“ศีล” ลดความรู้ที่เหลื่อมล้ำ...


คนเรานั้นมีเวลา ๒๔ ชั่วโมงเท่า ๆ กัน ใครจะรู้ดี รู้ชั่วมากกว่ากันนั้นอยู่ที่ใครมี “ศีล” มาจัดสรรห้วงเวลา...

ในหนึ่งวัน คนเรามีทางหลายแพร่งให้เดิน ซึ่งการเดินในแต่ละทางก็มีทั้งมิตรแท้ มิตรเทียม มิตรปลอกลอก
การตัดสินใจว่าจะใช้เวลาวันนี้ นาทีนี้ เดินทางใด คนเรานั้นใช้ “ศีล” เป็นเครื่องขีด เครื่องชี้ เครื่องนำทาง

อาทิเช่นครั้งก่อนสมัยที่เราเรียนหนังสือ เพื่อน ๆ เราชวนเราไป “ตกปลา”
เราก็ไปกับเขา แทนที่เราจะเอาเวลาไป “อ่านหนังสือ” นี้กรณีหนึ่ง
หรือเพื่อนเราหนักกว่านั้น มีคืนหนึ่ง ซึ่งเป็นคืนก่อนสอบปลายภาค เพื่อนของเรานั่งตกปลาอยู่จนถึงเที่ยงคืน ตีหนึ่ง แทนที่เขาจะเอาเวลาไปอ่านหนังสือเตรียมสอบ ดังนั้นจึงตอบคำตอบว่าทำไมเรารู้และเขา “ไม่รู้...” นี้อย่างหนึ่ง

“ศีล” นี้เองเป็นตัวกลาง ตัวกั้น ความรู้กับความไม่รู้
ใครศีลดี ก็รู้มาก ใครทุศีลก็รู้น้อย
รู้น้อยมิใช่ว่าหัวเขาไม่ดี รู้น้อยเพราะเขาทุ่มเทเวลาที่มีไปในการกระทำที่ไม่ได้เสริมสร้างซึ่ง “ความรู้...”

คนไม่มีศีล แต่มีเวลาว่าง ก็ชวนกันเที่ยว ชวนกันเตร่ ไปดูหนัง ฟังเพลง เดินห้าง อะไรต่าง ๆ สารพัด
หรือหนักหน่อยก็ชวนกับจีบผู้หญิง เที่ยวกลางคืน เธคผับ อันนี้ก็ต้องนับรวมไปถึงเหล้า สุรา และ “ยาเสพติด”
ซึ่งแน่นอนว่าผู้ไร้ศีลซึ่งติดสิ่งเสพติดนั้นย่อมเป็นตัวการสำคัญที่สารนั้นจะไป “ทำลายสมอง...”
เมื่อไม่มีสมองซึ่งเปรียบเสมือน “ฮาร์ดดิสก์” แล้ว เขานั้นจะเอาอะไรเล่าเป็นเก็บ ไว้กัก “ความรู้...”

หรือว่าในช่วงวันว่าง หากใครมีศีลดีหน่อย คือถือศีล “อุโบสถ” เขาจะไม่นอนอยูบนเตียงนุ่ม ๆ และใช้เวลานาน ๆ
ซึ่งในทางกลับกัน ผู้ที่มักชอบนอนเตียงนุ่ม ก็มักลุ่มหลงอยู่ในการหลับ การนอน และก็ “แน่นอน” อีกเช่นเดียวกันว่าความรู้ในสมองเขาย่อม “นอน” แน่ ๆ

หรือว่าแค่คิดก็ผิดแล้ว

คนไม่มีคิดก็คิดไปทั่ว คิดโน่น คิดนี่ คิดฟุ้งไปเรื่อย ไอ้เวลาที่เอาไปคิดนี้ก็เสียเวลาการเรียนรู้อย่างมากมายมหาศาล...

หรืออีกอย่างที่สำคัญ การดูหนัง ดูละคร การบริโภคสื่อ ผู้มีศีล เขาย่อมไม่เสียเวลาไปบริโภคสื่อเหล่านี้ เขาจะใช้เวลาที่มาจากเครื่องกั้นคือ “ศีล” ที่ยังมี มาสร้างความดีที่สานต่อซึ่ง “ความรู้...”

การมีศีลนั้น ก็เปรียบกับเราขึ้นรถสายหนึ่ง
การทุศีลนั้น ก็เปรียบเสมือนกับเราขึ้นรถอีกสายหนึ่ง
รถแต่ละสายก็มีเพื่อนร่วมทางแต่ละคน
เพื่อนร่วมทางดีก็ชวนเราไปหาความรู้ดี ๆ
เพื่อนร่วมทางชั่วก็ชวนเราไปแสวงหาแต่สิ่งชั่ว ๆ ซึ่งนั่นก็เป็นการปิดโอกาสซึ่งเราจะ “รู้ดี...”

ศีลนั้นจึงเป็นเหตุ เป็นปัจจัยพื้นฐานที่สำคัญในการลดความเหลื่อมล้ำทาง “ความรู้...”
ศีลดีย่อมรู้ดี เพราะมีเวลาดี ๆ ไปหาความรู้

เวลา ๒๔ ชั่วโมงนี้จักมีค่าหากคุ้มครองเวลาด้วย “ศีล...”

ใครอยากรู้ ขอให้รู้เรื่อง “ศีล” เป็นลำดับต้น
ใครไม่รู้ ขอเพียงรู้จัก “ศีล” ก็เพียงพอ
อันเวลา วารี และความรู้ไม่รั้งรอ
ศีล สานต่อ สมาธิ ถึง “ปัญญา...”

หมายเลขบันทึก: 302389เขียนเมื่อ 1 ตุลาคม 2009 12:51 น. ()แก้ไขเมื่อ 6 กันยายน 2013 21:38 น. ()สัญญาอนุญาต: ไม่สงวนสิทธิ์ใดๆจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (5)

สวัสดีค่ะ

ขอบคุณสำหรับข้อคิดค่ะ

แน่นอน

นอนแน่

นอนแน่ๆ

ศีล แปลว่า เย็น คือ ทำให้คนที่รักษาศีล เย็นทั้งกายเย็นทั้งใจ..

ศีลหากมีในใจ ใจจะอิ่มเต็ม สงบร่มเย็นง่าย

แต่เมื่อใด ศีลเริ่มด่างพร้อย ใจจะกระวนกระวาย

หวาดกลัว ทุกข์ ทรมาร

การสวมชุดต่าง ๆ ไม่ได้บ่งบอกเลย ว่า มีศีลหรือไม่

 

แต่เพียง ใจ ตัวเดียวนี่เอง

ที่เป็นสิ่งที่รองรับ และบ่งบอกการมีศีล

 

หากใจนิ่งเย็นเป็นปกติ ก็มีศีล มีศีลก็มี สติ มีสติ ก็มีศัรทธา

ฟังธรรมก็ลงใจ กิเลสก็เข้ามาเกาะหรือ จองจำใจไม่ได้

 

มหัศจรรย์แห่งศีล เป็นเครื่องคุ้มครองใจ

ให้พร้อมสำหรับการเข้าถึงธรรม

สาธุเจ้าค่ะ

สาธุ สาธุ สาธุ ใบไม้ร้องเพลง สงสัยจะใกล้บรรลุธรรม...

วันนี้ เวลานี้ "มีศีล" อยู่กี่ข้อ...?

วันนี้ เวลานี้ "ผิดศีล" ไปกี่ข้อ...?

 

เปล่าเลยเจ้าค่ะ

ที่ตอบมา แค่เพียงจำได้ด้วยสมอง

 

ศีล หากเทียบแล้ว วันหนึ่ง ๆ หนูแทบจะผิดครบทุกข้อ

อย่างเช่น ความโกรธ ก็โกรธบ่อย หนัก ๆ เข้า ไม่อยากให้ตนเองโกรธ ทำไม่ได้

ดีที่สุดแค่นั่งเงียบ ๆ นาน ๆ ไป พออยู่คนเดียวก็ รู้สึกเสียใจ ที่ไปเพ่งโทษผู้อื่น ศีลก็นี้ก็แย่ละเจ้าค่ะ

 

ความโลภหนูก็ยังโลภอยู่ เช่นอาทิตย์ที่แล้วอยากได้มือถือเครื่องใหม่

มี option น่าใช้ แต่ก็เอาน่า ทน ๆ ไปก่อน พอเผลอ ปุ๊บ ได้ของมาในมือเรียบร้อย

 

ส่วนข้อทีว่าด้วยกามอย่างหยาบ คงไม่ขนาดนั้นเจ้าค่ะ

แต่ก็ยัง พอใจว่าคนโน้น หน้าตาดี คนนี้ดูหล่อ

ก็ไม่เว้นว่าแฟนใคร แต่ขนาดลงมือทำนั้นก็ไม่ขนาดนั้นเจ้าค่ะ

 

เรื่องคำพูดคำจา ติดนิสัยชอบพูดเพ้อเจ้อ แก้ไม่หายสักที

เผลอปุ๊บนินทาปั๊บ เข้าให้ หรือบางที บอกอะไรใครไว้ ก็ลืมข้อนี้ อาการหนักเจ้าค่ะ

 

ข้อไม่ดื่มเหล้าพอรอดเจ้าค่ะ กว่าจะ สกัดกั้นใจ ให้ถอยก็หนักอยู่ แต่หนูก็ยังประมาท

ขาดสติบ่อย รวม ๆ แล้ว ยังห่างไกลกับคำว่า บรรลุธรรมนัก เจ้าค่ะ

 

กราบขอบพระคุณในความเมตตาเจ้าค่ะ

 

 

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท