กลุ่มเกษตรกรทำสวนทุ่งคาวัด ตำบลทุ่งคาวัด อำเภอละแม จังหวัดชุมพร
ตลาดแห่งความหวัง ได้สร้างผลิตภัณฑ์ ที่ทรงคุณค่า สร้างความประทับใจในตัวสินค้า ด้วยความหรูหราโดดเด่นให้เป็นที่รู้จักของคนทั่วไป ในผลิตภัณฑ์ ที่ชื่อกล้วยหอมทองละแม ช่วงต่อจากนี้ไปจะย้อนรำลึกถึงธาตุทรหด ของบุคคลที่ร่วมก่อร่างสร้างกลุ่มผู้ผลิตกล้วยหอมทองปลอดสารพิษ อำเภอละแม จังหวัดชุมพร เพื่อเป็นกระจกเงาสะท้อนตัวเอง และ เมื่อสังเคราะห์เหตุการณ์ปัจจุบัน แล้วจะทำให้เกิดมโนภาพชัดเจนที่สุดปลายทางข้างหน้า ภาพนั้นจะทำให้คนเกิดความจริงใจ มีความจริงจัง ที่จะนำพาองค์กรก้าวเดินต่อไปอย่างมั่นคง
ลำดับเหตุการณ์ 16 ปีที่ผ่านมา เมื่อปีพุทธศักราช 2536 วันที่ 22 มิถุนายน คณะจากญี่ปุ่น เดินทางมาเสนอเรื่อง การทำการตลาด กล้วยหอมทองปลอดสารพิษ ส่งออกไปยังประเทศญี่ปุ่น คนละแมกลุ่มหนึ่ง ตัดสินใจร่วมกัน ทำหน้าที่ ที่ท้าทายความสามารถ วันที่ 4 กรกฎาคม ได้เช่าเหมารถตู้ เดินทางไปศึกษาดูงานที่สหกรณ์ท่ายาง จังหวัดเพชรบุรี เพื่อดูการปลูกกล้วย และการบรรจุกล่องกล้วยหอมทอง เพื่อส่งออกไปยังประเทศญี่ปุ่น
กลับมาจากเพชรบุรี ก็นัดหมายผู้สนใจทั้งหมด เข้าร่วมประชุม ในวันที่ 12 กรกฎาคม และเลือกตั้งคณะกรรมการบริหารงานกลุ่ม นายนิพนธ์ รักเจริญ (หลวงค้ำ) ทำหน้าที่เป็นประธานกลุ่มคนแรก และในวันนั้นเช่นกัน ได้ร่วมกันกำหนดกฏเกณฑ์ กติกากลุ่ม เพื่อเป็นระเบียบที่สมาชิกทุกคนได้ถือปฏิบัติ ประกอบด้วย การมีส่วนร่วมเป็นเจ้า สมาชิกต้องลงหุ้น มูลค่าหุ้นละ 100 บาท และ ต้องซื้อหุ้นขั้นต่ำ 5 หุ้น มูลค่า 500 บาท จึงจะเป็นสมาชิกสมบูรณ์ มีผู้ตกลงใจซื้อหุ้นในวันนั้น จำนวน 36 ราย หลังจากนั้นก็ให้ทุกคนเตรียมพื้นที่ปลูก และแจ้งจำนวนหน่อพันธ์ที่จะใช้ในการปลูก เมื่อมีเงินลงทุน ทางคณะกรรมการดำเนินงานก็จัดรถเดินทางไปซื้อหน่อพันธ์ จากอำเภอท่ายาง จังหวัดเพชรบุรี
การเตรียมพื้นที่ปลูกได้ถูกกำหนดขึ้น โดยมีผู้ประสานงานของบริษัทแพนแปซิฟิคฟู้ด ทำหน้าที่จัดทำรายละเอียดต่างๆ เพื่อให้การจัดระบบข้อมูลเป็นไปตามขั้นตอน หน่อกล้วยเที่ยวแรกถูกนำไปปลูกตามที่ได้สั่งจองกันเอาไว้
คณะกรรมการดำเนินงาน ร่วมกันประชุมกำหนดวัตถุประสงค์ของโครงการไว้ดังนี้
1. เพื่อส่งเสริมให้เกษตรกรในเขตตำบลทุ่งคาวัด อำเภอละแม จังหวัดชุมพร และพื้นที่ไกล้เคียง ได้ทำการเพาะปลูกกล้วยหอมทอง ให้เป็นพืชเศรษฐกิจ และเป็นรายได้เสริมให้กับเกษตรกร
2. เพื่องส่งเสริมให้เกษตรกรเหล่านี้ ได้ปลูกพืชเศรษฐกิจ โดยคำนึงถึงการอนุรักษ์สภาพแวดล้อม และทรัพยากรธรรมชาติ ด้วยวิธี ลดการใช้สารเคมี
3. เพื่อส่งเสริมให้เกษตรกรแต่ละหมู่บ้าน เกิดความสามัคคี โดยการรวมกลุ่มกันทำการผลิต และแก้ไขปัญหาการผลิตของกลุ่มอย่างเป็นระบบ โดยมีสภาตำบลเป็นผู้ดูแลโครงการ
4. เพื่อเป็นการสร้างงาน และช่วยเสริมรายได้ให้แก่เกษตรกรในตำบลทุ่งคาวัด และพื้นที่ไกล้เคียง มารวมกลุ่มกันทำงาน ในกระบวนการส่งออกกล้วยหอมทอง
5. เพื่อส่งเสริมความสัมพันธ์ระหว่างเกษตรกรไทย กับองค์กรผู้บริโภคในระดับประชาชน ในประเทศญี่ปุ่น อันจะเป็นแนวทางในการพัฒนาระบบการเกษตรของไทย ไปสู่ระดับสากลต่อไป
ในเดือนสิงหาคม หน่อกล้วยหอมทองจากจังหวัดเพชรบุรี ได้ถูกลำเลียงเข้าสู่พื้นที่ ตำบลทุ่งคาวัด จำนวน ทั้งหมด 8000 หน่อ สมาชิกทั้ง 36 ราย คณะกรรมการบริหารจัดสรรโควตาการปลูกให้แก่สมาชิกในเดือนต่อๆไป เดือนละ 8000 หน่อ หมุนเวียนกัน ตามที่ได้แจ้งความต้องการปลูก
ข่าวคราวการดำเนินงานของกลุ่มตั้งแต่เริ่มต้น เสน่ห์โสดาวิจิตร ผู้ประสานงานสนาม ของบริษัทแพนได้รวบรวมและเรียบเรียง ข้อมูลส่งไปไม่ขาดตอน ทางญี่ปุ่นเมื่อเห็นว่าสมาชิกมีความตั้งใจจริง และมีความเป็นไปได้ ที่ผลผลิตกล้วยหอมทองน่าจะส่งไปยังญี่ปุ่นได้ คณะจากสหกรณ์โยโดงาว่า จึงเดินทางมาสู่ละแม เมื่อวันที่ 15-16 มกราคม ปี พศ.2537 และลงนามในแถลงการณ์ร่วมเพื่อที่จะได้เป็นแนวทางในการผลิต
ได้ทดลองส่งออกครั้งแรก เมื่อวันที่ 26 มกราคม พ.ศ.2537 โดยการส่งออกเป็นการทดลองส่งโดยทางเครื่องบิน จำนวน 20 กล่อง และหลังจากนั้น ก็ทดลองส่งอีก 2 ครั้ง ครั้งละ 20 กล่อง เช่นกัน โดยกล้วยที่ส่งออกเป็นกล้วยของสมาชิกที่ได้ปลูกไว้ก่อนหน้านี้แล้ว และ ได้ทำการส่งออกอย่างเป็นทางการหลังจากแถลงการณ์ร่วม ผ่านไป 3 เดือน เมื่อ วันที่ 25-28 เมษายน พศ.2537
อุปสรรคและขวากหนามมีมากมาย บนเส้นทางเดินที่ปราศจากความราบเรียบ
เมื่อมีตลาดรองรับ ผลิตภัณฑ์ จะต้องผลิตให้ได้ตามปริมาณที่ตลาดต้องการ
โดยทั่วๆไป เราจะเห็นว่า ทำใมต้องเน้นส่งเสริมการผลิต ให้มากให้มีคุณภาพ ก็เพราะว่าเมื่อแสวงหาตลาดแล้วผู้บริโภคเกิดความสนใจ ก็สามารถที่จะ นำผลผลิตไปขายได้ อย่างพอเพียง และทันท่วงที แต่ผลเสียในลักษณะเช่นนี้ เมื่อผลผลิตมาก ก็ทำให้มีการกดราคา โดยไม่สนใจว่าผู้ผลิตจะเป็นอย่างไร ผู้บริโภคปลายทาง คงซื้อขายที่ราคาเท่าเดิม
กรณีกล้วยหอมทอง เป็นตลาดล่วงหน้า โดยผู้บริโภค วางแผนการบริโภค แล้วส่งมาให้ผู้ผลิต เพื่อที่ผู้ผลิตจะได้วางแผนการผลิต ได้ตามปริมาณที่ผู้บริโภคต้องการ
แต่ผลไม้เป็นสินค้าที่เก็บได้ไม่นาน มีความอ่อนไหวมากมาย
ทำอย่างไร ให้ได้ผลผลิตตามที่ต้องการ มีคุณภาพ ปลอดสารเคมี
ทำอย่างใรจึงจะทำให้ผลผลิตได้ขนาด และตรงตามงวดที่จะส่ง เดือนละ 4 ครั้ง
การลงทุนของสมาชิก ไม่ว่าจะเป็นหน่อพันธ์ที่ นำมาใช้ปลูก การดูแลรักษา สมาชิกทุกคนจะต้องได้รับผลตอบ
แทนอย่างคุ้มค่า
ผลตอบแทน สมาชิกต้องได้รับตามที่คาดหวังไว้ ปลูกแล้วไม่ได้รับอะไร เขาก็จะเกิดความท้อแท้และล้มเลิก
ไปในที่สุด
กระบวนการสร้างความเชื่อมั่นให้กับสมาชิก ด้วยการทำความเข้าใจเกี่ยวกับการตลาดที่มั่นคง พร้อมกับการส่งเสริมให้มีการพัฒนาผลผลิตด้วยการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม โดยการหยุดใช้สารเคมีกำจัดแมลงและวัชชพืช ต้องร่วมกันแสวงหากรรมวิธีที่ใช้ระบบธรรมชาติ และกระบวนการทางอินทรีย์ชีวภาพ นักบริหารในระดับรากหญ้า ต้องขบคิด และบทเรียนเหล่านี้ได้รับการพิสูจน์ ทุกช่วงเวลา ที่ผ่านมา
ผู้จัดการ ประธาน พนักงานหาผลผลิต ทำหน้าที่กันอย่างไร
มันเป็นงานที่หนักหนาสาหัสพอสมควรกับกิจกรรมที่เริ่มต้นจาก ศูนย์ ความรู้จากตำราจะหามาจากที่ใหน ไม่มีหรอก ต้องลงมือปฎิบัติกันจริง ดูแล้วทำ ทำแล้วมานั่งขบคิดกันในระหว่างผู้ที่ทำในแต่ละบทบาทหน้าที่
สมาชิกผู้ปลูกกล้วย ได้รับความรู้ที่เกิดขึ้นจากการปฏิบัติในแปลงของแต่ละคน แล้วมานั่งพูดคุยแลกเปลี่ยนกัน ในแทบทุกเรื่องไม่ว่าจะเป็นศัตรูประเภทแมลง เช่นด้วงงวงที่ชอบเจาะลำต้นขณะที่ต้นกำลังเจริญเติบโตสวยงาม เมื่อมีด้วงมาเจาะและวางไข่ เมื่อไข่เริ่มเป็นตัวหนอน มันก็จะชอนไชเข้าสู่ไส้กล้วยแล้วดูดกัดกินเป็นอาหาร เมือกที่เกาะอยู่ที่ลำต้นเป็นก้อนคล้ายกับกาวใส เป็นตัวบ่งชี้ว่าด้วงวางไข่ และไข่เจริญเติบโตกลายเป็นตัวหนอนแล้ว หลังจากแลกเปลี่ยนกันและทดลองปาดนำตัวหนอนมาดูกัน ก็สรุปได้ว่า ตัวแก่จะมาวางไข่ และเมื่อไข่กลายเป็นตัวหนอนการทำลายต้นกล้วยจึงเริ่มขึ้น ดังนั้นการที่เราดูแลต้นกล้วยอย่างสม่ำเสมอ เมื่อมีร่องรอยว่ามีหนอนด้วง ก็ใช้มีดปาดจนเจอตัวหนอน แล้วทำลายเสีย หากต้นกล้วยไม่เสียหายมากก็ไม่เป็นอะไร แต่ถ้าหนอนเจาะไชถึงไส้ในกล้วย ก็ตัดส่วนบนของต้นทิ้ง ผ่าหาตัวหนอนทำลาย ต้นกล้วยส่วนที่เหลือก็จะแตกยอดอ่อนขึ้นมาใหม่ แม้จะไม่สวยงามแต่ก็ไม่ทำให้ตัวหนอนด้วงชอนไชไปสู่เหง้ากล้วย ซึ่งหากถึงเหง้าเมื่อไรก็ถือว่าต้องขุดทิ้งและปลูกใหม่ เรื่องของใบแห้งเป็นจุดน้ำค้าง ก็เช่นกัน สภาพอากาศเป็นตัวทำให้เกิดเช่นนั้น โดยเฉพาะปลายฝน และต้นฤดูหนาวที่แสงแดดไม่พอเพียง
การเจริญเติบโตของต้นกล้วยในแต่ละแปลงก็เป็นสิ่งที่ต้องนำมาขบคิด แต่ไม่มีสิ่งใดจะสำคัญเท่ากับน้ำ เพราะการปลูกกล้วยหอมทองในพื้นที่ไม่มีแหล่งน้ำ อย่าได้คิดว่าปลูกเพื่อเอาไว้ขายเลย ปลูกไว้ดูเล่นได้เพียงอย่างเดียวก็พอ
ปัญหาของผลผลิตไม่เพียงพอ ไม่เป็นไปตามเป้าหมาย หรือไม่ได้ตามปริมาณการสั่งจอง เป็นบทเรียนที่เข้มข้น ต้นแบบที่อำเภอท่ายางจังหวัดเพชรบุรี ไม่สามารถนำแบบอย่างมาใช้ที่ละแมได้ทั้งหมด ใช้ได้เฉพาะ บางเรื่อง เช่นทำ ให้ผิวลูกสวย ด้วยการนำถุงพลาสติคมาคลุมเครือกล้วย แต่ก็มีข้อดีข้อเสียมากมายหลายประการ การเรียนรู้ที่เกิดจากการปฏิบัติ เป็นบทเรียนอันล้ำค่าของสมาชิกกลุ่มทุกคน
ดังนั้นความสวยงามของผลิตภัณฑ์กล้วยหอมทองละแม ไม่ใช่ ลูกกล้วยสวย ไม่ใช่คำว่ากล้วยปลอดสารพิษ
แต่ความสวยงามทีเกิดขึ้น คือ ภาพของความตั้งใจของคนที่ปลูกกล้วย หยาดเหงื่อแรงงาน การร่วมกันนั่งปรึกษาหารือเพื่อแก้ไขปัญหาต่างๆ ทั้งนี้ทั้งนั้นเพียงเพื่อให้ได้มาซึ่งผลกล้วย ที่สมาชิกผู้บริโภคจะได้นำไปกินกัน กล้วยเครือแรกของกลุ่ม เป็นกล้วยจากแปลงของสมาชิกที่ชื่อ สมบัติ สุขรักษา ถือว่าเป็นผลิตภัณฑ์ที่คลอดออกมาเป็นปฐมฤกษ์ เมื่อต้นปี 2538 ภาพของความตั้งใจความจริงใจ ได้ก่อให้เกิดความรู้สึกดีๆ ต่อผู้บริโภค จะเห็นได้ว่า ในช่วง แรกของการส่งออกแม้ว่ากล้วยของสมาชิกจะมีไม่พอ ตามที่สั่งจองมา ต้องเดินทางไปตัดกล้วยจากบ้านถ้ำสิงห์ มาผนวกรวม ก็ไม่ว่ากัน
หัวใจนักสู้ และแรงศรัทธา ถือเป็นความสำเร็จของกลุ่มคนระดับรากหญ้า
ผมจะไม่ยอมให้กลุ่มกล้วยหอมทองที่พวกเราร่วมกันสร้างมากับมือ ล้มหายตายจากเหลือเพียงตำนานอย่างเด็ดขาด โกศล โกมินทร์ หนึ่งเดียวที่เป็นผู้บุกเบิก และยังเป็นกรรมการกลุ่ม อยู่ในปัจจุบัน พูดออกมาคำหนึ่งหลังจากที่เราได้นั่งสะท้อนย้อนรำลึกความหลัง กันที่มุมหนึ่งริมชายคาบ้านของเขา ประเด็นที่ผมพยายามค้นหาจากปากของคุณโกศล ก็คือ ทำใมกลุ่มกล้วยหอมทอง เดินทางมาได้ถึง 16 ปี ทั้งที่ในใจ ของเรา มีความรู้สึกว่า ทุกๆเหตุการณ์ทุกครั้งที่เกิดวิกฤต มันแสนสาหัสสากรร ชนิดที่แทบจะเลิกรา ตั้งแต่วิกฤติทางการเงิน เมื่อปี 2539 วิกฤติภัยแล้งอย่างต่อเนื่อง เมื่อปี 2541-2542 และเมื่อปี 2548 -2549
บทสรุปที่เราทั้งสองคนให้ความเห็นร่วมกันก็คือ กิจกรรมของกลุ่ม ลื่นไหลไปโดยอัตโนมัติ จากความผูกพันของ ผู้บริโภคกับผู้ผลิต ชนิดแยกกันไม่ออก มีกระบวนการจัดการข้อมูลข่าวสาร ให้เชื่อมโยงถึงกันอย่างไม่ปิดบัง เช่นกรณีวิกฤติภัยแล้ง ต้นกล้วยเสียหายมากมาย ผู้บริโภคไม่อยากให้ผู้ผลิตท้อถอยหรือเสียกำลังใจในการผลิต ได้รับความเห็นใจช่วยกันรวบรวมเงินบริจาค ส่งมาให้เป็นกองทุนแก้ปัญหาภัยแล้ง น้ำใจสร้างความผูกพัน ความตั้งใจในการผลิต เกิดขึ้นเพื่อตอบแทน แก่ผู้บริโภค
การดูแลกลุ่ม การจัดการ ภายในกระบวนการต่างๆ สามารถกำหนดเกณฑ์ปฏิบัติอย่างชัดเจน มีระเบียบ มีหัวหน้ากลุ่มผู้ผลิต และส่วนของมาตรฐานการส่งออกในวันนี้ ถือว่าผ่านกระบวนการเป็นที่ยอมรับในมาตรฐาน
ดังนั้นกรรมการบริหารกลุ่ม ที่ได้รับการคัดเลือกเข้ามาทำหน้าที่ จึงไม่ได้มีผลอะไรต่อความปั่นป่วน หรือความล้มเหลวของกลุ่ม โกศล โกมินทร์ กล่าวสรุปในตอนท้ายว่า ณ วันนี้กลุ่มสามารถเดินต่อไปได้ด้วยตัวของมันเอง
แต่อะไรละคือ สิ่งที่ผู้บริโภคอยากเห็น ถ้าตอบว่ากล้วยลูกสวยๆงามๆ และปลอดสารพิษ ก็ไม่ผิดหรอกแต่ถูกเพียงครึ่งเดียว เพราะในวันนี้ สหกรณ์ผู้บริโภคโยโดงาว่า ถึงแม้นว่ากล้วยที่ถูกส่งไป ลูกจะไม่สดสวย แต่ถ้าเป็นกล้วย ที่ผลิตโดยสมาชิก จากละแมเขาก็บริโภคด้วยความสนิทใจ
สิ่งที่ได้เขียนเอาไว้ในข้อตกลงที่ได้ลงนามกันเอาไว้ต่างหาก เป็นสิ่งที่สำคัญมากๆ โดยเฉพาะความรู้สึกอยากเห็นพัฒนาการ และการเจริญเติบโต อย่างดีเยี่ยม ในเรื่องของการมีส่วนร่วมในการจัดการความรู้เหล่านี้ สู่ชุมชน ต้นแบบสหกรณ์ผู้บริโภคที่เขาดำเนินอยู่เขาได้มีโอกาสเป็นพี่เลี้ยงให้มันเกิดขึ้น กับสมาชิกกลุ่มหรือชุมชน ผมจำได้ว่า สมัยที่ผมไปญี่ปุ่นเพื่อหาเงินบริจาคในการก่อสร้างโรงงานบรรจุกล่องเมื่อเดือน ตุลาคมปี 2539 คุณโอโนะ ประธานกลุ่มตลาดแห่งความหวัง ได้ถามผมว่า สนใจสร้างกลุ่มผู้บริโภค และอยากทำตามรูปแบบของเขาไหม ผมบอกว่าอยากทำ แต่เมื่อกลับมาปรึกษาเพื่อน กลายเป็นว่าผมเป็นคนสร้างวิมานในอากาศเสียฉิบ เพราะเพื่อนๆบอกว่า สังคมบ้านเราไม่มีโอกาสทำได้หรอก ทำให้ผมเงียบ และไม่เคยพูดเรื่องนี้กับใครอีกเลย
กระบวนการจัดการความรู้ให้กิจกรรมดีๆเหล่านี้ มีการถ่ายทอด มีการทดลองปฏิบัติ เพื่อสร้างแบบเรียนใหม่ๆที่ สอดคล้องกับวิถีชีวิตคนบ้านเรา โดยเฉพาะเยาวชนคนรุ่นหลังได้ร่วมกับผู้ใหญ่ ช่วยกันคิด และช่วยทำ กล้วยหอมทองเป็นบทเรียนที่มีอยู่แล้ว แต่พืช ผัก ผลไม้ชนิดอื่นๆอีกมากมาย สามารถสร้างกลไกตลาดแห่งความหวังได้เช่นเดียวกัน เมื่อกล้วยหอมทอง เป็นผลไม้ที่มีคุณค่าต่อสุขภาพของคนญี่ปุ่น แต่ที่ญี่ปุ่นไม่สามารถปลูกได้ จึงต้องนำเข้า
กล้วยหอมทองก็สามารถที่จะเป็นผลไม้ที่มีคุณค่าต่อสุขภาพของคนไทยทุกคน โดยที่ไม่ต้องนำเข้า คุณค่าของผลผลิต ผสมรวมกับ ภาพความเคลื่อนไหวของกิจกรรมการผลิต ที่แสดงให้เห็นถึงความมีศักยภาพทางความคิด เป็น การสร้างอรรถรส ที่ดีที่สุด ในการบริโภค
ดังนั้นทุกวันนี้ใครที่ได้รับการคัดเลือกเข้ามาเป็นกรรมการบริหารกลุ่ม จะด้วยความมุ่งหวังอย่างไรก็ตามแต่ ทุกคนที่เข้ามา ล้วนมีหัวใจที่จะเสียสละตรงนี้ โดยไม่มีเงินเดือนตอบแทน และถ้าท่านเข้ามาศึกษาเรื่องกำไรที่ได้รับ และผลตอบแทนที่ได้รับแล้ว สมาชิกผู้ปลูกกล้วยเท่านั้นที่ได้รับประโยชน์ ในเรื่องเม็ดเงินมากกว่า ผู้อื่น
ด้วยภารกิจของธุรกิจ ที่ผลผลิตต้องพอ และทันต่อการส่งออก เป็นภาระที่ผูกมัดความรู้สึกของคนที่เป็นกรรมการ วิชากล้วยหอมทองละแม ไม่ใช่เป็นวิชาสำหรับคนปลูกกล้วยขาย แต่มันกระบวนการเรียนรู้เรื่องตลาดแห่งความหวัง อย่างมีวิวัฒนาการ
บทความ ที่ผมเขียนออกสู่สาธารณะนี้ คิดว่าทุกท่านที่มีศักยภาพด้านความคิดอ่าน ในจังหวัดชุมพร ได้โปรดช่วย ให้มีการสานต่อเป็นกระบวนการเรียนรู้ด้านการตลาดแห่งความมีชีวิตชีวา นี้มีความเคลื่อนไหว ต่อไปเรื่อยๆ แล้วก็จะถือได้ว่า ได้ร่วมกันสร้างบุญสร้างกุศล ให้แก่แผ่นดินบ้านเราได้อีกรูปแบบหนึ่ง
ผมชอบหลาย ๆ ตอนที่พี่โอภาสเขียนถึง โดยเฉพาะข้อความนี้
ข้อความนี้บ่งบอกถึงภารกิจของเกษตรกรได้เป็นอย่างดี...
สนใจกล้วยหอมทอง จัดส่งไปขายที่ จีน(ปักกิ่ง)ครับ ปริมาณ 30 ตัน /วันครับ
***อยากให้ติดต่อกลับด้วยครับเพราะทาง(ผู้ใหญ่มีควมต้องการสินค้าจริง)
ขอบคุณครับ
สมยศ แซ่เตียว
ผู้จัดการโครงการ
Mobile 086-3172843 ,081-4454818
KS. Engineering Ltd,Part.
Address 67 Moo 13 Oomnoy,Katumban,samutsacorn 74130
Tel: 02-813-7258
Fax: 02-813-7258
E-mail :[email protected]
สนใจกล้วยหอมทอง จัดส่งไปขายที่ จีน(ปักกิ่ง)ครับ ปริมาณ 30 ตัน /วันครับ
***อยากให้ติดต่อกลับด้วยครับเพราะทาง(ผู้ใหญ่มีควมต้องการสินค้าจริง)
ขอบคุณครับ
สมยศ แซ่เตียว
ผู้จัดการโครงการ
Mobile 086-3172843 ,081-4454818
KS. Engineering Ltd,Part.
Address 67 Moo 13 Oomnoy,Katumban,samutsacorn 74130
Tel: 02-813-7258
Fax: 02-813-7258
E-mail :[email protected]
ต้องการซื้อกล้วยทุกวันๆ300-400 โล
โชห่วย 081-7379928