Archanwell
รศ.ดร. พันธุ์ทิพย์ กาญจนะจิตรา สายสุนทร

มาช่วยกันทำหนังสือทำมือบันทึกปรัชญาการทำงานเพื่อเด็ก ... เพื่อเป็นของขวัญวันเกิดให้ครูหยุย วัลลภ ตังคณานุรักษ์ ...๕๕ ปี ของชีวิตเพื่อการสร้างสรรค์เด็ก


เขียนข้อความอวยพรสักสองสามคำ หรือครึ่งหน้า หรือหนึ่งหน้าก็ตามใจค่ะ บันทึกความรักที่ท่านมีต่อเด็ก และครูหยุยของเรา อย่ารีรอเลยค่ะ เตือนฝากมาว่า ควรจะผลิตเย็นวันที่ 30 กันยา อย่างช้าค่ะ เตือนว่าจะใช้ร้านประจำที่ท่าพระจันทร์ เขาทำเนี้ยบดีตอนเข้าเล่ม เพราะฉะนั้นขอให้ทุกคนส่งมาให้เตือนอย่างช้าเที่ยงคืนวันที่ 28 น่าจะดี ขอเวลาทำสัก 2 วันค่ะ เตือนขอปิดเล่ม 18.00 น. วันนี้ (29 ก.ย. 2552)

            อ.แหววได้หารือกับ อ.โก๋ อิทธิพล ปรีติประสงค์ ทาง MSN เมื่อวันพฤหัสที่ ๒๔ กันยายน พ.ศ.๒๕๕๒ เวลา 12:43 AM (ฮิฮิ...คุยกันประสาเรา) เรื่องการชักชวนกันทำหนังสืออวยพรวันเกิดครบรอบ ๕๕ ปีครูหยุยของพวกเรา

            แผนของเราเป็นดังอีเมลล์ที่หลายท่านได้รับ เป็นอีเมลล์จาก อ.โก๋ มีข้อความดังนี้

--------------------------------------------------------------

"เรียน พี่ๆน้องๆเพื่อนๆอาจารย์ ทุกท่าน
 
       วันนี้ได้รับแฟกซ์จากครุหยุย ตอนแรกถามว่ามีอะไรในแฟกซ์ แกก็บอกว่า ไม่มีอะไร ยังงง งง  ไม่มีอะไรแล้วส่งอะไรมาหนอ รีบให้คิววิ่งไปดู ปรากฎว่าเป็นแฟกกซ์จดหมายเชญไปร่วมงานวันเกิดครบรอบ ๕๕ ปี ครูหยุยที่มูลนิธิสร้างสรรค์เด็ก ในวันพฤหัสบดีที่ ๑ ตุลาคม นี้เวลา ๑๗.๐๐ น. เป็นต้นไป ในแฟกซ์เขียนชัดว่า งดดอกไม้ และ ของขวัญ ให้ร่วมทำบัญทอดกฐินแทน
 
       ได้หารือกับ อ.แหวว เห็นตรงกันว่า ทำหนังสือทำมือที่เกิดขึ้นจาก "ข้อเขียน" จากพวกเรา พี่ๆน้องๆเพื่อนๆ ที่ได้ร่วมงานกับครูหยุยน่าจะดีที่สุด
 
       จึงขอเชิญและชวนอย่างจริงจัง ให้ร่วมลงขันด้วยการเขียนอะไรเล็กๆน้อยๆถึงครูหยุยของพวกเรา ในฐานะคนที่ทุ่มเทการทำงานเพื่อเด็กๆในสังคมไทย
 
       ประเด็นที่อยากให้เขียนหลักๆมี ๓ ประเด็นครับ (๑) ภาพของครุหยุยกับการทำงานเพื่อเด็กที่เรามองเห็น (๒) นาทีป่ระทับใจต่อครูหยุย (๓) รักครูหยุยที่ตรงไหน โดยลงท้าย ด้วยการเขียน อยากอวยพรให้ครูหยุยว่า ......... จะเขียนแล้วส่งเมล์ หรือ ส่งเป็นแฟกซ์มาก็ได้
 
       ขออนุญาตแบ่งงานแบบนี้ครับ
 
       (๑) รบกวนน้องเตือนออกแบบ และทำต้นฉบับได้ไหม  กำหนดวันส่งต้นฉบับที่ตกแต่งแล้วภายในวันพุธที่  ๓๐ กย เพราะงานมีวันที่ ๑ ตุลา ตอนเย็น พอมีเวลาถ่ายเอกสารเนอะ
 
       (๒) รบกวนทุกท่านเขียนข้อเขียนเล้กๆน้อยๆ เลือกกันคนละประเด็นครับ โดยกำหนดส่งภายในวันจันทรที่ ๒๘ กย
 
       (๓) ตอนนี้ผมมีเมล์เฉพาะบางส่วน ยังนึกถึง
 
                ๓.๑ ครูแดง กับพี่ต๋อย รบกวนให้มิวโทรหาครูแดงเพื่อให้ครุแดงเขียนและส่งแฟกซ์ได้ไหม
                ๓.๒ ครูมน รบกวนเหยียน โทรหาครุมนเพื่อให้ครุมนเขียนและส่งแฟกซ์ได้ไหม
                ๓.๓ อาจารย์สมพงษ์ อาจารย์เอ เดี๋ยวอ.โก๋จัดการเอง
                ๓.๔ รบกวนอาจารย์แหวว ส่งเมล์ให้พีหริ่งด้วย ผมหาเมล์ไม่เจอแฮะ
                ๓.๕ แมว โทรหาครูมิ้น พี่ดำรง พี่เล็ก เพื่อขอให้เขียน และ เพื่อขอเบอร์โทร พี่น้อย พี่สายสม เพื่อให้เขียนและส่งแฟกซ์มา
                    ๓.๖ นึกไม่ออกแล้วหละ ใครจะช่วยเติมอะไรตรงไหนไหมครับ
                ๓.๗  แมว คิว และตา ช่วยเป็นธุระเรื่อง การถ่ายเอกสารด้วยนะ (ไม่แน่ใจว่ากี่ชุดดี ช่วยแนะนำด้วยครับ)
 
          ๔. การส่งเมล์ใช้วิธิการ reply all ครับ คนที่จะรับเอกสารหลักๆก็คือ
[email protected] กับ [email protected] และ [email protected] (เตือน น้องเตือนคงเข้ามาช่วยเนอะ)
 
          ๕. ใครมีรูปเด็ดๆๆๆๆๆของครูหยุยส่งเข้าเมล็นี้ได้เลยครับ อยากให้ส่ง จะได้มีรุปของครูหยุยเยอะๆ เอาแบบโพสต์ท่าแบบสุดขั้วน่าจะดีครับ
 
          ๖. เข้าใจว่ามีอเวลาอันน้อยนิด ทำเท่าที่ทำได้ เพื่อครูหยุย พี่หยุย ของพวกเรากันนะครับ
 
ขอบคุณมากๆครับ
อ.โก๋"

--------------------------------------------------------

         เพื่อให้ท่านที่มิได้รับอีเมลล์มาอวยพรครูหยุยด้วย และมีการรวบรวมข้อเขียนของมวลมิตรเพื่อครูหยุยของเรา  ก็เลยเปิดบันทึกเพื่อรวบรวมข้อเขียนที่คนส่งมา

---------------------------------------------------------

ปกหนังสือทำมือที่ อ.เตือน บงกช นภาอัมพร เป็นบรรณาธิการ

 เสร็จแล้วค่ะ โหลดได้เลย

http://learners.in.th/file/archanwell/book4Kru-Yui.pdf

หมายเลขบันทึก: 300602เขียนเมื่อ 25 กันยายน 2009 08:02 น. ()แก้ไขเมื่อ 6 กันยายน 2013 21:36 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (30)

RE: ชักชวนทำหนังสืออวยพรวันเกิดครบรอบ ๕๕ ปีครูหยุยของพวกเรา

- ครูหยุยของดดอกไม้และของขวัญ‏

จาก: tawatchai thaikyo

ส่งเมื่อ: 25 กันยายน 2552 0:33:01

ถึง: archanwell

        การทำงานด้านเด็กและเยาวชนไม่ใช่เรื่องง่าย แม้ว่า..เมื่อร้อยปีที่แล้ว ปัจจุบันและอีกร้อยปีข้างหน้าเด็กและเยาวชนจะไม่เคยเปลี่ยนแปลงไป แต่สิ่งที่เปลี่ยนไป 360 องศา ก็คือบริบทรอบ ๆ ตัวของเด็กและเยาวชน เพียงแต่อาการต่าง ๆ มักจะมาแสดงออกที่เด็ก ๆ เท่านั้น ผู้ใหญ่จำนวนมากไม่เข้าใจเหตุแห่งปัญหา จึงมักถากถางและกล่าวร้ายเด็ก ๆ เสมอ

         ดังนั้นจึงเป็นเรื่องธรรมดาที่คนทำงานด้านเด็กแลเยาวชนจริง ๆ ไม่ใช่ด้านเด็กปลอม ๆ จึงต้องมีความอดทน อดกลั้นอย่างสูง ผมเองทุกครั้งที่มีความทุกข์จากการทำงานเกี่ยวกับเด็ก ๆ ผมมักมีคนรักและเข้าใจยืนเคียงข้างและพร้อมให้กำลังใจเสมอ ใช้ความพยายามดึงมือให้ผมลุกขึ้นยืนและต่อสู้ และก็น่าปลาดใจที่ผมเองก็ลุกขึ้นยืนต่อสู่และผ่านมาได้ทุกครั้ง

        ผมคิดว่านอกจากคุณแม่คุณหญิงจันทนี สันตะบุตรแล้ว ผมมีอาจารย์วัลลภ ครูหยุย หรือพี่หยุยคนนี้แหละเป็นบุคคลที่สำคัญมากที่ทำให้ผมลุกขึ้นยืนต่อสู่มาจนถึงวันนี้ได้ ขอบคุณจริง ๆ

ธวัชชัย ไทยเขียว

อธิบดีกรมพินิจและคุ้มครองเด็กและเยาวชน

25 กันยายน 2552

สุขสันต์ วันเกิด แด่ ครูหยุย

ดิฉันก็เหมือนประชาชนโดยทั่วไป ที่รู้จักครูหยุยมานานแล้วจากผลงานของครูหยุยและรางวัลในการทุ่มเทกำลังกายและกำลังใจในจากการช่วยเหลือเด็กให้มีที่พักพิงและมีชีวิตใหม่    และยังเคยตื่นเต้นเมื่อได้เจอครูหยุยเป็นครั้งแรก   ทั้งยังนึกสนุกแอบไปนั่งใกล้ๆ ครูหยุยด้วย   แต่ไม่ได้พูดกัน 

ไม่เคยคิดว่าวันหนึ่งเราจะได้มาทำงานร่วมกัน

จากการที่ได้ทำงานร่วมกัน  ดิฉันทึ่งครูหยุยอยู่เสมอ ที่ครูหยุยจับประเด็นได้เร็วมาก  คิดทัน  คิดไว ในขณะที่พวกเรายังงงงวย  เครื่องไม่ติด  (คงดิฉันคนเดียว..)และสิ่งที่ดิฉันประทับใจครูหยุยอีก ก็คือ ครูหยุยเป็นประธานที่ดี  ดำเนินการได้สั้นกะทัดรัด  ได้ใจความ  ไม่ทิ้งหลักความถูกต้อง เหมาะสม  มีบทบาทนำ  ในขณะเดียวกันก็ให้เกียรติผู้ร่วมงาน   เป็นกันเอง  ไม่ถือตัว   สร้างบรรยากาศความเป็นพี่น้องมากกว่าการเป็นผู้เข้าร่วมประชุม  ซึ่งหาไม่ได้ง่ายนัก  ที่สำคัญ คือ   ทำงานจริง   จึงไม่แปลกใจเลยว่า  ทำไมคนที่มาทำงานใกล้ชิดกับครูหยุย  จึงมีความเคารพรัก  ผูกพันต่อครูหยุย   และรู้สึกมีความสุขที่ได้มาร่วมทำงานเพื่อสังคมกับครูหยุย    จะเห็นได้ว่าอนุกรรมการไม่ค่อยขาดการประชุม   และรู้สึกดีใจที่ได้เจอหน้ากัน   งานของอนุกรรมการติดตามการให้สถานะบุคคลแก่เด็ก    จึงประสบความสำเร็จ ดังที่พวกเราทราบกันเป็นอย่างดี     ทั้งนี้มาจาก “ความเป็นครูหยุย ”  นั่นเอง    ซึ่งมีนัยยะมากกว่าสิ่งที่กล่าวมา

ดิฉันโชคดี ที่ได้มีโอกาสรู้จักและร่วมงานกับครูหยุย  และอนุกรรมการท่านอื่นๆ

ในโอกาสที่ครบรอบวันเกิด 55  ปีของครูหยุย  ดิฉันขออาราชธนาคุณพระศรีรัตนตรัย  สิ่งศักดิ์สิทธิ์ในสากลโลก   และ   อำนาจแห่งความดีของครูหยุย  จงได้โปรดอำนวยอวยพรให้ครูหยุย และครอบครัว จงประสบความสุข  สมปรารถนาทุกประการนะคะ.

 

 

นางลัดดาวัลย์  สินธุรักษ์

อัยการพิเศษฝ่ายนโยบายและยุทธศาสตร์

สำนักงานอัยการสูงสุด

1     ตุลาคม    2552

สันติ ศิีิริธีราเจษฎ์

ครูหยุยเป็นทั้งแบบอย่างของการทำงานและแรงบันดาลใจของคนทำงานเพื่อเด็กอีกเป็นร้อยเป็นพันคน ..

สำหรับบางเรื่องเราต้องการทั้งต้นแบบ และฟันเฟืองที่เป็นแรงขับเคลื่อนอย่างไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อย รวมถึงเป็นแรงบันดาลใจและความหวัง ..

กับการทำงานเพื่อเด็กๆ ครูหยุยเป็นหนึ่งคนในนั้นแน่นอน ..

ถ้าให้เดาว่าครูหยุยอยากได้อะไรเป็นของขวัญวันเกิด ครูหยุยคงนึกถึงเรื่องดีๆสิ่งดีๆที่จะมีให้กับเด็กๆ มีความสุขมากๆ ร่างกายแข็งแรงนะครับครู ..

29 กันยายน 2552

ขอบคุณมากนะค่ะคุณครูหยุย ตลดเวลาที่ผ่านมา ครูคงเหนื่อยน่าดู แต่ครูก็ไม่ละทิ้งหน้าที่ความเป็นครู ดูแลเด็กมาตลอด

ดิฉันขอเป็นกำลังใจให้นะค่ะ ตัวดิฉันเองไม่มีโอกาสที่จะทำประโยชน์ให้กับเด็กๆเหล่านั้นเลย ขอชมเชยคุณครูหยุย จริงๆ

วันคล้ายวันเกิดปีนี้ ขอให้คุณครูหยุย ของเด็กๆ จงมีสุภาพแข็งแรง และอยู่ดูแลเด้กๆตลอดไปนะค่ะ ขอให้มีความสุขมากๆค่ะ

From: Sombat Boon-naam-anong

Sent: Thursday, September 24, 2009 12:16 PM

To: 'archanwell'

Subject: RE: ชักชวนทำหนังสืออวยพรวันเกิดครบรอบ ๕๕ ปีครูหยุยของพวกเรา

- ครูหยุยของดดอกไม้และของขวัญ

ส่งข้อความครับ
--------------------------

ในปีแรกของการทำงานเพื่อสังคม เมื่อปี 2531 ด้วยวัย 20 ปี ผมได้มีโอกาสติดตามรุ่นพี่คนหนึ่งไปนั่งคุยกับครูหยุยที่บ้านสร้างสรรค์เด็ก (ผมแอบอยู่ข้างหลังพี่เขาอีกที)
ด้วยระยะเวลาที่นานกว่ายี่สิบปี ผมเลยจำหัวข้อหลักที่ทั้งสองสนทนากันไม่ได้

แต่ผมจำได้แต่เพียงประโยคเดียว ที่เราถามครูหยุยว่า ทำไมครูหยุยเลือกที่จะทำงานกับเด็กเร่ร่อน ลูกซาเล้ง ครูหยุยตอบว่า

“ผมเป็นคนเห็นแก่ตัวครับ เพราะผมมีลูกสาว ลุกผมก็อยู่ในวัยเดียวกับเด็กเหล่านี้ หากเราไม่ทำอะไรกับเด็กเหล่านี้ วันหนึ่งเมื่อพวกเขาโตอย่างขาดโอกาสในการพัฒนา เขาก็จะกลายเป็นสภาพแวดล้อมของลูกสาวผม เด็กพวกนี้อาจเป็นโจร เป็นอาชญากร ดังนั้นผมควรสร้างสภาพแวดล้อมที่ดีให้กับยุคของลุกสาวผม”

คือผมไม่ได้คิดเชื่อตามคำพูดทุกตัวอักษรหรอก อย่างเช่นคำว่า “ผมเป็นคนเห็นแก่ตัว” แต่ผมคิดว่าครูหยุยช่างมีศิลปะในการสื่อสารให้น่าฉุกคิด และดูไม่โอ้อวดจนเกินไป พยายามอธิบายความเชื่อมโยงระหว่างปัญหาของสังคม กับ ตนเอง และ สังคมโดยรวม

ความเป็นครูหยุยที่นอกจากเป็นครูให้กับเด็ก ๆ ด้อยโอกาสแล้ว ก็ถือได้ว่าเป็นครูให้กับน้อง ๆ นักพัฒนารุ่นหลัง ๆ อีกด้วยเช่นกัน

หนูหริ่ง
มูลนิธิกระจกเงา

อ.แหวว ครับ

ผมได้เมล ของอาจารย์ เช่นกัน แต่ผมกำลัง งง ว่าจะเขียนให้ครูหยุยตรงไหนครับ??

ผมจะตอบกลับผ่าน email ครับ

RE: ชักชวนทำหนังสืออวยพรวันเกิดครบรอบ ๕๕ ปีครูหยุยของพวกเรา - ครูหยุยของดดอกไม้และของขวัญ‏
จาก:  sanphasit koompraphant  
ส่งเมื่อ: 24 กันยายน 2552 8:45:03
ถึง:  phunthip saisoonthorn 

Dear Archan Well,

At the moment I am attending CRC 52nd session in Geneva and very busy with Concluding Observations and Recommendations on the State Parties’ country report on CRC implementation. I will arrive in Bangkok on 11th of October, so I can not join this event.

Please convey my best wishes to Kru Hyui for his 55th birthday. 

 

All the best,

Sanphasit

จดหมายน้อยจากพี่เอ๊กซ์

บอสคนแรกของการทำงาน

ผมจบการศึกษา พัฒนาชุมชน จากวิทยาลัยครูพระนคร เมื่อปี 2537 ไปเป็น บอ. ต่อ 1 ปี พอคิดจะเริ่มทำงาน

ก็อยากจะทำงานที่รัก คือ งานด้านเด็ก เขียนจดหมายสมัครงานไปหลายที่ แต่ที่แรกที่ติดต่อกลับมาคือ

มูลนิธิสร้างสรรค์เด็ก ตอนนั้น ครูนิด แลบ้านสร้างสรรค์เด็ก ผมเข้าไปทำงาน กับ มสด. ครั้งแรก เงินเดือน 4,000 บาท

แต่ด้วยศรัทธาในตัวเลขาธิการมูลนิธิฯ จึงทำงานด้วยเพราะอยากเรียนรู้ในสิ่งที่ ครูหยุยมีและเป็นมา

ครั้งแรกที่ได้พบครูหยุย คือการประชุมที่จัดทุกเดือนของมูลนิธิ เพื่อให้โครงการต่าง ๆ รายงานความคืบหน้าการทำงาน

ครูหยุย เป็นคนที่เป็นกันเองมากกับเพื่อนพี่น้องที่ร่วมงนมาก ทักทายอย่างไม่ถือตัว ผมทำงานกับ มสด. 20 เดือนเต็ม

พี่หยุย เป็นคนสอนให้มีความคิดเชื่อมโยง อย่างเช่น ซื้อรถถัง ซื้อเครื่องบินรบ กระทบต่อเด็กอย่างไร ?? ซึ่งในช่วงนั้น

จะมีใครสักกี่คนที่คิดแบบนั้น ??

ผมได้เรียนรู้แนวคิดการทำงาน มองผ่านวิธีการบริหารคน การบ่มเพาะผ่านคำง่าย ๆ สั้น ๆ ที่จดจำมาถึงวันนี้

"เงินบริจาค เขาเจตนา บริจาคให้เด็ก เราเป็นคนทำงาน ใช้เงินที่เขาบริจาคให้เรามา ต้องทำงานให้คุ้มกับความตั้งใจของคนบริจาค"

มันก้องอยู่ในหู ในจิตใจ ในการทำงาน มาตั้งแต่ปี 2538 ถึงวันนี้ 14 ปี ที่เรียนรู้การทำงานจากครูหยุย ที่แกเรียกตัวเองติดปากว่า พี่

ครูหยุย เป็นผู้ใหญ่ที่เด็ก ๆ รัก ลูกน้องเคารพ เป็นคนที่เปิดกว้างในการทำงาน

ในฐานะที่ผมนับถือ พี่หยุย ในฐานะแบบอย่างที่น่าจดจำและน่าเจริญรอยตามในการทำงานภาคสังคม

ผมขออวยพร พี่หยุย แทน ชาวอิสรชน ทุกคน

ขอให้พี่หยุย มีสุขภาพแข็งแรง มีจิตใจที่ดี มีพลังและแรงกาย ทำงานเพื่อสังคมต่อไปตราบนานเท่านาน

ด้วยจิตศรัทธามั่น

นที สรวารี (เอ๊กซ์)

สำนักเลขาธิการ สมาคมสร้างสรรค์กิจกรรมอิสรชน(องค์กรสาธารณ ประโยชน์)

50/357 หมู่บ้านพนาสนธิ์ 2 ถนนนิมิตใหม่

แขวงมีนบุรี เขตมีนบุรี กรุงเทพมหานคร 10510

โทรศัพท์/โทรสาร 0 2914 5146

ประสานงาน 086 608 9151, 086 628 2817

ได้รู้จักตัวจริงครูหยุยครั้งแรกเมื่อเป็นอนุกรรมการคุ้มครองสวัสดิภาพเด็กฯ และครูหยุยในฐานะกรรมาธิการฯไปเยี่ยมการทำงาน รู้สึกประทับใจในท่าทีที่ได้พบเห็น

พอมาเป็นนักเรียนของสถาบันพระปกเกล้า หลักสูตรประกาศนียบัตรชั้นสูง "การเสริมสร้างสังคมสันติสุข รุ่น ๑" ได้พบครูหยุยเป็นนักเรียนรุ่นเดียวกัน เห็นน้ำใจครูหยุยในการเข้าช่วยลุงเอกจัดการงานด้านวิชาการของรุ่น ช่วยประชุมแบ่งงาน การมีมนุษยสัมพันธ์ การจัดการเรื่องต่างๆภายในรุ่น รู้สึกประทับใจ

ตอนไปทัศนศึกษาเมืองอิสาน-ลาว-จีน พอครูหยุยเห็นเด็กๆก็จะเข้าไปหาทันที ผมเชื่อว่านั่นคือสัญชาติญาณของความเป็นครูของครูหยุยที่ปรารถนาดีต่อเด็กอย่างแท้จริง ไม่ใช่การรักเด็กเพียงแค่หน้ากล้องทีวี..

ครูหยุยชอบสวมกางเกงยีนส์เป็นเอกลักษณ์ แต่ผมสวมกางเกงยีนส์ปีละนับครั้งได้

ครูหยุยผอม ผมอ้วน

ครูหยุยมีจิตวิญญาณของความเป็นครู แต่ผมไม่แน่ใจในตัวเอง

ครูหยุยรักเด็ก แต่ผมชอบสนุกแบบเด็ก

เอ...ไม่ค่อยเหมือนกัน แต่ทำไมผมรักครูหยุย ยังหาคำตอบไม่ได้ อิอิ

ลุวาระ ๕๕ ปี แล้วนี่นะ คารวะ คนเป็นครู ที่ชื่อ"หยุย"

ผู้ซึ่งเด็ก พึ่งได้ ไม่ใช่คุย เกิดมาลุย สู้งาน ด้านเยาวชน

ช่วยด้วยใจ ของครู รู้บ้างไหม ครูเดือดร้อน อย่างไร ไม่เคยบ่น

ขอให้เด็ก พ้นทุกข์ยาก ลำบากตน ครูอดทน เพื่อเธอได้ ด้วยใจครู..

มอบครูหยุยด้วยความรักและศรัทธา

บัณฑูร ทองตัน

อัยการผู้เชี่ยวชาญ

สำนักงานคดีแรงงานเขต ๘(ภูเก็ต)

ข้อเขียนความประทับใจถึงครูหยุย‏

จาก:  Stateless Child (มานะ งามเนตร) 

ส่งเมื่อ: 25 กันยายน 2552 8:33:13

ถึง:  caramill; archanwell; archangoh

-----------------------------------------------------

ความประทับใจY...ที่ร่วมงานกับครูหยุย

โดย ผมมา...นะครับ

แรกพบ ก็รักแล้ว

ได้ยินแต่ชื่อ ได้เห็นจากสื่อ ไม่คิดว่าจะได้พบและสัมผัส  จากวันแรกๆ ที่เริ่มทำงานที่สำนักงานคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ(ประมาณก่อนสงกรานต์ พ.ศ.2545) คุณหมอชูชัย  ศุภวงศ์ เลขาธิการคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติคนแรก ชวนให้ไปร่วมประชุมคณะอนุกรรมการ(ตอนนั้น...ชื่ออะไร ยังไม่ทราบเลย)ตามที่มีหนังสือเชิญจากวุฒิสภา และสิ่งที่คุณหมอชูชัยฯ แจ้งในที่ประชุมก็คือ “ผมจะให้คุณมานะ มาทำหน้าที่แทนผมตลอดไป....” เหตุผลก็คือ “มานะ”ทราบรายละเอียดต่างๆ ที่เกี่ยวกับงานของคณะอนุกรรมการฯ

นั่นคือ จุดเริ่มที่ทำให้ผมได้มาร่วมทำงาน ทั้งเทคนิค เทคโนโลยี ฐานความรู้และมุมมอง จนกระทั่งถึงวันนี้

งานที่ร่วมสร้าง

ครูหยุยให้โอกาสผมร่วมงานในฐานะอนุกรรมการ จนหมดวาระสมาชิกวุฒิสภา และเมื่อพ้นหน้าที่แล้วก็ยังได้รับแต่งตั้งอีกในสภานิติบัญญัติแห่งชาติ(สนช.) ทั้งงานที่ดูแลเรื่องเด็กไร้รัฐ ไร้สัญชาติและเด็ก เยาวชนที่ได้รับผลกระทบจากสื่อลามก งานที่พวกเราทุ่มเท ทำให้มีข้อมูลมาสร้างมุมมองใหม่ให้สังคมได้เห็นความสำคัญกับเด็ก

เมื่อพ้นตำแหน่งสมาชิกในสภาแล้ว ครูหยุย ก็ยังได้รับความเชื่อถือ โดยได้รับแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งและปฏิบัติงานในคณะกรรมาธิการวิสามัญของวุฒิสภา และคณะกรรมการคุ้มครองเด็กแห่งชาติ งานที่สานต่อและเริ่มบุกตลุยใหม่ ก็คือ งานติดตามการกำหนดสถานะบุคคลให้กับเด็กและครอบครัว ที่ส่งผลให้“ฅน”ที่ไม่เคยมีใครมอง ไม่มีโอกาสได้มีบัตรประจำตัวประชาชน สมกับความเป็น“ฅนไทย”ที่สมบูรณ์ มีสิทธิเต็มเช่น“ฅนไทย”อื่น

แต่เดิมมูลนิธิสร้างสรรค์เด็ก น่าจะมุ่งสร้างสรรค์ชีวิตดีๆ ให้เด็กอย่างเดียว แต่เมื่อเด็กมีปัญหาเรื่องสิทธิมนุษยชน กรณีที่ไม่มีชื่อในฐานข้อมูลการทะเบียนราษฎร ครูหยุย ก็มอบให้ครูนิดเป็นหัวหน้าสถานีสัญชาติ ที่ประสานงานรอบทิศ เพื่อให้“ฅนไทย”และ“ฅนไม่ใช่ไทย” มีโอกาสยืนสู้ในศักดิ์ศรีความเป็นฅน...ผมก็ได้ช่วยอีก

เทคนิคที่ได้เรียนรู้

ประชุมวงกลม ในเวทีอย่าให้ใครต้องตกเป็นเหมือนผู้ต้องหา ไม่นั่งประจันหน้า ตั้งวงหันหน้าคุยกันดีกว่า

ให้ทุกคนที่รู้พูด...แต่อย่ายาว ในฐานะเด็กกว่าคนอื่น มักจะได้พูดทีหลัง ก็ถูกกำหนดให้พูดแต่สาระสำคัญ

คาราโอเกะสร้างมิตร บางโอกาสที่คิดว่า เป็นงานยาก ครูหยุยมักใช้เสียงเพลงที่ไพเราะเสนาะโสตทุกแบบ หลากสไตล์ มาใช้ในการปูทางกับเพื่อนร่วมคิด มิตรร่วมงาน เพื่อให้สามารถคุยกันในงานที่อาจจะยาก ทำให้ง่ายขึ้น

เอาแค่พอได้...แล้วจะได้มากกว่าที่คิด การเสนอกฎหมายหรือการต่อรองในเรื่องต่างๆ ครูหยุยมักจะใช้เทคนิคทางจิตวิทยา เครดิต สร้างความเชื่อมั่น ทำให้ไม่มีอุปสรรค ขอเท่าที่สำคัญก่อนและอาจจะได้สิ่งที่ไม่ต้องขอก็ได้

จริงใจ...ใฝ่รู้  สู่ความร่วมมือ ครูหยุยเคยบอกว่า สิ่งที่อนุกรรมการพูดๆกัน ผมไม่คุ้นเลยสักเรื่อง แต่วันนี้ครูหยุย หายใจเข้า ออก และอยู่กับเรื่องการกำหนดสถานะบุคคล เหมือนพวกเราไปแล้ว (ฮ่ะ ฮ่ะ ฮ่า เราทำสำเร็จ)

ไม่ทิ้งกัน...ไม่ว่าใคร ชีวิตนี้อุทิศแล้ว

       ในวาระครบปีที่สนุกสนาน(ฮ่าฮ่า) มีอิสระจากภาระงานมากขึ้น ครูหยุยคงมีโอกาสคิดหาสิ่งที่ดีๆ ให้กับสังคมได้อีกเยอะแน่เลย...ผมฅนหนึ่งที่จะอุทิศชีวิตนี้ช่วยงานครูหยุยและพรรคพวก เพราะมีอุดมการณ์เดียวกัน

เพียงชายคนนี้...ไม่ใช่ผู้วิเศษ

ครูหยุย ในใจเรา ท่ามกลางเด็ก

ในช่วงปี ๒๕๔๒ สมัยที่กำลังเรียนปริญญาโท ได้เริ่มต้นทำงานกับอาจารย์แหวว มักจะได้ยินอาจารย์แหววพูดถึง “พี่หยุย” เสมอๆ อันที่จริงแล้วก็ไม่รู้จักทีเดียวนัก รู้จักเพียงแค่ว่าเป็น สว. อยู่ในวุฒิสภา ทำงานด้านเด็ก เยาวชน สตรี ผู้สูงอายุ คนด้อยโอกาส จนกระทั่ง ติดตามอาจารย์แหววเข้าไปในสภา ในประเด็นเรื่องเด็กไร้รัฐไร้สัญชาติ จึงได้มีโอกาสได้เจอครูหยุย “ตัวเป็นๆ” ครั้งแรก ภาพติดตาภาพแรกก็คือ ความยิ้มแย้ม และความเป็นกันเองของครุหยุย

สมัยนั้นกำลังศึกษางานด้านสื่อลามกบนเครือข่ายอินเทอร์เน็ตว่ามีปัญหาอย่างไร ต้องจัดการอย่างไร ในเวลานั้น ครูหยุยได้ตั้งคณะอนุกรรมการจัดการปัญหาเรื่องสื่อลามกที่มีผลกระทบต่อเด็ก เยาวชน สตรี โดยมีอาจารย์แหวว พี่สมา พี่หนูหริ่ง เป็นอนุกรรมการ ในตอนนั้น ใครๆมักเรียกอนุชุดนี้ว่า “อนุลามก” ในช่วงเวลานั้นจึงได้มีโอกาสเข้าร่วมประชุมพร้อมพี่หน่อย และ มณ

ความน่ารักของครูหยุยที่พวกเราสามคนมักแอบพูดกันเสมอๆ ก็คือ การฟังเสียงเด็กๆอย่างพวกเรา ครูหยุยจะฟังอย่างตั้งใจจึงได้ยินสิ่งที่เราพูด การนำเสนองานวิชาการของพวกเราจึงได้รับการให้ความเห็นและข้อเสนอแนะจากนักบริหารจัดการนโยบายอย่างตรงไปตรงมา ทำให้งานศึกษาของพวกเราเดินหน้า “การฟังเสียงเด็กๆอย่างเคารพและให้เกียรติไม่ได้มองแค่เป็นเด็ก” เป็นลักษณะเฉพาะของครูหยุย ที่ทำให้เราทั้งสามคนเข้าใจคำว่า การมีส่วนร่วมของเด็กที่เป็นไปอย่างนั้นจริงๆ

ไม่เพียงแต่การฟังที่ได้ยินเท่านั้น “การให้โอกาสในการทำงาน” กับผู้ใหญ่ในสภาในระดับอนุกรรมการ จนกระทั่งไปถึงระดับวุฒิสภา เป็นอีกหนึ่งเรื่องที่เรามักได้รับโอกาสจากครุหยุย แต่ครุหยุยก็จะมีวิธีการในการตรวจคุณภาพของงานก่อนที่จะให้นำเสนอ การจัดการที่ว่าก็คือ การจัดประชุมนำเสนอในวงเล็กๆระหว่างพี่ๆในอนุกรรมการ ทั้งอาจารย์แหวว พี่สมา พี่หริ่ง เคี่ยวจนงวด ก่อนที่จะปล่อยลงสนามจริง เรียกได้ว่า การให้โอกาสของครูหยุยนอกจากจะเป็นการให้โอกาสแล้วการยังวิธีการฝึกฝนให้เราโดยที่เราไม่รู้ตัวอีก นี่แหละ นักบริหารจัดการมนุษย์

งานที่ครูหยุยทำ มีมากมายหลายส่วน แต่ส่วนตัวอาจารย์โก๋เองได้สัมผัสในส่วนของสื่อลามก และ งานไร้รัฐ ไร้สัญชาติ แต่ที่ลงไม้ลงมือทำงานจริงๆก็คือ งานด้านสื่อเพื่อเด็ก การป้องกันปัญหาเรื่องสื่อลามกที่มีผลกระทบต่อเด็ก เยาวชน สตรี ประเด็นหนึ่งที่ครูหยุยมักถ่ายทอดให้พวกเราเสมอๆก็คือ การมองไปข้างหน้าของสังคมของเด็กว่าจะปลอดภัยไหม เข้มแข็งไหม รู้จักตัวเป็นๆของครูหยุยมากกว่า ๑๐ ปี ไม่ว่าจะอยู่ในตำแหน่งใด เราก็ยังเห็นครูหยุยคนนี้ทำงานเพื่อสังคมของเด็ก เยาวชน อยู่ดี

ในชีวิตโชคดีที่มีครูที่ปฏิบัติตนให้เห็นเป็นแบบอย่างมากกว่าที่จะบอกว่า คนดีเป็นอย่างไร ครูหยุยเป็นทั้งครูที่ทำมากกว่าพูด เพราะความที่ครูหยุยเป็นกันเองกับพวกเรา ครูหยุยจึงเป็นพี่ของพวกเราด้วย (ได้รึเปล่าหนอ) ให้สัญญากับตัวเองว่า จะทำงานเพื่อสังคมของเด็กแบบพี่ครูของเราทำต่อไป

สุดท้ายก็ขออวยพรให้ครูหยุยมีความสุขมากๆ ได้เห็นเด็กๆในประเทศไทยเติบโตขึ้นอย่างแข็งแรงทั้งร่างกาย จิตใจ ตามที่ครูหยุยปรารถนา

เรียนคุณครูหยุยที่นับถือ

เมื่อก่อนนานแล้วเคยได้ยินแต่ชื่อเสียง "คุณครูหยุย" และชอบจำสลับกับ "คุณครูยุ่น" เสมอ แต่อย่างไรก็ตาม ก็มีความรู้สึกรักและศรัทธาในความเสียสละของบุคคลทั้งสองท่าน จนเมื่อได้มีโอกาสรู้จักคุณครูหยุย เรียนหลักสูตรเดียวกันที่สถาบันพระปกเกล้า ก็รู้สึกประทับใจว่าท่านเป็นคนที่มีแต่ความสุข เพราะทั้งชีวิตเป็นผู้ให้ตลอด ติดดิน "พอเพียง และ เผื่อแผ่"

เกียงขอให้คุณครูหยุยในช่วงวัยแห่งความสุข (ฮ่า ฮ่า) นี้มีแต่ความสุข สุขภาพแข็งแรง เป็นที่รัก เป็นอนาคตของเด็กและเยาวชน รวมทั้งสังคมไทยที่ดีต่อไปนะคะ

ด้วยความรักและเคารพ

เกียง ปรม7

27 กันยายน 2552

ข้อความจากพี่ต๋อย (วีรวัฒน์ ตันปิชาติ)

ครบรอบ ๕๕ปี ชีวิตที่พอเพียง เผื่อแผ่

ครูหยุย เป็นชื่อเรียกขานคนๆหนึ่ง ที่ทำงานเพื่อเด็กด้อยโอกาสในสังคมไทย เป็นครู เป็นสมาชิกวุฒิสภาติดต่อกันยาวนานและมีผลงานที่เอื้อประโยชน์ต่อ เด็ก เยาวชน สตรี ผู้สูงอายุและความมั่นคงของมนุษย์มากมาย จนถึงวันที่ครบรอบ ๕๕ปี ก็ยังทำงานเพื่อเด็ก ด้วยความรัก ความศรัทธา และความคาดหวังอย่างมั่นคงอยู่อีกเช่นเดิม ครูหยุยเป็นผู้ที่มีมิตรสหายทุกวัย ทั้งที่สูงวัยกว่า เสมอกัน และวัยเยาว์ เขาเหล่านั้นพร้อมที่จะเข้ามาร่วมทำงานกับครูหยุย และมีความรัก ผูกพันต่อกันอย่างต่อเนื่อง

ด้วยอัธยาศัย ที่มีความจริงใจ เคารพในคุณค่าของผู้อื่น มีใจเปิดกว้างและอาทรสังคม เป็นเสน่ห์ของครูหยุย ที่ก่อให้เกิดความประทับใจกับผู้ที่ได้มารู้จักและร่วมทำงานด้วย

ในวาระครบรอบ ๕๕ปี ชีวิตที่พอเพียง เผื่อแผ่ ขออาราธนาคุณพระศรีรัตนตรัย และสิ่งศักดิ์สิทธิ โปรดอำนวยพรให้ ครูหยุย เจริญด้วยจตุรพิธพรชัยตลอดไป

ด้วยรักและผูกพัน

พี่ต๋อย

ข้อความจากพี่ต๋อย (วีรวัฒน์ ตันปิชาติ)

ครบรอบ ๕๕ปี ชีวิตที่พอเพียง เผื่อแผ่

ครูหยุย เป็นชื่อเรียกขานคนๆหนึ่ง ที่ทำงานเพื่อเด็กด้อยโอกาสในสังคมไทย เป็นครู เป็นสมาชิกวุฒิสภาติดต่อกันยาวนานและมีผลงานที่เอื้อประโยชน์ต่อ เด็ก เยาวชน สตรี ผู้สูงอายุและความมั่นคงของมนุษย์มากมาย จนถึงวันที่ครบรอบ ๕๕ปี ก็ยังทำงานเพื่อเด็ก ด้วยความรัก ความศรัทธา และความคาดหวังอย่างมั่นคงอยู่อีกเช่นเดิม ครูหยุยเป็นผู้ที่มีมิตรสหายทุกวัย ทั้งที่สูงวัยกว่า เสมอกัน และวัยเยาว์ เขาเหล่านั้นพร้อมที่จะเข้ามาร่วมทำงานกับครูหยุย และมีความรัก ผูกพันต่อกันอย่างต่อเนื่อง

ด้วยอัธยาศัย ที่มีความจริงใจ เคารพในคุณค่าของผู้อื่น มีใจเปิดกว้างและอาทรสังคม เป็นเสน่ห์ของครูหยุย ที่ก่อให้เกิดความประทับใจกับผู้ที่ได้มารู้จักและร่วมทำงานด้วย

ในวาระครบรอบ ๕๕ปี ชีวิตที่พอเพียง เผื่อแผ่ ขออาราธนาคุณพระศรีรัตนตรัย และสิ่งศักดิ์สิทธิ โปรดอำนวยพรให้ ครูหยุย เจริญด้วยจตุรพิธพรชัยตลอดไป

ด้วยรักและผูกพัน

พี่ต๋อย

สิบปากว่า ไม่เท่าตาเห็น ครูหยุย....ของเรา

โดย อัจฉรา สุทธิสุนทรินทร์

วันที่ ๒๙ กันยายน ๒๕๕๒

---------------------------------------

       “ครูหยุย ....ของเรา” เมื่อก่อนได้ยินคำนี้บ่อย ๆ เวลาดูโทรทัศน์รายการที่สัมภาษณ์เด็กเร่ร่อนต่าง ๆ ในสลัมบ้าง เขาก็พูดกันถึงครูหยุย เราก็เคยเห็นแต่ในโทรทัศน์ว่าหน้าตาเป็นอย่างไร ความคิดของครูหยุยเป็นอย่างไรก็รับรู้จากสื่อต่าง ๆ

       แต่แล้ววันหนึ่งได้มีโอกาสเข้าไปทำงานในรัฐสภา (ผู้ช่วยครูแดง เตือนใจ ดีเทศน์) ก็ได้รู้จัก ได้พูดคุยและทำงานร่วมกันมาจนปัจจุบัน จึงได้รู้ถึงสุภาษิตที่ว่า “สิบปากว่าไม่เท่าตาเห็น” เป็นอย่างไร

       แรก ๆ บอกได้เลยว่าเราไม่กล้าเข้าใกล้ครูหยุย ดูท่าทางดุดัน ใหญ่โต แต่เมื่อได้เข้าไปพูดคุย แลกเปลี่ยนความคิดกันทำให้รู้จักครูหยุยมากขึ้นกว่าแต่ก่อน ความคิดครูหยุยเป็นความคิดของผู้บริหารที่ดี นักการเมืองที่ดี อยากให้หลาย ๆ ท่านเอาเป็นแบบอย่าง

      เมื่อครูหยุยเป็นประธานในที่ประชุม จะทำให้การประชุมนั้นสั้น ง่าย กะทัดรัด ในสไตล์ครูหยุยที่กระฉับกระเฉงอยู่ตลอดเวลา

       เมื่อครูหยุยลงพื้นที่ก็จะเป็นคนคอยคุมลูกทีมให้อยู่ในกำหนดการได้เป็นอย่างดี คอยชี้แนะว่าใครจะต้องทำอะไรบ้าง อย่างไร

       และทุกครั้งที่ลงพื้นที่ที่ขาดไม่ได้เลย ทุกคืนต้องมีกิจกรรมนี้ “คาราโอเกะ” เป็นกิจกรรมที่ผ่อนคลายได้อย่างหนึ่ง และทำให้คนร่วมกิจกรรมนี้มีความสนิทใจกันมากขึ้น มีความเป็นกันเองอย่างเห็นได้ชัดเจน

       ครูหยุยจะมีเวลาผ่อนคลายเสมอ ไม่ว่าจะยุ่งเพียงใดแต่ก็ต้องมีเวลาผ่อนคลายด้วยซึ่งเป็นแบบอย่างที่ดี สิ่งที่ทำให้ครูหยุยผ่อนคลายได้อีกก็คือ การดูพระ ครูหยุยชอบดูพระมาก เห็นพระในรูปที่ร้านอาหาร หรือที่ไหน ก็จะสามารถบอกได้ว่าเป็นพระที่วัดไหน ถ้าไม่รู้ก็จะถามคนที่รู้ และไปลงพื้นที่ที่ไหนก็ตามจะแวะวัดเพื่อเช่าพระอยู่เสมอ

       สองปีที่ได้รู้จัก และทำงานร่วมกับครูหยุยมา รู้แนวคิดและประทับใจในหลายอย่าง ทำให้เข้าใจได้เลยว่าทำไมเด็กเร่ร่อน เด็กสลัม จึงชอบเรียว่า “ครูหยุย.....ของเรา”

       เนื่องในโอกาสครบรอบ ๕๕ ปี ขออาราธนาคุณพระศรีรัตนตรัยช่วยปกป้อง คุ้มครอง ครูหยุยให้แคล้วคลาดจากอันตรายทั้งปวง และรักษาสุขภาพร่างกายให้แข็งแรงเช่นนี้ตลอดไป

วัย young ฮ่า ฮ่า  ของครูหยุย

กับการแก้ปัญหาเด็กไร้สัญชาติ

--------------------------------------

      8 ปีกว่าที่ดิฉันได้ร่วมงานกับครูหยุยในรัฐสภา  ในฐานะสมาชิกวุฒิสภา   6ปีกว่า  กับในฐานะสมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.)  อีก 1ปี 5เดือน  ได้ร่วมเป็นคณะกรรมาธิการกิจการสตรี  เยาวชนและผู้สูงอายุ  วุฒิสภา  ซึ่งครูหยุยเป็นประธานและร่วมเสนอตั้งคณะกรรมาธิการวิสามัญศึกษาปัญหาและแนวทางแก้ไขการไร้สถานะและสิทธิของบุคคลในประเทศไทย (วิไร้สถานะ)  ใน สนช.    ก่อให้เกิดผลดีแก่เด็กไร้สัญชาติในประเทศไทยหลายประการ

      ครูหยุยได้ตั้งคณะอนุกรรมาธิการแก้ไขปัญหาเด็กไร้สัญชาติ    โดยรวมยอดขุนพลผู้มีใจรักเด็กเข้ามาร่วมงาน  ทั้งได้ลงพื้นที่ทำงานร่วมกับเครือข่ายองค์กรในพื้นที่ภาคเหนือ  เชียงราย เชียงใหม่  แม่ฮ่องสอน  พะเยา   ได้จุดประกายให้สังคมตระหนักถึงความมีตัวตนของเด็กไร้รัฐ  ไร้สัญชาติในประเทศไทย   โดยคณะกรรมาธิการได้ไปเป็นประธานเปิดงานวันเด็กไร้สัญชาติ  ซึ่งจัดเวียนกันใน 4 จังหวัดนี้   ได้รับฟังสถานการณ์   ปัญหา  ข้อเสนอแนะจนสามารถผลักดันให้เกิดระเบียบของกระทรวงศึกษาธิการว่าด้วยหลักฐานในการรับนักเรียนนักศึกษาเข้าเรียนในสถานศึกษา  พ.ศ.2548  ลงวันที่  5  กันยายน  พ.ศ. 2548  กำหนดให้ทุกโรงเรียนในสังกัดกระทรวงศึกษาธิการรับเด็กทุกคนเข้าศึกษาได้จนจบหลักสูตรและได้วุฒิบัตรตามที่เป็นจริง  โดยแต่ละโรงเรียนจะร่วมกับสำนักทะเบียนราษฎรในพื้นที่สำรวจเด็กนักเรียนเพื่อทำบัตรประจำตัวมีเลข 13 หลัก ขึ้นต้นเลข 0  และขอทุนอุดหนุนจากกระทรวงศึกษาธิการเป็นรายปี  เป็นความภูมิใจของทุกคนที่มีส่วนร่วมโดยการนำของครูหยุย

      ในช่วงการเป็น สนช.  เมื่อ  วิไร้สถานะ  มีมติเสนอวิธีแก้ปัญหาการไร้รัฐ  ไร้สัญชาติ  โดยแก้กฎหมาย 2 ฉบับ คือ ร่างพระราชบัญญัติการทะเบียนราษฎร (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2551  กับ ร่างพระราชบัญญัติสัญชาติ (ฉบับที่ 4)  พ.ศ. 2551  ดังที่ท่านประธานมีชัย   ฤชุพันธุ์  กรุณาให้คำแนะนำ  มีอาจารย์แหวว  (รศ.ดร.พันธุ์ทิพย์   กาญจนะจิตรา   สายสุนทร)  เป็นหลักในการเสนอร่างกฎหมาย  ร่วมกับข้าราชการสายพิราบแห่งกรมการปกครอง   สภาความมั่นคงแห่งชาติ   สภาทนายความ  และผองเพื่อนทุกภาคส่วน     ครูหยุยรับเป็นประธานคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่างพระราชบัญญัติทั้ง 2 ฉบับ   ช่วยให้การพิจารณาทั้ง 2 พระราชบัญญัติเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ  สร้างความเข้าใจให้  สนช. ด้วยดี   เป็นผลให้  สนช.  มีมติเห็นชอบร่างพระราชบัญญัติทั้ง  2  ฉบับ   ประกาศในราชกิจจานุเบกษาในวันที่  25 กุมภาพันธ์  2551 และวันที่  27  กุมภาพันธ์  2551  ตามลำดับ

      วัย Young อายุ ฮ่า ฮ่า ของครูหยุย  จึงยังมีพลังที่จะสร้างสรรค์สังคมที่งดงามสำหรับเด็กอีกยาวนาน

      ขอให้ครูหยุยมีความ Young  และมีความสุสันต์ ฮ่า ฮ่า  ได้อีกนานๆ  ค่ะ

ด้วยรัก  ศรัทธาและความเป็นกัลยาณมิตร

พี่แดง

เตือนใจ   กุญชร  ณ  อยุธยา  ดีเทศน์

28  กันยายน  2552

ใต้แมกไม้อันร่มเย็นและกลิ่นหอมจรุงใจ

มูลนิธิพัฒนาชุมชนและเขตภูเขา (พชภ.)

เชียงราย

 

พี่วีนัสฝากมาค่ะ

จิตวิญญาณ อุดมคติ ครูหยุย

นายวีนัส สีสุข

ชื่อ วัลลภ ตังคณานุรักษ์ หรือที่รู้จักในนาม ครูหยุย เลขาธิการมูลนิธิสร้างสรรค์เด็ก บุคคลที่เป็น ที่รักและเคารพของคนทั่วไป ไม่ว่าจะเป็นเจ้าหน้าที่และเด็ก ๆ ในมูลนิธิ หรือบุคคลภายนอกโดยเฉพาะคนที่ทำงานด้วยจิตวิญญาณที่ต้องการช่วยเหลือเด็กให้มีคุณภาพชีวิตที่ดี อยู่ในสังคมอย่างมีคุณค่าและปลอดภัย

คนที่ทำงานเพื่อเด็กและผู้ด้อยโอกาสเกือบทั้งชีวิต จึงไม่ใช่เรื่องแปลกที่จะได้รับการสรรเสริญและ ยกย่องจากสังคมของประเทศนี้

คนที่มีความคิดดี ทำดี คิดเร็ว ทำเร็ว รอบรู้ช่องทางการแก้ไขปัญหา ใช้หลักการมีส่วนร่วมและการประนีประนอม จึงไม่ใช่เรื่องที่เกินความคาดหมายที่จะได้รับการยอมรับและเชิดชูจากกลุ่มคนระดับต่างๆ ในสังคมของประเทศนี้

และในโอกาสวันคล้ายวันเกิดครบ ๕๕ ปีที่เวียนมาบรรจบในวันที่ ๑ ตุลาคม ๒๕๕๒ ขออารธนาคุณพระศรีรัตนตรัยและสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลายที่ครูหยุยกราบไหว้บูชา จงปกป้องคุ้มครองรักษาให้แคล้วคลาดจากภยันตรายทั้งปวง และดลบันดาลให้มีความสุขความเจริญ เป็นที่เคารพรักของทุกคนตลอดไป

มาที่หลังก็ยังทันเวลา

พูดถึงครูหยุย ณ เวลาที่ผ่านมา ๕๕ ปีมีอะไรเยอะในตัวครูหยุยแม้จะตัวผอมๆเกร็งๆ  จริงๆคนที่มีถิ่นกำเนิดแถวสุรินทร์ก็เป็นอย่างนี้แหละ  คนนี้มีความมุ่งมั่น จริงใจดี ชอบช่วยเหลือคนอื่น นี่แหละเป็นเพราะนิสัยที่ดี  ความที่เวลาแต่ละวันมีแค่ ๒๔ ชั่วโมงจึงมีไม่ค่อยพอในการทำงานแต่ละวันของครูหยุย

มีวิธีคิดที่ดี สรุปประเด็นง่าย เร็ว ความที่มีเวลาน้อยเลย มักจะชะแว๊บ บ่อยเพื่อให้ร่างกายและหน้าตาไปปรากฏยังที่ต่างๆที่ตัวเองปรารถณา

เป็นคนไม่เครียด ร้องเพลงเก่ง ไพเราะ เพลงเด่นๆโดนๆร้องได้หมด แต่งตัวแนวเซอๆ เรียบร้อย  เหมาะสมกับเพลงที่ร้องๆอยู่  จะถือกระเป๋าหนังใบเก่งไปไหนมาไหน

เอาละปีที่ห้าสิบห้ามาถึง ก็ขอให้รักษาความดีงามเอาไว้ ลุงเอกเชื่อว่าคนไหน อ.แหวว รัก คนนั้นต้องเป็นคนดีของสังคม ขอสิ่งดีงามที่สร้างไว้ การเปิดใจช่วยเหลือผู้อื่นเสมอมา  คงจะช่วยดลบันดาลให้ชีวิตในภายหน้ามีความสุขยิ่งๆขึ้นไป  อยากได้อะไรขอให้ได้ ไม่อยากได้อะไรก็ให้สลายไปเสีย ครอบครัวมีสุขไร้ทุกข์ มีแรงบุกได้ทุกๆเรื่อง  ชื่อเสียงลือกระเดื่อง ทำอะไรได้เรื่องมันทุกๆเรื่อง ขอให้ดวงใจแกร่ง  มีแฮงในทุกๆเรื่อง รุ่งเรืองตลอดไปครับ

ข้อความจาก ศิริพร (เล็ก)

ภาพของ “ครูหยุย” ที่พบครั้งแรกในปี พ.ศ. 2539 ที่มาเป็นสมาชิกวุฒิสภาครั้งแรก ด้วยวัยเพียง 42 ปี เป็นภาพที่ประทับใจว่า “ท่านคนนี้” เป็นคนหนุ่มที่สบาย ๆ หากทำงานด้วยคงไม่ต้องระมัดระวังในการวางตัวมากนัก (ในใจคิดว่านี่แหล่ะทำงานกับผู้สูงวัยมามาก ขอทำงานกับวัยรุ่นมนุษย์ธรรมดาบ้างเถอะ) มันคงเป็นบุญมั้งที่ชักพาให้มาทำงานกับครูหยุยถึง 12 ปี ได้ทำงานช่วยเหลือไม่เพียงแต่กลุ่มเด็ก ยังช่วยเหลือสตรี ผู้สูงอายุ และผู้ด้อยโอกาสอีกมากมาย ซึ่ง 1 ตุลาคม 2552 ครูหยุยเกือบจะก้าวสู่วัยสูงอายุ (เหลืออีกเพียง 5 ปี) ขออารธนาคุณพระศรีรัตนตรัยและสิ่งศักดิ์สิทธิ์จงดลบันดาลให้ “ครูหยุย” มีความสุข สุขภาพแข็งแรง เป็นหลักของคนทำงาน และเป็นร่มโพธิ์ให้กับเด็กด้อยโอกาสนาน ๆ

ข้อความจาก ธนยา (ยา)

ครูหยุย เป็นต้นแบบของครูผู้ที่เสียสละกำลังกายและเวลา เพื่อคอยช่วยเหลือเด็กด้อยโอกาสทุกคนที่ขาดโอกาสในสังคม ให้ได้รับการดูแลและมีอนาคตที่ดี ที่จะช่วยพัฒนาประเทศให้เจริญและไม่เป็นภาระกับสังคม ทุกครั้งที่มีการประชุม “ครู” จะทำหน้าที่ประธานควบคุมการประชุมได้ยอดเยี่ยมที่สุด ทำให้พวกเราเจ้าหน้าที่ซึ่งเป็นฝ่ายเลขาฯ สามารถจดบันทึกประเด็นการประชุมได้อย่างเข้าใจ และครบถ้วน เพราะในบางเรื่องนั้น เข้าใจได้ยากเสียจริง ๆ

ในโอกาสนี้ หนูขอให้ครูหยุยมีสุขภาพร่างกาย พลานามัยที่แข็งแรง ยืนหยัดต่อสู้เพื่อเด็กต่อไปค่ะ

ข้อความจาก กนกพร (หนูหลิน)

“ครูหยุย” คือครูคนแรกในชีวิตการทำงานของหนู ครูสอนหนูในหลาย ๆ เรื่อง วันแรก ที่ได้เจอครู ภาพที่เห็น คือผู้ชายตัวเล็ก ๆ ใส่แว่น ถือกระเป๋าหนังสีน้ำตาล แล้วพูดกับหนูด้วยน้ำเสียง และท่าทางที่อ่อนโยน หนูรู้สึกประทับใจมาก และคิดว่า ผู้ชายคนนี้ต้องเป็นคนใจดีและโอบอ้อมอารีแน่นอน ซึ่งพอได้ทำงานกับครูแล้ว ก็เป็นอย่างนั้นจริง ๆ อาจมีบ้างที่ครูดุ แต่ครูก็ดุแต่เฉพาะในเรื่องงาน 5 ปีที่ได้ทำงานกับครู ทำให้หนูรู้จักกับคำว่า “ให้” เพราะครูจะช่วยเหลือเด็กทุกคนด้วยความเต็มใจ และครูทำงานเพื่อเด็กมาตลอดโดยไม่เคยเหน็ดเหนื่อย ในวันเกิดปีนี้ หนูขออวยพรให้ครูของหนูมีความสุขมาก ๆ มีสุขภาพร่างกายที่แข็งแรง เพื่อทำงานให้กับเด็ก ๆ ไปอีกนาน ๆ นะคะ

ข้อความจาก ดำรง (นาย)

“ครูหยุย” นับเป็นผู้ที่มีแบบอย่างในการทำงานที่น่าสนใจ เป็นประธานในที่ประชุมที่เก่งมาก ๆ คุมประเด็นได้ดี ทำให้สั้น กระชับ ทำให้งานที่สำคัญ ๆ และยาก ผ่านการพิจารณาได้โดยง่ายและรวดเร็ว ประกอบกับที่มีเทคนิคเฉพาะตัวที่มีมากมาย การเลือกใช้คนที่เหมาะกับงานและเหมาะกับบุคลิกก็ถือเป็นความโดดเด่นที่ผมได้ค้นพบ พร้อมกับมีหลักคิดต่าง ๆ เวลาพูดคุยแบบเป็นกันเองที่มีอย่างสม่ำเสมอและที่ได้ยินบ่อย ๆ คือ “อย่าไปคิดไรมาก...คนเราจะเป็นอะไรฟ้าเขากำหนดไว้แล้ว” ทำงานของเอ็งไป

เดี๋ยวผลมันจะปรากฎเอง จากที่ได้ร่วมงานกันมาเป็นระยะเวลาหลายปีสิ่งต่าง ๆ เหล่านี้ถือเป็นสิ่งที่ดีที่กระผมได้เก็บเล็กผสมน้อยและจะได้นำไปปรับปรุงการทำงานของตนเองในอนาคตต่อไป

สุดท้ายนี้ ผมยังจำคำครูหยุยพูดก่อนหมดวาระเป็นเจ้านายที่สภาว่า “พวกเอ็ง...ทำดีใจไปเถอะ...คนอื่น..มาเป็นหัวหน้าแก...แล้วแก...จะรู้สึก...เขาไม่ได้พูดต่อรองได้แบบฉันนะโว้ย..... ซึ่งสิ่งเหล่านี้ก็ถือเป็นความห่วงใยที่ทิ้งไว้ให้กับลูกน้องให้ตั้งหน้าตั้งตาทำงานกันต่อไป และในอนาคตงานจะหนักยิ่งขึ้นเรื่อยๆ และความเป็นกันเองกับลูกน้องเช่นนี้จะหายไป ซึ่งก็เป็นความจริง มิผิดเพี้ยน...เลย สุดท้ายนี้ก็ขอให้คุณความดีที่ครูได้สั่งสมมา บารมีสิ่งศักดิ์สิทธิที่ครูนับถือ จงช่วยปกปักษ์รักษาให้ครูมีสุขภาพที่แข็งแรง สมบูรณ์ ปราศจากโรคภัยไข้เจ็บ ร่ำรวย ๆ เฮง ๆ ตลอดไปครับ

จิตวิญญาณ อุดมคติ ครูหยุย

ข้อความจาก นายวีนัส สีสุข

ชื่อ วัลลภ ตังคณานุรักษ์ หรือที่รู้จักในนาม ครูหยุย เลขาธิการมูลนิธิสร้างสรรค์เด็ก บุคคลที่เป็น ที่รักและเคารพของคนทั่วไป ไม่ว่าจะเป็นเจ้าหน้าที่และเด็ก ๆ ในมูลนิธิ หรือบุคคลภายนอกโดยเฉพาะคนที่ทำงานด้วยจิตวิญญาณที่ต้องการช่วยเหลือเด็กให้มีคุณภาพชีวิตที่ดี อยู่ในสังคมอย่างมีคุณค่าและปลอดภัย

คนที่ทำงานเพื่อเด็กและผู้ด้อยโอกาสเกือบทั้งชีวิต จึงไม่ใช่เรื่องแปลกที่จะได้รับการสรรเสริญและ ยกย่องจากสังคมของประเทศนี้

คนที่มีความคิดดี ทำดี คิดเร็ว ทำเร็ว รอบรู้ช่องทางการแก้ไขปัญหา ใช้หลักการมีส่วนร่วมและการประนีประนอม จึงไม่ใช่เรื่องที่เกินความคาดหมายที่จะได้รับการยอมรับและเชิดชูจากกลุ่มคนระดับต่างๆ ในสังคมของประเทศนี้

และในโอกาสวันคล้ายวันเกิดครบ ๕๕ ปีที่เวียนมาบรรจบในวันที่ ๑ ตุลาคม ๒๕๕๒ ขออารธนาคุณพระศรีรัตนตรัยและสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลายที่ครูหยุยกราบไหว้บูชา จงปกป้องคุ้มครองรักษาให้แคล้วคลาดจากภยันตรายทั้งปวง และดลบันดาลให้มีความสุขความเจริญ เป็นที่เคารพรักของทุกคนตลอดไป

นิติกร (เมืองช้าง)

"ครูหยุย" เป็นคำพูดที่หลายคนพูด จนผมก็สงสัยว่าท่านผู้นี้เป็นใคร

    จนได้มีมีโอกาสเข้ามาทำงานกับท่านในอนุกรรมการสื่อลามก วุฒิสภา ผมได้มีโอกาสสัมผัสการทำงานของท่าน  เป้นกันเอง ครบทุกด้าน มีเหตุผลที่หลายคนหามองไม่เห็น คนทำงานด้วยก็รู้สึกอบอุ่น  ขอบคุณท่านที่ได้ให้โอกาสในการทำงาน...  ที่ผ่าน
เมล็ดพันธุ์นี้กำลังเติบโตในดินแดนชนบท ปลายท้องนา  จะนำประสบการณ์ ความรู้ที่ได้จากท่าน มาปรับใช้ให้ท้องทุ่งเป้นสีเขียว และสีทอง แห่งนี้มีความสุข ....ขอบคุณท่านมากครับ  ขอให้ท่านมีสุขภาพที่แข็งแรง เป็นหลักในการทำงานต่อไป  

 

กิติวรญา รัตนมณี (ไหม)

“ครูหยุย” ในสายตาของฉัน

           ราวสามปีก่อน ฉันเจอครูหยุยครั้งแรกแบบตัวเป็นๆที่สภา ตอนนั้นฉันตาม อ.แหวว(รศ.ดร.พันธุ์ทิพย์ กาญจนะจิตรา สายสุนทร) ไปสังเกตการณ์ การประชุมคณะกรรมาธิการวิสามัญศึกษาปัญหาและแนวทางแก้ไขการไร้สถานะและสิทธิของบุคคลฯ สนช. ความรู้สึกแรกตอนนั้นคือ ครูหยุยตัวจริงช่างดูดุ ดูน่าเกรงขามจังเลย แต่เมื่อได้พูดคุยจึงรู้ว่า ครูหยุยเป็นผู้ใหญ่ใจดี มีอารมณ์ขัน ชอบหยอดมุขเล็กๆ กับคนรอบข้างเสมอๆ แถมยังเป็นที่รักของเด็กๆ

            ฉันว่าครูหยุยมีสองบุคลิกนะ บุคคลิกหนึ่งในฐานะประธานที่ประชุมจึงต้องวางตัวให้น่าเกรงขาม ต้องเด็ดขาด จึงจะสามารถจัดการที่ประชุมได้ คงจะไม่เกินไปนักหากจะกล่าวว่าการประชุมของครูหยุยจะต้อง-สั้นกระชับ ฉับไว ได้ประเด็น ครูหยุยมองการณ์ไกลกว่าคนอื่นเสมอ และยังเป็นผู้นำที่ดี

           อีกบุคลิกหนึ่ง คือ คุณลุงใจดี มีอารมณ์ขัน เป็นที่รักของเด็กๆ เวลาลงพื้นที่จะเป็นขวัญใจของเด็กๆ และชาวบ้าน-ครูหยุย สอนว่าเวลาลงพื้นที่ต้องพูดภาษาเดียวกับชาวบ้าน พูดภาษาวิชาการไปชาวบ้านจะฟังไม่เข้าใจ- เพราะความเอาใจใส่ต่อทุกคนที่อยู่รอบตัว เพราะความเอาใจใส่ต่อทุกคนที่อยู่รอบตัว จึงไม่น่าแปลกใจที่ทุกคนๆ ที่อยู่รอบตัวจะรักและเคารพครูหยุย

          ครูหยุยคะ ในโอกาสครบรอบวันเกิดปีที่ ๕๕ นี้ ฉันขออาราธนาคุณพระศรีรัตนตรัยและสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลายจงช่วยคุ้มครองให้ครูหยุยมีสุขภาพกายสุขภาพใจสมบูรณ์แข็งแรง เป็นคุณลุงใจดีของเด็กๆและทุกคนตลอดไปนะคะ 

กิติวรญา รัตนมณี (ไหม)

จากใจอาจารย์แหววสู่ครูหยุย...ด้วยรักและศรัทธา

โดย รศ.ดร.พันธุ์ทิพย์ กาญจนะจิตรา สายสุนทร

เมื่อวันที่ ๒๙ กันยายน พ.ศ.๒๕๕๒ เวลา ๑๗.๔๓ น.

http://archanwell.spaces.live.com/blog/cns!706316D9B6E66926!11298.entry

-------------------------------------------------------------------

ครูหยุยหรือคะ....

จำได้ว่า เห็นครูหยุยตอนแรกก็ในทีวี เป็นรายการที่ครูหยุยให้สัมภาษณ์ถึงความรักที่มีต่อพี่เล็กภริยา จำได้ขึ้นใจว่า ครูหยุยเล่าถึงความรักผูกพันกับพี่เล็กอย่างโรแมนติก เหมือนชายหนุ่มในนวนิยายไทยเดิม เราจึงมีจินตนาภาพเกี่ยวกับครูหยุยว่า เป็นผู้ชายที่นุ่มนวล ละเอียดอ่อน น่าจะเรียบร้อย น่าจะเสียงเบา

มารู้จักตัวจริงเสียงจริง ก็สักปี พ.ศ.๒๕๓๙ หรือ ๒๕๔๐ จำไม่ได้แน่นอน เป็นปีที่ท่านวิชัย โถสุวรรณจินดา สว.แต่งตั้งในยุคนั้น ทำจดหมายเชิญให้อาจารย์แหววมาทำงานเป็น “กรรมาธิการวิสามัญศึกษาปัญหาสิทธิมนุษยชน”  งานชิ้นนี้เป็นอีกชิ้นที่เปลี่ยนแปลงชีวิตของอาจารย์แหวว

จากครูสอนกฎหมาย ที่ใช้ชีวิตเงียบกับการสอนและการวิจัยเชิงเอกสาร มาสู่โลกใบใหม่ในวุฒิสภา  และมาเจอใครหลายคนที่นี่ ... โดยเฉพาะครูหยุย และ รศ.ดร.สมพงษ์ จิตระดับ ทั้งสองท่านหายใจเข้าหายออกเป็นเรื่องการพัฒนาสิทธิและคุณภาพชีวิตของเด็ก กับอาจารย์สมพงษ์นั้น ไม่เคยรู้จักกันมากก่อน แต่เมื่อมารู้จักกัน ก็เหมือนการถูกลอตเตอรี่ทางความรู้ อาจารย์แหววได้มีโอกาสเรียนรู้ในองค์ความรู้ด้านศรุศาสตร์กับนักวิชาการด้านศรุศาสตร์แนวพัฒนาอย่างจริงจัง เราช่วยกันก่อให้เกิดโครงการวิจัยเพื่อการพัฒนาสิทธิในการเรียนรู้ของมนุษย์บนโลกแห่งอินเทอร์เน็ต ซึ่งเราเรียกว่า “itfordevelopment” แต่กับครูหยุยนั้น ความทรงจำของอาจารย์แหววในเรื่องนี้ดูโลดโผนมากกว่านั้น

ในประการแรก ครูหยุยตัวเป็นๆ ดูไม่เป็นคนที่เราเคยคิดว่าเป็นเช่นนั้น ไม่นุ่มนวลอย่างที่คิด การอภิปรายในคณะกรรมาธิการฯ ดูจะเผ็ดร้อน มีตลกขบขัน มีเยาะเย้ยใครต่อใครบ้าง เรียบร้อยไหม ? ไม่ใช่คนเรียบร้อย แต่ก็สุภาพ  เป็นคนง่ายๆ ตรงไปตรงมา กวนมากและมากๆๆๆ เวลาจะแกล้งใครสักคน ก็ทำได้แนบเนียนทีเดียว เสียงเบาไหม ? ไม่เลย ครูหยุยคนนี้ไม่ใช่คนที่เราคิด

ในประการที่สอง ครูหยุยจะมีวิธีคิดที่กลับด้านกับอาจารย์แหวว เถียงกันเป็นประจำ ตั้งแต่วันแรกที่รู้จักกันจนวันนี้ ตอนแรก ก็งงที่ต้องเถียงกัน สารภาพว่า บางทีก็หงุดหงิด ก็ของที่เราทำสำเร็จอยู่เป็นประจำ ครูหยุยก็จะบอกว่า ไม่เชื่อ ท้าทายบางทีด้วยซ้ำ ในเวลาต่อมา จึงค่อยตระหนักว่า เป็นวิธีสร้างกระบวนการเรียนรู้ร่วมกันในที่ประชุม หรือล้อเล่น หรือทบทวนความรู้กับเรา จนในวันนี้ บางที อาจารย์แหววแอบนั่งทำงานอย่างอื่นในที่ประชุม ครูหยุยก็จะเรียกให้เถียง  แต่อาจารย์แหววก็เถียงไม่ได้ เพราะแอบไม่ฟังในที่ประชุม

ในประการที่สาม เมื่อครูหยุยเป็นประธานที่ประชุม อาจารย์แหววก็จะสบายใจ ไม่ต้องเตรียมอะไรมาก เตรียมองค์ความรู้ในเรื่องที่ต้องรู้ ที่เหลือพี่หยุยจัดการเอง ก็เลยเป็นเหตุให้บางครั้งแอบทำงานอื่นในที่ประชุม และเมื่อถูกเรียกให้ออกความเห็น ก็จะให้ความเห็นไม่ได้ทันที่ เริ่มต้นทำงานกันจริงๆ ก็ พ.ศ.๒๕๔๕ ก็เมื่อครูหยุยมาเป็น สว.เลือกตั้ง และตั้งใจจะทำเรื่องเด็กไร้สัญชาติอย่างจริงจัง จนวันนี้ ก็เลยสิบปีที่เถียงกันมา แต่เรื่องเถียงกันก็มีให้เถียงเรื่อยๆๆ อาจารย์แหววชักเรียนรู้ว่า ประโยชน์ที่เราเริ่มต้นคิดไม่เหมือนกัน แต่เป้าหมายอันเดียวกันนี้เองที่ทำให้เรามองอนาคตออกแบบสามร้อยหกสิบองศา ความสำเร็จในสิ่งยากๆ จึงเป็นของพวกเราอยู่เสมอ ครูหยุยจะมีแผนการเสมอ ดังนั้น เมื่อเดินตามครูหยุย ก็จะสบายใจ ไร้กังวล ศรัทธา และศรัทธา ... และศรัทธา จนบางครั้ง ไม่อยากทำ ก็ต้องทำ มันมันชินแล้วที่จะศรัทธา ไม่อย่างนั้น มันไม่สบายใจ

ในประการที่สี่ โลกของครูหยุยเป็นโลกแห่งความรัก ไม่มีการทิ้งเพื่อน ศีลธรรมก็คือ มวลมิตรต้องอยู่กันในครบหน้า สิบปีผ่านมา คนที่เริ่มต้นนับหนึ่งมาด้วยกันในงานเพื่อเด็กและเยาวชนไร้สัญชาติอยู่กันครบ พี่ชายคนหนึ่งเกิดเบื่องานราชการเลยลาออกก่อนเกษียณอายุ แต่มาทำงานกับครูหยุยแบบไม่ขาด ทุ่มเท และแสนขยัน ก็เลยถามพี่ชายคนนั้นว่า แล้วจะลาออกจากราชการไปทำไม พี่ชายบอกว่า ก็มันไม่สนุกแล้ว ก็เลยถามพี่ชายอีกว่า แล้วจะมาทำงานกับพี่หยุยไปทำไม ? พี่ชายก็ตอบว่า ก็มันสนุกดี มีแต่คนดีๆ ที่รักกัน .... ความรักแบบหยุยๆๆ มังนะ

ครูหยุย หรือพี่หยุย จึงเป็นบุคคลที่อาจารย์แหววทั้งรักและศรัทธา ... ความรู้สึกที่เกิดเอง และแข็งแรง

สำหรับ ๕๕ ปีของพี่หยุย ก็คือ ๕๕ ปีของการเติบโตและความงอกงามของการสร้างสรรค์สิทธิและคุณภาพชีวิตให้แก่เด็กด้อยโอกาส ไม่ว่าเขาจะมีสถานะทางกฎหมายเป็นเช่นใด ไม่ว่าจะมีรัฐหรือไม่ ไม่ว่าจะมีสัญชาติหรือไม่ ไม่ว่าจะชอบด้วยกฎหมายคนเข้าเมืองหรือไม่

ขอสิ่งศักดิ์สิทธิ์ในสากลโลกดลบันดาลให้พี่หยุยและครอบครัวมีความสุขและความสมหวังตลอดไป

ด้วยความรักและศรัทธา

อาจารย์แหวว

๒๙ กันยายน พ.ศ.๒๕๕๒

เด็กน้อยที่เห็นความสำเร็จที่ยิ่งใหญ่ของอาจารย์

อาจจะเป็นข้อความที่ไม่ยาวไม่สละสลวยแต่เป็นข้อความที่ออกมาจากใจที่มีให้

แด่อาจารย์ที่เป็นผู้เสียสละ และยอมทำเพื่อคนอื่นเสมอ ขอให้อาจารย์จงมีความสุขกับ

ชีวิตที่เป็นอยู่ (ผู้ให้ที่ยิ่งใหญ่และคุณลุงที่ใจดีสำหรับเด็กๆๆ)และมากยิ่งขึ้นทุกๆวัน

และขอให้อาจารย์จงมีสุขภาพร่างกายแข็งแรง อยู่คู่กับเด็กๆไปนานๆนะคะคุณลุง

ผู้ใจดี

รักและเคารพเสมอ

เด็กน้อย

ผมก็คงเป็นส่วนหนึ่งของคณะอนุกรรมการสื่อลามกที่หายไปนาน และรู้สึกว่าตั้งแต่ได้รู้จักครูหยุยต้องมีคำพูดเดียวกันคือพ่อพิมพ์ของชาติที่ท่านจะช่วยให้ทุกคนห่างไกลความเสื่อมเสียของขนบธรรมเนียมประเพณี

เป็นคุณอา,คุณลุงที่ใจดีกับเด็กๆและทีมงานอย่างสม่ำเสมอ

ด้วยความเคารพ

นิติกรแห่งเมืองละลุ

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท