เข้าระบบ
สมัครสมาชิก
หน้าแรก
สมาชิก
ห้องสมุดกรมบัญชีก...
สมุด
สรุปข่าวประจำวันข...
ครม. ชูคอซดน้ำมัน...
ห้องสมุดกรมบัญชีกลาง CGD Library
สมุด
บันทึก
อนุทิน
ความเห็น
ติดต่อ
ครม. ชูคอซดน้ำมัน บีบ ขรก. หน้าเขียว ประหยัดพลังงาน
ครม. ชูคอซดน้ำมัน บีบ ขรก. หน้าเขียว ประหยัดพลังงาน
น.ส.ศันสนีย์ นาคพงศ์ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงภายหลังประชุมคณะรัฐมนตรี
เมื่อวันที่ 9 พฤษภาคมว่า คณะรัฐมนตรีเห็นชอบมาตรการประหยัดพลังงาน 15 มาตรการในส่วนภาครัฐตามข้อเสนอของคณะกรรมการข้าราชการพลเรือน (ก.พ.) เพื่อให้หน่วยราชการประหยัดพลังงานและค่าใช้จ่ายในช่วงราคาน้ำมันแพง
สำหรับทั้ง 15 มาตรการประกอบด้วย 1.ให้สำนักงบประมาณไปพิจารณาปรับลดค่าน้ำมันเชื้อเพลิง 2.ให้ใช้ระบบอิเล็กทรอนิคส์มากขึ้น เช่น การส่งหนังสือผ่านระบบอีเมล์ หรือการประชุมทางไกลด้วยระบบวิดีโอคอนเฟอเรนซ์ เพื่อลดการเดินทาง 3.ให้เข้มงวดในการใช้งบประมาณและงบรัฐวิสาหกิจในการเดินทางไปดูงานต่างประเทศ โดยให้รัฐมนตรีพิจารณาความเหมาะสม 4.ให้งดใช้รถหลวงนำขบวน ยกเว้นขบวนเสด็จหรือแขกเมือง 5.ขณะนี้เป็นช่วงปลายปีงบประมาณห้ามโอนงบที่เหลือไปใช้ดูงาน ให้สำนักงบประมาณ และ
กรมบัญชีกลาง
รับผิดชอบ
รองโฆษกประจำสำนักนายฯ กล่าวต่อว่า มาตรการที่ 6.บังคับใช้มาตรการเปิดปิดเครื่องปรับอากาศ 7.ให้แต่ละหน่วยกำหนดเวลาให้ชัดเจนในการเปลี่ยนเครื่องยนต์เอ็นจีวี โดยตั้งเป้าต้องใช้จำนวนเท่าใด เปลี่ยนให้เสร็จในระยะเวลาใด 8.ไม่ควรเรียกประชุมข้าราชการในวันหยุด 9.การไปปฎิบัติราชการหรือประชุมนอกสถานที่ ให้ใช้รถแท็กซี่ ซึ่งจะประหยัดกว่าการใช้รถราชการ 10.ให้ข้าราชการบางหน่วย บางหน้าที่สามารถทำงานที่บ้านได้ โดยกำหนดจำนวนงานและผลสำเร็จ โดยให้ ก.พ. ไปพิจารณาว่ามีหน่วยงานใดบ้างที่จะดำเนินการตามมาตรการนี้ได้
น.ส.ศันสนีย์ กล่าวอีกว่า 11.อย่าเน้นประหยัดพลังงานมากจนเกิดผลเสียต่อการให้บริการประชาชน ให้คำนึงถึงความเหมาะสม ประสิทธิภาพและความเป็นไปได้ 12.อย่างสร้างภาระแก่ประชาชนประเภท ต้องเสียค่าพลังงาน 13.
ให้นำมาตรการศูนย์ย้ายงานใกล้บ้านมาใช้อีกครั้งคือ ให้แต่ละหน่วยงานรวบรวม
ตำแหน่งที่ตั้งสถานที่ทำงาน บ้าน ให้ ก.พ.พิจารณาว่า จะย้ายบุคลากรอย่างไรให้ทำงานใกล้บ้านมากที่สุด ลดการเดินทาง
14.ให้ ก.พ.ร. นำเอาการประหยัดพลังงาน เป็นตัวชี้วัดของประสิทธิภาพการทำงานอีกอย่างหนึ่ง 15.ให้สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี (สลค.) ประมวลมติ ครม. ที่ผ่านมาเกี่ยวกับการประหยัดพลังงานทั้งหมด เสนอ ครม. และจัดทำเป็นคู่มือโดยด่วน
น.ส.ศันสนีย์กล่าวด้วยว่า รมว.พลังงานได้รายงานสภาวะการใช้น้ำมันช่วง 3-4 เดือนที่ผ่านมาลดลงกว่าช่วงเดียวกันในปี 2547-2548 ส่วนการช่วยเหลือภาคประมงภาคขนส่งให้เติมน้ำมันถูกกว่าราคาหน้าปั๊ม 2 บาทกำลังดำเนินการอยู่ รวมถึงเร่งให้ขยายปั๊มเอ็นจีวีให้มากขึ้น
ขณะที่นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ทั้ง 15 มาตรการส่วนใหญ่เป็นมาตรการเก่า ที่นำมาปัดสนิม เพื่อนำไปใช้อย่างจริงจัง เพราะที่ผ่านมามีการออกมาตรการจำนวนมากจนจำไม่ได้ จึงให้ สลค. ไปประมวลมาตรการเสนอ ครม. ทั้งนี้ ที่ออกมาตรการดังกล่าว ไม่ใช่เพราะรัฐบาลถังแตก แต่ต้องการลดค่าใช้จ่ายด้านพลังงาน และให้ใช้วิธีโยกงบด้านอื่นในหน่วยงานนั้น ๆ มาเป็นค่าพลังงาน
แหล่งข่าวจากที่ประชุม ครม. เปิดเผยว่า มาตรการที่ ก.พ. เสนอจะมีการประเมินผลของภาครัฐอีกครั้ง โดยใช้มาตรฐาน
KPI ในการวัดผลหน่วยราชการทุก ๆ ปี ส่วนมาตรการงดรถหลวงนำขบวนนั้น จะใช้เฉพาะส่วนราชการเท่านั้น ขณะที่รัฐมนตรีใน ครม. หลายคนแม้จะหันไปใช้รถยนต์ส่วนตัว แต่ทุกคนยังใช้รถนำขบวน
จากสำนักงานตำรวจแห่งชาติอยู่ นอกจากนี้ รัฐมนตรีบางคนยังมีรถติดตามเพื่อรักษาความปลอดภัยเป็นพิเศษด้วย เช่น ขบวนของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร รักษาการนายกรัฐมนตรี หรือนายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รองนายกฯ และ รมว.อุตสาหกรรม
รายงานข่าวแจ้งด้วยว่า พล.ต.อ.ชิดชัย วรรณสถิตย์ รักษาการนายกรัฐมนตรีแสดงความเป็นห่วงปัญหาราคาน้ำมันแพงทำให้ประชาชนเดือดร้อน โดยเฉพาะนักศึกษายากจน จึงสั่งให้นายจาตุรนต์ ฉายแสง รมว.ศึกษาธิการไปหามาตรการช่วยเหลือ
ขณะที่ พล.อ.เรืองโรจน์ มหาศรานนท์ ผู้บัญชาการทหารสูงสุด เปิดเผยว่า กองทัพได้รับผลกระทบจากปัญหาราคาน้ำมันแพงพอสมควร จึงนำนโยบายประหยัดมาใช้ โดยมอบให้สำนักงานปลัดบัญชีของเหล่าทัพ ไปปรับงบประมาณให้สอดคล้องกับสถานการณ์ รวมถึงรณรงค์ประหยัดพลังงานให้เป็นรูปธรรม โดยไม่กระทบต่อการปฎิบัติหน้าที่และประสิทธิภาพการทำงาน ส่วนเรื่องพลังงานทดแทนนั้นกองทัพพยายามทำอยู่ แต่ยังไม่ได้ทั้งหมด
วันเดียวกัน นายคำรบลักขิ์ สุรัสวดี รองปลัดกระทรวงคมนาคม เปิดเผยภายหลังประชุมร่วมกับสำนักงานนโยบายและแผนพลังงาน (สนพ.) ว่า ตั้งแต่วันที่ 15 พฤษภาคมจะเริ่มระบบการลดราคาน้ำมันดีเซลจากหน้าสถานีบริการอีกลิตรละ 2 บาท ให้กับผู้ประกอบการภาคขนส่งผู้โดยสารทั้งรถและเรือโดยสาร รวมทั้งผู้ประกอบการ ภาคขนส่งสินค้าที่ขึ้นทะเบียนถูกต้อง โดยใช้วิธีจัดทำบัญชีหมายเลขทะเบียนรถแทนบัตรสมาร์ทการ์ด เพราะเห็นว่าป้องกันการรั่วไหลได้ดีกว่า ซึ่งสถานีบริการน้ำมันที่เข้าร่วมจะมีบัญชีหมายเลขทะเบียนรถที่ได้รับสิทธิไว้เป็นหลักฐานตรวจสอบ
แนวหน้า (บางส่วน) โพสต์ทูเดย์ สยามรัฐ ไทยรัฐ ผู้จัดการ 10 พ.ค. 2549
เขียนใน
GotoKnow
โดย
ห้องสมุดกรมบัญชีกลาง CGD Library
ใน
สรุปข่าวประจำวันของห้องสมุดกรมบัญชีกลาง
คำสำคัญ (Tags):
#uncategorized
หมายเลขบันทึก: 27892
เขียนเมื่อ 10 พฤษภาคม 2006 12:55 น. (
)
แก้ไขเมื่อ 24 มีนาคม 2012 15:23 น. (
)
สัญญาอนุญาต:
จำนวนที่อ่าน
ความเห็น
ไม่มีความเห็น
หน้าแรก
สมาชิก
ห้องสมุดกรมบัญชีก...
สมุด
สรุปข่าวประจำวันข...
ครม. ชูคอซดน้ำมัน...
พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID
@gotoknow
สงวนลิขสิทธิ์ © 2005-2024 บจก. ปิยะวัฒนา
และผู้เขียนเนื้อหาทุกท่าน
นโยบายความเป็นส่วนตัว (Privacy Policy)
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท