นายกฯ ชี้ปฏิรูปการศึกษารอบ 1 เหลว ขรก.ยังหวงอำนาจไว้กับตัว


นายกสั่งรื้อระบบสอบเข้ามหาวิทยาลัย

นายกฯ สั่งศธ. รื้อใหญ่ระบบสอบเข้ามหาวิทยาลัย ชี้ปฏิรูปการศึกษารอบ 1 เหลวเพราะราชการต้องการผูกขาดอำนาจจัดการศึกษาไว้กับตัว

          นายอภิสิทธิ์กล่าวการปฏิรูปการศึกษาเป็นเรื่องที่ฝ่ายการเมืองได้ร่วมใจกันทำมาโดยตลอด ไม่มีแบ่งแยกว่าเป็นเรื่องของรัฐบาล หรือฝ่ายค้าน แต่ส.ส. ทุกคนต้องการขับเคลื่อนระบบการศึกษาให้มีมาตรฐาน เพราะมองว่าเป็นเรื่องสำคัญต่อการพัฒนาประเทศและพัฒนาการเมืองการปกครองใน ระบอบประชาธิปไตย และรัฐบาลได้เดินหน้าผลักดันโครงการเรียนฟรี 15 ปี เพื่อให้เป็นไปตามเจตนารมณ์ของรัฐธรรมนูญ แต่ต้องยอมรับว่าไม่สามารถทำได้ 100 เปอร์เซ็นต์ เพราะปัญหาการขาดแคลนด้านงบประมาณ ทำให้ผู้บริหารสถานศึกษาต้องดิ้นรนหาทรัพยากรเอง อีกทั้งยังมีการเก็บค่าใช้จ่ายหลายเรื่อง อาทิ การสอนพิเศษภาษาต่างประเทศ การสอนคอมพิวเตอร์ ฯลฯ ดังนั้นจึงเป็นโจทย์ท้าทายว่าการปฏิรูปการศึกษาในทศวรรษที่ 2 จะเดินหน้าไปอย่างมีคุณภาพ โดยไม่เป็นภาระแก่ผู้ปกครองได้อย่างไร
          จากการประเมินผลการปฏิรูปการศึกษาในทศวรรษแรก  พบว่าปัญหาส่วนหนึ่งเกิดจากการปรับโครงสร้างงานด้านศึกษาธิการเอง ซึ่งใช้เวลามาก และหลายเรื่องก็เกิดความขัดแย้งในเชิงการเมืองและการบริหาร ทำให้ต้องเสียเวลาและเสียสติปัญญาไปกับเรื่องนี้มาก ไม่ว่าจะเป็น การกระจายอำนาจ การจัดเขตพื้นที่การศึกษา ทำให้ไปไม่ถึงเป้าหมายที่แท้จริง
             สำหรับการปฏิรูปการศึกษาในทศวรรษที่ 2 ในปี 2552-2561 ปรับระบบสอบเข้ามหาวิทยาลัย โดยเน้นว่าอย่าเปลี่ยนแปลงเพียงเล็กน้อย แล้วหวังรอเปลี่ยนแปลงในปีต่อๆ ไป แต่ให้รื้อใหญ่ไปเลย วางระบบเอาไว้ใช้ในระยะยาวไปเลย โดยอาจเริ่มต้นในปี 2554-2555 ก็ได้ ไม่เช่นนั้นเรื่องนี้จะเป็นคอขวดของการปฏิรูปการศึกษาอีก ทั้งนี้รัฐบาลจะเดินหน้าผลักดันการปฏิรูปอย่างเต็มที่ ซึ่งแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติฉบับที่ 11 ที่อยู่ระหว่างการยกร่างก็ได้บรรจุเรื่องการเรียนรู้ตลอดชีวิตและการศึกษา เป็นเป้าหมายสำคัญด้วย อย่างไรก็ตามการปฏิรูปการศึกษาสำเร็จ ได้ต้องอาศัยการมีส่วนร่วมของสังคม และความตั้งใจของผู้เกี่ยวข้องด้วย
            ดังนั้นความล้มเหลวที่เกิดขึ้นในอดีต มาจากการที่รัฐบาลและระบบราชการยังผูกขาดอำนาจในการจัดการศึกษาไว้กับตัว หากคนในวงการศึกษายังหมกมุ่นว่าตัวเองและองค์กรของตนจะได้อะไร เราอาจจะเห็นความขัดแย้งในเรื่องสิทธิประโยชน์ของคนทำงาน และลืมไปว่านี่ไม่ใช่เป้าหมายในการปฏิรูปการศึกษา ดังนั้นหากสามารถละและสละอำนาจและการผูกขาดได้ ก็จะเกิดพลังในการปฏิรูปการศึกษา

คำสำคัญ (Tags): #นโยบาย
หมายเลขบันทึก: 302455เขียนเมื่อ 1 ตุลาคม 2009 16:23 น. ()แก้ไขเมื่อ 12 กุมภาพันธ์ 2012 09:49 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (3)

รับข้อมูลข่าวสารครับ ;)

มาอ่านข้อมูลข่าวสาร

ขอบคุณค่ะ

เราปฎิรุปกันที่รากหญ้า 

และถูกอธรรมกลบจนต้องทำกันแบบแอบๆทำจนกลายเป็น

เสียงที่ไม่ได้ยิน.....และเป็นแสงที่มองไม่เห็น  

แต่ก็น่าชื่นใจ ที่เราได้เห็นว่า สุดท้ายแล้ว...เมื่อปัญหามันวิกฤติจริงๆ

เขาก็ต้องพบว่า...นี่ละคือทางออก






 

 

 

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท