อ่านเรื่องราว ศรัทธาในพระเจ้า ตอนที่ 1 ได้นะครับ
ผมได้ไปเยี่ยมอาจารย์ที่บ้านพร้อมกับพยาบาลและเจ้าหน้าที่สถานีอนามัยท่าสายลวด เราเยี่ยมผู้ป่วยสัปดาห์ละ 1 ครั้ง นับจนถึงตอนนี้ประมาณ 3 เดือนแล้วคุณครูมีสามีทำอาชีพเขียนป้าย และมีลูกสาวที่น่ารักอายุ 12 ปี อีกหนึ่งคน ผู้ป่วยมีปัญหาผอมลงมาก แขนบวม(lymphedema)-แขนซ้ายอ่อนแรง(brachial prexus invasion)-มีแผลที่เต้านมซ้ายแต่แห้งดีมากด้วยวิธีทำแผลด้วยสมุนไพร
สามีน่ารักมากครับดูแลภรรยาเป็นอย่างดี-ทำแผลให้
เราพูดคุยกับเธอและเรื่องที่เธออยากให้ช่วยมากที่สุดคือ เรื่องบวม (lymphedema) นักกายภาพของเราไปสอนสามีผู้ป่วยทำนวดลดบวมและ bandaging จนหายบวม
before and after
บทสนทนาบางตอนที่สำคัญ
ช่วงแรกผู้ป่วยต่อต้านการเรื่องการให้ยาระงับปวด
ผม: สามีพี่บอกว่าพี่ปวดจนนอนร้องไห้
คุณครู: ทรมานมากเลยหมอ
ผม: ปัจจุบันเรามียาแก้ปวดที่ดีมากในการบรรเทาอาการ..พี่น่าจะลองกินดูนะครับ
คุณครู : ไม่ค่อยอยากกิน..พี่น่าจะทนได้
ผม: ทำไมต้องทน ?
คุณครู : กลัวว่าจะต้องพึ่งยามากเกินไป.....พระเจ้าคงจะให้บทพิสูจน์พี่
ผมได้ฟังก็ทำให้นึกถึงนิทานเรื่องหนึ่งที่ท่าน ว. วชิรเมธี เคยเล่าให้ฟัง เลยเล่านิทานให้คนไข้ฟัง
"มีชายคนหนึ่งศัทธาในพระเจ้ามาก และปฏิบัติความดีมาตลอดชีวิต วันหนึ่งเรือเขาล่มกลางมหาสมุทร เขาสวดมนต์อ้อนวอนพระเจ้าให้พระเจ้าคุ้มครอง..ต่อมามีเรือกู้ภัยมารับ เขาปฏิเสธเพราะรอพระเจ้าประทานความช่วยเหลือ ...อีกระยะก็มีเฮลิคอบเตอร์มารับ เขาก็ปฏิเสธเช่นกัน.........หลังจากนั้นเขาก็จมน้ำตาย
เขาขึ้นสวรรค์ไปพบพระเจ้า..ก็ต่อว่าพระองค์ที่ไม่ทรงช่วยเหลือ
พระเจ้าตอบว่า "เราส่งเรือไปท่านก็ไม่ขึ้น..เราส่งเฮลิคอบเตอร์มารับ ท่านก็ไม่ไป แล้วท่านจะต่อว่าเราได้อย่างไร?...ฮา..ฮา (เสียหัวเราะดังทั้งห้อง)
ผมก็บอกคุณครูว่า "บางทีพระเจ้าอาจส่งผมมาหาพี่ก็ได้"
ผม "อาการปวดทำให้พี่ไม่สามารถจะมีความสุขกับครอบครัวได้ไม่เต็มที่ ผมคิดว่าพี่สามารถจะมีความสุขได้มากขึ้นหากไม่ปวด" คนไข้ยอมกินยาแก้ปวดและอาการดีขึ้นมาก
ประเด็นความเชื่อทางจิตวิญาณ
ผม "พี่คิดว่าความเจ็บป่วยในมุมมองของ คริสต์ คืออะไร ทำไมพระเจ้าประสงค์ให้พี่ป่วย"
คุณครู " พระเจ้ารักมาก.....เลยให้รับบาป เป็นการทดสอบ"
ผม "เคยน้อยใจพระเจ้าไหม? (ถามยิ้มๆ) "
คุณครู " เคยคะ บางทีก็รู้สึกว่ายากลำบาก เรื่องนี้เป็นเรื่องที่ลึกซึ้งที่เข้าใจยาก.."
ผม" แล้วอย่างผมที่ต้องดูแลคนไข้มะเร็ง จะอธิบายทางคริสต์อย่างไร"
คุณครู "ได้รับพรจากพระเจ้าค่ะ....น้อยคนที่จะมีโอกาสอย่างคุณหมอ"
ผม"พี่คิดว่าเรื่องการเจอกันของเราเป็นเรื่องบังเอิญไหน"
คุณครู "ไม่หรอกค่ะ ทุกอย่างถูกกำหนดไว้แล้ว"
ผม" ผมโชคดีมากที่ได้เรียนรู้ชีวิตแบบนี้..ผมดูคนไข้หลายรายที่เสียชีวิตก่อนเวลาอันควร...ผมได้รู้ว่าชีวิตไม่ยืนยาว น่าจะทำความดีไว้ ทางพุทธเชื่อว่า การที่เราได้เจอกันอาจเป็นไปได้ว่าชาติก่อนพี่อาจเคยช่วยเหลือผมไว้..ผมเลยมีโอกาสมาเยี่ยมพี่"
ผมยังคงดูแลและเรียนรู้จากคุณครูอย่างมากมาย เป็นความสุขทางใจอย่างแท้จริงที่ได้เรียนชีวิตจริงแบบที่ไม่มีตำราเล่มไหนสอนได้
น่าจะยังมีตอนที่ 3 ต่อนะครับ...แล้วเจอกันครับ
มาชื่นชมและเป็นกำลังใจให้คนทำงานด้วยหัวใจและจิตวิญญาณค่ะ และมาเรียนรู้ด้วยคนนะคะ เรียนรู้ชิวิต จากชีวิต (ประโยคนี้ขอยืมอาจารย์สกล มาค่ะ)
สวัสดีครับอาจารย์หมอเจ๊-ขอบคุณที่แวะมาครับ ถึงจะยังไม่เคยเจอกันแต่ก็เจอกันใน gotoknow ได้ครับ
ขอบคุณสุจิราสำหรับกำลังใจครับ
สวัสดีครับอาจารย์เต็ม-เดี๋ยวตอนหน้าเล่าให้ฟังครับผม
สวัสดีงามๆเจ้า ท่านอาจารย์ แวะมาเยี่ยมblogวันนี้ก็ยังได้ประสปการณ์ดีๆผ่านเรื่องเล่าเหมือนเช่นเคยนะคะ มาขอเรียนลัดด้วยคนค่ะ เผื่อว่าวันข้างหน้ามีโอกาสเจอคนไข้ที่เป็นคริสเตียนจะได้เรียนรู้และเยียวยากันได้ ขอบคุณค่ะ
ขอบคุณพี่ไพรินทร์ที่แวะมาครับ