วราภรณ์
นางสาว วราภรณ์ (ดอกไผ่) ธรรมทิพย์สกุล

สิบนาทีที่รู้ตลอดชีวิตคุณต้องเรียน


ก่อนเรียนต้องสวดมนต์ถวายตัวเป็นพุทธมามกะก่อนเรียน

กราบเท้า  คุณลุง  คุณป้า  ด้วยความเคารพรัก

                        นานเพียงใดแล้วที่ไม่ได้คุยกับคุณลุงและคุณป้า ทุกครั้งที่มองไปบนท้องฟ้าเห็นปุยเมฆสีขาวสดใส  อดคิดถึงคุณลุง คุณป้าไม่ได้  ป่านนี้คงเสวยสุขอยู่บนวิมานชั้นใดชั้นหนึ่งเป็นแน่แท้....  

                        ช่วงเวลาที่ห่างหายไป หนูหน่อยไปเรียนวิชาคอมพิวเตอร์ทั่วไปเพิ่มเติมเป็นเวลา  ๓  เดือนเต็ม       รวม ๑๒๐  ชั่วโมง   (ใช้เวลาหลังเลิกงานไปเรียน  ช่วง ๑๖.๓๐ – ๑๘.๓๐ น. ต้องขับรถไปกลับออกไปเรียนในตัวอำเภอเมือง รวม เกือบ ๔๐  กิโลเมตร) เผลอแปลบเดียวก็จบหลักสูตรแล้วค่ะ   เมื่อวันที่  ๑๔  กันยายน   มีรูปมาอวดคุณลุง  คุณป้าด้วยค่ะ

 

ภาพเพื่อนร่วมห้องค่ะ (ธรรมทิพย์อยู่ไหนเอ่ย)
ยืนตรงกลาง พระธรรมปริยัติเวที  เจ้าคณะภาค ๑๕

                        โครงการนี้ได้รับความเมตตาจากพระธรรมปริยัติเวที เจ้าคณะภาค ๑๕ เจ้าอาวาสวัดพระปฐมเจดีย์ราชวรมหาวิหาร อ.เมือง จ.นครปฐม  ออกค่าใช้จ่ายในเรื่องจ้างครูมาสอน ค่าไฟฟ้า  และอื่น ๆ อีกมากมาย   รุ่นนี้เป็นรุ่นที่ ๕ แล้วค่ะ   มีผู้สมัครเข้าเรียนประมาณ  ๑๔๐  คน  แบ่งเป็น  ๖  ห้องเรียนค่ะ   มีสองรอบ  ๆ ละ ๓  ห้อง   รอบแรกเวลา  ๑๖.๓๐ – ๑๘.๓๐  รอบที่สองเวลา ๑๘.๓๐ – ๒๐.๓๐  น. 

                       จากผู้สมัครในวันแรก  จนถึงวันสุดท้าย   จบ  ๑๓๓   คนค่ะ  ส่วนที่หายไป   คงมีเหตุปัจจัยหลายประการจึงไม่จบ...   ในแต่ละรุ่นทราบว่าต้องเสียค่าใช้จ่ายประมาณหนึ่งแสนสี่หมื่นบาทค่ะ    แต่พวกเราที่ไปเรียนไม่ต้องเสียแม้แต่บาทเดียว  หลวงพ่อออกให้หมดค่ะ  มีข้อแม้ก็คือ  ก่อนเรียนต้องสวดมนต์ถวายตัวเป็นพุทธมามกะก่อนเรียน  แล้วก็ตั้งใจเรียน  


                        จำได้ว่าในวันปฐมนิเทศ   วันที่  ๑๖  มิถุนายน   เวลา  ๑๗.๐๐ น.   ฝนตกอย่างหนักจนน้ำท่วมโรงเรียนวัดพระปฐมเจดีย์    ซึ่งเป็นสถานที่เรียนและหอประชุมในวันนั้น  น้ำท่วมเจิ่งนอง   จนต้องถอดรองเท้าลุยน้ำเข้าหอประชุม     เข้าไปรายงานตัวแล้ว   หลวงพ่อก็ให้กำลังใจและเตือนสติพวกเราให้ต่อสู้  ทำอะไรทำจริง   ท่านยกตัวอย่างตนเอง   เมื่อครั้งไปเรียนต่อปริญญาโท    เรียนไปได้ไม่ถึงเดือนรู้สึกท้อแท้   อยากจะลาออก   แต่คิดไปคิดมาเดี๋ยวจะอายลูกศิษย์    เดี๋ยวลูกศิษย์จะย้อนเอาว่า  “ทีหลวงพ่อยังเรียนไม่จบ   แล้วจะให้พวกผมเรียนจบได้อย่างไร”   ท่านจึงกัดฟันสู้   จนบัดนี้จบดุษฎีบัณฑิต   และได้เปรียญธรรม  ๙  ประโยคแล้ว

 

                        ฟังหลวงพ่อก็เกิดกำลังใจสู้ค่ะ     ตั้งแต่ไปเรียน  มีหยุดอยู่แค่วันเดียวค่ะ คุณลุง  เป็นวันที่ “เคราะห์ซ้ำ  กรรมซัด  วิบัติเป็น  มิแลเห็นที่ซึ่งจะพึ่งพา”   ขอยืมสำนวนสุนทรภู่มาใช้หน่อยค่ะ    แล้วก็คิดถึง  สุภาษิตจีนที่ว่า  “โชคร้ายมักจะมาพร้อมกันเสมอ”      คิดถึงวันนั้นคราวใด  แล้วยิ่งฝนตกด้วย  ยิ่งทำให้รู้สึกหวาดเสียวไม่น้อย   คุณลุงคงอยากทราบแล้วซีคะว่าเกิดอะไรขึ้น   ไม่บอกหรอกค่ะ  ปล่อยให้อยากรู้  มีอุบัติเหตุนิดหน่อยค่ะ   เล่าให้ลูกศิษย์ฟังเล่นเอาหัวเราะท้องคัดท้องแข็ง  น้ำหูน้ำตาไหล  แต่เจ้าของเรื่องอยากจะร้องไห้จริง ๆ ค่ะคุณลุง   ไว้ค่อยเขียนลงในบล็อกหน้าต่างชีวิต  ค่อยติดตามอ่านนะคะ   เข้าเรื่องต่อค่ะคุณลุงเดี๋ยวไม่จบ

 

                        วันสุดท้ายที่ไปรับวุฒิบัตร   ๑๕  กันยายน  ๒๕๕๒  บรรยากาศเดียวกันเลยค่ะ  ฝนตกหนักอีกแล้ว  ในเวลาไล่เลี่ยกัน  แต่ยังโชคดีที่น้ำไม่ท่วม   บรรยากาศวันนี้ไม่เหมือนวันนั้น  วันนี้พวกเราต่างรู้จักกัน  ห้องหนึ่งก็มีประมาณ ๒๕ คน  อายุสูงสุดในห้อง  ๖๘ ปีค่ะ  ต่ำสุดก็  ๒๐  ปีค่ะ  แต่เราก็เป็นเพื่อนกันได้   มีเพื่อนเพิ่มมากขึ้น  มีทั้งนางพยาบาล  มีคุณครู   มีนักเขียน   นักหนังสือพิมพ์  พ่อค้า 
แม่ขาย  นักธุรกิจเวลาเรียนต่างก็ช่วยเหลือกันเป็นอย่างดี สนุกมากค่ะนับว่าคุ้มค่าแม้จะเสียเวลาแต่ก็ได้มิตรภาพ“รู้อะไรก็ไม่สู้รู้จักกัน”

 

                        หลวงพ่อฝากให้พวกเราท่องบทพุทธคุณ ธรรมคุณ  สังฆคุณ  เพื่อชาติ  เพื่อศาสนา  เพื่อพระมหากษัตริย์  พร้อมทั้งแปลความหมายให้เราฟัง  มีบางช่วงที่ผู้ฟังเสียมารยาทพูดคุยกันหลวงพ่อก็เอ็ดบ้าง   “รู้ไหมกำลังฟังใครพูด   เจ้าคณะภาค ๑๕  เปรียญธรรม ๙ ประโยค ไม่ได้หาฟังได้ง่าย ๆ  นา  จะคุยก็รออดใจเดี๋ยวค่อยคุยตอนกินเลี้ยง  ให้มันรู้เสียบ้างว่าฟังใครพูด”  พูดจบ  คนฟังตกใจเงียบกริบ   หลวงพ่อจึงบอกว่า  “พูดไปอย่างนั้นแหละจริง ๆ แล้วอาตมาใจดีไม่มีอะไรอยากให้พวกเรามีระเบียบวินัย”

                        สุดท้ายก็มีการเลี้ยงฉลองอาหารโต๊ะจีนค่ะ   โดยเก็บเงินค่าใช้จ่ายจากนักศึกษา  โชคดีที่มีอาหารเจบริการ  ๑   โต๊ะ  จึงทำให้ได้รู้จักเพื่อนร่วมโต๊ะอาหารเพิ่มมากขึ้นค่ะ  และที่โต๊ะอาหารนี้เองหนูหน่อยก็ได้รู้จักสาวนักสู้จากที่ราบสูงที่ฟังเรื่องราวของเธอแล้วทำให้รู้สึก  ทึ่งและชื่นชมเธอจริงๆ  (คลิกไปอ่านได้ค่ะ)

http://gotoknow.org/blog/thamtipsakul/298485

                        ตอนนี้ก็ดึกแล้ว  คุณลุง คุณป้าอ่านหนังสือมาก  ๆ   อาจมีปัญหาเรื่องสายตา       คุยแค่นี้ก่อนนะคะ  ฉบับหน้าค่อยพบกันใหม่ค่ะ

 

                                                                    ด้วยความเคารพรัก

                                                                          หนูหน่อย
                                              

                                              ฉลองความสำเร็จ ขวาสุด คุณครูอดิศร  ผู้สอนค่ะ
                                                 โปรดสังเกตผู้เรียนแก่กว่าคุณครูทุกคนค่ะ

 

          "สิบนาทีที่รู้ตลอดชีวิตคุณต้องเรียน"                           

 

หมายเลขบันทึก: 305959เขียนเมื่อ 14 ตุลาคม 2009 21:40 น. ()แก้ไขเมื่อ 6 กันยายน 2013 21:43 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (12)

สวัสดีค่ะพี่ธรรมทิพย์ อ่านจบแล้วค่ะ...แต่อีกนั่นแหละ ไม่เห็นภาพอีกแล้วค่ะ...

สวัสดีครับอาจารย์วราภรณ์

เอข้ามาเยี่ยมทักทายครับ

ขอบคุณครับที่เข้าไปเยี่ยมที่บล็อก

อีกแล้วครับ ไม่เห็นภาพอีกแล้ว

เอานี่ไปดูละกันครับ

 

  • สวัสดีค่ะ น้องVij P
  • ขอบคุณค่ะที่เข้ามาทักทายพร้อมเสนอแนะ
  • แก้ไขแล้ว  ไม่ทราบเห็นภาพยังคะ ?
  • สวัสดีค่ะ  คุณBob P
  • ขอบคุณที่มาเยี่ยมพร้อมดอกไม้สวย ๆ ชอบมากค่ะ
    โดยเฉพาะดอกไม้สีขาว
  • สุขกายสบายใจมีเงินใช้นะคะ

เห็นแล้วค่ะ...เห็นพี่ธรรมทิพย์ด้วย อิ อิ อิ...ตัวเล็ก ๆ ฉบับกระเป๋าเลยนะคะ...พี่ธรรมทิพย์นั่งข้างคุณครูอดิสรใช่ไหมเอ่ย...คุณครูหน้าเด็กจริง ๆ ด้วยค่ะ อิ อิ อิ

  • สวัสดีค่ะ น้องVij
  • ขอบคุณที่เข้ามาเยี่ยมอีกครั้งค่ะ
    คุณครูอดิศรเพิ่งจะอายุ ๒๓ ปีเองค่ะ  เพิ่งเรียนจบใจดีมาก
    นักเรียนคนโน้นเรียกที  คนนี้เรียกทีเดินจนเหนื่อย
    โดยเฉพาะพี่ที่สวมสร้อยนั่งตรงกลาง  เจ้าขอฉายา
    "อาจารย์...นิดนึง.." ทุกชั่วโมง อิ อิ
  • พี่ธรรมทิพย์นั่งถัดมาจากอาจารย์  ส่วนพี่ใหญ่ที่นั่งถัดต่อไปเป็นหัวหน้าห้อง
    อายุ ๖๘ ปีแล้วค่ะ  แต่ก็ยังขยันเรียนน่าชื่นชมจริง ๆ

สวัสดีครับอาจารย์วราภรณ์

เห็นแล้วครับ เห็นรูปแล้วครับ

เอาตุ๊กตาไปอีกชุดละกันนะครับ

  • สวัสดีคะ คุณBob P
  • ขอบคุณค่ะที่แวะมาเยี่ยมใหม่
    แถมยังมีสาวๆ เอวละอ่อนมาเดินพาเหรดให้ดู น่ารักมากค่ะ
    แต่สงสารเดินทั้งวัน  เดินไม่เดินเปล่าต้องเล่น
    ดนตรีอีกคงเหนื่อยไม่น้อย  อดทนจริง ๆค่ะ
  • สวัสดีค่ะ คุณนงนาท P
  • กราบขอบพระคุณมากผู้ใหญ่ใจดีคอยมาให้กำลังใจค่ะ
    Animal016Animal016

 

  • ...สวัสดีครับ ...คุณธรรมทิพย์...
  • ...ชอบใจครับ ..."รู้อะไรไม่สู้รู้จักกัน"...
  • ...ได้พบ  เพื่อนรักต่างวัย  เพิ่มอีกหลายคนนะครับ...
  • สวัสดีค่ะ คุณudomran P
  • ขอบพระคุณค่ะที่ให้เกียรติมาทักทาย
  • "รู้อะไรก็ไม่สู้รู้จักกัน"..... ชอบคำนี้เช่นกันค่ะ
    ได้ยินผู้บริหารท่านหนึ่งพูดไว้ ... แล้วก็จำมาใช้ตลอดค่ะ
  • มึแค่เพื่อนต่างวัย  เพื่อนรักในกลุ่มนี้ยังไม่มีค่ะเพราะไม่ค่อยมีเวลาใกล้ชิดกันค่ะ
พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท