เรื่องเล่า-บรรยาย นักเรียนที่รัก 2


อ่านเองด้วยค่ะ........แล้วมาคุยกัน

เรื่องเล่า-บรรยาย นักเรียนที่รัก 2

 

มีชั่วโมงสอนหนังสือค่ะ หัวข้อคือ โรคของเด็กวัยเท่ากับหรือน้อยกว่าหนึ่งขวบ

 

เนื้อหาของโรคมีมากมาย ถ้าบรรยายโดยละเอียด เวลาที่ได้รับมอบหมายมา ไม่พอแน่นอน

 

หลังจากอ่าน ทบทวน ทำความเข้าใจ เตรียมสื่อการเรียนการสอน

ซ้อมการสอน การบรรยาย

เสาะหาเนื้อหาเพิ่มเติมนอกเหนือไปจากเค้าโครง ขอบเขตที่กำหนดไว้ หากต้องเรียนรู้ต่อเนื่องกัน

 

ในที่สุด

 

อีกแล้วค่ะ

 

หลังจากฟังคำบรรยายของอาจารย์ท่านอื่นที่สอนต่อเนื่องกัน

 

หลับตาสักพัก

 

แล้วคิด “ตรอง”

 

ถ้าเราเป็นนักเรียน

เราอยากรู้อะไรบ้าง

เรานำไปใช้เมื่อไหร่

 

และ

 

จะใช้อย่างไร

ให้เกิดประโยชน์ต่อตัวคนไข้ และ ต่อสังคม

 

ในที่สุด การบรรยายที่เตรียมมาถูกดัดแปลงส่วนหนึ่งให้กลายเป็นเรื่องเล่า

เป็นการพูดคุยถึงประสบการณ์

และปัญหาที่เขาจะต้องพบจริง-ในชีวิตการทำงาน

 

เช่น

ถ้าเราเจอคนไข้ ท้องมาสามครั้ง แท้งทั้งสามครั้ง....เรา..ควรทำอย่างไร

เพื่ออะไร จุดมุ่งหมาย เป้าหมายสำคัญของคนไข้คืออะไร

 

เราต้องเรียน และทำความเข้าใจกับภาวะปกติ ภาวะผิดปกติ เพื่อให้รู้ถึงสาเหตุแน่ชัด

ให้รู้ว่า ถ้าเราจะช่วยเขา-คนไข้


เราต้องนำความรู้ด้านไหน แค่ไหน ผลการตรวจทางห้องปฏิบัติการแขนงใด

การตรวจพยาธิสภาพโดยละเอียด ที่ทุ่มเทสมอง แรงกาย ความคิด...

ช่วยอะไรคนไข้

 

นำข้อมูลเหล่านี้ทั้งหมดมาขบคิด ตรวจ วินิจฉัยและอธิบาย แก่คนไข้อย่างไร

 

................

 

ในที่สุด การเรียนการสอนวันนี้ จึงกลายเป็นเรื่องเล่า เรื่องพูดคุยพอ ๆ กับการบรรยาย

 

และครูก็ทิ้งท้ายไว้ว่า 

 

 

“อ่านเองด้วยค่ะ”

“อ่านตรงนี้ หน้านี้ บทนี้ และ....”

 

“แล้วมาคุยกัน”

 

 

 

มีต่อค่ะ

คำสำคัญ (Tags): #ครูเพื่อศิษย์
หมายเลขบันทึก: 301618เขียนเมื่อ 28 กันยายน 2009 22:06 น. ()แก้ไขเมื่อ 26 ตุลาคม 2013 21:36 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (10)

ชอบจังเลยครับ

"ถ้าเราเป็นนักเรียน เราอยากรู้อะไรบ้าง เรานำไปใช้เมื่อไหร่"

แวะมาทักทายครับ

พี่เล็กครับ

ทีมงาน AAR. คุ้หน้าคุ้นตาบ้างไหมครับ :)

บรรยากาศเมื่อสักครู่ที่ผ่านมาครับผม

เรากำหนดเวลาคร่าวๆที่จะไป โรงเรียนชำฆ้อพิทยาคม เดี๋ยวจะเช็คเวลากับพี่ครับ

สวัสดีค่ะครูในยุคนี้จะเล่าประสบการณ์เพื่อนำเข้าสู่บทเรียน..ต่อไปก็จะให้ผู้เรียนได้ศึกษาค้นคว้า..ตั้งคำถามมากๆๆๆเพื่อที่จะได้สรุปง่าย..เพราะครูสอนมีเป้าหมายคือ..หมดเวลาสอนแล้วนักเรียนจะได้รับความรู้และผลงานตามที่ครูต้องการให้เกิด..

  • มาเรียนรู้ครับ
  • อ้อ! ท่านอาจารย์ ..เรื่องหนังสือ ไม่ต้องเกรงใจครับ
  • ส่งที่อยู่ ไปที่E-mailผมเลยครับ
  • แล้วจะส่งมาให้จริงๆนา...ไม่ได้โม้
  • ขอบพระคุณครับ

P

หนานเกียรติ

ชอบจังเลยครับ

 

"ถ้าเราเป็นนักเรียน เราอยากรู้อะไรบ้าง เรานำไปใช้เมื่อไหร่"

ขอบคุณค่ะที่คิดเหมือน ๆ กัน

ขอบคุณจริง ๆ ค่ะ

 

ดีใจกับนักศึกษาจังค่ะ ที่มีอาจารย์ที่เอาใจใส่อย่างนี้

ลูกสาวที่กำลังเรียนแพทย์อยู่ ก็มักเล่าให้ฟังค่ะ ว่าอาจารย์จะเน้นให้นำทฤษฎีไปใช้พลิกแพลงในกับคนไข้ในชีวิตจริงได้อย่างไร

พรุ่งนี้ลูกสาวจะสอบเป็นวันสุดท้าย สอบเสร็จคงนอนเป็นตายค่ะ

P
จตุพร วิศิษฏ์โชติอังกูร
บรรยากาศ AAR กันเองดีนะคะ
แต่อย่างที่พี่บอกไว้หลังอ่านเมล์แล้ว...รู้สึกทรงพลัง...ค่ะ
ขอบคุณค่ะที่แบ่งปันภาพน่ารัก ๆ อบอุ่นมาให้...;P
P

rinda  พยายามถามเขา-ลูกศิษย์ บ้างน่ะค่ะ

แล้วเมื่อเขาตอบ เราได้รู้อะไร ๆ ที่เขาคิด แง่มุม ความคิดเห็น ด้วยค่ะ

P

ณัฐรดา เห็นนักเรียนรุ่นนี้ เขาเก่งกันค่ะ

กล้าซัก กล้าถาม กล้า...แซวครูด้วยค่ะ

อนุญาตให้แสดงความเห็นได้เฉพาะสมาชิก
พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท