จบจากมหาวิทยาลัยหอการค้าไทย คณะนิติศาสตร์ เกรดเฉลี่ย 3.2
หลังจากจบการศึกษาได้สอบเป็นทนายความ และ ทำงานด้านทนายความเป็นเวลา 1 ปี
รู้สึกเบื่อกับชีวิตจึงได้หันเหตัวเองไปเป็นนักกฎหมายสิทธิมนุษยชน ภายใต้องค์กรพัฒนาเอกชน มูลนิธิพัฒนาชุมชนและเขตภูเขา จ.เชียงราย โดยทำงานด้านสถานะบุคคล เป็นเวลา 2 ปี
ทางบ้านอยากให้กลับมาทำงานในกรุงเทพฯเช่นเดิม จึงตามมาเป็นผู้ช่วยทางกฎหมายให้กับ สนช.เตือนใจ ดีเทศน์ ทำงานในรัฐสภา
เมื่อหมดสมัยสนช.แล้ว ก็ตั้งใจจะเปลี่ยนงานแต่ก็ได้รับการทาบทามให้เป็นนักวิชาการ ตำแหน่ง เลขานุการ และผู้ช่วยทางกฎหมาย รศ.ดร.พันธุ์ทิพย์ กาญจนะจิตรา สายสุนทร
ได้มีโอกาสเข้าไปช่วยงานในคณะอนุกรรมการติดตามการให้ความช่วยเหลือเด็กที่มีปัญหาสถานะบุคคล จากนั้นจึงได้รับแต่งตั้งเป็นอนุกรรมการฯ
ต้นปี 2553 ขอลาออกเพื่อเตรียมอ่านหนังสือสอบผู้ช่วยผู้พิพากษา ประกาศผลสอบสรุปว่าไม่ผ่านเกณฑ์ ก็ยังทำงานให้กับกองทุนศาสตราจารย์คนึง ฦๅไชย คณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ เรียกได้ว่าเป็น นักวิจัยอิสระ / นักกฎหมาย ถึงอย่างไรก็ยังคงรัก และ ผูกพันงานด้านสถานะบุคคล
18 ม.ค. 2554 เริ่มงานใหม่กับชีวิตใหม่ด้วยตำแหน่ง Legal Advisor ณ LAC-Umphang ทำงานกับผู้อพยพในศูนย์พักพิง ไม่รู้ว่าจะไปได้สวยเพียงใด แต่ทุกอย่างถ้าไม่เริ่มก็ไม่รู้ตอนจบ