ธรรมฐิต
พระ(มหา) วิชิต ชิต สมถวิล(ฐิตธมฺโม)

จิตวิญญาณของเทศกาลกินเจ


ธรรมฐิตไม่ได้เขียนบันทึกมาหลายเพลาแล้ว

หลังจากออกพรรษาเดินทางไปหลายแห่ง

แต่ตอนนี้กลับมาที่พักใจมาลัยทองคำแล้ว

เข้าไปอ่านบันทึกเรื่องราวการกินเจของบัณฑิตหญิงท่านหนึ่ง

เลยอยากเขียนบ้าง  ปกติเราจะเห็นพระบางรูปฉันเจอยู่เหมือนกัน

แต่สำหรับธรรมฐิต  ได้ทั้งนั้นถ้าไม่ผิดธรรมวินัยฉันได้ทั้งนั้น

เรื่องการไม่ทานเนื้อสัตว์สำหรับพระ   สมัยพุทธกาลพระเทวทัตต์

เคยทูลขออนุญาตให้พระพุทธเจ้าบัญญัติไม่ให้พระทานเนื้อสัตว์

แต่พระองค์ไม่ทรงอนุญาต  เพราะจะเป็นภาระยุ่งยากให้ญาติโยม

แต่จะมีวินัยห้ามไว้แผนกหนึ่งว่าเนื้อยังไงทานได้ไม่ได้(ค่อยบันทึกให้อ่านกัน)

สำหรับเทศกาลการถือศีลกินเจ 

ก็เป็นสิ่งที่ดีที่ทำให้เราไม่ต้องเบียดเบียนชีวิตสัตว์

แต่บางคนในสมัยนี้  เทศกาลกินเจเป็นเพียงแฟชั่นอย่างหนึ่งเท่านั้น

งานเทศกาลกินเจที่ธรรมฐิตไม่ค่อยเห็นด้วยสักเท่าไรอย่างหนึ่งคือ

อาหารที่ประกอบไม่มีเนื้อสัตว์มาปรุงก็จริง  แต่ทำไมบางแห่งต้องทำเป็นรูปร่างชิ้นส่วนของสัตว์ด้วยเล่า  มีรูปน่องไก่  ปลา  ปู  และอีกหลายชนิด 

ธรรมฐิตว่าตรงนี้แหละที่ว่าเรากินเจกันเพราะแฟชั่นมากกว่า  ไม่ทานเนื้อสัตว์  แต่จิตวิญญาณยังไม่พ้นการยึดติดในการทานเนื้อสัตว์  เพราะเวลาทานก็คงปรุงแต่งทางด้านจิตวิญญาณว่านี้น่องไก่นะ  ปูทอดนะ  ปลาทอดนะ ฯลฯ  แล้วการกินเจโดยไม่ฆ่าสัตว์แต่ในมโนสำนึกยังยึดติดในเนื้อสัตว์แบบนี้จะทำให้จิตเราดีขึ้นมากน้อยแค่ไหนลองคิดดูละกัน 

แต่สำหรับบางคนแล้วก็ถือศีลกินเจด้วยความบริสุทธิ์ใจจริงๆ

ก็ขออนุโมทนาสาธุในส่วนนั้นละกัน  เราจะทำอะไรสักอย่างหนึ่งก่อนอื่นลองถามใจตัวเองบ้างว่าทำอย่างนี้ทำไม  ทำแล้วได้อะไรบ้าง  เพราะบางครั้งเราทำเพราะแฟชั่นในสังคมพาไปมากกว่าใจในมโนสำนึกเสียอีก...

ธรรมะสวัสดีขอรับ

 

คำสำคัญ (Tags): #ธรรมฐิต
หมายเลขบันทึก: 307863เขียนเมื่อ 22 ตุลาคม 2009 21:47 น. ()แก้ไขเมื่อ 25 มีนาคม 2012 16:50 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (14)

นมัสการค่ะหลวงน้า

หนูมีภาพถ่ายมาจากภูเก็ตมากมายค่ะ เกี่ยวกับอาหารเจ

แต่ยังไม่มีเวลาได้ลงบันทึก ต้องทะยอยลงเป็นเรื่อง ๆค่ะ

นมัสการค่ะ ท่านธรรมฐิต

ขอบพระคุณในการให้สติในการร่วมเทศกาลกินเจค่ะ

นมัสการค่ะท่านธรรมฐิต

  • การกินเจนั้นสำหรับผึ้งงานเองแล้วก็มีโอกาสทำได้ติดต่อกันเพียงปีละครั้ง (10 วัน)เพราะในช่วงธรรมดาจะหาอาหารทานยาก จะเป็นการเบียดเบียนตัวเองมากเกินไป ในเรื่องสุขภาพ(เป็นบาป...ใช่ไหม?คะ)
  • มนุษย์จะตัดยากก็ตรงการติดในรูป รส กลิ่น เสียงและสัมผัส นี่แหละ จึงทำให้มีการกินเจในรูปแบบใหม่ที่ท่านธรรมฐิตได้กล่าวถึง
  • คิดในแง่บวก...ว่าอย่างน้อยก็ทำให้คนได้ทานเนื้อสัตว์ในช่วงนี้ลดลง ก็คงเกิดบุญขึ้นบ้างค่ะ
  • ขอบคุณสำหรับการเตือนสติในช่วงการกินเจค่ะ.

เห็นด้วยกับท่านมานานแล้วครับ

ว่าหากจะกินเจเพราะเมตตาสัตว์ก็ไม่น่าจะต้องทำลักษณะและรสที่เหมือนสัตว์

มองอีกด้านหนึ่งมันก็เป็นการทำรูปแบบใหม่เพื่อการค้านะครับ และเป็นที่นิยมมากเลย

นมัสการค่ะ...หลวงพี่

เห็นด้วยค่ะ...ไหน ๆ จะกินเจกันทั้งที...ทำไมต้องมาแต่งรูป รส กลิ่น เสมือนว่ายังไม่ได้ละทิ้งสิ่งเหล่านี้ได้จริง ๆ...ขอบพระคุณมากค่ะ

Pว่างๆหลวงน้าจะแวะไปชมจ๊ะหนูนัท..

 

Pก็เพียงแค่พูดตามที่เห็นเท่านั้นขอรับพี่ครู..

Pทุกอย่างถ้าทำด้วยความบริสุทธิ์ใจย่อมมีแง่บวกเสมอขอรับ.

Pทุกอย่างหากเปล่งปลั่งมาจากข้างในรสชาติจะหอมกรุ่นเสอมขอรับคุณหมอ..

กราบนมัสการเจ้าค่ะ

การกินเจบางคน กินตามแฟชั่น บางคนชอบที่จะกินเนื้อสัตว์แต่ว่าไม่ต้องการเบียดเบียนชีวิตผู้อื่น บางคนกินเพื่อสุขภาพ บางคนกินตามๆ คนอื่น แต่ละคนมีเหตุผลที่จะเลือกกินเจแตกต่างกันออกไปเจ้าค่ะ

ในความเห็นดาว เรื่องการยึดติดกับรสชาติของเนื้อสัตว์และการไม่ต้องการเบียดเบียนชีวิตสัตว์เป็นคนละส่วนกัน จริงอย่างที่ท่านธรรมฐิตว่า เราไม่ควรจะยึดติดกับรูปร่าง รสชาติ ของอาหารที่เรารับประทานเข้าไป แต่การที่ปรุงแต่งอาหารเจให้มีรสชาติให้น่ารับประทานก็เป็นการเชิญชวนให้ผู้คนส่วนมากหันมารักษาศีล ลดการเบียดเบียนชีวิตของผู้อื่นไม่ใช่เหรอเจ้าคะ สำหรับผู้ที่ยังยึดติดในรสชาติและรูปลักษณ์ของอาหาร จะให้เค้ากินแต่เต้าหู้ ผัดผัก ก็เห็นจะเป็นไปได้ยาก

จะมีสักกี่คนที่รับประทานอาหารโดยไม่ยึดติดกับรูปรสของอาหาร ต้องเป็นผู้ที่ปฏิบัติจริงๆ เท่านั้น...แม้ว่าเทศกาลถือศีลกินเจจะเป็นเหมือนกระแสแฟชั่น แต่อย่างน้อยๆ ช่วงเทศกาลนี้ก็มีอีกหลายชีวิตได้รอดตายนะเจ้าคะ

เทศกาลถือศีลกินเจมีรายละเอียดปลีกย่อย จุกจิกมากมาย...ใครจะได้อะไรจากเทศกาลนี้บ้างคงต้องขึ้นอยู่กับแต่ละบุคคลว่าใครสามารถพิจารณาแก่นแท้ของการกินเจได้ต่างหาก

ขอบพระคุณสำหรับบันทึกเตือนสติในการกินเจเจ้าค่ะ

กราบนมัสการเจ้าค่ะ

การกินเจบางคน กินตามแฟชั่น บางคนชอบที่จะกินเนื้อสัตว์แต่ว่าไม่ต้องการเบียดเบียนชีวิตผู้อื่น บางคนกินเพื่อสุขภาพ บางคนกินตามๆ คนอื่น แต่ละคนมีเหตุผลที่จะเลือกกินเจแตกต่างกันออกไปเจ้าค่ะ

ในความเห็นดาว เรื่องการยึดติดกับรสชาติของเนื้อสัตว์และการไม่ต้องการเบียดเบียนชีวิตสัตว์เป็นคนละส่วนกัน จริงอย่างที่ท่านธรรมฐิตว่า เราไม่ควรจะยึดติดกับรูปร่าง รสชาติ ของอาหารที่เรารับประทานเข้าไป แต่การที่ปรุงแต่งอาหารเจให้มีรสชาติให้น่ารับประทานก็เป็นการเชิญชวนให้ผู้คนส่วนมากหันมารักษาศีล ลดการเบียดเบียนชีวิตของผู้อื่นไม่ใช่เหรอเจ้าคะ สำหรับผู้ที่ยังยึดติดในรสชาติและรูปลักษณ์ของอาหาร จะให้เค้ากินแต่เต้าหู้ ผัดผัก ก็เห็นจะเป็นไปได้ยาก

จะมีสักกี่คนที่รับประทานอาหารโดยไม่ยึดติดกับรูปรสของอาหาร ต้องเป็นผู้ที่ปฏิบัติจริงๆ เท่านั้น...แม้ว่าเทศกาลถือศีลกินเจจะเป็นเหมือนกระแสแฟชั่น แต่อย่างน้อยๆ ช่วงเทศกาลนี้ก็มีอีกหลายชีวิตได้รอดตายนะเจ้าคะ

เทศกาลถือศีลกินเจมีรายละเอียดปลีกย่อย จุกจิกมากมาย...ใครจะได้อะไรจากเทศกาลนี้บ้างคงต้องขึ้นอยู่กับแต่ละบุคคลว่าใครสามารถพิจารณาแก่นแท้ของการกินเจได้ต่างหาก

ขอบพระคุณสำหรับบันทึกเตือนสติในการกินเจเจ้าค่ะ

Pทานเพื่อยังอัตตภาพให้เป็นไปได้แล้วเรื่องจุกจิกจะไม่มารบกวนใจขอรับดาวฟ้า..

Pสาธุขอรับอาจารย์

สิ่งที่สำคัญอยู่ที่ว่าเรากินเพราะสาเหตุอะไร..

 

กราบขอบพระคุณเจ้าค่ะ...ปัจจุบันก็กำลังพยายามกระทำเช่นดังที่ท่านธรรมฐิตแนะนำเจ้าค่ะ

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท