อนงค์ศิริ
รองศาสตราจารย์ อนงค์ศิริ วิชาลัย

การเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมของครูต้องปลูกฝังเมื่อยังเป็นนักศึกษาครู


เทอมนี้เป็นบุญของผู้เขียนที่มีโอกาสสอนรายวิชาทักษะและเทคนิคการสอน

สำหรับนักศึกษาครุศาสตร์บัณฑิต  ที่กล่าวว่าเป็นบุญนั้นเพราะสิ่งที่พบเห็น

จากการเป็นศึกษานิเทศก์มาร่วม 2 5 ปี  ย่อมรู้ดีว่า

ทำไมครูจึงไม่เปลี่ยนแปลงพฤติกรรมการเรียนการสอน 

และต้องยอมรับอีกว่า  ไม่ว่าจะปฏิรูปรอบที่สอง หรืออีกกี่รอบ เชื่อว่าพฤติกรรม

การเรียนการสอนในห้องเรียนยากที่จะเปลี่ยนแปลง !!!!! เพราะอะไรหรือ ?

เราคงไม่ปฏิเสธว่า   ปฏิรูปการศึกษาที่ผ่านมานั้น  ประเทศชาติคาดหวังที่จะเห็น

การเปลี่ยนแปลงการศึกษา  แต่...กลับพบว่า ยิ่งปฏิรูป เท่าใด นักเรียนยังเรียน

อ่อนแทบทุกวิชา  เด็กอ่านไม่ออก เขียนไม่ได้  มีอยู่ทั่วไป 

ผลการประเมินคุณภาพนักเรียนระดับประเทศ  ในแต่ละปี

มีแต่ข้อมูลบ่งบอกว่าไม่น่าพอใจ

แต่..แนวทางแก้ไข  ยังคงแก้ไขที่ปลายเหตุ  ทั้งอบรมสัมมนา ใช้งบประมาณใน

แต่ละครั้ง  จำนวนมหาศาลจนครูอยากจะลาออกไปให้พ้นๆ  เพราะอบจนเกรียม

แต่ครูก็ยังสอนด้วยวิธีเดิมๆแก้กันที่ปลายเหตุหรือไม่ 

ต้นเหตุนั้นล่ะ มีใครพูดถึงบ้างไหม เชื่อเถิดว่าปฏิรูปสักเท่าใดก็ไม่มีผล  ถ้า

สถาบันผลิตครูยังไม่ยอมปฏิรูปการเรียนการสอนในระดับอุดมศึกษา 

ยังสอนโดยยึดผู้สอนเป็นสำคัญ คำอ้างที่ได้ยินเสมอว่านี่ ระดับอุดมศึกษา

แต่ไม่คิดว่านักศึกษาเรียนมาอย่างไร  ก็...ย่อมนำไปใช้อย่างนั้น

ผู้เขียนยอมรับว่า  เป็นครูนอกคอก  พยายามจัดกิจกรรมให้นักศึกษาครู

ได้เรียนรู้ด้วยการสร้างสรรค์ความรู้เอง โดยเฉพาะฝึกทักษะและเทคนิค

การสอน เห็นชัดเจนที่สุดที่นักศึกษา ถนัดที่จะสอนโดยบรรยาย

นำเสนอโดย Power point (เรียนรู้มาอย่างไรก็สอนอย่างนั้น) ใช่หรือไม่

เชื่อเถิดว่า  จุดอ่อนของคนไทยมิใช่แค่ อ่าน คิดวิเคราะห์และเขียนไม่เป็น

เท่านั้น  การสรุปความ สังเคราะห์ ความรู้เป็นของตนเองยังสรุปไม่ได้

ยิ่งการเรียนการสอนที่ยึดตามตำรา   ตามแบบฝึกหัดที่กำหนดเหมือนๆกัน

ทุกๆหมู่เรียน  ยิ่งไม่ได้พัฒนาความคิดแต่อย่างใด  เพราะ Copy ต่อๆ

กัน  หวังคะแนนเก็บเท่านั้น  ถ้าเจ้าตัวคัดลอกก็น่าจะได้ซึมซับ เข้าสู่สมองบ้าง

แต่กลับไปให้คนอื่น คัดลอกมาส่งนี่สิ   ผู้สอนจะคิดหรือไม่ไม่ทราบ

ถ้าครูระดับอุดมศึกษา  ไม่ตระหนักถึงการผลิตบัณฑิตครู

ที่จะต้องไปสอนโดยแนวทางการปฏิรูปการเรียนรู้

มิใช่การถ่ายทอดความรู้ ความคิด ของครูสู่เด็กแล้ว 

น่าห่วงว่าครูพันธุ์ใหม่จะเป็นครูพันธุ์ดีที่คาดหวังหรือไม่

ในเมื่อขณะที่เรียนยังไม่เคยฝึกคิด  ฝึกลงมือทำ  คอยแต่จดคำอธิบาย บรรยาย

จากครูอาจารย์ตลอดเวลา

โดยเฉพาะการเรียนรู้ที่ผู้เรียนมีความสุข  จะเกิดขึ้นได้อย่างไร

ตอนเรียนก็แสนเครียด  ไม่ได้เรียนรู้ด้วยกระบวนการที่หลากหลาย

ผู้เขียนพยายามจัดกิจกรรม  ให้มีเสียงเพลง เกม และกิจกรรมกลุ่มและเทคนิค

ต่างๆมากมาย  แต่ บรรยากาศในการเรียนรู้ไม่เอื้ออำนวย

 ถูกค่อนแคะจากผู้สอนด้วยกันบางคน ว่านี่อุดมศึกษา

ไม่เข้าใจว่าเมื่อเรียนอย่างไร  ย่อมนำไปใช้จัดกิจกรรมกับผู้เรียนอย่างนั้น

จึงอยากเรียกร้องให้ผู้มีส่วนเกี่ยวข้องในการจัดการศึกษาทราบด้วยว่า

ปฏิรูปการเรียนรู้..ต้องเริ่มวางรากฐานว่าที่ครู..ในปัจจุบัน

การปรับแก้ครูประจำการค่อนข้างยากเพราะเขาเคยเรียนมาอย่างไร เขาย่อม

สอนอย่างนั้น   เข้าทำนอง ไม้อ่อนดัดง่าย ไม้แก่ดัดยาก

ว่าแต่ว่า...ครูอุดมศึกษาจะร่วมมือหรือไม่เท่านั้นเอง

 

 

หมายเลขบันทึก: 301615เขียนเมื่อ 28 กันยายน 2009 22:03 น. ()แก้ไขเมื่อ 17 พฤษภาคม 2012 09:38 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (13)

มือซ้ายจับหนังสือ มือขวาถือชอล์ค เขียนไม่ได้คิดไม่ก็ให้ลอกในกระดาน การสอนแบบชอล์คแอนด์ทอล์ค

ครูก็พยามจะเปลี่ยนครับ สุดท้ายก็สอนเพื่อสอบ ป้อนความรู้อัดใส่ เวลาสอบก็สำรอกออกมา

สอบได้สอบดี เรากำลังกลับไปสู่ระบบแพ้คัดออกครับ

สอนเขาให้มีเจตคติที่ดีเหมือนกับครูคุรุทายาท แต่ปัจจุบันเราสูญครูดีไปหมดแล้ว เขาไปเป็นผู้บริหารหมดแล้ว

เหมือนเขาพูดเชิงประชดว่า"เรากำลังสูญเสียหมอดีๆ เพื่อจะได้ผู้บริหารที่ไม่เอาไหน" อาจารย์คิดยังไงครับ

เป็นกำลังใจให้ครับ เชี่ยวชาญอยู่แล้วครับ

อาจารย์ครับ

ผมเป็นศิษย์เก่าสถาบันราชภัฏเชียงใหม่ครับ

เคยเรียนวิชานี้ด้วย

เรียนจบมาไม่ได้เป็นครูครับ เพราะรู้ตัวว่าไปสอบแข่งกะเขาคงไม่ได้

เป็นได้แต่ข้าง ๆ คู ๆ

อยากแวะไปเยี่ยมจังเลยครับ

ตอบท่านพรชัย

ขอบคุณค่ะที่ร่วมแจม ครูดียังอยู่  แต่สู้ระบบไม่ได้

สังคมวิกฤติเพราะการศึกษามีส่วนด้วย หรือไม่ 

การศึกษาจะนำสังคมได้อย่างไร

ในเมื่อคนในวงการศึกษาแทบจะยืนหยัดต่อไปไม่ไหว 

ตอบ ท่านหนานเกียรติ

ดีใจที่ได้ต้อนรับศิษย์เก่า ราชภัฏเชียงใหม่ค่ะ

ว่างๆ แวะมาเยี่ยมสถาบันบ้างนะคะ

 

สวัสดีอีกรอบครับอาจารย์

ผมเป็นลูกศิษย์ของ อ.วีระ คำวิเศษณ์ อ.เมธีพงษ์ สืบประดิษฐ์ ฯลฯ ครับ

เข้าใจว่าน่าจะเกษียณกันไปแล้ว

อยู่ที่ตัวเราแล้วล่ะคับ

การจะทำให้พฤติกรรมเปลี่ยนแปลงไม่เพียงแต่เปลี่ยนในรั้วมหาวิทยาลัย

แต่คนที่จะเป็นครูได้นั้น หนูคิดว่าใจต้องมาก่อนค่ะ

ถ้าใจไม่รักที่จะเป็นครู ต่อให้เรียนได้ A ทุกวิชา

ได้เกียรตินิยมอันดับหนึ่ง

คนๆนั้นก็เป็นครูที่ดีไม่ได้

รัตนาภรณ์ พร้อมรักษา

.....สวัสดีค่ะอาจารย์......

อาจารย์ค่ะ ที่ว่าการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมของครูต้องปลูกฝังเมื่อยังเป็นนักศึกษาครู การจะทำให้พฤติกรรมเปลี่ยนแปลง

ได้นั้นยาก เพราะบางคนใจไม่รัก แต่ถ้าปลูกฝังมากๆ ก็อาจจะเปลี่ยนแปลงได้เพียงแต่ต้องใช้เวลาค่ะ ...ขอบคุณค่ะ

สวัสดีค่ะ.....รักษาสุขภาพด้วยนะค่ะ..... หลับฝันดีค่ะ......

กราบเรียนอาจารย์ที่เคารพนะคะ ดิฉันนางสาวมยุรา ไชคำ รหัส 50221118 หมู่เรียน กป50.ค5.01 (ภาคพิเศษเสาร์-อาทิตย์) ก่อนอื่นก็ต้องกราบขอประทานโทษอาจารย์ในเรื่องของการนำเสนองานวันนี้ทางกลุ่มมีความผิดพลาดอย่างมากก็ต้องขอความอนุเคราะห์จากอาจารย์ในการแก้ไขระบบงานของกลุ่มในครั้งต่อไปและจะนำไปปรับปรุงแก้ไขเพื่อให้เหตุการณ์นี้เป็นอุทาหรณ์และคอยเตือนพวกเราอยู่เสมอที่จะพัฒนาตนเองให้สมกับความเป็นครูที่ดี ขอบคุณอาจารย์สำหรับคำแนะนำดีๆ คติสอนใจและสิ่งดีๆอีกมากมายที่ได้เรียนรู้จากอาจารย์

ขอโทษนะคะที่นอกเรื่องมาเยอะเลย หนูได้อ่านบทความของอาจารย์หลายๆบทความแล้วนะคะแต่ขอแสดงความคิดเห็นในบทความนี้เพราะหนูอ่านแล้วมีความรู้สึกว่ามันเป็นจริงอย่างที่อาจารย์ได้กล่าวมา โดยบ้างครั้งเราได้เรียนรู้สิ่งที่ดีและคิดว่ามันน่าจะมีประโยชน์ต่อการจัดการเรียนการสอนแต่ครูในองค์กรไม่ยอมรับและไม่เห็นด้วยเพราะเขาไม่ได้เรียนหรือถูกสอนมาด้วยวิธีการแบบนี้และคิดว่าวิธีการแบบเก่าก็ดีอยู่แล้ว ดั้งนั้นจึงเป็นเรื่องยากที่เราจะแก้ไขในสิ่งที่มันเป็นปลายเหตุก็เหมือนกับที่อาจารย์ได้กล่าวไว้ว่าเขาถูกสอนมาอย่างไร เขาก็ย่อมจะถ่ายทอดไปอย่างนั้น หนูเห็นด้วยอย่างยิ่งที่จะมีการเตรียมพร้อมตั้งแต่ในระดับอุดมศึกษาในการผลิตครูที่ดี มีคุณภาพและที่สำคัญการมีจิตวิญญาณของความเป็นครู

นางทัศนีย์ พุทธโยธา

ดิฉันนางทัศนีย์ พุทธโยธา รหัส 50221149 หมู่เรียน กป50.ค5.01 (ภาคพิเศษเสาร์-อาทิตย์)ดิฉันได้อ่านบทความต่าง ๆ ของอาจารย์หลายๆบทความแล้ว แต่ดิฉันประทับใจบทความนี้มากค่ะ การเป็นตัวอย่างที่ดีย่อมอยู่ในใจครูทุกคน ซึ่งอาจารย์ได้ทำให้ทุกคนได้เห็นแล้วคะ มันเป็นมากกว่าคำพูดและดิฉันนจะพยายามทำในสิ่งที่อาจารย์สอนให้ได้ดีที่สุดค่ะค่ะ ดิฉันเห็นด้วยค่ะว่าพฤติกรรมการเรียนการสอนในห้องเรียนถึงแม้จะมีการปฎิรูปสักกี่รอบก็ยากที่จะเปลี่ยนแปลงเพราะยิ่งปฏิรูป นักเรียนยังเรียนอ่อนและผู้บริหารยังคงแก้ไขที่ปลายเหตุ ดิฉันมีความศรัทธาในตัวอาจารย์ค่ะ เพราะอาจารย์พยายามจัดกิจกรรมการเรียนรู้ด้วยการฝึกทักษะและเทคนิคการสอน และให้แสดงความคิดเห็นทางการศึกษาออกมา ถึงแม้นักศึกษาครูส่วนใหญ่ถนัดที่จะสอนโดยสอนตามหนังสือเพียงอย่างเดียว ดังตัวอย่างที่ดิฉันได้เห็นคือ เมื่อมีการวัดทักษะทางวิชาการระหว่างทางโรงเรียนเอกชนกับโรงเรียนของรัฐบาลปรากฏว่าโรงเรียนรัฐบาลนักเรียนเมื่อวัดผลออกมามีคะแนนที่ตำและไม่มีการปรับปรุงการศึกษาขึ้นมาเลย ไม่แปลกใจเลยที่มาตรฐานการศึกษาของไทยยังไม่เท่าเทียมกัน ทำให้ค่านิยมในการหาโรงเรียนดี ๆ จึงยังมีอยู่ โรงเรียนในท้องถิ่นมีแต่นักเรียนที่เป็นบุตรของคนต่างด้าวหรือไม่ก็พ่อแม่ยากจน หรือว่าสังคมเราสร้างค่านิยมให้แก่พ่อแม่อย่างนั้น ซึ่งน่าจะเป็นปัญหาให้ผู้ใหญ่ในบ้านเมืองได้ขบคิดถึงปัญหาดังกล่าวเพื่อนำไปแก้ไขให้ดียิ่งขึ้น ขอบคุณคุณครูมากค่ะที่ให้โอกาสได้แสดงความคิดเห็นนะคะ ขอบคุณค่ะ

