บันทึกที่ท่านกำลังอ่านอยู่นี้ ผมได้นั่งดูรายการของทีวีไทย ประมาณสี่ทุ่มกว่าแล้ว เป็นเรื่องที่เด็กที่ตามหาพ่อชาวญี่ปุ่น มาส่งพ่อที่สนามบิน ไม่น่าเชื่อเลยว่าผมนั่งน้ำตาไหลกับการดูภาพของสองพ่อลูกที่ร้องไห้ เมื่อพ่อจะต้องเดินทางกลับบ้าน ภาพพ่อที่ร้องไห้และลูกที่สะอื้นเมื่อพ่อจะจากไป
เป็นภาพที่เกินบรรยายจริงๆ ทำให้ผมนึกถึงพ่อที่จากไป ใครที่มีพ่อดูข่าวนี้คงได้คิดบ้าง และใครที่มีลูกก็คงเห็นถึงความสำคัญของความเป็นพ่อลูกได้ดี
ครับไม่รู้จะเขียนต่ออย่างไรดี ท่านช่วยแสดงความเห็นต่อก็แล้วกัน
เช้านี้ได้ดูข่าวนี้อีก ผมก็อินน์เช่นเคย และเช้านี้ผมได้คำตอบครับคือ มันเป็นเรื่องจริง ไม่ใช่ละคร ผมเข้าใจความรู้สึกของสองพ่อลูกที่ความรักระหว่างกันภาษาไม่ใช่อุปสรรค ภาพที่ผู้เป็นพ่อร้องอย่างมากมายและภาพลูกที่วิ่งไปหาพ่อขณะที่เช็คอินน์ เป็นการใช้เวลาระหว่างพ่อลูกให้คุ้มค่าที่สุด แม้เล็กน้อยก็ตาม.....
(กำลังจะปิดเครื่องนอนแล้วเห็นพอดี..)
ปู่จ๋า..
ปู่ไม่รู้จะเขียนต่ออย่างไร หนูก็ไม่รู้จะเม้นท์ต่อยังไงเหมือนกัน
พาลให้นึกถึงFM:mailหนึ่งที่น้องสาวคนหนึ่งส่งมาให้เป็นเรื่องของชายชราคนหนึ่งที่ลูกๆไม่ดูแลและไม่มีบ้านอยู่ ต้องเดินทางไกลๆเพื่อหางานทำ ว้า...ไม่เล่าแล้ว สงสาร
T_T
ไม่ได้มาทักทายนาน ปู่สบายดีนะคะ..
ป๊ะคะ สั้นๆ ว่า เข้าใจค่ะ นึกถึงพ่อที่เสียไปค่ะ
คิดถึงพ่อค่ะ
สำหรับเคโงะแล้ว ยังมีความหวังว่า ปีหน้า พ่อจะกลับมาหาเขาอีก ช่วยให้มีกำลังใจในการดำเนินชีวิตนะค่ะ
เป็นอุทาหาณ์สำหรับคนที่รักแบบง่ายๆครับ
สงสารคนร้องไห้ เสียใจด้วยค่ะคุณเบดูอิน
ให้กำลังใจค่ะ
ถ้าพูดตามภาษาธรรมชาติ
ทุกสรรพสิ่งคือหนึ่งเดียวกัน
เพราะท่านเบดูอินก็คิดว่าเป็นเหมือนลูกและพ่อตามที่กำลังสัมผัสอยู่ตามความเป็นจริง
สวัสดีค่ะ..คุณเบดูอิน
ได้เห็นคลิปวีดีโอตอนลูกไปรับพ่อที่สนามบินเหมือนกัน
รู้สึกเศร้าค่ะ เข้าใจจริงๆ ถึงความรู้สึกตอนนั้นของลูก
ลูกวิ่งสุดชีวิตเลยค่ะ เพื่อหาทางลงไปรับอีกชั้น นักข่าววิ่งตามไม่ทันเลยค่ะ
เพราะเด็กวิ่งเร็วมากๆ มันสะท้อนอะไรๆ ได้หลายอย่างเลยทีเดียว
สวัสดีค่ะ
ตอนเช้าฝนตกเหมือนที่นี่มั้ยคะ
แวะมาเยี่ยมคะ
สวัสดีค่ะ ดูข่าวเดียวกันเลย น้ำตาคลอเหมือนกัน อินนท์ ..
ขอบคุณป๊ะคะที่เข้าไปเยี่ยม ฮาธรรมะกับพระพยอม ดีใจมากเลย สุคิดถึงอยู่แต่สุกลัวว่าป๊ะจะไม่เข้าไปอ่านเพราะเกี่ยวกับศาสนาพุทธคะ แต่สุรู้แล้ว ป๊ะไม่เกี่ยงศาสนา เพราะทุกศาสนาต่างก็สอนให้คนเป็นคนดี และยังเป็นศาสนสัมพันธ์ด้วยคะ ถ้าป๊ะเข้าหาได้ก็เข้าไปเยี่ยมเลยนะคะ
เรื่องลูกวิ่งเข้าหาพ่อ แม้เกิดมาไม่เคยเห็นและรู้จักหน่าตากัน ต่างคนก็ต่างร้องไห้ เพราะความปลาบปลื้มใจ ที่ชาตินี้ไม่คิดว่าจะได้เจอกันหนือเปล่า และมันมีเซนท์แห่งความผูกพัน ลูกก็โหยหาอยากมีพ่อ พ่อก็สงสารที่ไม่รู้ว่าเมียคนไทยมีลูก ถ้ารู้เขาคงกลับมารับเมียคนไทยไปอยู่ด้วยแล้ว เพราะเป็นลูกที่เกิดจากตนเอง ช่วงนั้นเขาก็คงจะรักกันมากจริงๆ แต่ไม่รู้ว่าพอกลับประเทศไปแล้ว ผู้หญิงตั้งท้อง พอดีเลยหน้าตาก็เหมือนพ่อด้วย เค้าหน้าเหมือนกันเลย
แต่สุคิดว่าจะต้องมีปัญหาตามมาแน่นอน พ่อของเด็กอายุปานนี้ เขาก็ต้องมีภรรยาและลูกเขาเหมือนกัน ความอบอุ่นที่ได้รับต่อไป ก็ไม่รู้จะได้อบอุ่นแค่ไหน และจากวิเคราะห์ดูแล้ว พ่อเป็นแค่นักท่องเที่ยวเข้ามาเที่ยวเมืองไทย เพียงไม่กี่เดือนก็ต้องกลับไป โดยไม่คิดว่า เมียหรือผู้หญิงที่ตนเองได้ จะต้องระทมทุกข์ กับการรอคอยพร้อมกับการตั้งท้อง แต่หาติดต่อกันได้ไม่ อาจจะเกี่ยวกับภาษาสื่อกันไม่ได้ และที่อยู่ก็ให้ไม่แน่ชัด
ต้องร้องไห้ ยิ่งกว่าอังสุมาลินกับโกโบริเสียอีก เพราะการรอคอยที่ไม่รู้ว่าจะได้พบกันอีกหรือไม่ และอาจจะเป็นเพราะความระทมทุกข์ตรอมใจ เธอถึงได้อายุสั้น แต่งเป็นนิยายได้เลย
และอีกอย่างหนึ่ง เมื่อมาเห็นลูกแล้ว ทำไม ไม่เอากลับไปอยู่ด้วยเลย ชีวิตคนเราเนาะแต่ก่อนอาจจะร่ำรวยฟุ้งเฟ้อมีเงินมาท่องเที่ยวได้ แต่ต่อมาอาจจะไม่ร่ำรวย หรืออาจจะจนลง จนไม่สามารถรับลูกไปอยู่ด้วยได้ในขณะนี้ ไหนจะเกี่ยวกับค่าครองชีพ ไหนจะเกี่ยวกับภรรยาคนปัจจุบัน ไม่รู้เขารับได้หรือเปล่า นี่แหละกรรมที่เขาได้ก่อไว้ กำลังตามสนองเขาคืนในรูปของความทุกข์ใจ จนกว่าเขาจะแก้ปัญหาได้ เขาบอกว่าปีหน้าเขาจะมารับไปอยู่ด้วย ก็ไม่รู้ว่า พอถึงเวลานั้นจะเป็นอย่างไร
และเป็นอุทาหรณ์แก่หญิงทุกๆคน อย่าใจง่าย ยิ่งพูดกันไม่รู้เรื่อง ก็ยิ่งควรระวัง ขนาดเห็นหน้ากันทุกวันยังเชื่อใจกันไม่ได้ รู้หน้าไม่รู้ใจ สงสารลูกผู้ที่เกิดมาต้องรับกรรม
ป๊ะ สุพูดมากเลย จะมีคนมาเม้นท์โต้ตอบกับสุอีกไหมนี่ เพราะสุเม้นท์แบบไม่เข้าข้างใครเลย รู้แต่ว่า เรื่องนี้ เกิดจากกรรม จากคนที่ก่อ ต้องรับกรรม
สุไปก่อนนะ กลัวคนจะว่า ใยสุเอ๊ย พูดเป็นตุป็นตะอีกแล้ว แต่ป๊ะไปเยี่ยมบทนี้แล้วยัง
พรุ่งนี้ พรุ่งนี้ของชีวิต http://gotoknow.org/blog/lelaxy/303467 คิดถึงพ่อ ความรู้สึกคิดถึงพ่อ ถ้าใครมีพ่อถึงจะรู้สึกว่ามันโหยหาแค่ไหน ไปหละคะ อินมากไปแล้ว
สวัสดีค่ะ แวะมาคิดถึงพ่อด้วยคนค่ะ
อ่านแล้วเศร้าค่ะ
ทำให้นึกถึงคุณพ่อแกเหมือนกัน
ปกติก็นึกถึงท่านตลอดอยู่แล้ว
ท่านอยู่ในใจเสมอมา
ท่านจากไปในขณะที่ยังไม่ได้ให้อะไรกับท่านเลย
ยังไม่ได้ตอบแทนคุณ
คิดถึงค่ะ
* หายไปนานเลยนะคะ มาพร้อมกับเรื่องน่ายินดีของน้อง
"เคอิโงะ ซาโต" แม้จะจบตอนด้วยความเศร้าของการลาจาก....ชวนให้ติดตามตอนต่อไป
* สนใจและติดตามเรื่องของน้องมาตั้งแต่ต้น....เพราะพยายามศึกษาแง่คิดและมุมมองของวิถีชีวิตและวัฒนธรรมทั้งชาวญี่ปุ่นและชาวไทย
* ชื่นชมความพยายามและความตั้งใจจริงของน้องมากๆ ค่ะ
ภาพ http://news.mthai.com/general-news/58678.html
คลิปวิดีโอ http://www.oknation.net/blog/NENA/2009/10/02/entry-1
ขออภัยค่ะ ครั้งแรก Copy ภาพมาจาก Nation Group แต่ Web link มันยาวเกินเลยไปใช้ของMthai แทน ...เดี๋ยวทาง Nation Groupจะมาฟ้องร้องค่าเสียหาย...หมดตัวแน่....เอาเป็นว่าลงให้แล้วนะคะว่าภาพมาจาก Nation Group แต่ถ้าจะเข้าไปดูภาพง่ายๆที่ Mthai ค่ะ
พ่อเดินทางมาจากญี่ปุ่นน่าดีใจจัง
มีพ่อบางคน..ไม่มาหาลูกเลย ทั้งที่อยู่ไม่ไกล
ช่วงหนึ่งของชีวิตค่ะ
คงจดจำไว้ประทับในใจไปแสนนาน
เป็นความรัก ความผูกพันที่เกินกว่าจะบรรยาย
แวะมาทักทายค่ะ
ช่วงนี้งานยุ่งพอประมาณค่ะ ยังไม่ลงตัวดีเท่าไหร่ ไม่ค่อยได้มาทักทาย สบายดีนะคะ
รักษาสุขภาพนะคะ
ด้วยความเคารพค่ะ :)
ความรักความผูกพัน มันลึกซึ้งเกินบรรยายครับบัง
"ไม่สบายใจในบันทึกนั้นจังเลย"
รู้สึกไม่สบายใจเหมือนกันค่ะเมื่อได้อ่านบันทึก เพราะน้องเค้าบันทึกถึงความผิดหวัง ความสูญเสีย ติดต่อกันมาสักระยะแล้วก่อนหน้านี้
หวังว่าจะไม่มีเรื่องร้ายค่ะ
หรือทุกชวิตสร้างจากละครคะ
บางบทบางตอนของแต่ละคนจึง ...กรี๊ด...(ในระดับเสียงต่างกัน)
สวัสดีค่ะ...แวะมาเช็ดคราบน้ำตาให้คุณ "เบดูอิน" ค่ะ...เพราะคนมองมองด้วยใจ...ความรู้สึกจึงจับใจ ให้ต้องหลั่งออกมาซึ่งน้ำตา...ใครว่าผู้ชายร้องไห้ไม่เป็น..."สายเลือด ย่อมข้นกว่าสายน้ำเสมอ"...ในสายใยนั้นจึงควบแน่นไปด้วยความรักและความผูกพัน...
------
ห่วงหาผู้ทุกข์ท้อในทางเดินน่าสรรเสริญยิ่ง...แต่อย่าน้อมนำห่วงนั้นมารัดใจตนให้ต้องทุกข์เพราะห่วงหา...ทุกสรรพสิ่งย่อมเป็นไปตามกรรม...เขาต้องไม่เป็นอะไร เราคิดในทางที่ดีไว้ก่อนค่ะ..."พี่ณัฐรดา"
ซาบซึ้ง...
ระลึกถึงคุณเบดูอิน ครับ
สวัสดีค่ะ
ถึงแม้จะผ่านเทศกาลศีลอดมาหลายวัน ก็คงจะไม่สายที่กล่าวคำว่าขออนุโทนาบุญค่ะ ไม่ค่อยได้มีโอกาสได้คุย ไหน ๆ ได้เข้ามาในบล็อก ถือโอกาสเล่าเรื่องเกี่ยวกับพระพุทธศาสนาก็แล้วกัน
วันนี้ชาวพุทธศาสนิกชนต่างก็ไปทำบุญที่เรียกว่า “ตักบาตรเทโว” ถือเป็นประเพณีสำคัญที่ชาวพุทธปฏิบัติมาตั้งแต่พุทธกาล เมื่อถึงวันออกพรรษา หรือถึงวันปวารณาออกพรรษา
วันออกพรรษาตรงกับวันขึ้น 15 ค่ำ เดือน 11 จัดเป็นธรรมเนียมของพระสงฆ์เมื่ออยู่จำพรรษาครบ 3 เดือนแล้ว ก็มีวันออกพรรษา ซึ่งเรียกอีกอย่างหนึ่งว่า “วันมหาปวารณา”
คำว่า “ปวารณา” แปลว่า อนุญาต หรือยินยอม หมายความว่า พระภิกษุสงฆ์ผู้อยู่ร่วมจำพรรษาทุก ๆ องค์เหล่านั้นต่างยินยอมให้ว่ากล่าวตักเตือนกันได้ ให้ตำหนิชี้ข้อผิดพลาดของกันและกันได้ ดังนั้น การทำปวารณาในวันออกพรรษา จึงจัดเป็นพิธีกรรมของคณะสงฆ์อย่างหนึ่งโดยมุ่งหมายเพื่อให้พระสงฆ์ทุกรูปได้ลดทิฐิมานะ ยอมรับว่าตนบกพร่องและอาจมีความผิดพลาดหรือการย่อหย่อนในการประพฤติธรรมวินัย ทั้งนี้ก็เพราะพระพุทธองค์มิได้ทรงถือบุคคลเป็นใหญ่ แต่ทรงถือว่าภิกษุรูปใดประพฤติไม่ดีไม่งาม ผิดวินัยแล้วก็ทรงอนุญาตให้พระสงฆ์ว่ากล่าวตักเตือนกันได้ เพื่อความบริสุทธิ์ของคณะสงฆ์ผู้อยู่ร่วมกันและเพื่อความดำรงอยู่ของพระพุทธศาสนาด้วย
สำหรับ“ประเพณีตักบาตรเทโว” นี้ศาสนิกชนมีความเชื่อว่าการทำบุญตักบาตรในวันออกพรรษานั้น จะได้อานิสงส์มาก โดยเชื่อตามพุทธประวัติตอนหนึ่งที่กล่าวถึงพระสัมมา สัมพุทธเจ้าหลังจากตรัสรู้แล้วในพรรษาที่ 7 ได้เสด็จไปจำพรรษาบนสวรรค์ ชั้นดาวดึงส์เป็นเวลา 3 เดือน เพื่อทรงแสดงพระอภิธรรมปิฎกโปรดพุทธมารดา ครั้นออกพรรษา จึงได้เสด็จลงจากสวรรค์ ที่เมือง กัสสนคร และในวันนั้นได้มีประชาชนไปรอเฝ้ารับเสด็จเป็นจำนวนมาก จึงได้ร่วมทำบุญตักบาตรพระพุทธเจ้าด้วย การทำบุญตักบาตรในครั้งนั้นเรียกว่า “ทำบุญตักบาตรเทโว” และได้กลายมาเป็นประเพณีของชาวพุทธสืบต่อกันมาจนถึงปัจจุบัน โดยจะตักบาตรเทโวถัดจากวันออกพรรษา 1 วัน
แน่นอนค่ะ ในวันนี้จึงเป็นวันที่ จะต้องไปทำบุญเป็นประจำทุกปี และถือว่า สำคัญอย่างยิ่งในการทำบุญวันนี้ค่ะ
พอเล่าถึงตรงนี้ พอจะมองเห็นแล้วนะคะว่า พุทธกับมุสลิมแตกต่างกันที่ตรงไหน
คิดถึงเสมอ
ครูบ้านนอก
สวัสดีคะ
อยากบอกว่า เมื่อพ่อยังอยู่ควรดูแลพ่อให้ดีที่สุดนะคะ
ไก่โชคดีที่พ่อยังอยู่รอที่บ้านทุกวัน เห็นพ่อ เช้าเย็น
พ่อรักลูกมากที่สุดถึงแม้ลูกโตจนอายุมากแล้วก็ตาม