พอดีไปอ่านข่าวเจอในไทยโพสต์ เช้านี้ รู้สึกว่าน่าสนใจดี เป็น movement ที่ไม่ได้เคยเห็นมาก่อน แต่เรื่องผลลัพธ์คงต้องรอดูกันต่อไป แต่ที่แน่ๆ คือมหาวิทยาลัยที่สังกัดอยู่คงไม่เข้าข่าย ^ ^ แต่ก็ยังยินดีถ้ามีการเคลื่อนไหวในทางที่ดีกับมหาวิทยาลัยทีี่มีศักยภาพ
ส่วนข้างล่างนี้เป็น excerpt ที่ตัดมาจากชิ้นข่าวตาม link ข้างบนค่ะ
"....โครงการนี้เป็นส่วนหนึ่งของนโยบายการเพิ่มขีดความสามารถทางการวิจัย ของมหาวิทยาลัยนำไปสู่การเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศ ดังนั้นตนจึงได้มอบหมายให้สำนักงานคณะกรรมการการอุดมศึกษา (สกอ.) ไปจัดทำโครงการดังกล่าวขึ้น โดยเมื่อวันที่ 6 พ.ค.ที่ผ่านมา คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบการดำเนินการพร้อมสนับสนุนงบประมาณจากงบโครงการ SP2 จำนวนกว่า 1.2 หมื่นล้านบาท ระยะเวลา 3 ปี (2553-2555)"
"....คุณสมบัติมหาวิทยาลัยที่ต้องการสมัครคือ จะต้องเป็นมหาวิทยาลัยที่อยู่ในอันดับไม่ต่ำกว่า 500 จากการจัดอันดับมหาวิทยาลัยโลกตามการจัดอันดับของ THE-QS แต่ในกรณีที่ไม่มีชื่อปรากฏหรืออยู่ในอันดับที่ต่ำกว่านั้น จะต้องเป็นมหาวิทยาลัยที่ผลงานวิจัยในฐานข้อมูลระดับนานาชาติไม่ต่ำกว่า 500 เรื่อง ใน 5 ปีล่าสุด มีผลงานวิจัยระดับนานาชาติที่โดดเด่นอย่างน้อย 2 ใน 5 สาขา ของ THE-QS และมีสัดส่วนอาจารย์ปริญญาเอกมากกว่า 40% ของจำนวนอาจารย์ทั้งหมด รวมทั้งมหาวิทยาลัยต้องสามารถบ่งชี้ทิศทางและเอกลักษณ์ความเป็นมหาวิทยาลัย วิจัยแห่งชาติได้ และจะประกาศผลในเดือน ส.ค.นี้..."
สวัสดีครับ อาจารย์ ;)
ดีใจที่อาจารย์กลับมาอีกคราหนึ่ง ... คิดถึงนะจะบอกให้
ชีวิตครอบครัวคงสบายดีนะครับ
...
มหาวิทยาลัยท้องถิ่นผมไม่ติดฝุ่น และไม่เข้าเงื่อนไข แม้แต่ประการเดียว ... ยังคงต้องพัฒนาคุณภาพและความคิดของคนในมหาวิทยาลัยอีกเยอะ เหมือนดั่ง กบที่อยู่กะลา หรือ อึ่งอ่างที่พองตัวใหญ่
แต่การเริ่มต้นที่ "รัฐ" เป็นผู้คิดและเห็นความสำคัญของเรื่องวิจัย เป็นเรื่องที่ดี ... ขอให้งบวิจัยที่หว่านลงมา ทำให้คุณค่าของงานวิจัยเพิ่มขึ้น และทรงประสิทธิภาพ
มิใช่ขอทุนวิจัยไปเพื่อหวังผลด้านอื่น เช่น ตำแหน่งทางวิชาการ หรือเงินบริหารจัดการที่เหลืออยู่ หรือ ชื่อเสียงส่วนตัว หรือ ได้ชื่อว่า ได้ทำวิจัยตามหน้าที่แล้ว ฯลฯ
อาจารย์คงสบายดี :)
สวัสดีค่ะ อ.วสวัตฯ
สบายดีมากๆ ค่ะ (ทางจิตใจ) แต่ทางร่างกายก็ตามสภาพ
เพราะกายภาพทุกอย่างย่อมเสื่อมไปตามกาลเวลา และการใช้งาน ^ ^
ภาคการศึกษานี้งานสอนเยอะมากเป็นพิเศษ เลยห่างหายไปเยอะ ไม่มีเวลาเขียนเป็นเรื่องเป็นราว แต่พอเห็นเรื่องมหาวิทยาลัยวิจัยก็เลยอยากจะ note ไว้ แล้วค่อยๆ ดูผลลัพธ์หรือความก้าวหน้าในลำดับต่อๆ ไปอีกที
ขอบคุณอาจารย์ที่แวะเข้ามาทักทายนะคะ หวังว่าอาจารย์คงสบายดีเช่นกันค่ะ ^ ^
เพิ่มเติม link ข้อมูล เรื่องกรอบมาตรฐานคุณธรรมจริยธรรมที่ Siamturakij.com
ตนได้ลงนามในประกาศกระทรวงศึกษา ธิการว่าด้วยกรอบมาตรฐานคุณวุฒิระดับอุดมศึกษาแห่งชาติ ที่ให้การจัดการศึกษาระดับอุดมศึกษาตั้งแต่ปริญญาตรีถึงปริญญาเอกต้องมี มาตรฐานตามที่กระทรวงศึกษาธิการจะจัดทำรายละเอียดตามออกมาภายหลัง เพื่อเป็นหลักประกันและนำไปสู่การผลิตบัณฑิตที่มีคุณภาพ โดยมอบหมายให้สำนักงานคณะกรรมการการอุดมศึกษา (สกอ.) จัด ประชุมกับผู้ทรงคุณวุฒิในทุกสาขาวิชา เพื่อร่วมกันจัดทำมาตรฐานคุณวุฒิในแต่ละสาขาวิชา ซึ่งหลังจากจัดทำเสร็จและประกาศใช้แล้ว ทุกมหาวิทยาลัยจะต้องปรับปรุงการจัดการศึกษาในแต่ละสาขาวิชาของตัวเองให้ เป็นไปตามมาตรฐานคุณวุฒินั้นภายในปี 2557
“กรอบมาตรฐานคุณุวฒิดังกล่าว จะเดินหน้าไปสู่การสร้างบัณฑิตที่มีคุณภาพ โดยมีคุณลักษณะ 5 ด้าน คือ มีคุณธรรม ซึ่งเป็นเรื่องสำคัญสุด เพราะผลสำรวจของสถาบันต่างๆ สะท้อนให้เห็นชัดว่า คุณธรรมของคนไทยลดลง ล่าสุดผลวิจัยของม.มหิดล ระบุว่า คุณธรรมคนไทยทุกกลุ่มลดลงโดยเฉพาะด้านความซื่อสัตย์ลดจาก 2.76 ในปี 2550 เหลือ 2.34 ในปี 2552 เพราะฉะนั้น มหาวิทยาลัย จะต้องเดินหน้าไปสู่การผลิตบัณฑิตที่มีความรู้คู่คุณธรรมให้ได้ นอกจากบัณฑิตต้องมีคุณธรรมแล้ว อีก 4 ด้านที่เหลือ จะต้องมีความรู้ ทักษะทางปัญญา ทักษะทางสังคม และทักษะการใช้เทคโนโลยีต่างๆ โดยเฉพาะเทคโนโลยีสารสนเทศ ซึ่งมีบทบาทมากในโลกยุคโลกาภิวัตน์”
ขอบคุณครับอาจารย์ ;)
งานวิจัย ถ้าลมาเพื่อพัฒนาการศึกษาจริงๆ รัฐคงจะได้รับอะไรอีกมาย กลับไป