ชื่อเรื่องวิจัย การพัฒนาบทเรียนคอมพิวเตอร์ช่วยสอน(CAI)วิชาสุขศึกษา เรื่อง สิ่งเสพติด
ระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5
ชื่อผู้วิจัย นิคม ปุยะติ , เนอรี่ อันวิชา, เนาวรัตน์ เอมสุรัตน์, ยุทธการ เหล่ามะลอ
อำนวย สว่างใหญ่
การศึกษามหาบัณฑิต สาขาหลักสูตรและการสอน (ระบบเอกภาค)
วัตถุประสงค์
1. เพื่อสร้างและหาประสิทธิภาพของคอมพิวเตอร์ช่วยสอนวิชาสุขศึกษา เรื่องสิ่งเสพติด
ระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5
2. เพื่อทดลองใช้คอมพิวเตอร์ช่วยสอนโดยเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน วิชา
สุขศึกษาเรื่องสิ่งเสพติด ระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 ของนักเรียนกลุ่มทดลอง ที่เรียนโดยบทเรียน
คอมพิวเตอร์ช่วยสอนและกลุ่มควบคุมที่เรียนโดยวิธีปกติ
3. เพื่อประเมินบทเรียนคอมพิวเตอร์ช่วยสอนวิชาสุขศึกษา เรื่องสิ่งเสพติด ระดับชั้นมัธยม
ศึกษาปีที่ 5
วิธีดำเนินการศึกษาค้นคว้า
กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการศึกษาครั้งนี้ได้แก่ นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 โรงเรียนเอราวัณ
วิทยาคม กิ่งอำเภอเอราวัณ จังหวัดเลย จำนวน 60 คน โดยวิธีการสุ่มอย่างง่าย แบ่งเป็น 2 กลุ่ม
คือ กลุ่มทดลองโดยใช้บทเรียนคอมพิวเตอร์ช่วยสอน จำนวน 30 คน และกลุ่มควบคุมโดยใช้การ
สอนด้วยวิธีสอนปกติ จำนวน 30 ค ใช้เวลาในการสอน 5 คาบเรียน คาบละ 50 นาที
เครื่องมือที่ใช้ในการศึกษาค้นคว้า ได้แก่ บทเรียนคอมพิวเตอร์ช่วยสอนวิชาสุขศึกษา
เรื่องสิ่งเสพติด จำนวน 5 หัวข้อ แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนวิชาสุขศึกษา เรื่องสิ่ง
เสพติด มีลักษณะเป็นแบบเลือกตอบ 4 ตัวเลือก และแบบประเมินบทเรียนคอมพิวเตอร์ช่วยสอน
มาตราสาวนประมาณค่า 5 ระดับสำหรับครูผู้สอนและนักเรียน
การวิเคราะห์ข้อมูล การสร้างและหาประสิทธิภาพของบทเรียนคอมพิวเตอร์ช่วยสอน
วิเคราะห์ด้วยการหาค่าความเหมาะสม โดยประยุกต์มาจากค่าดัชนีความสอดคล้อง การหา
ประสิทธิภาพของบทเรียนคอมพิวเตอร์ช่วยสอนวิเคราะห์โดยหาค่าร้อยละและเปรียบเทียบผล
สัมฤทธิ์ทางการเรียนของกลุ่มควบคุมกับกลุ่มทดลองโดยใช้ค่า t -test การประเมินบทเรียนบท
เรียนคอมพิวเตอร์ช่วยสอนวิเคราะห์โดยหาค่าเฉลี่ย และค่าเบี่ยงเบนมาตรฐาน
ผลการศึกษาค้นคว้าพบว่า
1. บทเรียนคอมพิวเตอร์ช่วยสอนที่สร้างขึ้นมีประสิทธิภาพเท่ากับ 86.42/89.630 ตาม
เกณฑ์มาตรฐาน 80/80
2. นักเรียนกลุ่มที่เรียนโดยใช้บทเรียนคอมพิวเตอร์ช่วยสอนมีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนสูง
กว่ากลุ่มที่เรียนโดยใช้วิธีสอนปกติ อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ ที่ระดับ .01
3. ผลการประเมินบทเรียนคอมพิวเตอร์ช่วยสอน พบว่าครูผู้สอนวิชาสุขศึกษาและนักเรียน
มีความคิดเห็นอยู่ในระดับมาก