ฟูกูโอกะ..เขาบอกว่าเป็นเมืองที่น่าอยู่
วันนี้เราจะเดินทางไปเมืองฟูกูโอกะ กันแล้วนะคะ จากเมืองเล็กๆเราจะพากันเข้าไปเที่ยวในเมืองใหญ่ละคราวนี้ สำหรับเมืองฟูกูโอกะนั้น เป็นเมืองหลักของเกาะคิวชู เคยได้รับการโหวตให้เป็นเมืองที่น่าอยู่ที่สุดมาแล้วนะคะ เพราะว่าเป็นเมืองที่มีทั้งวัฒนธรรมอันเก่าแก่ และความเจริญในด้านต่างๆ แต่บรรยากาศ ไม่เร่งรีบมากมาย สบายๆ น่าเที่ยวคะ
รอรถไฟคะ
เราขึ้นรถไฟสาย JR express จากสถานีที่ yufuin ซึ่งเป็นสถานีที่เล็กๆน่ารัก ในชนบท เข้าสู่เมืองใหญ่ ใช้เวลาเดินทางประมาณ ๒ ชั้วโมงคะ รถไฟที่นั่งไปทันสมัยมาก ที่นั่งสะดวกสะบาย เขามีบริการจัดให้มีพนักงานสาวสวย มาถามผู้โดยสารว่าอยากจะถ่ายรูปเป็นที่ระลึกไหม? โดยจะให้เราสวมหมวกคล้ายๆพนักงานรถไฟ และมีป้ายบอกวันเวลาที่เราเดินทางด้วย
เรื่องแบบนี้แม่ต้อยไม่มีพลาดอยู่แล้วคะ อย่างที่เห็นในรูปคะ ..สวยไหมคะ?
รถไฟมาจอดที่สถานี Hakata คะ มีน้องๆจากสำนักงานการท่องเที่ยวไทยประจำฟูกูโอกะมารับ เข้าเมืองคะ ค่อยโล่งใจ งานนี้ไม่มีหลงทางแน่ๆ อิอิ
คืนนี้เราฉลองการเข้ามาในเมืองใหญ่โดยการกินอาหารทะเลแบบญี่ปุ่นคะ ภัตตาคารจะเป็นเรือใหญ่รอบๆจะเป็นพวกกุ้ง หอย ปูปลา ให้เลือกเอาได้ตามใจชอบ น่าสงสารมากกว่าคะ
ที่เมืองฟูกูโอกะนี้มีที่เที่ยวมากมาย รวมทั้งแหล่งช้อบปิ้งที่น่าช้อบมากๆ ในวันแรกเรานั่งรถไฟไปเที่ยววัดแห่งหนึ่งคะที่โด่งดังมาก ที่จริงเขาเรียกว่าศาลเจ้า ซึ่งตั้งอยู่อีกเมืองหนึ่งชื่อเมือง ดาไซฟุ ว่ากันว่าใครที่มาฟูกูโอกะ ต้องมาที่ศาลเจ้านี้ให้ได้
ศาลเจ้านี้ สร้างขึ้นเพื่อเป็นอนุสรณ์ สำหรับ มิชิชาเนะ ซึงะวาระ นักปราชญ์ และกวีเอกของญี่ปุ่นสมัยเฮอัน ซึ่งถุกเนรเทศจากราชสำนัก และมาเสียชีวิตที่นี่ กล่าวกันว่าศาลเจ้าแห่งนี้เป็นเทพเจ้าแห่งการศึกษา บรรดาลูกหลานชาวญี่ปุ่นจึงมากราบไหว้ เพื่อบนบานเพื่อให้สำเร็จในการศึกษา
จากสถานีรถไฟ เดินไปที่ศาลเจ้านี้ จะเป็นถนนปูด้วยหินมีเสา โทริอิตั้งเป็นระยะ
สองข้างทางมีร้านรวงหลากหลาย น่าแวะไปเสียทุกร้าน คนญี่ปุ่นมีเสน่ห์ อย่างหนึ่งคือชอบประดิดประดอย หรือจัด package ของสวยงามน่าซื้อมากๆ ขนมโมจิ น่ากินส่งกลิ่นหอมของแป้งจี่ หอมฟุ้งไปทั้งถนน
บรเวณศาลเจ้าสวยงามมาก มีต้นพลัมเรียงราย ตลอดสวน หากมาในฤดูกาลที่มีดอก หรือมีลูกคงสวยงามมากกว่านี้
หน้าศาลเจ้าจะมีรูปเทพเจ้าวัวหากใครได้ลูบหัวรูปเทพเจ้านี้จะประสบความโชคดี หายจากโรคภัยไข้เจ็บ แม่ต้อยก็ไปอธิษฐานบ้างคะ ว่าขอให้หายจาก การวิงเวียนที่ติดตัวไปไหนมาไหนด้วยนี่เสียเถิด โอมเพี้ยง..
แม่ต้อยและเพื่อนได้มีโอกาสไปอีกแห่งคะ ที่นี่ อาจจะกล่าวได้ว่าเป็นรูปภาพที่แสดงสัญญลักษณ์ของประเทศญี่ปุ่น พอๆกับ ภาพภูเขาไฟฟูจิยามานะคะ หากใครเห็นภาพนี้ต้องนึกถึงประเทศญี่ปุ่นคะ สถานทีแห่งนี้คือ ศาลเจ้าลอยน้ำ แห่ง มิยาจิมา หรือ อิตสึคุชิมะ Itsukushima shrine นั่นเอง
ต้องนั่งเรือไปคะ แม่ต้อยนั่งภาวนา นั่งนึกถึงเทพเจ้าวัวที่เพิ่งไปลูบหัวมาหยกๆ เพราะเกรงอาการวิงเวียนจะกำเริบอีก คริ คริ
สมัยก่อนเขาเล่าว่า เกาะนี้เป็นเกาะของเทพเจ้าคะ ศาลเจ้า อิตสึคุชิ สร้างในพศ. ๑๑๓๖ เพื่อบูชาเทวีแห่งท้องทะเล
ด้วยความงดงามและประวัติศาตร์ที่ยาวนานทำให้ศาลเจ้าแห่งนี้ได้รับการขึ้นทะบียนเป็นมรดกโลกอีกแห่งหนึ่งที่มีนักท่องเที่ยวหลั่งไหลกันไปเที่ยวทั่วโลก
เมื่อนั่งเรือไปสักพัก เราจะค่อยๆเห็นเสาโอโทริอิ สีแดงที่เห็นบ่อยๆในโฆษณาการท่องเที่ยวของประเทสญี่ปุ่น ตั้งสูงเด่นอยู่กลางทะเล หน้าศาลเจ้าด้านหลังเป็นภูเขาที่เป็นฉากหลังอันงดงามจริงๆคะ
การเดินไปศาลเจ้านี้ เมื่อลงจากเรือแล้วต้องเดินเลียบทางเดินไป ระหว่างทางจะมีร้านค้า( เช่นเคย) จนกระทั่งเห็นบริเวณศาลเจ้าอย่างใกล้ชิด ศาลาสีแดง เหมือนลอยบนน้ำ และมีทางเชื่อมคดคี้ยวไปมาน่าอัศจรรย์ใจ
ตอนเดินกลับนี่น่าเร้าใจยิ่งอีกแล้ว เพราะเราต้องเดินผ่านถนนสายช้อบปิ้ง อิอิ มีของขายสารพัด ที่ขึ้นชื่อคือ มีหอยนางรมย่างสดๆข้างถนน เขาบอกว่าอร่อยมาก แต่แม่ต้อยยังไม่ค่อยกล้าคะ เกาะมิยาจิวานี้มีชื่อเสียงเรื่องความอร่อยของหอยนางรมมากคะ
อีกอย่างที่เห็นขายกันมากคือไม้พายคะ มีทุกขนาดเลยเป็นสัญญลักษณ์เนื่องจากในสมัยก่อนชาวบ้านเชื่อว่าไม้บนเกาะนี้เป็นไม้มงคลมีความศักดิ์สิทธิ์ คนที่มาที่นี่จึงซื้อไปเป็นที่ระลึกคะ
วันนี้ พวกเราเดินกันมากมาย จึงแวะทานอาหารกลางวันที่บนเกาะนี้คะ รสชาด ญี่ปุ่นแท้ๆ อร่อยมากคะ และเมื่อเดินออกมาอีกเพื่อขึ้นเรือกลับ แม่ต้อยเห้นคนญี่ปุ่นขายน้ำแข็งใส ใส่สีต่างๆให้นักท่องเที่ยว ขายดีจริงๆคะ
นี่หากอยู่ที่ญี่ปุ่นจะขอเปิดร้านขายน้ำแข็งใสใส่สีสวยๆ น่าจะดีไม่น้อย
สวัสดีคะ
ความเห็น (5)
- สวัสดีค่ะ แม่ต้อย
- แอบไปเที่ยวเมืองฟูกูโอกะด้วยภาพ และคำบรรยายด้วยคนค่ะแม่ต้อย
คิดถึงแม่ต้อยคะ
ไก่ขอเกาะกระเป๋าไปเที่ยวด้วยนะคะ
- สวัสดีค่ะ
- เหมือนคู่แฝดเลยนะคะ
- คิดถึงแม่ต้อยค่ะ กางร่มทีไรคิดถึงมาก ๆค่ะ