ดิฉันนางทัศนีย์ พุทธโยธา รหัส 50221149 หมู่เรียน กป50.ค5.01 (ภาคพิเศษเสาร์-อาทิตย์)ดิฉันได้อ่านบทความต่าง ๆ ของอาจารย์หลายๆบทความแล้ว แต่ดิฉันประทับใจบทความนี้มากค่ะ การเป็นตัวอย่างที่ดีย่อมอยู่ในใจครูทุกคน ซึ่งอาจารย์ได้ทำให้ทุกคนได้เห็นแล้วคะ มันเป็นมากกว่าคำพูดและดิฉันนจะพยายามทำในสิ่งที่อาจารย์สอนให้ได้ดีที่สุดค่ะค่ะ ดิฉันเห็นด้วยค่ะว่าพฤติกรรมการเรียนการสอนในห้องเรียนถึงแม้จะมีการปฎิรูปสักกี่รอบก็ยากที่จะเปลี่ยนแปลงเพราะยิ่งปฏิรูป นักเรียนยังเรียนอ่อนและผู้บริหารยังคงแก้ไขที่ปลายเหตุ ดิฉันมีความศรัทธาในตัวอาจารย์ค่ะ เพราะอาจารย์พยายามจัดกิจกรรมการเรียนรู้ด้วยการฝึกทักษะและเทคนิคการสอน และให้แสดงความคิดเห็นทางการศึกษาออกมา ถึงแม้นักศึกษาครูส่วนใหญ่ถนัดที่จะสอนโดยสอนตามหนังสือเพียงอย่างเดียว ดังตัวอย่างที่ดิฉันได้เห็นคือ เมื่อมีการวัดทักษะทางวิชาการระหว่างทางโรงเรียนเอกชนกับโรงเรียนของรัฐบาลปรากฏว่าโรงเรียนรัฐบาลนักเรียนเมื่อวัดผลออกมามีคะแนนที่ตำและไม่มีการปรับปรุงการศึกษาขึ้นมาเลย ไม่แปลกใจเลยที่มาตรฐานการศึกษาของไทยยังไม่เท่าเทียมกัน ทำให้ค่านิยมในการหาโรงเรียนดี ๆ จึงยังมีอยู่ โรงเรียนในท้องถิ่นมีแต่นักเรียนที่เป็นบุตรของคนต่างด้าวหรือไม่ก็พ่อแม่ยากจน หรือว่าสังคมเราสร้างค่านิยมให้แก่พ่อแม่อย่างนั้น ซึ่งน่าจะเป็นปัญหาให้ผู้ใหญ่ในบ้านเมืองได้ขบคิดถึงปัญหาดังกล่าวเพื่อนำไปแก้ไขให้ดียิ่งขึ้น ขอบคุณคุณครูมากค่ะที่ให้โอกาสได้แสดงความคิดเห็นนะคะ ขอบคุณค่ะ

------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

แสดงความคิดเห็นกับข้อความที่โพสไว้ สำหรับคุณทัศนีย์ พุทธโยธา

ข้าพเจ้าไม่แน่ใจนะว่า คนที่โพสประกอบอาชีพทางการศึกษาหรือไม่ การแสดงความคิดเห็นที่เป็นดูหมิ่นสถานศึกษาของรัฐที่มีผลสัมฤทธิ์ต่ำนั้น ท่านได้ตรวจสอบตามหลักฐานจากที่ใด และมีความน่าเชื่อถือเพียงใด การแสดงความคิดเห็นที่แสดงออกถึงการดูถูกโรงเรียนของรัฐนั้น เราทราบดีว่า การที่จะเป็นข้าราชการ หรือพนักงานของรัฐนั้น ต้องมีการแข่งขั้นและใช้ความรู้ความสามารถเป็นอย่างมา เมื่อเปรียบกับสถานศึกษาเอกชนแล้ว เพียงแค่จบการศึกษา ม.6 ก็สามารถทำการสอนได้ แล้วคุณภาพการศึกษาจะได้มาอย่างไร สถานศึกษาของรัฐนั้น รับบุคคลที่จบปริญญาตรีทางการศึกษาเท่านั้น และต้องมีใบประกอบวิชาชีพเท่านั้นจึงจะสามารถเข้าร่วมงานได้

จากที่ข้าพเจ้าได้อ่านนั้น อยากให้คุณทัศนีย์ ได้กลับมามองตัวเอง ว่าสถานะเป้นอย่างไร และปัจจุบัน ทำหน้าที่ในฐานะครูผู้สอนหรือไม่ประการใด ฝากไว้ให้คิดนะจะบอกให้ ถ้าไม่อย่างนั้น โรงเรียนรัฐบาลก็จะทำหน้าที่ในการสื่อสารว่า คุณเป็นผู้ดูถูกอาชีพครูของรัฐบาล คุณก็อยากมาเป็นครูของรัฐบาลอย่าได้มาเป็นครูของรัฐบาลทั้งชาติและชาติหน้านะ จะบอกให้

ครูบ้านนอก

สุพินันท์ กันทะวงค์

การเรียนการสอนปัจจุบันล้ำหน้าแต่ผู้สอนยังเหยียบย้ำอยู่ที่เดิมไม่ยอมเปลี่ยนแปลง และไม่ยอมรับสิ่งใหม่ๆ ที่เกิดขึ้น คิดแต่ว่าเรียนมาอย่างไรก็สอนไปอย่างนั้น ไม่ยอมพัฒนาตนเอง ไม่ยอมพัฒนาสิ่งใหม่ให้กับเด็กรุ่นใหม่ที่จะก้าวไปสู่ความเป็นครู เพราะอาจารย์ในอุดมศึกษาส่วนใหญ่ไม่ยอมเปลี่ยนแปลงแนวการสอนส่วนใหญ่จัดการเรียนการสอนแบบบรรยาย นำความรู้มาให้แล้วก็ออกข้อสอบตามที่บรรยายไป ควรให้เด็กหาความรู้จาก เว็บไซด์บางแล้วนำสิ่งเหล่านั้นมาแต่งเป็นข้อสอบ อีกอย่างการสอนแบบใช้ power point มันง่ายต่อการสอน แต่การสอนที่ดีความจัดให้หลากหลาย และสิ่งที่ผู้เรียนจะเข้าใจได้ง่ายและจดจำได้คือการปฏิบัติ เมื่อทำซ้ำๆ ก็จะเกิดการคิด และการนำไปใช้ในชีวิตประจำวันได้

อาจารย์ วันนี้ผมมีโอกาสได้เข้าอ่านบทความอาจารย์ การเปลี่ยนพฤติกรรมครูนั้น กับสภาพความเป็นจริง ยังมีความแตกต่างกันอยู่มากมายใช่ใหม่ ที่อาจารย์เขียนนั้นผมภูมิใจมาก แต่ความเป็นจริงบางครั้ง ผมได้ยินมาว่า ครูนั้นเรียนๆๆ ไปเถอะ เดียวก็จบเอง แล้วเมื่อจบก็ไปเป็นลูกจ้างให้กับเจ้านาย คอยรับใชผู้หลักผู้ใหญ่ อยู่ดี ผมใด้ยินแล้ว ผมรู้สึกละอายใจตัวเองมากเลย ที่ได้ยินเรื่องแบบนี้

อาจารย์จะมีวิธีอื่นๆ แนวทางต่าง ในการปลูกฝัน นักศึกษา ที่จะก้าวไปเป็นครู หรือแม่พิมพ์ของชาติในอนาคต ที่จะให้ตัวเองรู้สึกว่า ตัวเองมีความสามารถพอที่จะไม่เป็นทาสของความคิดอีกต่อไป นอกจากตัวเรายอมแพ้ ต่อตัวเราเองเท่านั้น ท้าย ขอให้สู้ต่อๆๆไปนะ

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท