จดหมายรักจากKM.ชุมชนบุรีรัมย์…


ตอน..อยากรู้จัง ถ้าขงเบ้งมีชีวิตอยู่ จะสู้พวกพวกโง่แกมโกงได้ไหมนะ

จดหมายรักจากKM.ชุมชนบุรีรัมย์…

ตอน..อยากรู้จัง ถ้าขงเบ้งมีชีวิตอยู่ จะสู้พวกพวกโง่แกมโกงได้ไหมนะ
โดย สุทธินันท์ ปรัชญพฤทธิ์

           ลมฟ้าลมฝนเกี่ยวข้องกับมนุษย์มาตั้งแต่ปีมะโว้แล้วละครับ  คนโบราณจะมีชุดความรู้และใช้ประโยชน์ได้ต่างๆนานา ขึ้นอยู่กับภูมิปัญญาของท้องถิ่นนั้นๆ บ้านเรามีแห่นางแมว จุดบั๊งไฟ ปักตะไคร้เอาปลายฝังดินฯลฯ เรื่องไทยๆเราไม่ชัดเท่าที่ปรากฏในเรื่องสามก๊ก โดยข้อเท็จจริงแล้วท่านข้งเบ้งไม่มีวิชาแกล้วกล้าขนาดเรียกลมเรียนฝนได้จริงๆหรอก เป็นแต่ว่าท่านเป็นนักจัดการความรู้ตัวเอ้ เป็นนักสถิติ นักพยากรณ์ศาสตร์ นักวิเคราะห์วิจัย เป็นนักบริหารสภาพปัญหาฟ้าดินในแต่ละช่วงฤดูกาล เป็นผู้ครบเครื่องเรื่องดินฟ้าอากาศ อยู่ใกล้ทะเลก็รู้ชนิดรู้ประเภทรู้กำลังและสภาพของลมนั้นๆอย่างปรุโปร่ง  เมื่อรู้จริงจึงออกแบบบริหารความรู้ได้ถูกต้อง สามารถที่จะประมวลผลผ่านการสังเคราะห์ความรู้ไปสู่การปฏิบัติ กล้าที่จะรับอาสาหาลูกเกาทัณฑ์ให้ท่านจิวยี่หลายสิบหมื่นภายใน2-3วัน โดยสัญญาเอาคอเป็นประกัน ภายใต้เงื่อนไขที่ระทึกแทบจะหัวใจวาย
      อนุภาพของความรู้จริง สามารถท้ายทายมัจจุราชได้อย่างสบาย มนุษย์ปัญญาปกติไม่เชื่อว่าจะมีใครเนรมิตลูกเกาทัณฑ์ได้มากหมายมหาศาลในเวลาที่จำกัดจำเขี่ย (ไม่มีโรงงานผลิตลูกเกาทัณฑ์ ไม่มีเทคโนโลยีแบบกดปุ่ม) พวกตาปริบๆจึงคอยดูว่าจะเกิดอะไรขึ้น หมดปัญญาที่จะตามความรู้ของเซียนขี่นกกระเรียนได้ทัน เมื่อตามไม่ทัน ก็เหมือนหมาเห่าเครื่องบิน  ไม่สามารถที่จะเปลี่ยนวิกฤติให้เป็นโอกาส เรื่องเปลี่ยนวิกฤติชอบพูดกันพล่อยๆ มันไม่ได้ทำง่ายๆเหมือนปอกกล้วยเข้าปากหรอกนะจ๊ะ ถ้าไม่มีกึ๋นหรือเป็นนักจัดการความรู้ตัวจริงเสียงจริงระดับเซียนเรียกเฮีย! สรุปว่า ชนชั้นปัญญาเลิศสามารถหาลูกเกาทัณฑ์ได้มากและรวดเร็วเท่าเทคโนโลยียุคนี้
      ท่านจอมยุทธตระหนักรู้ว่า จะมีลมมรสุมรุนแรงหอบเอาเมฆหมอกหนาทึบมาด้วย จึงมีบัญชาให้แม่ทัพนายกองชวนเสี่ยวเอ้อขนหุ่นฟางลงเรือตีเกราะเคาะไม้ในวันที่หมอกลงจัด ฝ่ายโจโฉเสียรู้นึกว่าข้าศึกอาศัยหมอกทึบลอบโจมตี จึงระดมยิงเกาทัณฑ์เป็นห่าฝน อ่านตำราพิชัยยุทธไม่ขาด(สมัยที่เป็นนักเรียนก็เอาแต่ลอกข้อสอบเพื่อน) เพราะรู้เท่าไม่ถึงการณ์ เกิดจากความรู้ไม่ถึง จัดอยู่ในพวกกึ๋นบกพร่อง ทำความผิดโดยไม่เจตนาเรียกว่าโง่โดยไม่รู้สึกตัว ไม่รู้สึกรู้ตัวว่าโง่นี่อันตรายมาก ทำให้บ้านเมืองแพ้ศึกสงคราม บ้านเมืองเสียหายได้ สาเหตุเพราะดื้อตาใสไม่ยอมเรียนให้รู้แจ้งรู้จริง เมื่อทำให้คนอื่นเสียรู้ จะได้ประโยชน์จากปัจจัยที่คนอื่นเสียมาให้ (สมัยนี้เรียกว่าการกลั่นความรู้ ไม่เกี่ยวกับพวกโจรกรรมความรู้หรือลอกผลงานวิจัย) สงครามทางทะเลครั้งนั้น ฝ่ายพันธมิตรไม่ต้องเสียเวลาทำลูกเกาทัณฑ์ ตรงนี้แหละที่เรียกกันว่า “ยุทธศาสตร์” เกิดจากสิ่งที่เรียกว่า“กลยุทธ” เรื่องนี้สะท้อนความเหนือชั้นเรื่องความรู้กันแบบถึงพริกถึงขิง ที่เจ็บปวดกว่านั้นก็คือ ..ลูกเกาทัณฑ์เหล่านี้ ได้ย้อนกลับไปปักอกคนที่เหลามันมากับมือ เป็นที่มาของคำว่า“ย้อนศร” เรื่องนี้อธิบายต่อได้ว่า “สงครามความรู้” นั้นมีจริง ไม่ว่ายุคไหนๆเขาสู้กันด้วย“ความรู้จริง” ถ้าเราไม่หลุดพ้นจากยุคไสยศาสตร์ โมเมศาสตร์ ดื้อดึงศาสตร์ ประเภทที่วิ่งทำบุญสะเดาะเคราะห์จนขาขวิด ไปนอนกลางดินกินกลางดอนสัญจรปาหี่ที่หมู่บ้านต่างๆ ทำพิธีบวงสรวงเทวดาอารักษ์ตามโบราณสถานต่างๆ เป็นพันธกิจสุดแสนที่จะอ่อนไหวใสซื่อน่าเวทนา    
      ถ้าไม่มีการจัดการความรู้ เราก็จะถูกข่มขืนใจให้ไปเลือกตั้งแบบมั่วซั่ว แม้แต่จะไปเจรจาต่อรองเรื่องFTA. หรือเรื่องทำข้อตกลงระหว่างประเทศ เกรงเหลือเกินว่าจะไปเซ็นสัญญาด้วยความไม่ทันไม่ถึง มีเจตนาหรือแกล้งโง่แฝงเร้น ท่านเล่าฮูก็ไม่อยู่เสียด้วย ไม่อย่างนั้นจะขออนุญาตกราบเรียนถามว่าจะทำให้พวกโง่โดยเจตนารากเลือดเหมือนจิวยี่ได้อย่างไร?
Knowledge Management  ระดับชุมชนขออนุญาตแบ่งเกรดดังนี้.
     พวกรู้จักอยู่ในระดับคุณกิจ
     พวกรู้จริงอยู่ในระดับคุณอำนวย
     พวกรู้แจ้งอยู่ในระดับคุณเอื้อ
Key Word:
·          จนปัญญา = หมดปัญญาที่จะตามความรู้
·          ตามความรู้ไม่ทัน = เสียรู้  เสียหายเพราะอ่านตำราวิชัยยุทธไม่ขาด
·          รู้เท่าไม่ถึงการณ์ = ความรู้ไม่ถึง
·          ความผิดโดยไม่เจตนา = โง่และรู้ดี แต่ยีนDNA.ทางพันธุ์กรรมขาดคุณธรรม
·          ตามไม่ทัน = หมาเห่าเครื่องบิน
·          เมื่อรู้จริงจะออกแบบบริหารความรู้ได้ถูกต้อง
·          เมื่อทำให้คนอื่นเสียรู้ = จะได้ปัจจัยที่คนอื่นเสียให้มาเป็นประโยชน์ส่วนตน
·          หลายกลยุทธ เรียกว่า ยุทธศาสตร์
·          ลูกเกาทัณฑ์ได้กลับคืนไปหาทัพโจโฉ เป็นที่มาของคำว่า “ย้อนศร”
·          ไม่รู้จัก รู้จริง รู้แจ้ง = ทำผิดโดยไม่เจตนา ไม่รู้ไม่ชี้ ไม่รับผิดชอบ
·          เจตนาหรือแกล้งโง่แอบแฝง = วิกฤติทางการเมือง และสังคม
·          สงครามความรู้ นั้นมีจริง และกำลังสู้กันอย่างถึงพริกถึงขิง คนอิหร่านเข้าใจไม่ได้ว่าทำไมเขาพัฒนาความรู้ด้านนิวเคลียไม่ได้ หมายความว่าสังคมโลกมีการคุมกำเนิดความรู้ความสามารถระหว่างประเทศใช่หรือไม่
·          ถามท่านขงเบ้งว่า จะทำให้คนเล่ห์เหลี่ยมมากๆรากเลือดเหมือนจิวยี่ได้อย่างไร?
·          มีบ้างไหมใครจะตอบแทนท่านขงเบ้ง ยกมือขึ้น!

คำสำคัญ (Tags): #uncategorized
หมายเลขบันทึก: 28037เขียนเมื่อ 11 พฤษภาคม 2006 12:49 น. ()แก้ไขเมื่อ 11 กุมภาพันธ์ 2012 14:54 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (1)
  • ตามมาเรียนท่านครูบาว่าเหลือแต่น้ำเต้าครับ
พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท