ครม.หวั่นน้ำมันแพงพ่นพิษ
ลามผู้รับเหมาถอนตัวประมูลงานรัฐ-ทิ้งงาน เล็งทบทวนราคากลางและ
จ่ายค่าเคเพิ่มขึ้น
นายไชยยศ สะสมทรัพย์ รักษาการรัฐมนตรี ช่วยว่าการกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า คณะรัฐมนตรี (ครม.) ได้หารือถึงปัญหาผู้รับเหมาก่อสร้างกับทางราชการมีการทิ้งงานทั้งที่ยังไม่เสร็จและไม่ยอมเข้าร่วมประมูลงานรัฐ เนื่องจากภาวะราคาน้ำมันแพงทำให้ต้นทุนสูง, ปัญหาเศรษฐกิจที่ชะลอตัวและปัญหาการเบิกจ่ายงบประมาณล่าช้า ทั้งนี้ ครม. ได้มอบหมายให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งกระทรวงมหาดไทย, กระทรวงการคลัง, สำนักงบประมาณ, กรมบัญชีกลาง และหน่วยงานอื่น ๆ ไปหารือในรายละเอียดเพื่อหาทางแก้ไขปัญหาเรื่องนี้อย่างเร่งด่วน โดยอาจต้องปรับราคากลางให้เหมาะสมกับภาวะหรือสถานการณ์ในช่วงเวลานั้นให้มากที่สุด
นายไชยยศ กล่าวอีกว่า อีกแนวทางหนึ่งในการแก้ปัญหาคือการปรับวงเงินชดเชยค่าก่อสร้างให้แก่ผู้รับเหมาหรือค่าเค เนื่องจากปัจจุบันตามเกณฑ์ของสำนักงบประมาณได้กำหนดให้เงินชดเชยค่าก่อสร้างอยู่ในอัตราบวกลบไม่เกิน 4% ขณะที่ราคาน้ำมันปัจจุบันได้เพิ่มขึ้นสูงกว่า 4% ซึ่งจะทำให้เกิดความเป็นธรรมกับผู้รับเหมา ทั้งนี้ ในเดือนมีนาคม 2548 สำนักงบประมาณมีการอนุมัติจ่ายค่าเคให้แก่ผู้รับเหมาจำนวน 34 เรื่อง คิดเป็นวงเงินประมาณ 55 ล้านบาท
แหล่งข่าวจากสำนักงบประมาณ กล่าวว่า ในช่วง 2-3 เดือนที่ผ่านมา มีบริษัทรับเหมามา ยื่นเรื่องขอค่าเคจำนวนมาก เนื่องจากราคาน้ำมันและวัสดุก่อสร้างที่ปรับตัวสูงขึ้น
แหล่งข่าวระบุว่า ผู้รับเหมาจำนวนมากโดยเฉพาะในต่างจังหวัดยังได้ร้องเรียนเรื่องการเบิกจ่ายงบประมาณ ที่ล่าช้า แม่จะมีการวางฎีกาขออนุมัติการเบิกจ่ายไปแล้วเป็นเดือนแต่ก็ยังไม่สามารถเบิกเงินค่าก่อสร้างได้ ทั้งนี้ เนื่องจากปัญหาเงินสดของรัฐบาล ขาดมือในช่วงเดือนมกราคม-มีนาคม ซึ่งเป็นช่วงที่ผู้รับเหมามีการก่อสร้างจำนวนมาก เพราะเป็นฤดูแล้งไม่มีฝนตกเหมาะแก่การก่อสร้าง
โพสต์ทูเดย์ ไทยโพสต์ 10 พ.ค. 2549
นายไชยยศ สะสมทรัพย์ รักษาการรัฐมนตรี ช่วยว่าการกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า คณะรัฐมนตรี (ครม.) ได้หารือถึงปัญหาผู้รับเหมาก่อสร้างกับทางราชการมีการทิ้งงานทั้งที่ยังไม่เสร็จและไม่ยอมเข้าร่วมประมูลงานรัฐ เนื่องจากภาวะราคาน้ำมันแพงทำให้ต้นทุนสูง, ปัญหาเศรษฐกิจที่ชะลอตัวและปัญหาการเบิกจ่ายงบประมาณล่าช้า ทั้งนี้ ครม. ได้มอบหมายให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งกระทรวงมหาดไทย, กระทรวงการคลัง, สำนักงบประมาณ, กรมบัญชีกลาง และหน่วยงานอื่น ๆ ไปหารือในรายละเอียดเพื่อหาทางแก้ไขปัญหาเรื่องนี้อย่างเร่งด่วน โดยอาจต้องปรับราคากลางให้เหมาะสมกับภาวะหรือสถานการณ์ในช่วงเวลานั้นให้มากที่สุด
นายไชยยศ กล่าวอีกว่า อีกแนวทางหนึ่งในการแก้ปัญหาคือการปรับวงเงินชดเชยค่าก่อสร้างให้แก่ผู้รับเหมาหรือค่าเค เนื่องจากปัจจุบันตามเกณฑ์ของสำนักงบประมาณได้กำหนดให้เงินชดเชยค่าก่อสร้างอยู่ในอัตราบวกลบไม่เกิน 4% ขณะที่ราคาน้ำมันปัจจุบันได้เพิ่มขึ้นสูงกว่า 4% ซึ่งจะทำให้เกิดความเป็นธรรมกับผู้รับเหมา ทั้งนี้ ในเดือนมีนาคม 2548 สำนักงบประมาณมีการอนุมัติจ่ายค่าเคให้แก่ผู้รับเหมาจำนวน 34 เรื่อง คิดเป็นวงเงินประมาณ 55 ล้านบาท
แหล่งข่าวจากสำนักงบประมาณ กล่าวว่า ในช่วง 2-3 เดือนที่ผ่านมา มีบริษัทรับเหมามา ยื่นเรื่องขอค่าเคจำนวนมาก เนื่องจากราคาน้ำมันและวัสดุก่อสร้างที่ปรับตัวสูงขึ้น
แหล่งข่าวระบุว่า ผู้รับเหมาจำนวนมากโดยเฉพาะในต่างจังหวัดยังได้ร้องเรียนเรื่องการเบิกจ่ายงบประมาณ ที่ล่าช้า แม่จะมีการวางฎีกาขออนุมัติการเบิกจ่ายไปแล้วเป็นเดือนแต่ก็ยังไม่สามารถเบิกเงินค่าก่อสร้างได้ ทั้งนี้ เนื่องจากปัญหาเงินสดของรัฐบาล ขาดมือในช่วงเดือนมกราคม-มีนาคม ซึ่งเป็นช่วงที่ผู้รับเหมามีการก่อสร้างจำนวนมาก เพราะเป็นฤดูแล้งไม่มีฝนตกเหมาะแก่การก่อสร้าง
โพสต์ทูเดย์ ไทยโพสต์ 10 พ.ค. 2549
บันทึกนี้เขียนที่ GotoKnow โดย ห้องสมุดกรมบัญชีกลาง CGD Library ใน สรุปข่าวประจำวันของห้องสมุดกรมบัญชีกลาง
ไม่อนุญาตให้แสดงความเห็น
อนุญาตให้แสดงความเห็นได้เฉพาะสมาชิก