เสียงสะท้อน..จากความสิ้นหวัง


คงสงสัยละสิ ว่ากำลังเกิดอะไรขึ้นกับผม มันเป็นเหตุการณ์ที่ผ่านมาแล้วเกือบสิบปี แต่เหมือนเพิ่งเกิดเมื่อวานนี้เอง ผมยังจำได้เพราะเหตุการณ์ครั้งนั้นทำให้เปลี่ยนแปลงความคิดของผมในการดูแลผู้ป่วยที่เคยมีอยู่อย่างสิ้นเชิง

 ช่วยด้วยครับ มีใครอยู่บ้าง ช่วยด้วย!!” เสียงร้องตะโกนละล่ำละลักของผมดังก้องไปทั่วตึกอายุรกรรม ในขณะที่มือทั้งสองข้างกำลังดึงแขนของชายชราในชุดคนไข้สีฟ้า ที่กำลังนั่งยองอยู่ริมขอบนอกชานของตึกชั้น 6 ด้วยอาการสั่นเทา

 

      คงสงสัยละสิ ว่ากำลังเกิดอะไรขึ้นกับผม มันเป็นเหตุการณ์ที่ผ่านมาแล้วเกือบสิบปี แต่เหมือนเพิ่งเกิดเมื่อวานนี้เอง ผมยังจำได้เพราะเหตุการณ์ครั้งนั้นทำให้เปลี่ยนแปลงความคิดของผมในการดูแลผู้ป่วยที่เคยมีอยู่อย่างสิ้นเชิง

 

      เรื่องมันเริ่มต้นสมัยเมื่อผมยังเป็นเภสัชกรจบใหม่ ในเย็นของวันหนึ่ง วันที่ห้องจ่ายยาผู้ป่วยนอกถูกใช้เป็นที่ประชุมของเภสัชกรทุกคนในกลุ่มงานเภสัชกรรม เจ้าหน้าที่ห้องยาช่วยกันกุลีกุจอเคลื่อนย้ายโต๊ะ ยกเก้าอี้วางเรียงไว้เป็นวง สลับกับความโกลาหลของพี่ๆ เภสัชกรที่ต่างจับจองที่นั่งใกล้ๆ กันกับคนที่สนิทด้วย

 

ผมมาถึงพร้อมๆ กับเพื่อนอีก 3 คนที่เลือกมาใช้ทุนที่โรงพยาบาลพุทธชินราชรุ่นเดียวกัน เราตื่นเต้นเพราะรู้ว่าหัวข้อประชุมวันนี้ มีเรื่องเกี่ยวกับพวกเราด้วย พี่หัวหน้ามาถึงเป็นคนสุดท้าย การสนทนาจึงเริ่มต้นขึ้น

 

เอ้า เด็กใหม่ 4 คนจะเลือกทำอะไรกัน

 

 

จริงๆ พวกเรามีคำตอบในใจกันไว้แล้ว หลังถูกขับเคี่ยวให้เวียนฝึกปฏิบัติตามห้องยาต่างๆ มาตลอดสามเดือน แต่นั่นอาจไม่ใช่คำตอบสุดท้าย ถ้าพี่ๆ เห็นว่าเรายังไม่เหมาะสมกับสิ่งที่เราอยากจะทำ

 

ผมเป็นเพียงคนเดียวในกลุ่มเพื่อนที่ยกมือขอทำงานบริบาลทางเภสัชกรรมในหอผู้ป่วย ก็เป็นงานที่ช่วยทีมแพทย์ พยาบาลในการดูแลยาผู้ป่วยโดยเฉพาะ แล้วเหตุผมที่อยากทำหรือครับ? อาจเป็นเพราะผมรู้สึกอยากทำอะไรที่ท้าทายตัวเองมั้ง?

 

งั้นได้ ไปอยู่กับอ้วนที่งานวิชาการ หัวหน้าผมตอบตกลงและให้ผมไปอยู่ในความดูแลของพี่อ้วน หัวหน้างานวิชาการ ผมถอนหายใจเบาๆ ระคนดีใจที่ได้ทำในสิ่งที่อยากทำ แต่เป็นความดีใจที่ยังไม่รู้ตัวเองว่า งานที่จะทำแท้จริงแล้วไม่ได้เกิดแค่ความอยากจะทำเพียงอย่างเดียว

 

เดือนแรกที่ผมได้เริ่มงานในหอผู้ป่วยพิเศษบนชั้น 6 ของตึกอายุรกรรม มันช่างเต็มไปด้วยความมีชีวิตชีวา และกระตือรือร้นในการค้นหาปัญหาเรื่องยาของผู้ป่วยในแฟ้มประวัติ

 

ผมมักจะนั่งแช่อยู่ที่หน้าเคาน์เตอร์พยาบาลเพื่อเปิดดูข้อมูลต่างๆ ที่แพทย์เขียนทั้งใน progress note ในใบสั่งยา ไม่ก็พลิกไปพลิกมาระหว่างฟอร์มปรอท และผลทางห้องปฏิบัติการ แล้วจดสรุปรายละเอียดต่างๆ ลงในแบบบันทึกการใช้ยาของผมอีกที

 

ผมทำความรู้จักกับแพทย์และพยาบาลที่ร่วมเดินเยี่ยมคนไข้ที่เตียงด้วยกันจนคุ้นเคยได้อย่างรวดเร็ว แต่กับผู้ป่วยมีเพียงการทักทายกันเฉพาะเมื่อผมไปหยิบแฟ้มประวัติท้ายเตียง หรือถามคำถามสั้นๆ เพียง 2 -3 ประโยคที่ผมต้องการ

คุณลุงเคยแพ้ยาอะไรมั้ยครับ หรือ คุณป้านำยาเก่ามาด้วยหรือเปล่า หรือไม่ก็ ยายลองพ่นยาให้ผมดูหน่อย เท่านี้ก็ทำให้ผมรู้สึกว่าได้ให้การดูแลการใช้ยาโดยยึดผู้ป่วยเป็นศูนย์กลางตามทฤษฎีที่ได้ร่ำเรียนมา

 

จนมาวันหนึ่ง หลังจากภารกิจประจำวันในการบันทึกการสั่งใช้ยาของแพทย์ในช่วงเช้าเสร็จสิ้น ผมเร่งฝีเท้าเพื่อกลับไปเตรียมสไลด์สอนเจ้าหน้าที่ต่อที่ห้องทำงาน ระหว่างรอประตูลิฟท์เปิด ฉับพลันสายตาของผมก็สังเกตเห็นความผิดปกติที่ตรงปลายอีกฟากของตึกห่างไปราว 15 เมตร เหมือนคนใส่เสื้อสีฟ้าคล้ายชุดผู้ป่วยกำลังปีนข้ามกำแพงที่สูงเหนือเอวเล็กน้อยลงไปที่นอกชานของตึก

 

เฮ้ย!! คนกำลังจะโดดตึก ผมคิดพร้อมๆกันที่หัวใจเริ่มเต้นระรัว หรือจะโดดไปแล้ว

 

ผมลังเลได้แต่ยืนนิ่งทำอะไรไม่ถูก เพราะในชีวิตไม่เคยเห็นภาพอะไรที่สดและหวาดเสียวเช่นนี้

 

เป็นไงเป็นกัน ผมตัดสินใจวิ่งไปยังจุดนั้นทันที ปากก็ตะโกนเรียกพี่พยาบาลที่กำลังง่วนรับคำสั่งอยู่ผ่านช่องกระจกของหอผู้ป่วยริมทางเดินให้มาช่วยโดยไม่มีเวลาอธิบาย

 

ภาพที่ผมเห็นเมื่อก้มมองข้ามกำแพงไป คือภาพของชายชราวัยเกิน 50 ปี สวมชุดคนไข้นั่งตัวยองๆ ก้มศีรษะอยู่ริมขอบนอกชานของตึก มองถัดออกไปเป็นอากาศธาตุอันเวิ้งว้างที่เบื้องล่างคือพื้นสนามหญ้าสีเขียวสลับกับพื้นดินสีน้ำตาลแกมขาว

 

ไวเท่าความคิด ผมเอื้อมมือทั้งสองคว้าแขนข้างหนึ่งของชายชราไว้ เคราะห์ยังดีที่เขายังไม่ตัดสินใจกระโดดไปเสียก่อนในตอนแรก แต่ใจก็ระลึกได้ว่า ถ้าเขาเกิดเปลี่ยนใจด้วยแรงของผมกับตัวที่ไม่มีอะไรยึด คงจะพาให้ทั้งเขาและผมโหม่งโลกเป็นแน่แท้ จึงร้องตะโกนสุดเสียง

 

ช่วยด้วยครับ มีใครอยู่บ้าง ช่วยด้วย!!”

 

เกือบห้านาทีที่ผมอยู่ในท่าเดิมโดยไม่มีใครสนใจ อาจเป็นช่วงเวลาที่ทุกคนในตึกกำลังทำหน้าที่ของตนอย่างขะมักเขม้น หรือเสียงที่ผมเปล่งเรียกจะถูกพญามัจจุราชเสกให้กลายเป็นลมลอยละลิ่วไปซะแล้ว

มือผมยังเหนี่ยวแขนของชายชราไว้ไม่ยอมปล่อย ปากก็พร่ำบอกว่า ใจเย็นๆ นะครับลุง ทุกอย่างมีทางแก้ ผมยังรู้สึกได้กับร่างที่สั่นไหวของลุงผ่านแขนที่ผมยึดไว้ มันคือแรงสะอื้นในลำคอ ผมไม่รู้ในใจของลุงว่ากำลังคิดอะไรอยู่ คุณลุงมีอะไร คุยกับผมได้นะ ลุงเงียบแทนคำตอบทุกครั้งที่ผมพยายามชวนคุย

 

ความช่วยเหลือมาช้าเกินไปแล้ว ผมคิดและตะโกนขอความช่วยเหลือไปอีกหลายครั้ง จนพี่พยาบาลคนหนึ่งเดินออกมาดูที่หน้าหอผู้ป่วยเหมือนมองหาต้นทางของเสียง เพียงเท่านั้นทันทีที่พี่เขาเห็นผม ผู้คนมาจากที่ใดบ้างก็ไม่รู้ กรูเข้ามาช่วยเหลือ มีชายสองคนกระโดดลงไปอุ้มลุงจากชานด้านนอกเข้ามาในตึก ส่วนตัวผมค่อยๆ ปล่อยแขนลุงเมื่อเท้าของลุงยืนอยู่บนพื้นที่ปลอดภัย

 

คุณลุงกลายเป็นบุคคลที่โลกสนใจขึ้นมาบัดดล ใครๆ ต่างเข้ามาปลอบประโลม พูดให้กำลังใจกันเซ็งแซ่ ขณะที่ตัวผมค่อยๆ เดินถอยห่างออกมาอย่างช้าๆ ใจยังระทึกกับภาพที่เพิ่งเกิดตรงหน้าวนไปวนมาเหมือนภาพยนตร์ที่ฉายซ้ำ

 

เย็นวันนั้น ขณะที่ผมเดินผ่านไปทางตึกอายุรกรรม ก็พบกับพี่พยาบาลประจำหอผู้ป่วยที่ผมทำงานอยู่

อ้าวอยู่นี่เอง โทรตามหากันอยู่ พี่พยาบาลทักขึ้นก่อน

พอทราบหรือยังครับ ทำไมลุงถึงคิดจะกระโดดตึก ผมถาม

 

อ๋อ..ลุงเขาเพิ่งรู้ว่าติดเชื้อ HIV คงทำใจไม่ได้ แถมทางบ้านก็ไม่มีใครมาเหลียวแล เลยนึกน้อยใจ แต่เอ้อ มีแผลหรือบาดเจ็บอะไรหรือเปล่า ผมรีบสำรวจมือตัวเองเพราะเพิ่งนึกได้ว่าตอนที่ยึดแขนของลุงไว้เป็นบริเวณที่ยังมีเข็มฉีดยาคาอยู่ แต่ผมก็ยิ้ม ไม่เป็นไรครับพี่

 

มือที่ผมได้สัมผัสกับลุงเมื่อเช้ายังเย็นเฉียบ ใจก็นึกหวนกับงานที่ทำ ผมไม่เคยรับรู้ถึงความรู้สึกที่คนไข้มี ผมไม่เคยถามปัญหาเรื่องยาจากปากของคนไข้ นอกจากแฟ้มประวัติที่ผมนั่งอ่านมันอย่างเอาเป็นเอาตายทุกวัน แต่ในช่วงเวลาที่วิกฤต ผมกลับถามคำถามมากมายกับคนไข้ที่ผมไม่ได้ดูแล แม้จะไม่รู้คำตอบ แต่ผมก็รู้ซึ้งแล้วว่า ไม่ว่าคนไข้จะเป็นใคร ทุกคนคงต้องมีปัญหาที่อยากเล่าให้ฟังมากกว่าโรคทางกายที่มารักษา

 

พรุ่งนี้เช้าผมรู้แล้วว่าผมจะไม่เดินไปที่แฟ้มประวัติอีกแต่จะเดินไปหาคนไข้ที่เตียงแทน

 

แล้วคุณละคิดว่าผมจะเปลี่ยนไปมั๊ย?

""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""

เกียวกับผู้เขียนเรื่องเล่า

ภก.อภิสิทธิ์ เทียนชัยโรจน์ กลุ่มงานเภสัชกรรม โรงพยาบาลพุทธชินราช พิษณุโลก

หลักสูตร narrative medicine รุ่นที่๑ สถาบันพัฒนาและรับรองคุณภาพโรงพยาบาล

 

คำสำคัญ (Tags): #sha
หมายเลขบันทึก: 267921เขียนเมื่อ 13 มิถุนายน 2009 17:57 น. ()แก้ไขเมื่อ 12 กุมภาพันธ์ 2012 07:17 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (22)
  • สวัสดีค่ะ อ.แม่ต้อย
  • เรื่องดีค่ะ...ดูแลผู้ป่วยด้วยหัวใจความเป็นมนุษย์
  • ขอบคุณค่ะ

สวัสดีคะ

น่าดีใจนะคะ น้องป้าแดง

ที่ทุกๆแห่งมีแต่เรื่องราวดีดี

ป้าแดงช่วยเอามาเขียนนะคะ ใส่ SHA เป็นคำสำคัญนะคะ

แม่ต้อยอยากเอามารวมกันคะ

 

เขียนได้ดีมากๆเลยค่ะเเม่ต้อย อ่านไปก็จินตนาการไปด้วยมันชัดเจน มากค่ะ

หลักสูตรนี้ ทำไมดีจังเลยค่ะ ทำให้เภสัชกรท่านนี้สามารถสื่อเรื่องเล่าออกมาได้อย่างเยี่ยมยอด เเต่ยอมรับว่าตัวท่านเองอาจจะมีพื้นฐานกับงานเขียนด้วย ชื่นชมค่ะ

รุ่นต่อไปกุ้งลงชื่อจองไว้เเล้วนะคะ เพราะอยากไปเรียนมากเเต่สมัครรุ่นเเรกไม่ทัน

เเม่ต้อยขา วันที่ 17-18 นี้จะได้เจอเเม่ต้อยเเล้ว ตอนนี้ก็เตรียมตัวอยู่ค่ะ พยายามทำการบ้าน เเม่ต้อยเห็นสไลด์เเล้วมีอะไรอยากเเนะนำกุ้งเพิ่มเติมก็เเนะนำได้ทางบล็อกหรือ mail นะคะ

สวัสดีค่ะแม่ต้อย

เป็นเรื่องเล่าที่เร้าพลังนะคะ...ขออนุญาตไปฟังในบรรยากาศจริงๆ

คงจะอดน้ำตาไหลไม่ได้

ตื่นเต้นที่แม่ต้อยให้เกียรติมาทักใน blog...

ดีใจจะได้เห็นตัวจริงนะคะ

  • อึ้งเลยครับแม่ต้อย
  • โอโห คุณหมอเล่าได้ดีมากๆๆ
  • สรุปทราบหรือยัง
  • เอา world cafe' มาจากไหน
  • ฮ่าๆๆๆๆๆๆๆ

สวัสดีค่ะ

  • อยากให้แม่ต้อย..นำเรื่องแบบนี้รวมเป็นเล่มนะคะ
  • ครูคิมเคย..ไปโรงพยาบาลแว้ยกมือไหว้สวัสดีคุณหมอ ผู้หญิงยังสาว ๆ ค่ะ
  • แต่..คุณหมอไม่เคยรับไหว้หรือแม้แต่จะมองหน้า  ถามก็ไม่มองค่ะ สั่งยาให้เลย ไม่ตวจอาการอีกด้วย
  • ตอนกลับ..ก็ยกมือไหว้ขอบคุณ  เพราะเคยทำเป็นนิสัย คุณหมอท่านนั้นก็ยังเฉย ๆ ไม่มองเลยค่ะ
  • ออกจากห้องหมอก็โยนยาทิ้งถังขยะไปเลย..หันหลังไปโรงพยาบาลอื่นก็ได้นี่คะ เราไม่ได้ป่วยทุกวัน
  • ไม่ใช่โรงพยาบาลพุทธ ฯ นะคะ

ม่อนบอกคุณยายแม่ต้อยใจดี เห็นคนตกทุกข์ได้ยาก ก็ดูแลช่วยเหลือ

P สวัสดีคะน้องกุ้ง

แม่ต้อยจะเปิดหลักสูตร narrative medicine อีกคะ เร็วๆนี้ เพราะมีคนที่สมัครไม่ทันมากมายคะ

สำหรับวันที่๑๗ ๑๘ นั้น แม่ต้อยยังไม่เห็น power point ของน้องกุ้งเลย สงสัยว่า ทีมงานแม่ต้อยยังไม่ส่งให้คะ

แต่แม่ต้อยอยากเน้นเรื่องความคิด ในการทำเรื่องนี้ ความต้องการของคนไข้ที่เรามองมักไม่ค่อยเห็น เราจะสัมผัสได้อย่างไร

และผลดีอันเกิดจากการทำหรือผลลัพธ์คะ

แม่ต้อยอยากเจอก่อนการบรรยายดีไหมคะ

จะได้ คุยกันในรายละเอียดคะ

. แดง
สวัสดีคะ

แม่ต้อยดีใจมากคะ ที่ได้คุยกับน้องๆ ที่เข้มแข็งและเป้นตัวอย่างที่ดีของคนคุณภาพ

หากน้องแดงว่างมาช่วยเป็นวิทยากรกลุ่ม ก้จะดีคะ  ตอนนั่งคุยกัน น้องแดง สามารถเอาเรื่องใน ward ที่ดีดี มาแลกเปลี่ยนกับน้องได้

ที่จริงเรื่องของน้องแดงนั้นมี ความเอื้ออาทร มีความรัก เป็นพื้นฐานการทำงานมากๆ  เป็นเรื่องเล่าที่ดี

แม่ต้อยอยากให้น้องแดง เชื่อมเรื่องการดูแลเด้ก เข้ากับมาตรฐานหมวดต่างๆ

และนำไปแลกเปลี่ยนเรียนรู้กับน้องๆ เพื่อนๆคะ

ดีใจจังที่จะได้เจอคะ

 

 

 

 

 ขจิต ฝอยทอง

สวัสดีครับ

โอ้โห คราวนี้ตอบเร็วมากจังเลย

ทำ world cafe แล้วเป้นอย่างไรช่วยบอกหน่อยนะคะ

ครูคิม เขาก้เอาไปใช้นะคะ

. ครูคิม
แม่ต้อย เข้าใจและเห้นใจที่ครูคิม เจอะเจอ คนที่เรายกมือไหว้ด้วยความนับถือในความรุ้เขา แม้ว่าเขาจะอายุน้อยกว่ามากๆ

แต่ไม่ได้รับการปฏิบัติตอบเยี่ยงคนที่มีจิตใจงามทั่วไป

ก้คงต้องแผ่เมตตา และให้อภัยเขาไป

ที่แม่ต้อย แนะนำอย่างนี้ เพราะเคยรับการปฏิบัติ เยี่ยงนี้มาแล้ว เช่นกันนะคะ

แต่ว่า ครูคิมคะ  คนที่ดีดี มีมากมายนะคะ

และเราจะช่วยกันให้สิ่งเหล่านี้เกิดขึ้นมาอีกมากๆคะ

คิดถึงครูคิมมากคะ

. นายประจักษ์~natadee
เมื่อ ส. 13 มิ.ย. 2552 @ 20:10

สวัสดีคะ

 หลานม่อนน่ารักจริงๆ

ยายแม่ต้อยอยากเจอตัวจริงเสียงจริงแล้วนะคะ

เป็นกำลังใจให้นะครับ หัวอกเภสัชกรเหมือนกัน อย่างน้อยเราก็ได้ช่วยเติมเต็มการดูแลผู้ป่วยได้บ้าง เพราะมันก็คือหน้าที่ของเราเช่นกัน

เขาเป็นคนที่มีพื้นฐานจิตใจดี มองเห็นความช่วยเหลือเพื่อนมนุษย์ด้วยกัน น่ายกย่องค่ะ เพราะการกระทำที่ตัดสินใจอย่างกระทันหันเป็นจิตใต้สำนึกค่ะ ขอบคุณแทนสังคมที่มีคนดีค่ะ

สวัสดีค่ะ  มีความสุขนะคะ

ห่วงใย

สวัสดีค่ะ  พึ่งได้อ่านเต็มเต็มค่ะ  โอ้โฮ  ขอให้สิ่งเหล่านี้ยั่งยืนและสืบต่อไปค่ะ

สวัสดีครับ แม่ต้อย ผมโชคดี มีวาสนา ที่รู้และร่วมกิจกรรมกับทีม รพ.พระพุทธ และทีมงาน พรพ. ของแม่ต้อย คุณ พรรณ ที่งานตลาดนัดเบาหวาน ความดันที่กระบี่  ได้รู ได้เห็น ได้แลกเปลี่ยน และได้คิด ปรับกระบวนความคิดอีกระดับหนึ่งครับ

สวัสดีค่ะแม่ต้อย

น่ารักจังเลย คนอะไรไม่รู้ พลังๆๆๆๆ

ความใจดีที่สื่อออกมา...

 

 สันทัศน์ ทองงามดี [IP: 119.42.88.32]
น้องสันทัศน์คะ

แม่ต้อยอ่านเรื่องนี้ คิดถึงน้องสันทัศน์ จริงๆคะ

เป็นคนดีเหมือนๆกันเลย

หน้าตาก้ดีเหมือนกันด้วยนะคะ

 

 

. คุณน้อยหน่า
น้องน้อยหน่าคะ

แม่ต้อยเองก็คิดว่า น้องน้อยหน่าเป็นคนหนึ่งที่ทำความดีมากๆ

อยากจะชื่นชมน้อง

และกำลังคิดว่าจะให้น้องมาร่วมแลกเปลี่ยนสักครั้ง

จริงๆคะ

วอญ่า-ผู้เฒ่า-natachoei

สวัสดีคะ

แม่ต้อยเสียใจจริงๆคะที่ไม่ได้ไปกระบี่  จองตั๋วเครื่องบินแล้วด้วยคะ

เพราะมีประชุมเช้าวันจันทร์ จึงยกเลิกก่อนคะ

โครงการนี้แม่ต้อยก็ดูแลนะคะ

เลยเสียดาย..

 

18. แดง
น้องแดงคะ

แม่ต้อยมัวยุ่งๆ น้องแดงหายไปไหนแล้ว

แม่ต้อยอยากทานข้าวด้วยนะคะ

วันหลังมาเจอกันใหม่นะคะ

ขอบคุณมากคะที่มาให้กำลังใจ

ฝากชมดอกกล้วยไม้ที่บ้านด้วยนะคะ

 

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท