GotoKnow

เป็นเบาหวาน บางคนดีใจ บางคนเครียด

วัลลา ตันตโยทัย
เขียนเมื่อ 17 มิถุนายน 2548 09:29 น. ()
แก้ไขเมื่อ 21 มิถุนายน 2555 12:58 น. ()

กำลังรอ "เรื่องเล่า" จากสมาชิกว่ามีวิธีการอย่างไรที่จะช่วยให้ผู้ป่วยเบาหวานปรับการรับประทานอาหารของตนเองได้อย่างเหมาะสมคือ "กินอย่างมีความสุขและคุมน้ำตาลในเลือดได้" ประสบการณ์ที่นำเสนอไปแล้ว เป็นการดูแลผู้ป่วยเป็นรายบุคคล อยากได้ข้อมูลการดูแลผู้ป่วยเป็นกลุ่มหรือในชุมชนด้วยค่ะ จากข้อมูลคร่าวๆ ที่มีอยู่นี้คาดว่าโรงพยาบาลสมเด็จพระยุพราชธาตุพนม โรงพยาบาลชุมพวง โรงพยาบาลปลาปาก ทีมงานของจังหวัดสกลนคร น่าจะมีเรื่องดีๆ ที่จะแลกเปลี่ยนกับสมาชิกที่อื่นนะคะ

เรื่องเล่าในวันนี้ บางครั้งเราอาจนึกไม่ถึง แต่เป็นสิ่งหนึ่งที่อาจมีอิทธิพลต่อการดูแลรักษาตนเองของผู้ป่วยค่ะ

"ดีใจเมื่อรู้ว่าเป็นเบาหวาน"

ป้าพริ้มเล่าให้ฟังว่า เมื่อ ๓ ปีก่อน ป้ามีอาการคันหัว คันมากจนนอนไม่หลับ ไปหาหมอที่โรงพยาบาลระโนด หมอให้ยาไปกิน กินยาจนหมด อาการคันไม่ดีขึ้นเลย ป้าเลยตัดสินใจไปหาหมอโรคผิวหนังที่คลินิกแถวหาดใหญ่ คุณหมอบอกว่าป้าเป็น "ขี้เรื้อน" ฉีดยาให้ ๑๕ เข็ม ฉีดยาครบแล้วอาการไม่ดีขึ้นเลย ป้าตัดสินใจโกนหัว เนื่องจากคันมาก ทำอย่างไรก็ไม่ดีขึ้น เลยตัดสินใจไปหาหมอโรคผิวหนังที่หาดใหญ่อีกครั้ง คราวนี้ป้าเปลี่ยนหมอ หมอบอกป้าว่าเป็นขี้เรื้อนอีก คราวนี้ป้าโดนฉีดยาอีก ๑๕ เข็ม แต่อาการไม่ดีขึ้น ป้ามีความทุกข์มาก ชาวบ้านแถวนั้นเริ่มร่ำลือกันว่าป้าพริ้มเป็นขี้เรื้อน เพื่อนบ้านเริ่มรังเกียจ ป้าคันมากจนต้องตัดสินใจโกนหัวอีกครั้ง คราวนี้ไปหาหมอที่คลินิกในอำเภอระโนด หมอไม่ได้บอกว่าเป็นโรคอะไร แต่หมอบอกว่าป้าต้องฉีดยาวันละ ๑ เข็ม ทุกวันเป็นเวลา ๑๕ วัน ฉีดยาครบ ๑๕ วัน ป้าก็ยังไม่หาย คุณหมอบอกว่าพรุ่งนี้ให้คุณป้างดน้ำงดอาหารหลังเที่ยงคืน แล้วไปตรวจเบาหวานที่โรงพยาบาลระโนด คุณหมอบอกว่าป้าเป็น "เบาหวาน" ป้าถามคุณหมอว่าเบาหวานทำให้คันหัวได้ไหม คุณหมอบอกว่าเป็นไปได้ แล้วคุณป้ามีอาการอย่างอื่นอีกหรือไม่นอกจากอาการคันหัว ป้าบอกว่าไม่มี คุณหมอบอกว่าถ้ารักษาโรคเบาหวานดีขึ้นแล้ว อาการคันก็จะหายไปเอง ตอนนั้นป้ารู้สึกดีใจจนน้ำตาไหล (ดีใจที่ป้าไม่ได้เป็น "ขี้เรื้อน") ป้ารักษาเบาหวานอยู่ประมาณ ๑ ปี อาการคันหัวหายเป็นปลิดทิ้ง

ผู้เล่าเรื่อง : คุณประจวบ รัตนแก้ว พยาบาลวิชาชีพ ๖ โรงพยาบาลระโนด อำเภอระโนด จังหวัดสงขลา

"เครียด เพราะรู้ว่าเป็นเบาหวานแล้วตายเร็ว"

คุณเด่นมีอาชีพขายข้าวมันไก่ มีอาการน้ำหนักลดลงและถ่ายปัสสาวะบ่อย จึงมาพบหมอ หมอบอกว่าเป็นเบาหวาน สั่งยาให้ไปรับประทานและส่งให้พบนักกำหนดอาหาร ได้ความรู้เรื่องการเลือกกินอาหาร รู้ว่าต้องลดอาหารมันๆ ลง

เมื่อมาพบนักกำหนดอาหารครั้งที่ ๒ ลูกชายเล่าให้ฟังว่า พ่อเครียดมาก ไปสั่งเสียทุกคนในบ้าน บอกว่าจะอยู่ได้ไม่เกินปีนี้ เตรียมจัดสรรมรดกต่างๆ ........เมื่อสอบถามจึงได้ความว่า เพื่อนบอกว่าเป็นเบาหวานแล้วตายเร็ว ดิฉันจึงให้กำลังใจและให้ข้อมูลที่ถูกต้องเกี่ยวกับเรื่องเบาหวาน พร้อมทั้งแอบกระซิบคุณหมอเจ้าของไข้ว่าช่วยให้กำลังใจคุณเด่นมากๆ หน่อย เพราะคุณเด่นกังวลเรื่องเป็นเบาหวานมาก

ตอนนี้คุณเด่นบอกไม่เครียดแล้ว แข็งแรงดี อาหารการกินก็ปกติ ไม่ต้องอดอะไร แต่ต้องเลือกกิน อะไรมันมากก็กินน้อยหน่อย อยากกินข้าวมันไก่ ก็กินข้าวสวยกับไก่ลอกหนังออก ทุกวันนี้ก็วิ่งทุกวัน น้ำตาลในเลือดดีขึ้น

ผู้เล่าเรื่อง : คุณจุรีย์พร จันทรภักดี นักกำหนดอาหาร โรงพยาบาลเทพธารินทร์ คลองเตย กรุงเทพ ๑๐๑๑๐

วัลลา ตันตโยทัย

๑๗ มิถุนายน ๒๕๔๘

 


ความเห็น

ยังไม่มีความเห็น

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท
ภาษาปิยะธอน (Piyathon)
เขียนโค้ดไพทอนได้ด้วยภาษาไทย