ง น่าน...ข้างในมีข้าวกล้อง มีมะเขือที่เริ่มเหลืองแล้ว มีพริกสดมาอีกหน่อยหนึ่ง..นี่แหละครับสินน้ำใจให้อัยการอย่างผม จะเรียกว่าสินบนได้ไหมครับ.....

ผมย้ายออกจากจังหวัดตรังในปี ๒๕๓๐ ไปที่ตะกั่วป่า สถานที่ที่เคยเป็นทนายและนักดนตรีสวนอาหาร แต่วันนั้นไปในฐานะอัยการจังหวัดผู้ช่วย ผู้คนต้อนรับผมดีมาก เพราะเราไม่เคยวางก้ามกับใคร ผมไปร่วมงานบวช งานศพ งานแต่งงาน งานกฐิน ผ้าป่า อยู่ว่างๆก็คิดอยากจัดรายการวิทยุเพื่อเอาความรู้ทางกฎหมายส่งให้ถึงหูชาวบ้าน ต้องจูงใจด้วยเพลงลูกทุ่งปักษ์ใต้ที่สมัยนั้นต้องมีบทพูดตลกๆแบบเพลงของเพลิน พรมแดน ชาวบ้านติดกันงอมแงม เพราะผมจัดรายการเป็นภาษาท้องถิ่น เวลาผมไปบรรยายแต่ละครั้งจะมีชาวบ้านมาฟังกันเยอะ ก่อนย้ายจากตะกั่วป่า ผมไปบรรยายกฎหมายที่ อ.คุระบุรี เป้าหมายของการฝึกอบรมจะอบรมกฎหมายให้ชาวบ้าน ๑๕๐ คนตามเป้าหมายที่กรมอัยการสมัยนั้นวางไว้ แต่ปรากฏว่ามีคนมาฟังบรรยายถึง ๓๐๐ คน ยิ่งคนฟังเยอะมุขผมก็หลั่งไหลไม่ขาดสาย ส่วนใหญ่มุขทะลึ่ง ฮา...จะเอาสักเรื่องไหมครับ อิอิ

หมายเลขบันทึก: 307868เขียนเมื่อ 22 ตุลาคม 2009 22:08 น. ()แก้ไขเมื่อ 20 มิถุนายน 2012 10:59 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (13)

อัยการ ชาวเกาะ เจาะจิต

ทุกทิศ ชื่นชม สมศักดิ์

อยู่ไหน อยู่นี่ มีคนรัก

ประจักษ์ น้ำใจ ไมตรี

ขอบคุณท่านอัยการชาวเกาะมากๆค่ะ...ที่นำเรื่องราวการทำงานด้านกฏหมายที่เต็มไปด้วยความสนุกแต่มีสาระ...ทำให้ครูนกมีความรู้แวดวงอัยการจากเดิมที่ไม่รู้อะไรเลย

สวัสดีค่ะ

  • พี่คิมมาเยี่ยมรอบดึกค่ะ
  • เขียนบันทึก  ยังอยู่ที่หาดใหญ่ค่ะ..กว่าจะถึงภูเก็ตก็อีกหลานตอน
  • พี่คิมและน้องนัทขอขอบพระคุณท่านอับการและคุณแอ็ด และหลานทั้งสองมากค่ะ

พิสูจน์ ครูดี หายาก

ลำบาก เพื่อเด็ก เสมอ

ชื่นชม น้ำใจ จริงเออ

คารวะ ใจเธอ จริงจริง

ครูนกครับ

ทุกอย่างมีสองด้านเสมอ มีด้านมืดและมีด้านสว่าง

ผมไม่ได้มีแต่ด้านสว่าง แต่กาลเวลา ประสบการณ์และพื้นฐานของครอบครัว ทำให้เราเป็นแบบนี้

ขอบคุณที่ยังติดตามบันทึกครับ

พี่คิมครับ

จะรอจนกว่าบัสตรังมาถึงภูเก็ตครับ อิอิ

ต้องขออภัยที่ต้อนรับพี่คิมกับน้องนัทได้ไม่เต็มที่เนื่องจากมีนัดประชุมไว้ก่อนและนัดวันพักผ่อนกับครอบครัวไว้ล่วงหน้าเป็นเดือนครับ ไว้มาใหม่คราวหน้าขอให้แจ้งก่อนล่วงหน้าจะได้จัดวันถูกครับ คนดังไม่ค่อยว่างครับ ก๊ากๆ

มาเยี่ยมยามเช้าครับ ชอบอ่านมากครับ

ขอบคุณคุณวรวัตน์ ที่แวะมาเยี่ยมครับ

ยินดีที่ชอบครับ

อ่านแล้วสนุกดีนะ

จาก ประโยคนี้ (ส่วนใหญ่มุขทะลึ่ง ฮา...จะเอาสักเรื่องไหมครับ อิอิ)

ฮา...เล่ามาเลยค่ะ คอยติดตามตอนต่อไป ฮา...555

สวัสดีครับครูจิ๋ว

ผมบรรยายกฎหมายครอบครัวมรดก แล้วอธิบายว่าเมื่อถึงแก่ความตาย ทรัพย์มรดกจะตกแก่ทายาททันที ถ้าทำพินัยกรรมยกทรัพย์ให้ลูกหลานไว้ก็ดี ไม่ต้องมาเถียงกันว่าใครจะได้ตรงไหน แต่บางคนตายไปยังกังวลไม่ไปผุดไปเกิดเสียที

มีผีนั่งคุยกันในห้องน้ำ ผีตัวหนึ่งก็พูดว่า เอ็งเป็นอะไรตายละ ข้าผูกคอตายลูกหลานมันทะเลาะจะแย่งสมบัติกัน ข้าฯไม่มีความสุขก็เลยผูกคอตายให้รู้แล้วรู้รอดไป ผีตัวที่สองก็บอกว่า ข้าฯเกิดอุบัติเหตุรถที่ข้าฯนั่งมาถูกสิบล้อชน แต่ข้าฯไม่กังวลเรื่องมรดกเพราะทำพินัยกรรมไว้แล้ว ผีทั้งสองตัวได้ยินผีห้องน้ำอีกตัวหนึ่งร้องครางฮือๆ อยู่ก็ร้องถามว่า เอ็งเป็นอะไรตาย่ะ มัวแต่ร้องไห้อยู่ได้ ตายไปแล้วก็ไม่ต้องไปยุ่งกับพวกมนุษย์อีกต่อไปแล้ว หยุดร้องเหอะ....

ผีตัวที่สามบอกว่า กูยังไม่ตายกำลังอึ๊อยู่ พวกผีมึงไปคุยที่อื่นได้ไหมกูกลัวจนอึ๊หดหมดแล้ว ฮ่าๆ...

  • สวัสดีครับท่านอัยการชาวเกาะ
  • ตามมาอ่านต่อ
  • ของที่คุณยายนำมาให้เรียกว่าสินน้ำใจไหมครับ..
  • อิอิ..ไม่ใช่สินบนเพราะให้ด้วยความรัก..
  • รออ่านมุขต่อไปครับ

ผมขอเรียนถามนิดนึง ครอบครองมา ๕ ปีแต่ก็ครอบครองต่อเนื่องอายุความไม่ขาดไม่ใช่หรือครับ หรือผมเข้าใจมาผิดๆ เรียนถามด้วยความเคารพ

สวัสดีครับทนายเบิ้ม

กรณีตามเรื่องที่ว่านั้น เป็นกรณีความผิดฐานรับมรดกอาวุธปืนของเจ้ามรดกแล้วไม่แจ้งการครอบครอง ซึ่งมีบทบัญญัติความผิดไว้โดยเฉพาะแล้ว ความผิดเกิดเมื่อรับมรดกไว้ครบกำหนดแล้วไม่แจ้งต่อนายทะเบียน ความผิดก็เริ่มนับ ตั้งแต่ตอนนั้น ข้อหานี้มีอายุความ ๑ ปีครับ เมื่อไม่มีการดำเนินคดีภายในกำหนดอายุความจึงไม่ดำเนินคดีครับ บังเอิญขณะที่ตอบนี้ผมอยู่นอกบ้านไม่มีตัวบทอยู่ในมือ แต่เป็นความผิดที่กำหนดไว้ใน พรบ.อาวุธปืนฯครับ ลองดูนะครับ

ขออภัยที่มาตอบช้าเพราะวุ่นอยู่กับเตรียมงานแต่งงานลูกชายครับ ต้องขออภัยอย่างยิ่งครับ

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท