26. คณะรัฐมนตรีอนุมัติร่างพระราชบัญญัติวิทยาลัยชุมชน พ.ศ....30-06-2552


กฎหมายยกฐานะวิทยาลัยชุมชนเป็นสถาบันวิทยาลัยชุมชน

วันนี้ เมื่อเวลา 09.00 น.    ห้องประชุมคณะรัฐมนตรี ชั้น 2 สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี ทำเนียบรัฐบาล นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี  เป็นประธานการประชุมคณะรัฐมนตรี 

จากนั้น นายปณิธาน วัฒนายากร  รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง ปฏิบัติหน้าที่โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี  นายศุภชัย  ใจสมุทร รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี  นายวัชระ  กรรณิการ์  รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี  และนายภูมินทร์  ลีธีระประเสริฐ  รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี   ได้แถลงข่าวผลการประชุม

คณะรัฐมนตรี  สรุปสาระสำคัญได้ดังนี้

 

กฎหมาย

                        6.  เรื่อง  ร่างพระราชบัญญัติวิทยาลัยชุมชน พ.ศ. ....

 

6.  เรื่อง  ร่างพระราชบัญญัติวิทยาลัยชุมชน พ.ศ. ....

                        คณะรัฐมนตรีอนุมัติหลักการร่างพระราชบัญญัติวิทยาลัยชุมชน พ.ศ. .... ตามที่กระทรวงศึกษาธิการเสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา  ก่อนเสนอสภาผู้แทนราษฎรพิจารณาต่อไป 

                      ข้อเท็จจริง

                        กระทรวงศึกษาธิการเสนอว่า

                        1. ปัจจุบันได้มีกฎกระทรวงว่าด้วยการจัดการศึกษาระดับต่ำกว่าปริญญารูปแบบวิทยาลัยชุมชน พ.ศ. 2546 ที่ใช้ในการบริหารงานของวิทยาลัยชุมชนในปัจจุบัน แต่กฎกระทรวงดังกล่าวยังขาดความคล่องตัวในการบริหารจัดการที่ตอบสนองความต้องการของประชาชนให้บรรลุตามเจตนารมณ์ที่สมบูรณ์  ประกอบกับรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย  พ.ศ. 2550 มาตรา 303 (2) บัญญัติให้ปรับปรุงกฎหมายเพื่อการพัฒนาการศึกษาของชาติตามมาตรา 80 โดยส่งเสริมการศึกษาในระบบ การศึกษานอกโรงเรียน การศึกษาตามอัธยาศัย  การเรียนรู้ด้วยตัวเอง  การเรียนรู้ตลอดชีวิต  วิทยาลัยชุมชนหรือรูปแบบอื่น ภายใน 1 ปี นับแต่วันที่รัฐบาลแถลงนโยบายต่อรัฐสภา

                        2. ได้มีการจัดประชุมเพื่อรับฟังความคิดเห็นจากประธานสภาวิทยาลัยชุมชน  คณะกรรมการสภาวิทยาลัยชุมชน ผู้บริหารและบุคลากรวิทยาลัยชุมชน  ผู้แทนสภาวิทยาลัยชุมชนที่เป็นผู้นำในองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นและบุคคลที่เกี่ยวข้องกับวิทยาลัยชุมชน  และได้นำข้อสังเกตต่าง ๆ มาพิจารณาปรับปรุงแก้ไขพระราชบัญญัติดังกล่าวแล้ว  จึงได้เสนอร่างพระราชบัญญัติดังกล่าวมาเพื่อดำเนินการ 

 

สาระสำคัญของร่างพระราชบัญญัติ

                        1. กำหนดให้สถาบันวิทยาลัยชุมชนมีฐานะเป็นนิติบุคคลและเป็นส่วนราชการตามกฎหมายว่าด้วยวิธีการงบประมาณในสังกัดสำนักงานคณะกรรมการการอุดมศึกษา กระทรวงศึกษาธิการ (ร่างมาตรา 4)

                        2.  กำหนดให้สถาบันวิทยาลัยชุมชนเป็นสถานศึกษาของรัฐที่จัดการศึกษาในระดับอุดมศึกษาต่ำกว่าปริญญา  มีวัตถุประสงค์ให้การศึกษา วิจัย ให้บริการทางวิชาการ  และทำนุบำรุงศิลปวัฒนธรรม  เพื่อเสริมสร้างความเข้มแข็งของชุมชน  การพัฒนาที่ยั่งยืน เติมเต็มศักยภาพบุคคล  และการเรียนรู้ตลอดชีวิต  ให้ตอบสนองต่อความต้องการของชุมชนและการพัฒนาประเทศ (ร่างมาตรา 6)

                        3. กำหนดให้สถาบันวิทยาลัยชุมชนมีรายได้จากเงินงบประมาณแผ่นดินที่รัฐจัดสรรให้เป็นรายปี  รายได้หรือผลประโยชน์ที่ได้จากการใช้ที่ราชพัสดุหรือจัดหาประโยชน์ที่ราชพัสดุซึ่งสถาบันปกครอง ดูแล ใช้ หรือจัดหาประโยชน์  เงินอุดหนุนจากองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น  และรายได้หรือผลประโยชน์อื่น  โดยรายได้ของสถาบันไม่เป็นรายได้ที่ต้องนำส่งกระทรวงการคลังตามกฎหมายว่าด้วยเงินคงคลัง  และกฎหมายว่าด้วยวิธีการงบประมาณ (ร่างมาตรา 9)

                        4. กำหนดให้สภาสถาบันวิทยาลัยชุมชนเป็นองค์กรกำกับดูแลสูงสุดของสถาบัน  โดยมีหน้าที่หลักคือ          การกำหนดนโยบายและแผนพัฒนาสถาบัน  การกำกับมาตรฐานการศึกษา  การติดตามประเมินการบริหารจัดการ  โดยสภาสถาบันประกอบด้วย  นายกสภาสถาบัน กรรมการโดยตำแหน่ง กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ มีวาระการดำรงตำแหน่ง      คราวละ 4 ปี (ร่างมาตรา 17 ร่างมาตรา 18 และร่างมาตรา 20)

                        5. กำหนดให้มีสภาวิชาการสถาบันมีหน้าที่กลั่นกรองและเสนอแนะการวางนโยบายและแผนพัฒนาวิชาการ  พิจารณาเกณฑ์มาตรฐานการจัดการศึกษาและการประกันคุณภาพ  เสนอแนะการพัฒนาหลักสูตร การศึกษา    การเปิดสอน การปรับปรุงและการยกเลิกหลักสูตร (ร่างมาตรา 22 และร่างมาตรา 23)

                        6. กำหนดให้มีคณะกรรมการส่งเสริมกิจการวิทยาลัย (ร่างมาตรา 24)

                        7. กำหนดให้อธิการเป็นผู้บังคับบัญชาสูงสุดและรับผิดชอบการบริหารงานของสถาบันวิทยาลัยชุมชน     และมีวาระการดำรงตำแหน่งคราวละ 4 ปี (ร่างมาตรา 27 และร่างมาตรา 28)

                        8. กำหนดให้สภาวิทยาลัยเป็นองค์กรกำกับดูแลการบริหารจัดการของวิทยาลัยชุมชนแต่ละแห่ง  เพื่อให้วิทยาลัยชุมชนมีความเป็นอิสระและคล่องตัวในการดำเนินการ  และได้รับมอบอำนาจหน้าที่จากสภาสถาบัน (ร่างมาตรา 37 และร่างมาตรา 39)

                        9. กำหนดให้ผู้อำนวยการเป็นผู้บังคับบัญชาและรับผิดชอบการบริหารงานของวิทยาลัยชุมชน  มีวาระการดำรงตำแหน่งคราวละ 4 ปี  และมีอำนาจหน้าที่และความรับผิดชอบในการบริหารกิจการของวิทยาลัยชุมชนให้เป็นไปตามวัตถุประสงค์และนโยบายของสภาสถาบัน (ร่างมาตรา 42 ร่างมาตรา 44 และร่างมาตรา 46)

                        10. กำหนดให้สถาบันมีอำนาจให้อนุปริญญาหรือประกาศนียบัตรในสาขาวิชาที่มีการสอนในสถาบัน  และร่วมให้อนุปริญญาหรือประกาศนียบัตรชั้นใดชั้นหนึ่งในสาขาวิชาที่มีการจัดการศึกษาร่วมกับสถานศึกษาอื่น (ร่างมาตรา 47)

                        11. กำหนดให้โอนบรรดากิจการ ทรัพย์สิน สิทธิ หนี้สิน เงินงบประมาณ  และรายได้ของสำนักบริหารงานวิทยาลัยชุมชน  สำนักงานคณะกรรมการการอุดมศึกษา กระทรวงศึกษาธิการ ตามพระราชบัญญัติระเบียบบริหารราชการกระทรวงศึกษาธิการ พ.ศ. 2546 มาเป็นของสถาบันตามพระราชบัญญัตินี้ (ร่างมาตรา 54)

                        12. กำหนดให้นำพระราชบัญญัติระเบียบข้าราชการพลเรือน พ.ศ. 2551 และพระราชบัญญัติระเบียบ

ข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา พ.ศ. 2547 มาใช้บังคับโดยอนุโลมกับข้าราชการพลเรือนสามัญ  ข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา  ซึ่งปฏิบัติงานอยู่ในสังกัดสถาบันวิทยาลัยชุมชน  สำนักงานคณะกรรมการการอุดมศึกษา กระทรวงศึกษาธิการ (ร่างมาตรา 55)

 

ข้อคิดเห็น

กระผมเป็นข้าราชการครูคนหนึ่งที่อยู่ในวิทยาลัยชุมชนหนองบัวลำภู มา 5 ปีแล้ว มีความรู้สึกว่าดีใจที่วิทยาลัยชุมชน จะได้มีกฎหมายที่ช่วยให้การบริหาร จัดการวิทยาลัยชุมชน มีความคล่องตัวและชัดเจน สำหรับคนทำงาน เพราะจะช่วยให้วิทยาลัยชุมชนมีความก้าวหน้าต่อไป และหากเป็นไปได้อยากให้กฎหมายประกาศใช้เร็วๆ ครับ ที่สำคัญต้องไม่ทิ้งชุมชน อยู่กับชุมชน สร้างชุมชนให้เข้มแข็ง เพราะวิทยาลัยชุมชนถือว่าเป็น นวัตกรรมการศึกษาเพื่อชุมชน และสิ่งสำคัญอย่างหนึ่งหากเป็นไปได้ไหมครับที่ตั้งวิทยาลัยชุมชนทั้ง 76 จังหวัด จากเดิมที่มีอยู่ 19 แห่ง เพราะไม่ซ้ำซ้อนกับสถาบันอุดมศึกษาอื่นๆ เลย เพราะแบ่งเป็น 4 กลุ่มอยู่แล้ว ค่าใช้จ่ายในการลงทุนต่ำสำหรับการผลิตนักศึกษาอนุปริญญาเมื่อเทียบกับอุดมศึกษาอื่น ที่สำคัญสร้างโอกาสให้กับคนที่ขาดโอกาส ถือว่าเป็นองค์กรแห่งการสร้างโอกาสให้คนและชุมชน  “Opportunity Organization”

 

ที่มาของข้อมูล : www.thaigov.go.th

ผู้บันทึก ครูทิวากร  เหล่าลือชา

Mail : [email protected]

http://gotoknow.org/file/tiwakorn/Nbcc_law.pdf

Website : www.nbcc.ac.th/teacher/tiwakorn/index.html

วิทยาลัยชุมชนหนองบัวลำภู

หมายเลขบันทึก: 272716เขียนเมื่อ 2 กรกฎาคม 2009 09:03 น. ()แก้ไขเมื่อ 12 กุมภาพันธ์ 2012 07:39 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (1)

มาชม

ดีนะครับ

จะได้มีระเบียบในการปฏิบัติงาน

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท