๑๙. หนังสือ 'การพัฒนาพลังทางศิลปะ'


ศิลปะในแง่กระบวนการนั้น จัดว่าเป็นเครื่องมือและวิธีการทางการศึกษาที่ถือเอาการสะท้อนภาวะด้านในของปัจเจกออกมาสู่การสร้างสรรค์สิ่งต่างๆ ทั้งระดับที่เป็นศิลปะบริสุทธิ์ การประยุกต์ใช้ รวมไปจนถึงการทำกิจกรรมอื่นที่มิใช่งานศิลปะแต่เพื่อสนองตอบต่อวัตถุประสงค์ด้านความงาม ความเป็นสุนทรียะ การงอกงามเติบโตทางจิตวิญญาณ การยกระดับภาวะตัวตนของปัจเจก รวมไปจนถึงศิลปะการแก้ปัญหาในขอบเขตต่างๆบนความเป็นมนุษย์  การสื่อแสดง แลกเปลี่ยนสื่อสารเพื่อเข้าถึงจิตใจและความคิดที่ลึกซึ้งระหว่างกันเหนือความเป็นภาษาถ้อยคำ เข้าถึงความเป็นสากลโดยธรรมชาติของศิลปะเพื่อส่งเสริมการอยู่ร่วมกันด้วยความเคารพต่อผู้อื่นและต่างเห็นความงดงามกันและกันอย่างข้ามพรมแดนความแตกต่างหลากหลายทางสังคมวัฒนธรรม 

แต่โดยมากแล้ว คนทั่วไปมักรู้จักศิลปะเพียงด้านชิ้นงานและความสวยงามที่ปรากฏบนตัวผลงานที่สร้างขึ้นของมนุษย์ ดังนั้น การศึกษาเรียนรู้ การพัฒนาด้านศิลปะ การดำเนินการ และการส่งเสริมบทบาทของภาคศิลปะในสังคมไทยจึงยังขาดความครอบคลุมสิ่งที่ควรจะเป็นอีกมาก สามารถบุกเบิก ริเริ่ม และพัฒนาขึ้นได้อีกหลายด้าน

การพัฒนาพลังทางศิลปะ จะแสดงให้เห็นถึงหลายแง่มุมที่คนทำงานศิลปะ ครูและผู้สอนศิลปะ รวมทั้งผู้สนใจที่ปรารถนาเข้าสู่พรมแดนทางศิลปะในความหมายที่กว้าง ได้ทรรศนะต่อการพิจารณา ทำการศึกษา วิเคราะห์ สร้างความซาบซึ้ง ทำงานศิลปะ และบูรณาการเข้ากับการทำงานเชิงสังคมและการพัฒนาในมิติอื่นๆนอกความเป็นศิลปะ ได้กว้างขวางมากขึ้น สามารถชื่นชมงานศิลปะให้ได้ความรู้สึกดีงาม รอบรู้ เกิดความสุข ความรื่นรมย์ เข้าถึงความสุขและได้พลังการดำเนินชีวิตและทำงานที่ละเอียดประณีตยิ่งๆขึ้น

หมายเลขบันทึก: 300581เขียนเมื่อ 25 กันยายน 2009 02:07 น. ()แก้ไขเมื่อ 13 กันยายน 2013 23:14 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (33)

สวัสดีครับ...

ผมเชื่อเสมอมาว่า หนังสือ คือพลังทางปัญญา..
ตอนนี้ ก็ชวนน้องนิสิตขีดๆ เขียนๆ...
ผมกะจะผลิตงานของนิสิตคบทั้ง 3 มิติ  คือวรรณกรรม ทัศนศิลป์ และดนตรี...
ผมเรียกโครงการนี้ว่า "นวัตกรรมความคิดนิสิต มมส" ครับ

...

 

สวัสดีครับอาจารย์แผ่นดิน

  • บ้านเราคงต้องส่งเสริมวัฒนธรรมหนังสือ การอ่าน การเขียน การแลกเปลี่ยนเรียนรู้ กันอีกมากมาลยนะครับ
  • ทางด้านวรรณกรรมและศิลปะแขนงต่างๆของมหาวิทยาลัยมหาสารคามของอาจารย์นั้น เด่นมากเลยนะครับขอชื่นชมมากๆครับ
  • เคยมีรุ่นพี่ซึ่งเป็นกวีและคนวรรณกรรม กับนักแต่งเพลง เขาบอกว่าจะมาจัดเวิร์คช็อปที่มหาวิทยาลัยของอาจารย์ร่วมกับนักวิชาการกับนักคิด-เขียนที่อยู่ ม.มหาสารคาม เขาเล่ากระบวนการและผลที่ออกมาให้ฟังแล้วน่าประทับใจมากนะครับ
  • โครงการของอาจารย์น่าสนใจจังเลย หากมีโอกาสได้ไปทางอีสานบ้างก็อยากแวะไปดูงานด้วยนะครับอาจารย์

สวัสดีครับอาจารย์ วิรัรตน์ ตั้งใจว่าพรุ่งนี้จะเดินทางไป ศาลายา และจะแวะไปคาระอาจารย์ด้วย แต่ปรากฎว่าทีมงานที่จะไปร่วมงาน เอกลักษณ์ของชาติ ออกเดินทางตอนเช้า ผมติดสอบ ระบาดวิทยาประยุกต์ ของท่านผอ. สคร. 12 ท่านอาจารย์ สุวิช ธรรมปาโลครับ

ขอแลกเปลี่ยนครับ หนังสือ คือพลังทางศิลป และอาหารสมองครับ อดีตในวัยหนุ่ม มีแรงมีเวลา แต่ไม่ค่อยมีเงินซื้อหนังสือ

ปัจจุนัน มีเงิน มีแรง แต่ไม่ค่อยมีเวลา ซื้อมาแล้วตั้งลืมก็มี แต่ให้ได้ซื้อมาครับ

ท่านเฒ่าวอญ่าพูดถูกใจครับ  เมื่อก่อนต้องอาศัยไปนั่งตามแผงหนังสือสนามหลวง ขอนั่งอ่านสักครึ่งวันแล้วก็ซื้อเขาเป็นการขอบคุณสักเล่มหนึ่ง หากเป็นร้านหนังสือก็ต้องขออาศัยอ่านสัก ๒-๓ เล่ม ก่อนจะซื้อสักเล่ม กว่าจะมีตังค์ซื้อหนังสือดีๆสักเล่มให้ตนเองนั้นก็ต้องกระเบียดกระเสียนสุดๆ

มาตอนนี้มีตังค์พอซื้อหนังสือ แต่ก็อยู่ในวัยที่ต้องรีบทำงาน ต้องอ่านและใช้ข้อมูลมาก แต่การอ่านเพื่อให้ได้ความลุ่มลึก กลับน้อยลง

อีกทั้งพออ่านเยอะๆก็เริ่มเห็นความเหมือนๆเดิม ไม่ให้จินตนาการเหมือนงานหนังสือยุคก่อน ตอนนี้เลยสนใจหนังสือที่มีชีวิตและการถ่ายทอดบทเรียนที่ค้นพบจากการดำเนินชีวิต ชอบฟังความคิดสร้างสรรค์ของคน ชอบคนคุยแบบตกผลึกประสบการณ์ และชอบอ่านหนังสือที่ถ่ายทอดออกมาจากการใช้ชีวิตเป็นวิถีแห่งการเรียนรู้อย่างมีแรงบันดาลใจ อย่างใน GotoKnow นี้ก็ชอบอ่านครับ เพราะหลายท่านเขียนจากชีวิตและการงาน หาอ่านที่ไหนไม่ได้ 

ขอบคุณค่ะท่านอาจารย์..ที่ไปให้กำลังครูอ้อยเล็ก..เอาความอุ่นใจมาฝากค่ะ..ไม่รู้เป็นไงชอบทำรูปนี้จัง...

  • เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา ได้ไปร่วมงานเกษียณอายุราชการของอาจารย์ปัญญา เพ็ชรชู ที่โรงเรียนเพาะช่างมาด้วยครับ อันที่จริงเป็นงานเกษียณของอาจารย์หลายท่าน แต่ผมเกรงว่าไปแล้วจะไม่เจอคนรู้จักเลยไปวันเสาร์ซึ่งพวกลูกศิษย์ช่วยกันจัดงานให้เฉพาะอาจารย์ปัญญา
  • แต่ก็กลับโชคดี ระหว่างเดินดูงานที่ก็จัดแสดงสำหรับศาสตราจารย์เฉลิม นาคีรักษ์ในหอศิลป์เพาะช่างในห้วงเวลานี้ด้วย ก็กลับได้เจออาจารย์มงคล ไชยวงศ์ ผู้ช่วยอธิการบดี ของ มทร.รัตนโกสินทร์ 
  • ผมกับเพื่อนๆเคยไปเพ้นท์ผ้ากับอาจารย์ที่ประตูน้ำเมื่อตอนเรียนเพาะช่าง อาจารย์ไม่เปลี่ยนเลย ไม่เจอกันตั้งเกือบ ๓๐ ปี ผมเลยพอจำได้ พอเท้าความนิดหน่อยอาจารย์ก็จำผมได้  อาจารย์ก็เกษียณปีนี้เช่นกัน ต้องถือว่าโชคดีเพราะถือว่าอาจารย์เป็นครูที่พาเรียนรู้ชีวิตจากการทำงานและเป็นผู้มีพระคุณที่ไม่ได้เจอกันเลย
  • ไปตอนแรกก็ไม่เจอคนรู้จักเลย แต่ก็ไม่รู้สึกแปลกหน้า เลยนั่งกินก๊วยเตี๋ยวอยู่ที่ใต้ร่มต้นลั่นทมข้างบ่อเต่าหน้าตึกอำนวยการเพาะช่างไปเสีย ๒ ชาม ทั้งอร่อยและได้อยู่กับบรรยากาศแบบเพาะช่าง-เพาะช่าง
  • ได้ไปขอกินไอติมด้วยสิครูอ้อยเล็ก ดูนักศึกษา ๒ คนชายหญิงเขายืนตักบริการผู้คนแล้วเลยอยากเดินเร่ไปขอกินถ้วยหนึ่ง เห็นเสื้อแล้วคงจะเป็นเด็กจิตรกรรม เพราะหน้าอกเสื้อยืดสกรีนว่า 'จิตรกรรมรักกัน' ว่างั้น
  • ตักๆไปคงจะเมื่อยมือและเกรงใจที่คนมายืนรอก็ออกปากกับเพื่อนว่า อย่างงี้ต้องให้เด็กปั้นมาตัก ว่าแล้วก็หันตะโกนไปยังกลุ่มเพื่อนว่า เฮ้ยๆ ไอ้...(คงจะเป็นเพื่อนเรียนประติมากรรมอย่างที่เขาต้องการ) มึงมาตักดีกว่า มึงโกยดินเก่งกว่ากู
  • ผมได้ยินแล้วก็ขำแล้วก็นึกเอ็นดูกับมุขที่เขาเอามาเล่นกัน ทีแรกก็งงว่ามันจะเกี่ยวกันได้ยังไง เขาเปรียบไอติมเป็นดินเหนียวสำหรับทำงานปั้นนั่นเอง
  • เห็นรูปเพาะช่างแล้วเลยชวนไปสู่บรรยากาศของเพาะช่างน่ะครับ
  • "มึงมาตักดีกว่า มึงโกยดินเก่งกว่ากู"

    อาจารย์เขียนเสียเห็นภาพเลยค่ะ

    อรุณสวัสดิ์ค่ะ

    สวัสดีครับคุณณัฐรดา ติดตามอ่านงานของคุณณัฐรดาอยู่เสมอนะครับ วิธีดึงเอาเรื่องราวต่างๆในชาดกมาพิจารณาและเล่าบางแง่มุมให้ฟังใหม่อย่างบางหัวข้อของคุณณัฐรดาเขียนนั้น น่าประทับใจมากครับ 

    สวัสดีค่ะพี่ชาย อ.วิรัตน์ คำศรีจันทร์

    • ได้รับพลังทางศิลปะจาก ณ ที่แห่งนี้ค่ะ
    • จุดประกายให้เกิดความสนใจมากยิ่งขึ้น แบบครูพักลักจำค่ะเพราะไม่มีความสามารถในศิลปะวาดภาพระบายสี เรียกว่าขี้เหร่มากๆเลยก็ว่าได้ แต่มองเห็นความสวยงาม  
    • มีการบ้านมาส่งด้วยค่ะ  ผลงานของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6
    • หนังสือการ์ตูน  และนำข้อคิดจากนิทานมาสอนให้นำไปใช้ในชีวิตประจำวันค่ะ
    • ไม่สวยงามแบบศาสตร์ชั้นสูง แต่ก็สวยงามแบบเด็กๆ
    • อย่างน้อยก็สอนให้เขามีจิตใจที่สวยงาม อ่อนโยนได้ค่ะ

                                   

     

    สวัสดีครับคุณครูจุฑารัตน์

    • เด็กมีทักษะการจัดโครงสีและการจัดวางองค์ประกอบของภาพดีครับ ทักษะที่ใช้นี้เรียกว่าความฉลาดทางด้านมิติและการจัดความสัมพันธ์ มีภาษาที่จะสื่อด้วยสี แสงเงา และการจัดระยะ เพื่อจะบอกว่าสิ่งใดมาก่อนหลัง อะไรอยู่ใกล้และด้านหน้า อะไรอยู่ไกล จุดความสนใจและฉากหลัง ควรจะถ่ายทอดด้วยภาษาศิลปะอย่างไร
    • ดูแล้วน่าจะเป็นความตั้งใจมากกว่าบังเอิญทำได้นะครับ เพราะดูความละเอียดประณีตและความต่อเนื่องต่างๆแล้ว บ่งบอกว่ากระบวนการคิดและความสุขที่เกิดขึ้นภายใน มีความหนักแน่น มั่นคง
    • บ่งบอกได้ด้วยว่าคุณครูจัดประสบการณ์ให้เด็กได้ทำงานอย่างมีความสุข ดูวิธีระบายและการใส่ใจรายละเอียดอย่างสม่ำเสมอแล้ว ภาษาอย่างนี้ทางศิลปะจะอ่านออกว่าเด็กมีพลังจากภายใน ซึ่งหมายถึงได้แรงบันดาลใจที่ดีครับ
    • แต่รูปมันเป็นห่านกับจิ้งหรีดนะครับน่ะ สงสัยจะไม่ใช่นกกระยางกับมดตะนอย
    • มีความสุขครับ  สอบ(เป็นผู้บริหาร)เสร็จแล้วใช่ไหม

    เอาภาพวาดที่ใช้ระบายสีมีลายเซนต์ครูสังคม ทองมี มาฝากคุณครูจุฑารัตน์ค่ะ..

    เมื่อตอนเด็กๆ เวลาอ่านหนังสือชัยพฤกษ์ หนูจ๋า เด็กก้าวหน้า แล้วเขามีรูปลายเส้นให้ฝึกระบายสีอย่างนี้นี่ อย่างกับได้ขึ้นสวรรค์เลยนะครับ นั่งระบายสีได้เป็นวันๆเลย

    สวัสดีครับอาจารย์ หลงไหล จุก เบี้ยวสกุลครับ

    อย่างนี้ต้องให้อาจารย์กู้เกียรติแนะนำหรือตามเข้าไปดูงานของอาจารย์กู้เกียรติได้เลยครับ การแสดงอารมณ์และบุคลิกของตัวการ์ตูนอาจารย์กู้เกียรติ ดูๆแล้วผมว่าคล้ายๆกับแนวของจุก เบี้ยวสกุล เวลาเขียนการ์ตูนอารมณ์ขันเหมือนกันครับ

    แต่งานของจุก เบี้ยวสกุล ที่มีชื่อเสียงด้วยและเชื่อว่าสะท้อนตัวตน-รสนิยมของเขาที่มีต่อราชาเพลงร็อคเอลวิส เพรสลี่ย์ด้วย ก็คือ เจ้าชายผมทอง ซึ่งเป็นที่นิยมแพร่หลาย และเชื่อกันว่า เจ้าชายผมทองที่เป็นพระเอกนั้น เขาสร้างขึ้นจากความชื่นชอบเอลวิส เพรสลี่ย์ จุก เบี้ยวสกุล เป็นนักร้องเพลงเอลวิส ที่ได้อารมณ์ความเป็นเอลวิสมากที่สุดคนหนึ่ง

    อีกเรื่องคือ จอมอภินิหาร ซึ่งเรื่องหลังนี้เขาเขียนเดินเรื่องต่อจากคนอื่นในขณะที่กำลังเป็นนักเรียนศิลปะของเพาะช่างปี ๒ เท่านั้น หมายความว่าเขาเป็นมือการ์ตูนของประเทศที่ดังอยู่ในวงการตั้งแต่เด็กครับ เข้าไปดูรายละเอียดของเขาที่นี่ได้อีกครับ

     

    • ก่อนวาดภาพ แจกใบความรู้ นิทานเรื่อง มดตะนอยกับนกกระยาง
    • สนทนาถึงลักษณะของตัวละคร แล้วให้นักเรียนจินตนาการออกมาเป็นรูปภาพ
    • แต่ไหง!ออกมาแบบนี้ก็ไม่ทราบค่ะ เอาเป็นว่า ห่านก็ห่านจิ้งหรีดก็จิ้งหรีดค่ะ..อิอิ..

                            

                                        

                                                                   

                     

    • จุดประสงค์ เพื่อให้นักเรียนฝึกตั้งคำถาม หาคำตอบและข้อคิดจากนิทาน ค่ะ
    • ใช้การวาดภาพ ระบายสีนำทาง(แต่ไม่ใช่ทำผลงานทางวิชาการค่ะ)
    • ขอบพระคุณพี่ชายอย่างสูงที่ติชมค่ะ

    -----------------------

    ตอนนี้ยังไม่ได้สอบ ภาค ขและค 

    ขึ้นบัญชีของกำแพงเพชรไว้ค่ะ ต้องใช้สิทธิ์ที่นี่ก่อน  แต่ละจังหวัดเปิดสอบไม่พร้อมกัน

    กำแพงเพชร คาดว่าน่าจะเปิดสอบประมาณเดือนธันวาคมค่ะ

    ชมรมพัฒนาความรู้ กำลังติวให้     ข้อสอบยากพอสมควรชนิดที่เลือกแต่หัวกะทิค่ะ

    วันที่ 6 ต.ค. ผ่าตัดกระดูกที่รพ.ค่ายฯค่ะ  

    จะรีบรักษาตัวให้หายเร็วๆ กิจกรรมวันที่ 6 ธันวาคม ถ้าไม่ติดภาระกิจด่วนคงไปหนองบัวด้วยค่ะ

    ขออนุญาตค่ะ

    ขอบพระคุณ คุณครู อ้อยเล็ก อย่างสูง

    แล้วจะนำภาพไปให้เด็กๆได้ฝึกกันค่ะ

    สวัสดีครับน้องจุฑารัตน์ ยอดคุณครูของเด็กๆ

    • เป็นกระบวนการเรียนรู้ที่บูรณาการและให้บทเรียนเชิงกระบวนการที่เป็นระบบมากเลยครับ (Systematic process of learning)
    • ดูในแง่ถอดบทเรียนและประเมินผลแบบเสริมพลังแล้วละก็ อยากสะท้อนให้เห็นเรื่องสำคัญ ๓ ด้านจากตัวอย่างกิจกรรมการเรียนการสอนและผลที่สะท้อนให้เห็นจากผลงานของเด็กๆครับ คือ (๑) ความสามารถทางการคิดเชิงสังเคราะห์และได้ความซาบซึ้ง : การสรุปและถ่ายทอดออกมาเป็นภาพรวม เขียนออกมาเป็นภาพศิลปะอย่างนี้ ถือว่าให้ประสบการณ์ที่เด็กได้ปฏิบัติกิจกรรมเพื่อการเรียนรู้ไปถึงขั้นสูงสุดของการจัดกระบวนการศึกษาเรียนรู้แนวมานุษยนิยมเลยนะครับ และการสรุปออกมาให้ได้หลักคิด ข้อคิด คติพจน์ เหล่านี้ เป็นการให้เด็กๆได้ประสบการณ์ในการเรียนรู้เพื่อเห็นกฏเกณฑ์และหลักการ (Principle and rule learning) ซึ่งเป็นขั้นสูงสุดก่อนไปถึงขั้นถ่ายเทประสบการณ์สู่สถานการณ์อื่น (Transfer of learning) ของการศึกษาในแนวพฤติกรรมนิยม ซึ่งหมายความว่า เป็นกระบวนการที่ใช้ความรู้เป็นฐานอย่างผสมผสาน จนได้กระบวนการสำคัญที่เป็นองค์รวมมากครับ (๒) การพัฒนาภาวะผู้นำของปัจเจก : การได้สะท้อนออกสู่งานศิลปะอย่างนี้ ทำให้เด็กได้ทำประสบการณ์ในการตัดสินใจและนำเสนอความเป็นตัวของตัวเอง หากกุมกระบวนการและเป็นพี่เลี้ยงให้เด็กได้แสดงออก รวมทั้งทำให้มีความหมายต่อความเป็นชีวิตส่วนรวมในชุมชนเล็กๆของเขา เช่น ได้นำเสนอต่อกลุ่มด้วยตนเอง หรือมีการนำไปติดแสดงทิ้งไว้ระยะหนึ่ง ให้เขาได้สัมผัสกับความเป็นส่วนรวมที่ขับเคลื่อนออกไปจากผลการเรียนรู้ของเขา ก็จะได้พัฒนาภาวะผู้นำในหลายด้านครับ โดยเฉพาะในด้านการสื่อสาร | การถ่ายทอดและนำเสนอความรู้และความคิดเห็นของตนเองต่อที่สาธารณะ | การแลกเปลี่ยนเรียนรู้ในแนวราบกับคนอื่น ซึ่งสอง-สามองค์ประกอบนี้ เป็นคุณลักษณะของพลเมืองสำหรับการเป็นสังคมแห่งการเรียนรู้และมุ่งวิถีการใช้ปัญญาในการปรึกษาหารือเพื่อแก้ปัญหา แทนการใช้ความรุนแรง ที่สำคัญและเราควรผสมผสานให้ได้จากกระบวนการศึกษาต่างๆอยู่ตลอดเวลาครับ (๓) การเรียนการสอนแบบ Constructivism :  ทั้งหมดอย่างที่คุณครูจุฑารัตน์จัดกระบวนการให้เด็กๆนี้ มีมิติการเรียนรู้และสะท้อนการสร้างความรู้ที่ผสมผสานความเป็นตัวของตัวเองของเด็กออกมาด้วยครับ สถานการณ์อย่างนี้ ไม่ว่าจะเป็นการได้คิดเชิงสังเคราะห์และสะท้อนลงสู่การทำงานศิลปะ เป็นกระบวนการที่มีเด็กและเงื่อนไขแวดล้อมทั้งหมดที่เป็นตัวเขาเป็นศูนย์กลาง ให้เขาได้พัฒนาตนเองอย่างเต็มที่และได้ความเป็นตัวของตัวเองอย่างเป็นองค์รวม ซึ่งไปได้ไกลมากกว่าการได้สอนความรู้เชิงเนื้อหาอย่างเดียวครับ
    • อันที่จริงทำวิจัยและพัฒนากระบวนการอย่างนี้ ทั้งเพื่อพัฒนาการเรียนการสอนให้เกิดผลดีแก่เด็กๆ พ้อมกับสร้างความรู้และพัฒนางานวิชาการด้วยรูปแบบและวิธีการที่เหมาะสมสำหรับการปฏิบัติได้จริง ก็ไม่น่าจะเป็นเรื่องที่ไม่น่าทำนะครับผมว่า
    • ร่วมคิดเยอะไปหน่อยครับ แต่อยากเป็นมือลงนวมให้กับคุณครูเก่งๆ ที่แกร่งขึ้นจากสิ่งที่กำลังทำอยู่น่ะครับ แล้วก็อีกด้านหนึ่ง จะร่วมบันทึกและแปรการแลกประสบการณ์กันของทุกท่าน ให้เป็นทุนความรู้ที่ได้จากกรณีศึกษา เพื่อมีพลังในการนำไปคิด เข้าใจ และขยายผลทางการปฏิบัติ ให้กับคนอื่นๆในเงื่อนไขแวดล้อมที่แตกต่างออกไปอีกน่ะครับ
    • ขอให้รักษาสุขภาพและคืนสู่ความสุขภาพดีโดยเร็วนะครับ
    • สนใจชมรมพัฒนาความรู้จัง บ่มคิดและทำมากันอย่างไรน่ะครับ ประเดี๋ยวจะลองหาอ่านย้อนหลังจากประสบการณ์ของคุณครูจุฑารัตน์และท่านอื่นๆ แล้วจะลองหาประเด็นเป็นแนวตามมาถอดบทเรียนหรือขอเรียนรู้จากพื้นบ้างนะครับ

    อาจารย์ครับ..เข้ามาอ่านงานของอาจารย์บังเอิญมีประเด็นที่มีผมเข้าไปเเจมด้วยเรื่องการ์ตูน...อย่างนี้ครับหนังสือชัยพฤกษ์การ์ตูนปัจจุบันไม่มีเเล้ว ผู้บุกเบิกคือ พี่รงค์ การ์ตูน หรือ อ.ณรงค์ ประภาสโนบล ผมเป็นกรรมการตัดสินหนังสือดีเด่นคณะเดียวกันกับพี่รงค์ ท่านอายุมากหน่อยสุขภาพเป็นไปตามวัย เเต่ฝีมือการ์ตูนสุดยอดเหมือนเดิม ส่วนพี่จุก เบี้ยวสกุล ผมเคยร่วมงานกับท่านก่อนเสียชีวิต โดยเป็นกรรมการตัดสินหนังสือดีเด่นคณะเดียวกันครับ ท่านคมคายมากในการให้มุมมองเรื่องการ์ตูนครับ

    หนังสือเหล่านี้คงล้มเลิกไปนานแล้วครับ ผมพยายามกล่าวถึงเพื่อให้มีคนในวงการจริงๆได้โยนข้อมูลมาปะติดปะต่อในด้านที่ข้อมูลไม่ค่อยมี โดยเฉพาะทางด้านศิลปะของคนเพาะช่างน่ะครับ

    อาจารย์กู้เกียรติรู้จักคนเยอะดี น่าจะเป็นโอกาสรวบรวมคนทำงานในวงการศิลปะและสื่อศิลปะที่มีโอกาสได้สัมผัสจากการทำงาน แล้วก็เก็บข้อมูล-เขียนความรู้ต่างๆไว้แบบเก็บเล็กผสมน้อยนะครับ ยิ่งทำวิจัยเชิงคุณภาพได้ด้วย ทำสิ-ทำสิ

    ตอนเรียนปริญญาโทผมศึกษาเชิงคุณภาพเรื่องการเข้าสู่อาชีพนักเขียนการ์ตูนไทย เเหล่งข้อมูลเพื่อตอบโจทย์เป็นนักเขียนการ์ตูนมืออาชีพเเละยังคงมีผลงานเป็นที่ยอมรับ กว่า 30 ท่าน อาทิ จุก เบี้ยวสกุล สละ นาคบำรุง ขวด ขายหัวเราะ กาย เบญวรรณ พล ข่าวสด เเจ้ ข่าวสด อ.ปยุต เงากระจ่าง หมื่น มติชน เซีย ไทยรัฐ กระโจน ตลาดตลก อุทัย ไชยกลาง โอม รัชเวทย์ เอ๊าะ ขายหัวเราะ

    ต้อม ขายหัวเราะ พี่รงค์การ์ตูน เเละอีกหลายท่านครับ โดยศึกษา กระบวนการขั้นตอนการเข้าสู่อาชีพ ช่องทาง การเรียนรู้เชิงอาชีพ กระบวนการขัดเกลาเชิงสังคม ผมอัดเทปเสียงสัมภาษณ์ไว้ด้วย โดยเฉพาะพี่จุก เบี้ยวสกุลที่เสียชีวิตไปเเล้ว ผมมีเสียงท่านอยู่ครับ

    • ประสบการณ์และการได้เรียนรู้กับนักเขียนการ์ตูนของอาจารย์กู้เกียรติดีจังเลยนะครับ
    • อาจารย์กู้เกียรติสะสมประสบการณ์พัฒนาการถอดบทเรียนคนทำงานศิลปะแล้วก็จัดการความรู้ไปสู่การพัฒนาทางด้านต่างๆ ทั้งการพัฒนา(เศรษฐกิจ)ชุมชน การพัฒนาการศึกษาเรียนรู้ทั้งในและนอกระบบ การพัฒนาสื่อและกลวิธีการเรียนการสอน การพัฒนาหนังสือ การอ่าน และตำราเรียน น่าจะหาคนทำได้ดีเหมือนอาจารย์กู้เกียรติได้ยากนะครับ

    อาจารย์ครับ...คนเขียนการ์ตูนเท่าที่ผมสัมผัสมา น่าสงสารมาก ยุคเเรกถูกกดค่าต้นฉบับ เหลือเเค่ไม่กี่สิบบาทต่องานเขียน 1 หน้ากระดาษ...ยุคต่อมาถูกกันเข้าสู่อาชีพจากกลุ่มนักเขียนหรือผู้ประกอบการบางกลุ่ม...ยุคต่อมากันนักเขียนไว้เป็นค่ายเพื่อผลทางธุรกิจ....ต่อมาต้องมีสมัครพรรคพวกจึงจะก้าวมาเเนวหน้าได้...เฮ้อ

    • อาจารย์กู้เกียรติคุยเรื่องนี้ทำให้ผมนึกขึ้นได้ว่ารูปปูนปลาสเตอร์หลายรูปในเพาะช่างที่ผมคุ้นเหลือเกินที่อยู่ในห้องอาจารย์ปัญญาส่วนหนึ่งนั้น ผมเคยเห็นที่ไหน ตอนนี้ทำท่าว่าจะนึกออกว่า เคยเห็นอยู่ในห้องแถวตึกเก่าแก่ริมถนนเลียบคลองหลอด ซึ่งสะสมโดยคนเพาะช่างที่ทำงานศิลปะเก่าแก่ แต่เมื่อแก่ตัวลงก็มีฐานะที่ไม่พอจะดูแลตนเองและไม่สามารถจัดการกับงานที่เก็บรวบรวมไว้ ตอนหลังๆมานี้เมื่อผ่านไปแถวริมคลองหลอดอีกผมก็ไม่เห็นห้องที่มีงานศิลปะอยู่เต็มนั้นแล้ว วันหลังจะลองถามท่านอาจารย์ปัญญาดูว่าเป็นงานที่อาจารย์ไปรวบรวมมาจากที่นั่นหรือเปล่า
    • คนที่ดำรงชีวิตด้วยการสร้างสรรค์งานศิลปะในบ้านเราแล้วอยู่ได้นั้นมีส่วนน้อยครับ
    • ตราบใดที่ผู้นำทางการเมือง ผู้นำทางสังคม ผู้นำทางการศึกษา รวมไปจนถึงครอบครัวและชุมชน ไม่มีรสนิยมทางศิลปะและไม่เห็นความหมายของการพัฒนาด้านจิตใจ(ที่ไม่ใช่เพียงเรื่องศาสนาและจิตวิทยา)ที่สมดุลต่อปัจจัยทางวัตถุ การพัฒนาทางด้านนี้ก็จะเป็นไปแล้วแต่ความสามารถดิ้นรนเอาตัวรอดของปัจเจก
    • แต่คนทำงานทางศิลปะก็ไม่ค่อยมีวัฒนธรรมของการรวมกลุ่มและจัดองค์กรเพื่อการจัดการการพัฒนาภาคศิลปะและวัฒนธรรมของตนเองให้เพียงพอกับความจำเป็นครับ
    • เรื่องพวกนี้ต้องเป็นภูมิปัญญาและการจัดการที่สั่งสมไปอยู่เสมอ จะคิดและทำปุ๊บปั๊บให้ได้อย่างที่ต้องการคงไม่ได้ง่ายๆ แต่คนในสังคมมักไม่ค่อยริเริ่มแล้วช่วยกันทำ หากใครลองเป็นแกนทำ ก็อาจจะต้องทั้งเป็นผู้นำและต้องรับผิดชอบไปทั้งหมดอยู่ตลอดเวลาจนหลังแอ่นไปเลย เวลาเห็นใครทำอย่างนี้ทีไรผมก็อดทุกข์ร้อนไปด้วยไม่ได้
    • ลองคลิ๊กให้เป็นเครือข่ายการจัดการที่จะสามารถทำให้เชื่อมโยงกับงานนโยบายของการพัฒนาชุมชนสิครับ เราอาจจะมองกลุ่มเป้าหมายอย่างนี้เป็นชุมชนอีกชนิดหนึ่งคือชุมชนวิชาชีพ-ชุมชนศิลปะ แล้วก็มีโปแกรมที่จะส่งเสริมบทบาทพร้อมๆกับหนุนให้มีระบบดูแลสุขภาพ-คุณภาพชีวิตได้ดีขึ้น อาจารย์กู้เกียรติบุกเบิกมิติใหม่ๆของงานพัฒนาชุมชนในยุคหลังสมัยใหม่ผ่านเรื่องทำนองนี้ก็เข้าท่าดีเหมือนกันนะผมว่า เพราะเป็นคนมีพื้นทางศิลปะดีและทำงานได้หลายพรมแดน

    ...สุวิทย์ ใจป้อม...1 ใน กลุ่ม http://www.visualizer-club.com/index.php

    แจ้งมาให้ทราบว่า

    หวัดดีครับพี่อ้อย

    วันที่28-29 ตุลาคมนี้ 2552 ผมได้ออกรายการสอนศิลป์

    ช่องไทยพีบีเอส อย่าลืมติดตามชมนะครับพี่

    เวลา 8.55น. และตอนเย็น 18.55 น. 

    โดยใช้เทคนิคเกรยองครับ


    *****************************************

    จึงประชาสัมพันธ์มาให้พี่อาจารย์วิรัตน์ไปช่วยให้กำลังใจน้องๆด้วยกันค่ะ...อย่าลืมติดตามชมนะคะ...ครั้งนี้เป็นครั้งที่ 2แล้วค่ะ..ที่สุวิทย์ ใจป้อม แกได้ออกรายการสอนศิลป์

    ผลงาน สุวิทย์ ใจป้อมค่ะ..

    สวัสดีครับคุณครูอ้อยเล็ก ขอบคุณที่ลิ๊งค์งานและแกลลอรี่ของสุวิทย์ ใจป้อมมาฝากครับ ผลงานดี แนวคิดดี แล้วก็เครือข่ายการทำงานก็ดีมากเลยนะครับ เป็นลูกศิษย์ของอาจารย์กมล สาริกานนท์ด้วย

    เลยได้เห็นหน้าเพื่อนหลังจากจากกันเกือบ ๓๐ ปีทางเว๊บและในงานของน้องๆที่เป็นลูกศิษย์เขานี่เอง อาจารย์กมลนี่เป็นเพื่อนร่วมรุ่นและร่วมห้องเรียนของผมที่เพาะช่างครับ จะว่าไปแล้วเป็นเพื่อนในกลุ่มผมเองเลย ครูเก่งและมีไฟ เลยได้สร้างลูกศิษย์เก่งๆไว้ให้สังคมอยู่เสมอๆเลยนะครับ 

    wit-76
    ระดับเทพ
     
    เข้าร่วมเมื่อ: 26/07/2007
    ตอบ: 1164
    ที่อยู่: sukumvit 103

         ตอบ: 28/10/2009 5:01 pm 

    ขออภัยทุกท่านที่คอยติดตามชมครับ 

    มีข้อผิดพลาดทางเทคนิคนิดหน่อย อิอิ 

    ทางรายการแจ้งว่า จะออกอากาศวันที่ 5 และ 6 พฤศจิกายน 2552 

    เวลาเดิมครับ 


    ขอบคุณทุกท่านที่คอยติดตามชมครับ

    http://www.visualizer-club.com/modules.php?

    name=Forums&file=viewtopic&t=987#7017

    แจ้งให้พี่อาจารย์วิรัตน์ทราบค่ะ...

    ขอบคุณครับคุณครูอ้อยเล็ก ผู้สนใจตามชมคงต้องอดใจรอไปอีกนิดหน่อยนะครับ อันที่จริงรายการสอนศิลป์ของไทยทีวีน่าจะขยายเวลาและทำรายการให้มีหลายมิติโดยมีเรื่องศิลปะเป็นแกนนะครับ เช่น ดูงานศิลปะ เรียนรู้เทคนิคจากการสาธิตของศิลปิน การเรียนรู้ภาพสะท้อนสังคมและพัฒนาความรอบรู้สู่มิติอื่นๆผ่านความซาบซึ้งทางศิลปะ พาเที่ยวแหล่งศิลปะในประเทศและภูมิภาคอาเซียน สื่อข่าวและรายงาน Events ที่เกิดขึ้นในแวดวงศิลปะของไทยและของโลก น่าสนใจและเป็นพัฒนาการของรายการสื่อทางศิลปะและวิถีชีวิต(Arts,Society and Life style) ดีออก

    P..เรียนพี่อาจารย์ดร.วิรัตน์..ดูทีไรเพลินทุกที..แต่รายการคงสู้เกมโชว์ไม่ได้ค่ะ...เพราะอะไรหรือ..เราๆท่านๆคงทราบดีเน๊าะเฮ้อ..ธุรกิจย่อมต้องมองเห็นประโยชน์ด้านการเงินมากกว่าด้านจิตใจ...เอาน้ำรากบัวมาฝากค่ะ..

     

    ขอบคุณครับคุณครูอ้อยเล็ก เหมือนรากบัวหลวงและบัวหิมะของจีนนะครับ แต่ดูรูปร่างที่ป้อมๆ ท่อส่งน้ำที่มีขนาดใหญ่ และสีสันอย่างนี้แล้วน่าจะเป็นบัวหิมะนะครับ รากบัวหิมะเป็นผลผลิตเกษตรส่งออกของจีน

    ของพื้นถิ่นไทยเราจะเป็นรากบัวหลวงกับรากบัวสาย รากบัวหลวงจะมีลักษณะคล้ายรากบัวหิมะนี้แต่ขนาดเพรียวยาวและท่อข้างในจะเล็กกว่านี้ ส่วนรากบัวสายก็จะมีลักษณะเหมือนสายบัวที่ลอกผิวนอกออก รากบัวมีสรรพคุณทางยาหลายอย่าง หากชงดื่มกินเป็นชา จะช่วยเพิ่มการไหลเวียนของโลหิตให้ดีขึ้น ทำให้ร่างกายสดชื่นและเกิดผลดีต่อการรักษาโรคหัวใจในทางอ้อม

    รากทำหน้าที่น่าเรียนรู้เพื่อเป็นอนุสติในการดำเนินชีวิตมากครับ หากแล้งจนแหล่งน้ำแห้ง บัวจะหยุดการเจิญเติบโตทั้งหมดจนเหลือแต่รากบัว ยิ่งแล้งก็ค่อยๆย่อยสลายตนเองไปจนเหลือเพียงเหง้า จึงสามารถส่งผ่านตนเองข้ามฤดูกาลเป็นปีๆ บัวจึงมีโอกาสการดำรงอยู่ทั้งโดยรากและเมล็ด

    เมื่อมีน้ำหลากมา ก็ต้องเป็นน้ำขังนานพอที่จะทำให้ดินอ่อน รากบัวจึงจะเริ่มงอกและทำหน้าที่ตรงข้ามไปอีกทางหนึ่งโดยแทนที่จะย่อยสลายตนเองและหดตัวลง ก็จะค่อยๆงอกแผ่ออกไปตามความอ่อนตัวของดิน

    ในกรณีของบัวหลวงนั้น เมื่อได้ระยะและจังหวะที่เหมาะสมก็จะผุดใบและดอกไปพร้อมกัน ๑ คู่ เวลาเห็นบัวหลวงแตกใบขึ้นมา ๑ ใบ ไม่นานก็จะเห็นดอกตูมผุดขึ้นมาด้วย ๑ ดอก หากเป็นระยะแรกๆ ใบบัวยังไม่หนาแน่น โอกาสจะโดนลมตีสูง ใบและดอกบัวหลวงจะปริ่มและแบนราบอยู่กับผิวน้ำ เมื่อหนาแน่นพอสมควรก็จะเหมือนกับร่วมแรงกันกำบังลมไหว จึงจะชูก้านขึ้นเหนือน้ำ 

    ดูแล้วก็เห็นความเป็นชุมชนและเห็นวิถีการพัฒนาอย่างมีความเป็นซึ่งกันและกัน หรือเห็นความเป็นสังคมของพืชได้เหมือนกันครับ  พิจารณาดูให้ดีก็เห็นกระบวนการกลุ่มก้อน  ต่างเป็นปัจจัยสร้างความลงตัวและสร้างความพอดีให้แก่กัน ซึ่งเป็นกระบวนการธรรมชาติที่น่าสนใจและให้สติปัญญาดีจริงๆครับ

    เรียนพี่อาจารย์ดร.วิรัตน์

                แจ้งข่าว..เรื่องหนังสือพี่ณัฐรดา ครูอ้อยเล็กได้รับทั้งผ้าเพ้นท์ย้อมด้วยเทคนิคเกลือและหนังสือศิลปะงานเพ้น เพื่อประกอบอาชีพ "วาดเล่นก็ได้ วาดขายก็ดี" นับว่าพี่ณัฐรดาได้จัดทำหนังสือ"เพื่อพัฒนาพลังทางศิลปะ"ขึ้นอีกเล่มหนึ่งแล้วค่ะ...

    ท่านผู้สนใจ..ก็ซื้อหามาไว้อ่านและทำตามได้ง่ายๆตามร้านหนังสือนะคะ..

    • หนังสือดูแล้วมีภาษาที่สื่อความละเอียดประณีต แล้วก็ให้บุคลิกผู้เขียนมากเลยนะครับ
    • ผมก็เคยตามอ่านในบางส่วนที่คุณณัฐรดาเขียนในบล๊อกโอเคเนชั่นครับ ตัวหนังสือและอารมณ์การไหลถ้อยความของคุณณัฐรดานั้น อยากใช้ภาษาศิลปะเรียกภาษาหนังสือว่า 'งาม' จังเลยครับ
    • ในแง่ของการถ่ายทอดและทำสิ่งยากให้เรียนรู้กันได้ ก็ต้องเรียกว่าเป็นหนึ่งอย่างยิ่งครับ มีศิลปะและจิตวิญญาณของความเป็นครูในการเขียนหนังสือเพื่อให้การเรียนรู้อย่างลึกซึ้งแก่ผู้คนได้มากเลย
    • อ่านอย่างหยาบระดับเรียนรู้ทักษะปฏิบัติก็ได้ อ่านอย่างย่อยละเอียด เพื่อได้จิตใจก็ได้ แปลกดีครับ หาไม่ค่อยง่าย

    สวัสดี..ยามเช้าค่ะ..แวะมาบอกพี่อาจารย์ว่าสาวนครปฐมเก่งค่ะ...พี่ตุ๊กตาเป็นคนนครปฐมโดยกำเนิด เป็นคนวัดใหม่ปิ่นเกลียว อยู่ตรงกันข้ามกับมหาวิทยาลัยราชภัฏนครปฐม เป็นศิษย์เก่า โรงเรียนราชิณีบูรณะ และไปศึกษาต่อที่มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ค่ะ...เราพบกันใน โอเคเนชั่น แล้วสนใจงานของพี่เขามาก งานละเมียดละมัยดูแล้วเห็นคนวาดเลยว่าเป็นอย่างไร เรามีโอกาสร่วมกิจกรรมศิลปะกับเด็กพิการบ้านซานคามิลโล บางนา สนทนากันอย่างคนบ้านเดียวกัน พี่เป็นคนยิ้มง่าย ใจเย็น พูดเพราะและเสียงเบา ตรงข้ามกับครูอ้อยเล็กอย่างที่พี่วิรัตน์เห็นค่ะ..คือลุยนั่นเอง...เหมือนกัน 2 อย่างคือชอบทำงานและยิ้มง่ายค่ะ ส่วนปฏิบัติธรรมนั้นห่างไกลลิบโลก พี่เป็นคนชอบและปฏิบัติได้ค่ะ...ดังนั้นงานที่ออกมาจึงเป็นอย่างที่พี่วิรัตน์ได้แสดงความคิดเห็นค่ะ...

    อ้าว เพิ่งได้เข้ามาเห็น กำลังหาข้อมูลเรื่องระบบสีแบบต่างๆ เพื่อดึงไปวางไว้ให้คนได้ศึกษา เพราะมีผู้อ่านถามหลังไมค์ว่าสีแดงกลีบกุหลาบ หรือสีแดงคนบ้าดอกกุหลาบ (Rose Madder) เป็นอย่างไร แต่ก็หาไม่เจอ ไม่รู้ว่าไปเขียนไว้ตรงไหน พอเข้ามาในหัวข้อนี้ก็เลยได้เจอ dialogue นี้ของเจ้าอ้อย อีกสองวันก็จะครบสองปีเลยแน่ะ ขออภัยหลาย

    พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
    ClassStart
    ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
    ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
    ClassStart Books
    โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท