นอบน้อม (2-59)


“การให้” ทำให้เรามีความสุขมากกว่า “การรับ” และเมื่อให้แล้วต้องรู้สึกขอบคุณผู้รับ ที่เขาได้ทำให้เราได้มีโอกาสเป็น “ผู้ให้” อีกด้วย…

 

 

จากบันทึกเรื่อง ให้ ซึ่งได้โพสต์ ข้อความที่คุณ Phornphon นำมาฝาก ดังนี้

เธอนั้นจะเป็นอิสระแท้จริงเมื่อเธอ...ให้

และขณะที่กำลังให้ เธอจงหันหน้าไปทางอื่นเสีย

เพื่อว่าจะได้ไม่เห็น...ความอายของผู้รับ

                             คาริล ยิบราน…Sand and Foam

*********************************************

น้องสุดสายป่าน ได้เข้ามาคอมเม้นท์และถามเกี่ยวกับการเป็นผู้รับและผู้ให้ว่า...

 P

11. สุดสายป่าน
เมื่อ ส. 29 ส.ค. 2552 @ 12:42
1514604 [ลบ] [แจ้งลบ]

ทำไมล่ะค่ะพี่คนไม่มีราก

กอไม่เข้าใจเลย  ทำไมต้องหันหน้าไปทางอื่น

เพราะจะได้ไม่เห็นความอายของผู้รับ  ทำไมล่ะค่ะ เวลาใครให้อะไรกอ

ก็เค้าซื้อมาให้ กอก็รับไว้ แล้วทำไมต้องอายด้วยล่ะค่ะ

กอไม่เคยอายเลยค่ะ เอ๊ะ จริง ๆ มันต้องอายมั้ยค่ะ

พี่คนไม่มีรากมาตอบด้วยน่ะค่ะ กอสงสัยค่ะ เดี๋ยวนอนไม่หลับค่ะ อิอิ

      

       จากคอมเม้นท์นี้ ทำให้คนไม่มีรากคิดไปถึงประสบการณ์ การให้และการรับ ที่ได้เรียนรู้มาจาก...เตี่ยและแม่

 

        ขอบคุณภาพงดงามจากกัลยาณมิตรค่ะ

 

      โดยส่วนตัวแล้ว คนไม่มีรากเชื่อว่ามนุษย์ทุกคนปรารถนาที่จะได้เป็น ผู้ให้ มากกว่าเป็น ผู้รับ เพราะการเป็นผู้ให้หมายถึงเรามีศักยภาพและความสามารถในการพึ่งตนเองและยังเผื่อแผ่ให้แก่ผู้อื่นได้  ในขณะที่ ผู้รับ นั้นจำต้องยอมรับการเป็นผู้รับ เพราะมีเหตุปัจจัยบางอย่าง และแน่นอนว่าหากเขาเป็นผู้มีสามัญสำนึกที่ปกติ เขาย่อมต้องรู้สึกขอบคุณและรู้สึก เป็นหนี้ กับผู้ให้ไม่มากก็น้อย

 

       คนไม่มีรากได้ยินแม่เล่าว่าครอบครัวของเราชอบเลี้ยงและดูแลคนเป็นโรคเรื้อน (คนไม่มีรากเกิดไม่ทัน) ในยุคนั้น คนที่เคยเป็นโรคเรื้อนมักจะต้องหาที่อยู่อาศัยซึ่งลับตา เพราะหลังจากโรคร้ายหายแล้วจะทิ้ง รอยโรค ไว้ด้วย เขาจึงอายที่จะปรากฏตัวต่อสาธารณะ

พี่ ๆ มีหน้าที่ต้องหิ้วปิ่นโตไปสวนหลังบ้าน ซึ่งมีบ้านเล็ก ๆ อยู่ 2-3 หลัง เป็นที่อยู่ของคนที่มายู่อาศัยกับเรา พี่บอกว่านอกจากคนที่เคยเป็นเคยโรคเรื้อนแล้ว ยังมีคนที่ไม่มีที่พักอาศัยแวะเวียนมาขอพักอยู่เสมอไม่ได้ขาด เนื่องจาก เตี่ยเป็นคนใจดี ไม่เคยปฏิเสธคนที่มาขอความช่วยเหลือ ทั้งที่ตอนนั้นครอบครัวของเราก็ไม่ได้มั่งมีเงินทองอะไร โชคดีที่แม่เองก็มีความคิดเช่นเดียวกับเตี่ย ไม่เช่นนั้นคงเกิดปัญหา เพราะนอกจากลูกเล็ก ๆ หลายคน ญาติผู้ใหญ่ 3 คนที่แม่ต้องดูแลปรนนิบัติแล้ว ยังต้องคอยดูแลคนที่มาพักอาศัยกับเราด้วย

พี่ ๆ ซึ่งยังเป็นเด็กวัยรุ่น ต้องผลัดกันส่งข้าวส่งน้ำ และแน่นอนว่าก็มักจะไม่อยากทำหน้าที่นี้  แต่แม่จะปลอบและบอกว่า ให้คิดว่าเขาเป็นญาติของเรา  เขาก็ช่วยตัวเองไม่ได้ รอยโรคเหล่านั้นทำให้เขาทุกข์ใจมากพอแล้ว เราควรเห็นใจและให้การดูแลเขา  และด้วยความเป็นเด็กอีกนั่นแหละพี่ ๆ จะบ่นว่า เขาสบายกว่าเราอีก ไม่ต้องทำงาน วัน ๆ ก็รอให้เราเอาข้าว อาหาร ผลไม้ไปส่ง และบางครั้งยังบ่นว่าที่เด็ก ๆ ไปส่งอาหารช้าอีกด้วย...ไม่รู้ไปติดบุญคุณกันมาจากไหน

 

เตี่ยและแม่จะบอกเสมอว่า แม้จะไม่ได้เป็นญาติโดยสายเลือด แต่ก็เป็นญาติกันด้วยการเป็น คน เหมือนกัน ...

 

แม่อีกแหละที่ชอบพูดประโยคที่ในวัยเด็กนั้น เราไม่เข้าใจ ด้วยการบอกว่า การให้ ทำให้เรามีความสุขมากกว่า การรับ และเมื่อให้แล้วต้องรู้สึกขอบคุณผู้รับ ที่เขาได้ทำให้เราได้มีโอกาสเป็น ผู้ให้ อีกด้วยซึ่งในตอนนั้น คนไม่มีรากฟังแล้วคิดค้านอยู่ในใจว่า การได้รับสิทำให้เรามีความสุข ต้องแบ่งอะไรให้ใครนี่...ใครจะอยากทำกัน?

เคยสงสัยเป็นกำลังว่า เตี่ยและแม่ ซึ่งเป็นคนจีนในสังคมยุคโบราณ อ่านหนังสือไม่ได้สักตัวเดียว วัน ๆ ทำแต่งานในสวนผัก แม่ก็เลี้ยงลูก ทำงานบ้าน ทำกับข้าว ดูแลปรนนิบัติญาติผู้ใหญ่ของสามี และช่วยงานในสวนผัก แล้วทั้งเตี่ยและแม่ได้สั่งสม ธรรมะเหล่านี้อย่างไรกัน  กว่าคนไม่มีรากจะคิดได้ถึงแง่มุมที่เตี่ยและแม่สอนด้วยการกระทำนี้ ก็ผ่านไปหลายปี ...

และการประพฤติปฏิบัติเช่นนี้เอง ที่เป็นคำตอบ(ให้กับคำถามของน้องสุดสายป่าน) ว่า เพราะอะไรเราจึงต้องระแวดระวังอย่าให้คนที่เป็นผู้รับต้องรู้สึก อายกับการเป็นผู้รับ

 

ธรรมะ เป็นอกาลิโก เป็นจริงเสมอในทุกยุคทุกสมัย และไม่เสื่อมสลายไปตามกาลเวลา เตี่ยและแม่สอนธรรมะมากมายหลายข้อ อาทิเช่น การสอนให้เรารู้จักคำว่ากตัญญู กตเวทิตา  ด้วยการดูแลปรนนิบัติ อากง(ปู่) และญาติผู้ใหญ่อย่างดีที่สุด ทั้งการกินอยู่ หลับนอน เคารพด้วยกาย วาจา ใจ  โดยไม่มีเวลามาพร่ำบอกว่าลูกหลานควรกตัญญูกตเวทิตา แต่... ทำให้ดู เป็นตัวอย่างเสมอ...

 

 เกิดความอิ่มเอิบ แจ่มกระจ่างขึ้นในใจ  ใช่แล้ว...

 

เมื่อจะให้...ก็จงเป็น ผู้ให้  ที่อ่อนน้อมถ่อมตนต่อการเป็นผู้ให้ และจงอ่อนไหวระแวดระวังที่จะไม่ทำให้ ผู้รับ รู้สึกเขินอายต่ำต้อยต่อการต้องเป็นผู้รับ...นั้นเลย

 

คงตอบคำถามน้องสุดสายป่านได้บ้างนะคะ

ขอบคุณค่ะ

(^__^)

 

หมายเลขบันทึก: 292865เขียนเมื่อ 31 สิงหาคม 2009 10:15 น. ()แก้ไขเมื่อ 6 กันยายน 2013 21:25 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (70)

การให้แล้วอาจทำให้คนอื่นต้อยต่ำ เรื่องนี้เป็นจุดอันตรายที่หลายคนอาจมองข้ามครับ นอกจากจะไม่ได้ความรู้สึกที่ดีจากผ้รับแล้ว อาจจะเป็นโทษ ผู้รับอาจเกิดความรู้สึกติดลบต่อผู้ให้ด้วยครับ

ขอบคุณสาระดีๆครับ

สวัสดีค่ะท่าน small man

เห็นด้วยและขอบคุณข้อคิดดี ๆจากท่านค่ะ...

การให้แล้วอาจทำให้คนอื่นต้อยต่ำ เรื่องนี้เป็นจุดอันตรายที่หลายคนอาจมองข้ามครับ นอกจากจะไม่ได้ความรู้สึกที่ดีจากผ้รับแล้ว อาจจะเป็นโทษ ผู้รับอาจเกิดความรู้สึกติดลบต่อผู้ให้ด้วยครับ

ด้วยเหตุนี้เอง การให้จึงต้องให้อย่าง นอบน้อมถ่อมตน เสมอ

ขอบคุณค่ะ

(^___^)

^^ ชื่นใจจังครับ

จริงด้วย ตรงนี้ไม่ได้หมายความว่าเราดูถูกสักนิด และผู้รับก็จงอย่ามองผู้หยิบยื่นให้ไปในทางนั้นเลยนะ

เข้าใจแจ่มแจ๋วเลยครับ :) ต่อยอดบันทึกได้ไม่รู้จบจ๊า ^^

 

การให้เป็นการแสดงความมีน้ำใจอย่างหนึ่งของคนไทย  การให้ที่ดีต้องให้ด้วยความจริงใจ มีความตั้งใจจริงที่จะให้ ไม่ได้เสแสร้ง และในทางกลับ เราจะรู้สึกอย่างไรเวลาที่เราต้องรับ  ความรู้สึกนี้จะทำให้เราเป็น "ผู้ให้" ที่ดีได้ครับ

ขอบคุณครับ

สวัสดีค่ะคุณ adayday

ดีใจคนอารมณ์ดีมาเยี่ยมเยือนบันทึกค่ะ

ต่อยอดบันทึกได้ไม่รู้จบ....ภาษานักเขียนเรียกว่า ...

หากินกับ...ของที่มีอยู่แล้วค่ะ...555555....

ขอบคุณค่ะ

(^___^)

สวัสดีค่ะคุณ วัชรา ทองหยอด

เห็นด้วยค่ะที่ว่า...

การให้เป็นการแสดงความมีน้ำใจอย่างหนึ่งของคนไทย 

ชอบข้อคิดของคุณวัชราที่ว่า...เราจะรู้สึกอย่างไรเวลาที่เราต้องรับ  ความรู้สึกนี้จะทำให้เราเป็น "ผู้ให้" ที่ดีได้ครับ

นั่นคือ การเป็นผู้ให้ที่ดี จะทำให้เราเป็นผู้รับที่ดีด้วย...สังคมนี้จะมีแต่ผู้ให้และผู้รับที่ดี....

แค่คิดก็มีความสุขแล้วค่ะ

ขอบคุณมากค่ะ

(^___^)

สวัสดีค่ะ

อ่านแล้วประทับใจค่ะ

ขณะที่ให้เพื่อช่วยเหลือผู้อื่น ไม่ควรคิดว่าเรากำลังให้ เพราะต่างฝ่ายต่างให้ซึ่งกันและกัน

ผู้รับ ได้สิ่งที่ปัดเป่าความทุกข์ ย่อมสำนึกขอบคุณ และหาโอกาสตอบแทน

ผู้ให้ ย่อมเป็นสุข อิ่มใจ ที่อีกฝ่ายเผิดโอกาสให้ได้สร้างกุศล

และนั่น คือการได้รับการตอบแทนแล้ว

ขออภัยค่ะ ลืมตรวจทาน พิมพ์ "เปิดโอกาส" เป็น"เผิดโอกาส"ไป

มารับคำตอบที่สงสัยในทีเช่นกัน..ขอบคุณความกระจ่างนะคะ

เมื่อจะให้...ก็จงเป็น “ผู้ให้” ที่อ่อนน้อมถ่อมตนต่อการเป็นผู้ให้ และจงอ่อนไหวระแวดระวังที่จะไม่ทำให้ “ผู้รับ” รู้สึกเขินอายต่ำต้อยต่อการต้องเป็นผู้รับ...นั้นเลย

ตามมาดูคำตอบค่ะพี่คนไม่มีราก

สงสัยกอเป็นคนเข้าใจอะไรยากจริง ๆ ด้วยค่ะ

กออ่านตั้งยาวแล้ว กอก็ยังไม่เข้าใจ

คงต้องขอเวลาเข้ามาอ่านอีกหลายรอบน่ะค่ะ

การให้มีหลายแบบครับ

ให้เพื่อให้ก็ดี (สักว่าให้...)

ให้เพื่อทำลายก็มี (ให้แล้วทำให้ศักยภาพในการพึ่งตัวเองของผู้รับลดลง)

ให้เพื่อสร้างสรรค์ก็มี (ให้แล้วทำให้เขาพึ่งตัวเองได้ รวมท้ังการให้เพื่อลดอัตตา)

"ให้" ที่คาริล ยิบราล กล่าวนั้น

ผมคิดว่าจุดมุ่งหมายเพื่อให้คนให้ลดละอัตตาตัวเอง

ไม่ต้องคิดว่าให้ใคร ให้อะไร ให้ทำไม

ไม่ต้องคิดว่าใครรับ

ผมพิมพ์เสร็จกลับมาอ่านใหม่ "เห่ย" จริง ๆ

แต่ขี้เกียจลบแล้ว

เข้ามาเยี่ยมด้วยความคิดถึงคะ

การให้โดยไม่หวังผลตอบแทนเป็นการดีคะ เพราะตั้งใจอยากจะทำให้ไม่ใช่อวดร่ำรวย แต่ให้เพราะอยากช่วยให้เขาพ้นทุกข์ เพราะเขาช่วยเหลือตนเองไม่ได้ และเป็นโรคสังคมรังเกียจ ธรรมชาติเขาก็อายอยู่แล้ว

และการให้ ก็อย่าให้ผู้รับเกิดความละอายใจ เนื่องจากว่าผู้รับความช่วยเหลือ ก็ไม่อยากให้ตนเองสร้างความลำบากให้กับผู้ให้ เหมือน ศน.addว่า เข้าใจตรงกันคะ

แต่การให้มีหลายแบบ เหมือนคุณหนานเกียรติว่า  แต่จิตใจเจตนาให้ ส่วนมากเราก็ให้ผู้ที่เดือดร้อนที่สุด  มีความจำเป็นที่สุด กำลังลำบากที่สุด ถ้าใครไม่มีข้อนี้เราก็จะช่วยไปทำไม ตัวเราเองก็ต้องรับผิดชอบตัวเรา  และการช่วยของเรา ก็ไม่เกินความสามารถของเรา

อันว่าความกรุณาปราณีจะมีใครบังคับก็หาไม่

หลั่งมาเองเหมือนฝนอันชื่นใจจากฟากฟ้าสุราลัยสู่แดนดิน

เป็นโชคดีสองชั้นพลันชื่นใจ แห่งผู้ให้และผู้รับสมถวิล

นี่คือการให้ที่ได้รับประโยชน์ที่สุดคะ ก็คือการกระทำของเตี่ยและแม่ของคุณคนไม่มีราก  ที่มีมาให้แก่คนทุกข์ยากได้อาศัยใบบุญ ถึงเจริญๆๆ  มาจนรุ่นลูกรุ่นหลานนี่ไง

ผลบุญตอบแมนคืน ไม่รู้กี่เท่า ใช่ไหมคะคุณคนไม่มีราก

ขอบคุณสิ่งดีๆมาให้คิดนะคะ ถ้าว่างก็ไปฟังพระพยอมเทศน์ในบล็อคธรรม ของ(ป้า)พี่สุด้วยเสริมเข้าไปอีกคะ บาย บายคะ

สวัสดีค่ะ

  • ขอขอบพระคุณกับสาระดี ๆ
  • ทั้งบันทึกและการเม้นท์ของเพื่อน ๆค่ะ
  • คิดถึงน้องสาวค่ะ

สวัสดีครับคุณคนไม่มีราก  

 การให้ที่ยิ่งใหญ่ คือให้อภัย

การให้ที่เป็นกุศล  คือการให้ที่ มือขวาให้ มือซ้ายไม่เห็น

การให้ที่น่าภาคภูมิใจ คือ  การให้อย่างมีคุณค่า และการรับอย่างมีศักดิ์ศรี (สวัสดิการชุมชน)

 

สวัสดีค่ะ

  • พี่ดาเชื่อในคำสอนของพระพุทธองค์ที่ว่า "ผู้ให้ย่อมผูกไมตรีไว้ได้"  จริงนะคะไม่ว่ายุคใดสมัยใดเมื่อมีการให้ผู้ให้ก็เป็นสุข  ผู้รับก็เป็นสุข..นี่ละค่ะเป็นการให้ที่มีคุณค่า..แต่หากให้แล้วผู้รับยังรู้สึกในทางไม่ดีไม่มีการนอบน้อม..รวมถึงไม่เห็นคุณค่า..การให้นั้นก็นับว่าเปล่าประโยชน์
  • ชื่นชมครอบครัวน้องคนไม่มีรากมากๆนะคะที่ให้ด้วยความจริงใจ..พี่ไม่เคยรู้มาก่อนนะคะเรื่องคนเป็นโรคเรื้อนแล้วมีคนช่วยดูแลได้ขนาดนี้..บอกตรงๆว่าชื่นชมมากๆ..การให้แบบนี้มีคุณค่ายิ่งนะคะ...ที่บ้านพี่..พ่อและแม่พี่ชอบช่วยเหลือคนต่างถิ่นชอบรับไว้ให้ที่พักพิงอาศัย..บอกว่าสงสารเขา..ซึ่งลูกๆมักเป็นห่วงเสมอมา..เพราะเราไม่รู้ที่มาที่ไปของพวกเขา..เพราะเดี๋ยวนี้สังคมมีแต่คนที่ชอบอาเปรียบกัน..ความคิดแบบชาวบ้านที่ใสๆบางครั้งลูกๆก็ไม่แน่ใจว่าคนที่เข้ามานั้นเขาแอบแฝงหรืออย่างไร..ทำให้เกิดความวิตก..การให้นั้นบางครั้งเราก็เกิดความกังวลไม่เป็นสุขกลัวว่าพ่อแม่เราจะถูกทำร้าย..สังคมปัจจุบันสอนให้เราคิดและกังวล
  • รักและคิดถึงเสมอนะคะ

สวัสดีค่ะ

ขอชื่นชมครอบครัวของ คนไม่มีหญ้าด้วยความจริงใจ

อ่านบันทึกแล้วรู้สึกอิ่มเอมใจ ประทับใจในน้ำใจไมตรีที่เปี่ยมด้วยความเมตตา

หลายๆ คนอยากได้โน่น อยากได้นี้ อยากเป็นอย่างโน้น อยากเป็นอย่างนี้ แล้วก็ดิ้นรนแสวงหาหนทางที่จะได้มาต่างๆ นานา

เมื่ออ่านบันทึกนี้.... แล้วลองเป็นผู้ให้ดูบ้าง..

"แล้วจะรู้ว่าบางครั้ง...การให้ มีความสุขยิ่งกว่า...การรับ"

ขอให้ประสบแต่ความสุขนะคะ

สวัสดีครับนกแห่งอรุณรุ่ง

อ่านแล้วรุ้สึกดี และเห็นชัดว่า ครอบครัวมีส่วนในการหล่อหลอมให้สมาชิกของครอบครัวเป็นคนดีได้อย่างไร

พี่ชื่นชมและรู้สึกยกย่องในความเป็นคนมีน้ำใจและเสมอต้นเสมอปลายของโหลเสมอ ไม่แปลกใจว่าโหลได้รับแบบอย่างมาจากใคร

เคยได้ยินมาว่าสมัยก่อนมีนิคมโรคเรื้อนให้คนที่เคยเป็นโรคนี้ได้อยุ่อาศัย เพราะมักถูกรังเกียจจากสังคม แม้ว่าจะหายแล้ว แต่การยังมีร่องรอยของโรคเรื้อนทำให้เป็นที่รังเกียจของสังคม  แต่เตี่ยและแม่ของโหลยินดีให้ที่พักพิงและดูแลเขาเหล่านี้อย่างไม่รังเกียจ...ยกย่องน้ำใจอย่างยิ่งครับ

พี่ไม่แปลกใจว่าเพราะอะไร พี่ ๆ หลาน ๆ ในครอบครัวโหลจึงมีแต่คนที่ประสบความสำเร็จในชีวิตและหน้าที่การงาน เคยคิดว่าครอบครัวนี้สอนลูกหลานดีจริง ๆ ไม่มีใครเกเร ออกนอกลู่นอกทางเลย มีแต่คนที่ประสบความสำเร็จในอาชีพและหน้าที่การงานทั้งนั้น

และเห็นด้วยอย่างยิ่งนะครับที่ว่า  โดยส่วนตัวแล้ว คนไม่มีรากเชื่อว่ามนุษย์ทุกคนปรารถนาที่จะได้เป็น ผู้ให้ มากกว่าเป็น ผู้รับ เพราะการเป็นผู้ให้หมายถึงเรามีศักยภาพและความสามารถในการพึ่งตนเองและยังเผื่อแผ่ให้แก่ผู้อื่นได้  ในขณะที่ ผู้รับ นั้นจำต้องยอมรับการเป็นผู้รับ เพราะมีเหตุปัจจัยบางอย่าง และแน่นอนว่าหากเขาเป็นผู้มีสามัญสำนึกที่ปกติ เขาย่อมต้องรู้สึกขอบคุณและรู้สึก เป็นหนี้ กับผู้ให้ไม่มากก็น้อย

ขอบคุณประสบการณ์และสิ่งดี ๆ ที่นำมาให้ได้รับรู้

สวัสดีค่ะคุณณัฐรดา

ขอบคุณสำหรับคำชื่นชมที่ส่งมาให้ค่ะ น้อมรับด้วยความอ่อนน้อมถ่อมตน

ครั้งแรกที่จะเขียนบันทึกนี้คิดอยู่นานค่ะ เกรงว่าจะยาวและกลายเป็นการ "อวดตน" หากคนไม่เข้าใจก็อาจคิดได้ว่า...เล่าแต่เรื่องดี ๆ ของตัวเองและครอบครัว ...

แต่การเล่าเรื่องนี้มีเหตุที่ถูกถาม และสามารถอธิบายได้จากเรื่องราวจริงในชีวิตที่ประสบจริงค่ะ คิดว่าการเล่าเรื่องน่าจะเป็นอุทธาหรณ์ให้พวกเรารู้จัก "การให้" อย่างนอบน้อมและจริงใจค่ะ

ขอบคุณมากค่ะ

(^___^)

สวัสดีค่ะคุณ add

ดีใจที่คุณแอ้ดได้คลายข้อสงสัยค่ะ

ตามธรรมชาตินั้น คนให้ย่อมอยู่ในสถานภาพที่เหนือกว่า บางครั้งทำให้ลืมไปว่า...หากไม่มี "ผู้รับ" แล้ว เราจะไม่สามารถเป็น "ผู้ให้" ได้เลยค่ะ

ขอบคุณมากค่ะ

(^___^)

เจริญธรรม อาจารย์...การให้ทำให้จิตใจผ่องใส...ขอบพระคุณอาจารย์ที่ยังระลึกถึงกันอยู่เสมอ  ครับผม

สวัสดีค่ะน้อง สุดสายป่าน

พี่อาจจะยังอธิบายอะไรได้เข้าใจยากเกินไป....

ลองอ่านดูอีกทีนะคะ หากยังไม่เข้าใจพี่ก็ยินดีจะอธิบายความคิดของพี่อีกครั้งค่ะ

ขอบคุณค่ะที่ทำให้เกิดบันทึกนี้

(^___^)

สวัสดีค่ะคุณ หนานเกียรติ

ดีใจที่คุณ หนานเกียรติ เข้ามาอ่านและให้ความเห็นค่ะ

แม้ว่าถ้อยคำจะสื่อออกมาอย่างไร หากเรารับได้ว่า อีกฝ่ายสื่อมาด้วยความจริงใจ เราก็คงไม่รู้สึกว่า ดี/ไม่ดีค่ะ

และข้อความที่คุณกล่าวไว้ว่า...

"ให้" ที่คาริล ยิบราล กล่าวนั้น

ผมคิดว่าจุดมุ่งหมายเพื่อให้คนให้ลดละอัตตาตัวเอง

ไม่ต้องคิดว่าให้ใคร ให้อะไร ให้ทำไม

ไม่ต้องคิดว่าใครรับ

เป็นการสรุปสาระที่สมบูรณ์กินใจความได้อย่างครบถ้วนที่สุดค่ะ

ขอบคุณน้ำใจและความจริงใจค่ะ

(^___^)

  • แวะมา "รับการให้" ค่ะ
  • การให้ด้วยหัวใจนอบน้อม เป็นการให้อย่างมีเมตตา เสมือนการทำบุญ ให้ทานเลยนะคะ
  • แวะมาทักทายเล็กน้อยด้วยความคิดถึงก่อนไปลุยงานต่อค่

  สวัสดีค่ะ  มาส่งกำลังใจก่อนนอน  อ่านแล้วชื่นใจ

ฝันดีหลับสบายนะคะ   คิดถึงนะคะ  แต่ไม่ค่อยว่างเลย

  จุ๊บ จุ๊บ                                               

  • สวัสดีค่ะ
  • มาขอบคุณน้องที่ให้กำลังใจพี่เสมอมา
  • พี่นำคำแนะนำของน้องไปบอกให้สามีปฏิบัติตามแล้วค่ะ
  • ตอนนี้หมอรอดูแผลที่เย็บอยู่ ยังต้องไปทำแผลทุกวัน วันอังคารหน้า(8 ก.ย.) หมอนัดดูอีกทีว่าจะตัดไหมได้หรือยัง ตอนนี้แผลยังไม่สนิทดี
  • เลยได้เข้ามาอ่านสิ่งดี ๆ ในบันทึกย้อนหลังของน้อง
  • ขอบคุณอีกครั้งนะคะ
  • ขอให้น้องและครอบครัวประสบแต่สิ่งดี ๆ มีสุขภาพกายและใจที่แข็งแรงตลอดไปนะคะ

สวัสดีค่ะพี่ สุ-มหาวิทยาลัยชีวิต ที่ไม่มีวันปิดทำการ

ขอบคุณและเป็นปลื้มกับถ้อยคำที่มีเมตตาอย่างยิ่งกับครอบครัวของคนไม่มีรากค่ะ....

นี่คือการให้ที่ได้รับประโยชน์ที่สุดคะ ก็คือการกระทำของเตี่ยและแม่ของคุณคนไม่มีราก  ที่มีมาให้แก่คนทุกข์ยากได้อาศัยใบบุญ ถึงเจริญๆๆ  มาจนรุ่นลูกรุ่นหลานนี่ไง

อยากขออนุญาตแบ่งปันค่ะ ความดีที่พ่อแม่ปู่ย่าสั่งสมไว้ ส่งต่อมาถึงรุ่นลูกหลานจริง ๆ ค่ะ ลูกหลานทุกคนในครอบครัวเรา ไม่มีใครเกเร ออกนอกลู่นอกทาง ทำมาหากินโดยสุจริต และมีความก้าวหน้าในอาชีพ วิชาชีพทุกคน มากน้อยต่างกันไป แต่ไม่มีใครลำบากยากจน เป็นหนี้เป็นสินเลยค่ะ...

คนไม่มีรากคิดว่า ...ที่สำคัญที่สุดของผลบุญที่ท่านสั่งสมมาก็คือ...การรู้เห็นถูกต้องตามทำนองคลองธรรม ไม่นอกลู่นอกทาง ของลูกหลาน ส่งผลให้พวกเรามีความเจริญต่อเนื่องมาได้ค่ะ

ขอบคุณมากค่ะ

(^___^)

สวัสดีค่ะพี่ครูคิม

ขอบคุณที่พี่มาอ่านและทักทายค่ะ

ระลึกถึงพี่เช่นกันค่ะ

(^___^)

สวัสดีค่ะท่าน วอญ่า-ผู้เฒ่า-natachoei--

ขอบคุณข้อความดี ๆ ที่ท่านนำฝากค่ะ

การให้ที่ยิ่งใหญ่ คือให้อภัย

การให้ที่เป็นกุศล  คือการให้ที่ มือขวาให้ มือซ้ายไม่เห็น

การให้ที่น่าภาคภูมิใจ คือ  การให้อย่างมีคุณค่า และการรับอย่างมีศักดิ์ศรี (สวัสดิการชุมชน)

เป็นการให้ที่ทรงคุณค่าจริง ๆ ค่ะ

(^___^)

สวัสดีค่ะพี่Preeda

เรื่องนี้เป็นเรื่องเล่าในครอบครัวน้องค่ะ

เกิดไม่ทัน น้องจะอายุรุ่นราวคราวเดียวกับหลาน ๆ มากกว่า จึงมีเรื่องเล่า เพื่อเป็นการสอนและการปลูกฝังกันในครอบครัวค่ะ

และน้องก็อดจะภูมิใจไม่ได้ เจอญาติผู้ใหญ่ หรือ เพื่อนบ้านเก่า ๆ ที่เคยรู้จักเตี่ยและแม่ ก็มักจะได้ยินท่านเหล่านี้พูดว่า....เตี่ยและแม่เธอเป็นคนดีมาก หาได้ยากในโลกนี้.....ฟังแล้ว ภูมิใจและมีความสุขอยู่ลึก ๆ และยังเป็นกำลังใจให้ ทำดีตามรอยท่านต่อไปค่ะ

ขอบคุณพี่ดาค่ะ

(^___^)

สวัสดีค่ะคุณ ครูใจดี

ขอบคุณมากค่ะ

และเห็นด้วยค่ะ การให้มีความสุขมากกว่าการรับ...จริงค่ะ

(^___^)

ขอบคุณพี่คนตัดไม้ค่ะ

กลับมาเมื่อไหร่คะ

ดีใจที่พี่กลับมาแล้วค่ะ

(^___^)

สวัสดีค่ะคุณ หนุ่ม กร~natadee

ขอบคุณที่มาทักทายค่ะ

ระลึกถึงค่ะ

(^___^)

สวัสดีครับ คุณ คนไม่มีราก

เข้ามาอ่านครับ

การให้ เป็นสุดยอดของการทำความดีครับ

ผมเคยได้ยินมาอย่างนึงเกี่ยวกับการให้

เค้าบอกว่า "ให้ด้วยมือขวาแต่อย่าให้มือซ้ายเห็น"

ไม่มี comment ครับ

เป็นตัวอย่างที่ลึกซึ้งมากครับ

ขอบคุณครับ

สวัสดีค่ะคุณSila Phu-Chaya

งานมากมาย...ยังมีแก่ใจมาเยือน

ขอบคุณด้วยใจค่ะ

(^___^)

คุณ KRUPOM คะ

ชักจะง่วง ๆ เสียแล้วค่ะ

มีความสุขมาก ๆ ค่ะ

(^___^)

สวัสดีค่ะพี่แจ๋วคุณครู วรางค์ภรณ์ เนื่องจากอวน

คิดถึงพี่หลายวันแล้วค่ะ

ตามไปอ่านและรับรู้อาการของพี่ผู้ชายแล้ว

ขอให้หายเร็ว ๆ นะคะ

(^___^)

สวัสดีค่ะคุณ did

ขอบคุณที่นำข้อคิดมาฝากค่ะ....เคยได้ผ่านตาข้อความนี้มาจากท่านวอญ่า แล้ว แต่ยังไม่ค่อยเข้าใจนักค่ะ

"ให้ด้วยมือขวาแต่อย่าให้มือซ้ายเห็น"

ต้องขอเก็บไปคิดอีกหน่อยค่ะ....

(^___^)

สวัสดีค่ะคุณPhornphon

ขอบคุณที่มาเยือนค่ะ

(^___^)

แวะมารับความรู้จากผู้ให้ค่ะ

ได้ข้อคิด ข้อธรรม  รับรู้และซึมวับบางสิ่งที่มีค่าสูงค่ะ

ขอบคุณค่ะ

สวัสดี ค่ะ คุณคนไม่มีราก

อ่านแล้ว อดเข้ามาไม่ได้ เป็นตัวอย่างที่ดีมากค่ะ เห็นภาพ เลยค่ะ

เคยมีประสบการณ์ทั้งให้ และรับมามาก เห็นด้วยกับที่บอก เพราะเคยเจอคนที่เขาคิดว่า"ให้ "เรา แต่กลับทำให้ เรารู้สึก ไม่ดีเลย เคยคิดว่า อย่างนั้น สู้ เราไม่รับยังจะดีกว่า แต่เหมือนที่บอก ว่าบางที เรามีปัจจัย ที่ต้องไปขอความช่วยเหลือ.. บางอย่าง แต่กลับทำให้ ราต้องเสียความรู้สึก

แบบนี้ไม่รู้ว่า คนที่ให้ เขา จะได้ อะไรบ้างนะคะ   ขอบคุณค่ะ

เมื่อจะให้...ก็จงเป็น ผู้ให้  ที่อ่อนน้อมถ่อมตนต่อการเป็นผู้ให้ และจงอ่อนไหวระแวดระวังที่จะไม่ทำให้ ผู้รับ รู้สึกเขินอายต่ำต้อยต่อการต้องเป็นผู้รับ...นั้นเลย

 

พี่ krutoi

กำลังคิดถึงเชียวค่ะ

ขอบคุณค่ะที่มาเยือน.....

(^___^)

ปิงเอ้ย

พี่มาอ่านเรื่องนี้ ภูมิใจในตัวปิงและครอบครัวนะ

หันกลับมาดูตัวเอง ต้องหัดทำสิ่งดี ๆ ลูกหลานจะได้มีตัวอย่างที่ดีให้ทำตาม

อย่างนี้เรียกว่า ทำให้ดู อยู่ให้เห็นใช่ไหมปิง

สวัสดี ครับ คุณคนไม่มีราก

 วันนี้

เข้ามาทักทาย ด้วยความรู้สึก ที่ดี ครับ

ชอบ comment ข้างบน นะครับ

น่ารัก ดี ....

มีความสุข ครับ ที่ได้ ทักทายกัน ก่อน กลับ บ้าน

 

 

อ่านมาถึงตอนต้องไปส่งอาหารให้คนเป็นโรคเรื้อน กระผมก็ทึ่งมากๆครับ

กระผมกลัวติดโรคหนะครับ กลัวไปเองครับเพราะความไม่รู้ว่ามันจะติดต่อกันอย่างไรบ้าง

ส่วนเรื่องการให้โดยไม่ให้ผู้รับอาย ดีมากๆเลยครับ

เพราะบางครั้งเราจะแนะนำในสิ่งที่เขาทำไม่เป็นและไม่กล้าบอกให้คนอื่นรู้ ยากพอดูเลยครับที่จะให้โดยไม่ทำให้เขาอาย บางครั้งก็ต้องอาศัยแนะนำคนอื่นให้ได้ยินหนะครับ

เนื่องจากเราเป็นคนที่ไม่อายที่จะยอมรับความจริงว่าเราไม่รู้ และกล้าที่จะขอความรู้(ทำให้เราไม่เคยอายที่จะขอความรู้คล้ายๆน้องกอหนะครับ) แต่กระผมคิดว่าคนส่วนใหญ่(คิดไปเองอีกแหละครับ)เขาไม่ค่อยอยากจะยอมรับว่าเขาไม่รู้ เฮ้อคิดแล้วเหนื่อยครับ

สวัสดีค่ะคุณsubah

ดีจังค่ะ ที่นำประสบการณ์ตรงมาแลกเปลี่ยนเรียนรู้กัน....

เพราะเคยเจอคนที่เขาคิดว่า"ให้ "เรา แต่กลับทำให้ เรารู้สึก ไม่ดีเลย เคยคิดว่า อย่างนั้น สู้ เราไม่รับยังจะดีกว่า แต่เหมือนที่บอก ว่าบางที เรามีปัจจัย ที่ต้องไปขอความช่วยเหลือ.. บางอย่าง แต่กลับทำให้ ราต้องเสียความรู้สึก  แบบนี้ไม่รู้ว่า คนที่ให้ เขา จะได้ อะไรบ้างนะคะ

หากให้ตอบ...ก็คงตอบว่า นอกจากไม่ได้ (ใจ) แล้ว ยังอาจเสียความรู้สึกที่ดี ๆ ต่อกันด้วยค่ะ

งั้นเราควรที่จะเป็นผู้ให้ที่ทำให้ได้รับทั้งคู่....นะคะ

ขอบคุณมากค่ะ

(^___^)

พี่กฤษณ์คะ

มาชมกันในที่สาธารณะแบบนี้ ปิงไม่ค่อยเขินเลย...^_^...

ปิงคิดว่าพี่กฤษณ์เป็นคุณพ่อที่เป็นตัวอย่างให้กับหลานสาวสองคนได้อย่างดีอยู่แล้วค่ะ

โดยเฉพาะความเป็นสุภาพบุรุษที่สุดในโลกนี่...

(^___^)

สวัสดีค่ะคุณ แสงแห่งความดี

ดีใจ อมยิ้มเลยค่ะ ดีจังที่วันนี้ กัลยาณมิตร อารมณ์ดี....

ความจริงก็มักจะเป็นคุณแสงแห่งความดี เป็นคนอารมณ์ดี สุภาพอยู่เสมอค่ะ แม้ในยามที่ไม่ค่อยสบายใจ...ก็ตามที

พี่กฤษณ์เป็นพี่ชายที่เรียนด้วยก้นและสนิทที่สุดเลยค่ะ

แล้วจะแนะนำให้ไปอ่านบันทึกคุณแสงแห่งความดีบ้างนะคะ

กลับบ้าน พักผ่อนอย่างมีความสุขนะคะ

(^___^)

สวัสดีค่ะคุณ ว่าที่ ร.ต. วุฒิชัย สังข์พงษ์

คนที่ครอบครัวคนไม่มีรากดูแลนี้ เขาเคยเป็นโรคเรื้อน ค่ะ หายแล้ว แต่ยังมีรอยโรค จึงมักจะทำให้ไม่อยากออกไปสู่สังคมภายนอกค่ะ และบางทีก็ถูกทำลายนิ้วมือนิ้วเท้าด้วย ทำให้ทำงานไม่ถนัดค่ะ...

ซึ่งในวัยเด็ก ยังไม่รู้เรื่อง ก็น่ากลัวอยู่เหมือนกันค่ะ

อ่านคอมเม้นท์แล้วยิ้ม ๆ เลยค่ะ....ส่วนเรื่องการให้โดยไม่ให้ผู้รับอาย ดีมากๆเลยครับ เพราะบางครั้งเราจะแนะนำในสิ่งที่เขาทำไม่เป็นและไม่กล้าบอกให้คนอื่นรู้ ยากพอดูเลยครับที่จะให้โดยไม่ทำให้เขาอาย บางครั้งก็ต้องอาศัยแนะนำคนอื่นให้ได้ยินหนะครับ

จริงด้วยสิคะ บางทีเราก็อาจบอก...แต่ก็ไม่แน่ใจว่าจะทำให้เขาอายหรือเกิดความรู้สึกไม่ดีหรือเปล่า ... นอกจากคุ้นเคยกันในระดับหนึ่งแล้วจึงกล้าบอกค่ะ

และ...ชื่นชมค่ะ เพราะ...หากอายครูก็ไม่รู้วิชา ... นะคะ

ขอบคุณที่มาเยือนค่ะ

(^___^)

สวัสดีค่ะเล่าซือสิทธิรักษ์

มาสั้น ๆ ดีจังค่ะ

ขอบคุณค่ะ

(^___^) 

  • แวะมาร่ำลาก่อนออกเดินทางไปทำบุญที่วัดต่างจังหวัดแต่เช้ามืดค่ะ 
  • คงถึงวัยแล้วนะคะ  ลมหายใจเข้าออกถึงมีแต่เรื่องไปวัดอยู่เสมอ...แม้ว่าจะมีงานมากมายเพียงไร ก็ระลึกไว้ในใจค่ะว่างานหลักคือปฏิบัติธรรมสร้างกรรมดี งานรองคือทำงานหาเลี้ยงชีพและตอบแทนคุณแผ่นดิน
  • ขอนอบน้อมด้วยใจ สว่างใสกับการเป็นกัลยาณมิตรที่ดีงามค่ะ

สวัสดียามสายค่ะ

แวะมาทายทัก เลยได้ชื่นชมกับดอกบัวงามตามความเห็น 52 ค่ะ

ขอบคุณด้วยค่ะ

สวัสดีค่ะคุณSila Phu-Chaya

อนุโมทนากับการได้ไปปฏิบัติธรรมค่ะ

กลับมาแล้ว เล่าประสบการณ์ให้ฟังบ้างนะคะ

เดินทางปลอดภัย และมีความสุขกับการปฏิบัติรรมค่ะ

(^___^)

สวัสดีค่ะคุณณัฐรดา

ยินดีค่ะ คุณศิลาเป็นกัลยาณมิตรที่มีประสบการณ์ในการปฏิบัติธรรมมากมายค่ะ

ลองอ่านบันทึกของเธอดูนะคะ

ขอบคุณค่ะ

(^___^) 

แวะมารับธรรมะที่งดงามด้วยครับ
และมาเฉลยคำตอบดอกไม้หายาก

เฉลยแล้วครับที่
http://gotoknow.org/blog/new-life/294568
ขอบคุณมากครับที่ไปเยี่ยมชม

 

มาให้กำลังใจค่ะ

ส่วนมากจะเป็นผู้ให้

ให้แล้วมีความสุขค่ะ

สวัสดีค่ะ

เพิ่งออกจากบ้านคุณสุดสายป่าน กำลังจะแวะมาหาค่ะ แต่กลับไปบ้านตัวเอง เลยเห็นว่าคุณคนไม่มีรากแวะไปเยี่ยมก่อนแล้ว

ขอบคุณนะคะที่แวะไปเยี่ยมกันค่ะ

ก่อนราตรีสวัสดิ์ค่ะพี่หญิงกลาง คนไม่มีราก

Good night, Sleep tight!!!

Bright for free, see u tomorrow

(^___^)

Thanks for U always make my Day.

 

ขอบคุณอ.ประถม ค่ะ

ตามไปอ่านเฉลยค่ะ

(^__^)

สวัสดีค่ะคุณ ครูจิ๋ว

ยินดีต้อนรับ ผู้ให้ ค่ะ

ขอบคุณค่ะ มีความสุขมาก ๆ กับการให้นะคะ

(^___^)

สวัสดีค่ะคุณ ณัฐรดา

คนไม่มีรากชอบบันทึกของคุณ ณัฐรดา ค่ะ เพราะมีเนื้อหาซึ่งกำลังสนใจอยู่ และยังมีภาพวาดสีน้ำ ที่แสนจะงดงามด้วย

ขอบคุณค่ะ

(^___^)

คุณ poo คะ

ขอบคุณเมลดี ๆ ที่ส่งให้ค่ะ

ถูกใจมาก ๆ

Good night, Sleep tight!!!

Bright for free, see u tomorrow

(^___^)

 

แอบนึกว่าให้หันหน้าไปทางอื่นเสีย เพื่อไม่ให้เกิดภาวะจิตที่นึกเสียดายของที่จะให้ ซึ่งอาจจะเกิดขึ้นมาในบางแวบของจิต แล้วจะทำให้การให้ไม่เกิดอย่างสมบูรณ์ แต่กลับมีสิ่งที่ลึกซึ้งกว่า "จงเป็น “ผู้ให้” ที่อ่อนน้อมถ่อมตนต่อการเป็นผู้ให้ และจงอ่อนไหวระแวดระวังที่จะไม่ทำให้ “ผู้รับ” รู้สึกเขินอายต่ำต้อยต่อการต้องเป็นผู้รับ...นั้นเลย" ขอบคุณค่ะ

มาชม

เห็นธรรมชาติสวยงามของการให้นะครับ

สวัสดีค่ะ

* เช้านี้แวะมารับสิ่งดีๆ จากคนไม่มีรากค่ะ

* ความที่เล่ามานี้ครูพรรณา  ยังจำได้ค่ะ

* สุขกายสุขใจนะคะ

สวัสดีค่ะคุณevergreen

ขอบคุณมากค่ะที่ตามมาอ่านและให้กำลังใจ...

(^__^)

ขอบคุณอ.umiค่ะ

การให้ เป็นสิ่งงดงามได้ก็ต่อเมื่อทั้งผู้ให้และผู้รับมีความสุขค่ะ

(^___^)

สวัสดีค่ะอ.นาง พรรณา ผิวเผือก (ไม่มีชื่อกลาง)

คิดถึงอาจารย์จังค่ะ

ดีใจที่มาทักทายอีกครั้ง วันนี้ยังงง ๆ ตามไปบันทึกคนอื่นไม่ถูกค่ะ

(^___^)

 

มาเรียนวิชา "การให้" ครับ

 

 

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท