บันทึกเดินทาง

                                         

          เสาร์แรกของเดือนตุลาคม ของทุกปี  ทางครอบครัวต้องเดินทางจากภูมิลำเนาจังหวัดพระนครศรีอยุยา  ไปอำเภอพรหมบุรี  จังหวัดสิงห์บุรี  เพื่อร่วมงานทำบุญเลี้ยงภัตราหารแด่พระสงฆ์  กับมูลนิธิพระพรหมโมลีและชาวตำบลบ้านแป้ง  ณ วัดกลางธนรินทร์  เป็นการทำบุญเพื่อระลึกถึงคุณงามความดีและอุทิศส่วนกุศลส่งผลบุญให้แก่พระหรหมโมลี (สุข บริบูรณ์) อดีตเจ้าอาวาสวัดและเจ้าคณะจังหวัดสิงห์บุรี 

การเดินทางจากจังหวัดพระนครศรีอยุธยา  ไปวัดกลางธนรินทร์

          ใช้ถนนสายเอเซียผ่านจังหวัดอ่างทอง  ผ่านอำเภอพรหมบุรี  ผ่านแนวค่ายพม่า ซึ่งในครั้งที่พม่ายกทัพมาประชิดกรุงศรีอยุธยาได้สร้างค่ายเพื่อสั่งการทหารให้เข้าโจมตีกรุงศรีอยุธยา  ปัจจุบันจังหวัดสิงห์บุรีได้สร้างค่ายพม่าจำลองขึ้นตรงบริเวณนั้น มีสภาพร่มรื่นใช้เป็นที่พักผ่อนหย่อนใจ อยู่ริมถนนสายเอเชีย ตรงข้ามปากทางเข้าวัดคู

          วัดกลางธนรินทร์ บริเวณลานวัดจะเป็นตลาดเก่าแสดงถึงความเป็นอยู่ของประชาชนริมน้ำ   ตลาดรินน้ำนี้ประชาชนส่วนใหญ่ใช้การสัญจรทางเรือในอดีต และปรากฎมาจนถึงทุกวันนี้   ที่น่าสนใจคือร้านจำหน่ายก๋วยเตี๋ยว กาแฟโบราณ ขนมไทย ขนมเบื้องญวน หมูย่าง หอยทอด ที่นักท่องเที่ยวเข้ามาอุดหนุนอย่างเนืองแน่นทุกวัน   

                           

           เมื่อทำบุญเลี้ยงพระ เรียบร้อยแล้ว  ทางครอบครัวเดินทางต่อไปยังวัดอัมพวัน เพื่อนมัสการพระครูภาวนาวิสุทธิ์(หลวงพ่อจรัญ) วัดอัมพวันเป็นสถานที่ปฏิบัติธรรม  ซึ่งญาติโยมสามารถมาปฏิบัติธรรมได้  ประวัติความเป็นมาของวัดอัมพวัน อำเภอพรหมบุรี จังหวัดสิงห์บุรี เป็นชื่อเดิมมาตั้งแต่กรุงศรีอยุธยา ศิลาจารึกในอุโบสถหลังเก่าจารึกเป็นภาษาจีนว่า คนจีนได้สร้างอุโบสถวัดอัมพวัน สมัยเหม็งเชี้ยว คนจีนได้นำเรือกำปั่นมาทำการค้าขายกับสมเด็จพระนารายณ์มหาราช เมืองลพบุรี มากับฝรั่งชาติฮอลันดา จอดหน้าวัดอัมพวัน ได้สร้างโบสถ์วัดอัมพวัน สมัยเจ้าอาวาสวัดอัมพวันชื่อ พระครูญาณสังวร อายุ ๙๙ ปี สร้างโบสถ์เสร็จแล้ว ฝรั่งเพื่อนคนจีนได้ขอพระราชทาน พระหน้าปรกหินทั้งสององค์จากสมเด็จพระนารายณ์มหาราช ให้คนจีนเอาไว้ในโบสถ์ จนถึงการสร้างโบสถ์หลังใหม่มาจนถึงทุกวันนี้   http://www.jarun.org/v5/th/home.html

                     

          จากวัดอัมพวัน เดินทางต่อไปยังตลาดปากบาง  พาไปชิมของดีเมืองสิงห์บุรี  คือขนมเปี๊ยะ  เป็นขนมโบราณอันเป็นที่ชื่นชอบของนักชิมมากมาย ขนมเปี๊ยะก็มีหลากหลายสูตรทั้งแบบประยุกต์และแบบดั้งเดิม ขนมเปี๊ยะดังๆในประเทศไทยก็มีมากมาย ทั้งที่เยาวราช  ตลาดเก้าห้องจังหวัดสุพรรณบุรี บางคล้าจังหวัดฉะเชิงเทรา ฯลฯ สำหรับเมืองสิงห์บุรีก็เป็นอีกหนึ่งจังหวัดที่มีชื่อเสียงด้านขนมเปี๊ยะ  และที่อำเภอพรหมบุรี ตำบลปากบาง  ก็มีร้านขนมเปี๊ยะโด่งดังหลายเจ้าทีเดียว ก็เลยขอเชิญชวนไปชิมขนมเปี๊ยะบ้านปากบางกัน

                  ประมวลภาพกิจกรรมของครอบครัว  วันเสาร์ที่ 3 ตุลาคม 2552

                   

       

                      

          การเดินทางไปอำเภอพรหมบุรี จังหวัดสิงห์บุรี  ใช้เส้นทางสายเอเซีย  ซึ่งเป็นฝั่งตะวันออกของแม่น้ำเจ้าพระยา  เมื่อจะเดินทางกลับสามารถใช้เส้นทางหลวงชนบทฝั่งตะวันตกของแม่น้ำเจ้าพระยา  โดยข้ามแม่น้ำเจ้าพระยาที่อำเภอพรหมบุรี  จังหวัดสิงห์บุรี  จากอำเภอพรหมบุรี  เดินทางไปนมัสการหลวงพ่อแพ วัดพิกุลทอง  "วัดหลวงพ่อแพ" (พระเทพสิหบุราจารย์) มีพระพุทธรูปปางประทานพรใหญ่ที่สุดในประเทศไทย คือ พระสุวรรณมงคลมหามุนี หรือ หลวงพ่อใหญ่ มีพิพิธภัณฑ์หลวงพ่อแพ จัดแสดงเรื่องราวเกี่ยวกับประวัติและเครื่องอัฐบริขารของหลวงพ่อแพ ตั้งแค่อดีตถึงปัจจุบัน http://www.phikunthong.com/

  

                                   

         จากวัดพิกุลทอง  เดินทางต่อมายังจังหวัดอ่างทอง  นมัสการพระนอน วัดขุนอินทรประมูล    วัดขุนอินทประมูล อยู่ที่ตำบลอินทประมูล อำเภอโพธิ์ทอง การเดินทางไปสามารถใช้เส้นทางได้ 2 สายคือ สายอ่างทอง-อำเภอโพธิ์ทอง แยกขวาที่กิโลเมตรที่ 9 เข้าไปอีกประมาณ 2 กิโลเมตร หรือห่างมาจากจังหวัดสิงห์บุรี ไปทางอำเภอไชโยประมาณ กิโลเมตรที่ 8 จะมีทางแยกซ้ายมือเข้าไปถึงวัดเป็นระยะทาง 4 โลเมตร 

http://thai.tourismthailand.org/attraction/angthong-15-2274-1.html

 

                                 

                   บันทึกการเดินทางกับการทำบุญไหว้พระ  อิ่มบุญ เป็นบุญตา กันถ้วนหน้า

                                            

[เอกชัย กศน.ผักไห่]

 ขออนุโมทนาด้วยครับ
 ( เคยไปวัดพิกุลทองแล้ว )

[กิติยา เตชะวรรณวุฒิ]

สวัสดีค่ะ

*** ขนมเปี๊ยะปากบาง เป็นที่ชื่นชอบของคนพิดโลกเหมือนกัน ถ้าไปราชการแถวกทม.ก็จะแวะซื้อครั้งละมากๆเลยค่ะ

*** ขอบคุณเรื่องและภาพทำให้อยากไปเที่ยว