ผจญภัยในป่าแอฟริกใต้กับเวลาสุดท้ายที่เหลืออยู่


ปัจจุบันนี้ ศิลาพบเธอครั้งใด เธอก็จะเต็มไปด้วยรอยยิ้มเช่นเดิม … เสมือนเมื่อเธอยังมีความรักที่สดใส หรือเสมือนว่าเธอยังมีเขาอยู่…หากว่าสังเกตแววตาเธอดี ๆ จะเปลี่ยนแปลงไป…มันไม่ใช่ความสุขของคนที่มีความรักเหมือนที่ผ่านมา แต่เป็นความสุขของผู้ที่มองเห็นธรรมชาติแห่งชีวิตและสัมผัสการเรียนรู้ทุกข์เพื่อเข้าถึงธรรม

 (ฟังเพลงประกอบด้วยก็จะดีนะคะ ไพเราะดีค่ะ แต่แนว Romantic Tragedy หน่อยนะคะ)

 

ในชีวิตหนึ่งของคนเรา  เลือกไม่ได้ว่าจะได้พบเจอใครบ้าง และคนนั้นจะเป็นอย่างไรแต่เราเลือกได้ที่จะทักทาย และสานต่อความสัมพันธ์นั้นให้ยั่งยืนคงไม่มีใครแย่ไปเสียทั้งหมด  จึงไม่ควรปล่อยให้เป็นแค่คนที่ผ่านมา ผ่านไป  เพราะเวลานั้นสั้นนัก

 

 

 

ลองคบกันดู อาจจะเรียนรู้และซึมซับสิ่งดีงามของกันและกัน หรือให้บทเรียนแก่กันไม่ว่าจะเป็นรูปแบบใดก็ตาม  โดยไม่จำกัดว่าจะต้องเป็นเรื่องดี ๆ เสมอไป  แม้เรื่องแย่ ๆ แต่ก็สะท้อนอะไรให้เราได้เข้าใจนิยามใหม่ ๆ เหมือนกัน 

 

           

               

                          เราต่างพึ่งพาอาศัยกัน

                   

 

 

 

เพราะหากมองไม่เห็นจุดอ่อน  เราย่อมไม่รู้ว่ามีจุดแข็ง

หากมองไม่เห็นสิ่งที่เลวร้าย  ก็ย่อมไม่รู้ว่ามีสิ่งดี ๆ ที่ต้องรักษาไว้

 

 

 

 

ในบันทึกนี้  จึงขอกล่าวถึงเรื่องราวความรักของเพื่อนศิลา 

 

ช่วงหนึ่งของชีวิตเธอโชคดีมากค่ะ โชคดีที่มีคนรักที่แสนดี คบกันมาประมาณ 10 ปี ไม่มีเรื่องอะไรทำให้ขุ่นข้องหมองใจ  …ในที่นี้ หมายถึงเรื่องที่ผู้หญิงมักจะกลัวที่สุด  อันได้แก่ ความเจ้าชู้  รองลงมาก็น่าจะเป็นการพนัน และเมาสุรา ตามลำดับ

 

 

         

ทั้งสองคนไปไหนมาไหนด้วยกันเสมอ เป็นคู่รักปาท่องโก๋…เขาสองคนคบกันตั้งแต่เรียนจบใหม่ ๆ จนทำงานกันได้หลายปีทีเดียว… 

 

                  

                                     Soulmate

 

 

ทุกครั้งที่เจอหน้าเธอ ก็จะเห็นใบหน้าเต็มไปด้วยรอยยิ้มแห่ง

ความสุขสมหวัง…เราก็ชื่นใจ ซาบซึ้งไปกับเธอด้วย   

 

 

 

ในที่สุดวันที่เธอรอคอยก็มาถึงค่ะ  เธอได้แต่งงานใช้ชีวิตอยู่ร่วมกันได้เกือบ 1 ปี และจากนั้นเธอก็วางแผนกันว่าจะไปฮันนีมูนที่แอฟริกาใต้

                  

                            ผจญภัยร่วมกัน

 

       

 

          

 

                                           

 

           

 

 

 

ศิลาปลื้มใจแทนค่ะ…คู่รักฮันนีมูน ข้าวใหม่ปลามันไปเที่ยวผจญภัยในป่าแอฟริกาใต้  สุดที่จะคาดเดาความสุขหรรษาที่สุดของที่สุดในชีวิตคู่…เรารึก็อยากไปแบบนี้บ้าง ไม่มีโอกาสสักที

 

      

 

                         

โชคชะตาพลิกผันค่ะ…ศิลาอาจจะรู้ข่าวช้าไป แต่ก็ทัน..ทันที่จะไปร่วมงาน…

 

                 

                          ความไม่แน่นอนคือความแน่นอน  

 

 

สามีของเพื่อนศิลาจากไปกระทันหันหลังจากเขาทั้งสองกลับมาจากแอฟริกาใต้ได้แค่สัปดาห์เดียว…ทุกอย่างเกิดขึ้นเร็วมากค่ะ  ศิลาโทรไปแสดงความเสียใจกับเพื่อนก่อนที่จะไปร่วมงาน  เธอเล่าเสียงเศร้าอย่างที่สุด  ศิลาไม่เคยได้ยินเสียงที่เศร้าสร้อย เบาหวิวเหมือนสายลมเอื่อย ๆ หรือเหมือนคนกำลังหมดลมหายใจแบบนี้มาก่อน

 

 

 

เธอบอกว่าสามีเธอติดไข้หวัดจากแอฟริกาใต้…สายพันธุ์ที่แพทย์ผู้รักษาไม่ทราบมาก่อน  ตอนแรกก็สันนิษฐานว่าเป็นไข้หวัดใหญ่   ไม่น่าจะมีอะไร  แต่เพียงรู้ว่าเป็นไข้หวัด ได้ 3 วัน ก็จากไปอย่างรวดเร็วมาก และก็มารู้ทีหลังว่าเป็นไข้หวัดนำเข้าจากต่างประเทศ

 

 

 

ศิลาขอไม่ลงรายละเอียดของการวินิจฉัยโรคใด ๆ เพราะไม่รู้จริงเท่ากับเพื่อนของศิลา และอีกอย่างเรื่องนี้ก็ผ่านมาแล้ว  ...เธอบอกว่าเป็นเรื่องของกรรม

 

               

เพื่อนของศิลาเล่าว่าระยะเวลาสั้น ๆ ที่อยู่ที่แอฟริกาใต้  เขามีความสุขมาก  เพื่อนยังจดจำรอยยิ้มเปี่ยมสุขของสามีได้...และไม่รู้สึกเสียใจกับการไปเที่ยวดินแดินแห่งการผจญภัยที่ป่าแอฟริกาใต้

 

 

เธอลงท้ายคำพูดหนึ่งก่อนวางสายว่าเรารู้แล้วล่ะ ว่าตอนที่เธอสูญเสียคุณพ่อคุณแม่ และอยู่แบบไม่มีใครเป็นอย่างไร  คงทุกข์มากกว่าเราหลายเท่านักศิลากล่าวในตอนนั้นกับเธอว่าความทุกข์ไม่ใช่เรื่องที่นำมาเปรียบเทียบกันได้ว่าใครทุกข์กว่ากัน ขอเพียงเราผ่านความทุกข์นี้ไปอย่างไรให้ได้ต่างหาก

 

 

 

หลังจากงานฌาปนกิจศพสามีของเธอผ่านไป  เราก็ได้พูดคุยกัน  เรื่องแรกก็คือความรู้เกี่ยวกับกฎหมายมรดก  ศิลาก็ใช้ความรู้ที่มีแนะนำเธอไป  ลงท้ายด้วยว่าหากทายาทตกลงกันได้ (เพื่อความสัมพันธ์ระยะยาว) ก็ไม่จำเป็นต้องพึ่งบารมีศาลหรอกนะคะ เห็นใจศาลด้วย ยังต้องพิจารณาอีกหลายคดี

 

                       

 

เรื่องที่สองที่คุยกันก็คือเรื่องการสร้างพระ..เธออยากสร้างพระ…ศิลาไม่ตอบโดยตรงว่าส่งเสริมหรือไม่อย่างไร  เพียงแนะนำว่าในเรื่องสร้างพระ  แล้วแต่ค่ะ… เพียงขอให้เพื่อนไปปฏิบัติธรรมดูนะ  จะได้มีแนวทางมาใช้ในการดำเนินชีวิตทุกลมหายใจที่มีอยู่นับจากนี้ไป

                  

              

 

ผ่านไปหลายเดือน  ศิลาก็ได้คุยกับเพื่อนอีก  เธอลาเป็นเดือน  เพื่อไปปฏิบัติธรรมที่ลำปางค่ะ…และก็ไปอีกหลาย ๆ แห่งตามแต่โอกาส … โดยเธอจะให้ความสำคัญกับการทำบุญและการปฏิบัติธรรมสำหรับชีวิตที่เหลืออยู่

   

                                         

 

ปัจจุบันนี้ ศิลาพบเธอครั้งใด  เธอก็จะเต็มไปด้วยรอยยิ้มเช่นเดิม … เสมือนเมื่อเธอยังมีความรักที่สดใส  หรือเสมือนว่าเธอยังมีเขาอยู่…หากว่าสังเกตแววตาเธอดี ๆ จะเปลี่ยนแปลงไป…มันไม่ใช่ความสุขของคนที่มีความรักเหมือนที่ผ่านมา  แต่เป็นความสุขของผู้ที่มองเห็นธรรมชาติแห่งชีวิตและสัมผัสการเรียนรู้ทุกข์เพื่อเข้าถึงธรรม  

เวลาที่เราชอบพอ หรือรักใครสักคน ไม่ว่าจะในฐานะอะไร  ไม่ได้นานนักหนาอะไร

 

 

 

ในเมื่อมีโอกาสได้ผ่านมารู้จักกันแล้ว  ลองทักทายและสร้างสัมพันธ์กันดู

 

                       

     การทักทาย ก็เพื่อเคารพการมีตัวตน

 

 

 

 

อาจจะมีสิ่งต่าง ๆ มากมายหลากหลายให้แลกเปลี่ยนเรียนรู้ซึ่งกันและกัน ไม่ว่าสิ่งนั้นจะดีหรือเลว…ขอเพียงแค่ต่างฝ่ายต่างยอมเปิดประตูเข้าหากันก็พอแล้ว…ด้วยเชื่อว่าเราต่างมีภูมิคุ้มกันแห่งความดีพอสมควรที่จะหันหน้าเข้าหากัน…

 

 

 

ยิ่งไปกว่านั้น  ก็คือการมองเห็นและเข้าถึงธรรมชาติ...เพราะ

 

 

 

 

เวลาแห่งมิตรภาพและเข้าถึงธรรมชาตินั้นมีน้อยเหลือเกิน ควรใช้เวลานั้นให้คุ้มค่า

 

                          ------------------------

  ขอบพระคุณเพลงประกอบ series เกาหลีเรื่อง Full House โดย Ost.

คำสำคัญ (Tags): #happy ba#happy soul#soul mate
หมายเลขบันทึก: 260257เขียนเมื่อ 10 พฤษภาคม 2009 13:36 น. ()แก้ไขเมื่อ 6 กันยายน 2013 20:43 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (41)

สวัสดีคะคุณศิลา

ขอแสดงความเสียใจกับเพื่อนคุณศิลาด้วยคะ

มิตรภาพเป็นสิ่งที่ดี การได้รู้จักใครสักคนเป็นบุญวานาที่ได้พบกันคะ

มาอ่านเรื่องเศร้าค่ะ เสียใจกับเพื่อนคุณศิลาด้วยนะคะ

ภาพประกอบจากธรรมชาติสวยมากๆ เลยค่ะ เป็นชีวิตที่มีทั้งเกื้อกูลและแข่งขัน แย่งชิงกัน ก็คือชีวิตของชีวิตจริงๆ นะคะ

สวัสดีค่ะ

อ่านไปขนลุกไป...

ข่าวเศร้าๆที่หลีกหนีไม่พ้น...

เสียใจกับเพื่อนคุณศิลาด้วยนะคะ

สวัสดีค่ะ

  • เป็นเรื่องเศร้าค่ะ
  • เวลาแห่งความสุขนั้นสั้นนัก
  • เรื่องของชีวิต..ไม่ควรประมาทนะคะ
  • ความสุขจากความสงบร่มเย็นในใจ..เป็นความสุขที่ยั่งยืนนะคะ

สวัสดีค่ะคุณศิลา

คุณศิลาสบายดีนะคะ...

เรื่องเศร้าจังเลยค่ะ...ขอเป็นกำลังใจให้เพื่อนคุณศิลาด้วยนะคะ

และขอขอบคุณ..สำหรับเรื่องราวที่ทำให้รู้ซึ้งถึง..ความไม่แน่นอนของชีวิต

เวลาแห่งมิตรภาพและเข้าถึงธรรมชาตินั้นมีน้อยเหลือเกิน ควรใช้เวลานั้นให้คุ้มค่า

เมื่อเช้าฟังธรรมะของท่านพระมหาวุฒิชัย (ทางทีวีช่อง 7)ท่านสอนว่า การปฏิบัติธรรม คือการแฝงตัวอยู่กับธรรมชาติตามความเป็นจริง โดยไม่ทุกข์

ขอให้คุณศิลามีความสุขทุกวันนะคะ..

ระลึกถึงเสมอค่ะ

  • ดีใจที่คุณประกาย P มาเยี่ยมบ้านค่ะ 
  • มิตรภาพเป็นสิ่งที่สวยงาม เป็นบุญวาสนาที่เราได้มารู้จักกัน ควรใช้เวลาที่มีอยู่ด้วยกัน แม้ไม่มีพรุ่งนี้ก็คงไม่เสียใจ เพราะวันนี้เราใช้เวลาอย่างคุ้มค่าแล้วนะคะ  ขอบพระคุณที่แวะมาเติมเต็มให้อบอุ่นใจค่ะ

เป็นข่าวเศร้าที่เกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว..ไม่ทันตั้งตัวนะคะ..สงสารเพื่อนคุณศิลาจัง

แต่ก็ยังมีกำลังใจที่ดีมากมายที่ต่อสู้ชีวิตต่อไป..

ขอให้มีความสุขมากมากนะคะคุณศิลา

เวลาแห่งมิตรภาพและเข้าถึงธรรมชาตินั้นมีน้อยเหลือเกิน ควรใช้เวลานั้นให้คุ้มค่า

อ่านอย่างละเอียดค่ะ เคร้า แต่ก็ถูกใจกับข้อความข้างบนมากค่ะ

 

  • คุณดาวลูกไก่ P สะท้อนสิ่งที่ศิลาอยากบอก แต่นึกคำไม่ออกได้โดนใจจริง ๆ ค่ะ  ...คิดอยู่ก่อนนำเสนอว่าจะสื่อภาพอะไรดีที่ให้เห็นความเป็นจริงของชีวิตที่สุข เศร้า และเจ็บปวด...
  • คุณดาวลูกไก่ ก็มาต่อเติมด้วยถ้อยคำว่า

"ภาพประกอบจากธรรมชาติสวยมากๆ เลยค่ะ เป็นชีวิตที่มีทั้งเกื้อกูลและแข่งขัน แย่งชิงกัน ก็คือชีวิตของชีวิตจริงๆ... "

  • เพราะธรรมชาติมันเป็นอย่างนี้อยู่แล้ว อยู่ที่เราเองต่างหากจะเข้าใจไหม นี่คือ concept ลึกๆ ในใตค่ะ...
  • ขอบพระคุณค่ะที่มาเติมได้ลงตัว ปิดช่องว่างหมดเลย อิอิ
  • นี่คือ concept ลึกๆ ในใจค่ะ...
  • สวัสดีค่ะคุณพี่แดง P ศิลานาน ๆ ทีเจอข่าวเศร้า แต่เจอทีก็บาดลึกเหมือนกันค่ะ 
  • ต้องขอเรียนว่าศิลาอาจจะปลอบใจใครไม่เก่งเท่าไหร่ จะเน้นทางแก้ปัญหามากกว่า  เพราะแม้กระทั่งตัวเอง เวลาเสียใจที่สุด ก็ยังร้องไห้เป็นเวลาเลยค่ะ  จริง ๆ อยากร้องก็น่าจะร้องไปซิ
  • เวลาเพื่อนสนิทมาให้ศิลาปลอบ เขาก็จะรู้ว่าจะเป็นแนวแก้ไขปัญหาให้มากกว่าระบายออกมาอย่างเดียว
  • ตอนนี้ เพื่อนศิลาดีขึ้นแล้วค่ะ ผ่านมาได้ปีกว่าแล้ว รอยยิ้มยังมีให้เสมอ แสดงว่าเธอแน่มาก
  • คุณพี่ครูคิม P กล่าวได้ถูกต้องแล้วค่ะ
  • เรื่องของชีวิต..ไม่ควรประมาทนะคะ
  • ความสุขจากความสงบร่มเย็นในใจ..เป็นความสุขที่ยั่งยืนนะคะ
  • เราจึงให้ความสำคัญและคุณค่าแก่มิตรภาพที่มีต่อกัน อย่างที่คุณพี่ครูคิมทำอยู่ทุกวันนี้ เป็นแบบอย่างที่ดีงามมากค่ะ
  • ขอยกคำกล่าวของคุณสีตะวัน P มาเติมเต็มอีกครั้งค่ะ
  • การปฏิบัติธรรม คือการแฝงตัวอยู่กับธรรมชาติตามความเป็นจริง โดยไม่ทุกข์
  • อาจจะมีทุกข์บ้างในบางครั้ง แต่ก็คงน้อยลงและสั้นลงนะคะ หากว่าปฏฺิบัติธรรมได้ในทุกขณะจิตที่รู้ตัวค่ะ
  • ขอบพระคุณค่ะ และระลึกถึงเสมอค่ะ รอบันทึกใหม่อยู่นะคะ

สวัสดีครับ พี่ศิลาฯ

เขียนเรื่องเศร้าๆ ได้อย่างโศกซึ้ง และสวยงาม

แถมยังแฝงด้วยแง่คิด และมุมมองต่อชีวิต

...

อ่านจบแล้ว ได้ข้อสรุป ที่ตัวเองยังทำไม่ได้ แต่คิดได้ว่า

"เมื่อรู้ทุกข์ เห็นทุกข์  สุขก็แจ้ง"

พยายามอยู่ครับ

ตอนนี้มันเห็น และหลงอยู่แต่กับสุขปลอมๆ ครับ

สวัสดีคะ  น้องศิลา

 อ่านเรื่องนี้แล้ว บอกไม่ถูกว่ามีความรู้สึกอย่างไรคะ มีความสุข มีความคาดไม่ถึง มีแง่คิด และการใช้ชีวิตอย่างถุกต้อง และที่สำคัญคือการใช้ชีวิตอยู่ร่วมกันของเพื่อนมนุษย์ ร่วมโลกนี้  ที่งดงาม เช่นน้องศิลา และเพื่อน ที่ได้ประคับประคองความรู้สึกของกันและกัน

ขอบคุณน้องศิลามากคะ

ที่ทำให้ทุกคนที่ได้อ่านเรื่องนี้ อย่างน้อยก็มีสติในการใช้ชีวิตให้ผ่านความทุกข์ ที่อาจจะเกิดขึ้น

ความทุกข์ไม่ใช่เรื่องที่นำมาเปรียบเทียบกันได้ว่าใครทุกข์กว่ากัน ขอเพียงเราผ่านความทุกข์นี้ไปอย่างไรให้ได้ต่างหาก

สวัสดีค่ะพี่ Sila Phu-Chaya

คิดถึงจังเลย...

ขอบคุณมากคะพี่ศิลา...

อ่านแล้วรู้สึกดีจังคะ

เปิดประตูๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆช่ายไหมคะ

^_^  พี่ศิลาสบายดีนะคะ

 

  • สวัสดีค่ะคุณ add  P สาวสวยหัวใจสีชมพู มองไปทางไหนก็มีแต่เพื่อนทุกข์ ... ทำให้เราเข้าใจธรรมชาติมากยิ่งขึ้นนะคะ
  • จับมือกันไว้แล้วไปด้วยกันค่ะ  สุขก็สุขด้วยกันนะคะ (ทุกข์มีอยู่คู่เราแล้วตั้งแต่กำเนิด อิอิ)
  • ดีใจที่เห็นคุณ Sasinand   P มาทักทายค่
  • ประโยคสำคัญของค่ะ บันทึกนี้เลย

    เวลาแห่งมิตรภาพและเข้าถึงธรรมชาตินั้นมีน้อยเหลือเกิน ควรใช้เวลานั้นให้คุ้มค่า

  • เราเปลี่ยนแปลงธรรมชาติที่เกิดขึ้นกับเราไม่ได้เลย แต่เราเข้าถึงและยอมรับเขาได้ ขณะเดียวกันสิ่งที่เกิดขึ้นก็ทำให้เข้าใจว่าจะโกรธ เกลียด ชัง เฉย กันไปทำไม เวลาไม่ได้มากมายอะไร มิตรภาพนั้นไซร้สำคัญกว่า

สวัสดีครับอาจารย์  เห็นด้วยนะครับ ชีวิตคนเราสั้นนัก...

  • ดีใจที่น้องซวง P แวะมาไม่ได้เห็นใบหน้าสดใสไร้เดียงสาตั้งนาน ไปเข้า course ดูจิตเป็นอย่างไรบ้างคะ
  • กว่าจะเขียนเรื่องนี้ออกมา ไม่ใช่ง่ายเลย เพราะต้องตัดอารมณ์ส่วนตัวให้เขียนเป็นกลาง ๆ ที่เข้าถึงธรรมชาติความเป็นจริงให้ได้
  • ถามว่าอารมณ์ส่วนตัวคืออะไร ก็คือความอาลัย เห็นใจ สงสาร พี่ศิลาต้องรอดูให้อารมณ์แบบนี้ดับไปเอง ก่อนที่จะเขียนแบบภววิสัยค่ะ
  • การเรียนรู้ตัวเองเป็นการปฏิบัติธรรมอย่างหนึ่ง รู้ทุกข์ก็ดีแล้วนะคะ จะได้ทุกข์น้อยลง ... ดีใจที่มีเพื่อนร่วมทางหลายท่าน

อ่านแล้วเศร้าค่ะ เป็นกำลังใจให้ผู้สูญเสีย เก็บความทรงจำดีดี ไว้ แม้เป็นช่วงเวลาระยะสั้น เขาอย่ในใจเราตลอดไปค่ะ

  • ขอบพระคุณคุณแม่ต้อย P ที่สะท้อนสุขทุกข์ในเรื่องเดียวกันนี้ได้อย่างอย่างดงาม ทำให้เห็นธรรมจริง ๆ
  • ความพอใจในสุขก็ทำให้ทุกข์ได้เหมือนกันค่ะ เวลาพอใจมาก ๆ ก็เห็นว่าตัวเองพอง และฟุ้ง...ศิลาจึงเห็นว่าสิ่งนี้เป็นทุกข์ที่เราเรียกว่าสุขเพราะมันทำให้จิตใจเบิกบาน...เวลาใช้ชีวิตกับคนที่รักก็จะพยายามเตือนตัวเองเหมือนกันเกี่ยวกับเวลาที่สั้นนัก อย่าใช้ฟุ่มเฟือย...รักและเข้าใจกันให้มาก ๆ จะได้ไม่เสียใจเมื่อเวลาที่พึงประสงค์มาถึงค่ะ
  • ดีใจค่ะที่แวะมาเยี่ยมศิลาในบันทึกนี้

วันนี้เหนื่อยมากมาก..เปิดสำนักงานใหม่คะ..ยุ่งเชียว

แต่เหนื่อยก็ขอเข้ามาทักเพื่อนมิตรภาพที่แสนดีก่อนนะคะ

ราตรีสวัสดิ์คะ..ตั้งใจจะเข้านอนเร็วหน่อย

  • สวัสดีค่ะคุณครูเทียนน้อย P ผู้ส่องประกายแนวทางชีวิต...มองโลกในแง่ดีอยู่แล้ว ขอเพียงแค่เปิดประตูทักทายกัน หัวกระไดก็จะไม่แห้งค่ะ เอ เกี่ยวอะไรกันนี่...พอดีไปอ่านเรื่องโสดของน้องมา พี่ศิลาก็เลยแถมว่าคนดี ๆ คงไม่มีหนุ่มดี ๆ ที่ไหนปล่อยให้หลุดมือแน่นอน
  • การอยู่คนเดียวช้าเร็วก็ต้องเกิดขึ้นกับทุกคน หากมีโอกาสก็ลองดูนะคะว่าชีวิตคู่จะรวมพลังกันได้มากน้อยแค่ไหน เชื่อว่าน่าจะเป็นพลังบวกค่ะ 
  • ดีใจค่ะที่มาร่วมเติมฝันกัน

สวัสดี ครับ คุณ sila

มาช้า...ไปกับเรื่องเล่า ดี ดี

อ่าน 2 รอบ  ทำไม ถึงเขียนเล่าเรื่องได้ดี อย่างไม่มี ที่ติ

อ่านแล้ว รู้สึกถึงอารมณ์ร่วมไปกับคุณ sila

ได้ สัจจธรรม นำกลับติดตัวไป

เราต่างพึ่งพาอาศัยกัน

 

เพราะหากมองไม่เห็นจุดอ่อน เราย่อมไม่รู้ว่ามีจุดแข็ง

หากมองไม่เห็นสิ่งที่เลวร้าย ก็ย่อมไม่รู้ว่ามีสิ่งดี ๆ ที่ต้องรักษาไว้

 

น้ำตาซึม ครับ

ขอร่วมเป็นส่วนหนึ่ง ของการสูญเสีย ครั้งนี้

และขอร่วมเป็นส่วนหนึ่ง...ของการได้....กลับคืนมา

ขอบพระคุณมาก ครับ คุณ sila

ระลึกถึงเสมอ

 

 

 

 

 

ผมออกจากระบบแล้ว

เห็นคุณ ทำบันทึกย่อ ๆ เอาไว้

เลยเข้ามาอีกรอบครับ

มาส่งยิ้มให้ ก่อนกลับบ้าน

ด้วยกาแฟ(อ่อน ๆ ) คุณภาพคับแก้ว ถ้วยนี้ ครับ

ส่วนผสมทั้งหมด ตั้งใจคัดมาอย่างดี

แค่ได้กลิ่น...คุณ sila ก็จะยิ้มแป้น....กับกลิ่นกาแฟถ้วยนี้ เลย ครับ

มีความสุข ในงานที่ทำ นะครับ

กลับก่อน นะครับ

 

  • สวัสดีค่ะ คุณหนุ่มกร P บางครั้งชีวิตที่สั้นและมีความหมาย น่าจดจำและประทับใจมากเลยนะคะ
  • บางทีศิลาสังเกตว่าเราใช้ชีวิตมาอย่างยาวนาน แต่กลับจดจำอะไรไม่ได้เลยว่าเคยทำสิ่งดี ๆ อะไรมาบ้าง แต่หากเรารู้สึกว่าเวลามีค่าและทำสิ่งดี ๆ แม้จะสั้น ๆ แต่จดจำได้นานมากเลยค่ะ

จริงค่ะ คุณน้อยหน่า P ช่วงเวลาแม้จะสั้น แต่อยู่ในใจเราตลอดไป

ศิลาเคยเจอผู้ใหญ่ท่านหนึ่งเพียงครั้งเดียว แต่ก็จำได้ไม่ลืม บางครั้งไม่ได้อยู่ที่เวลาที่เราคบกันหรือเจอกัน แต่อยู่ที่ว่าเราทำอะไรให้แก่กันบ้างในช่วงเวลาสั้น ๆ นั้น

  • ไปชมสำนักงานใหม่ของคุณ add P มาแล้วนะคะ
  • ชอบสาวที่สวมชุดไทยจังเลย  หากใส่ชุดแบบนี้ในสำนักงานทุกวัน  คนเข้าออกชื่นใจแน่เลยค่ะ  ความเป็นไทย ๆ ทำให้บรรยากาศในการทำงานมีความขลังมากเลยน๊า

ตามดูไม่ทันเลย งานยุ่งมากมาทักทายก่อนนะครับ

สวัสดีค่ะคุณศิลา

เคยเข้ามาอ่านเร็ว ๆ ไปแล้วครั้งหนึ่งค่ะ แต่ยังไม่ได้คอมเม้นท์ วันนี้พอมีเวลา ...

คนไม่มีรากเชื่อเสมอว่า ทุกสิ่งทุกอย่างที่เกิดขึ้น ไม่มีคำว่า "บังเอิญ" แต่เกิดขึ้นเพื่อ "แสดง" บางสิ่งบางอย่าง ให้เกิดการเรียนรู้ ...และเราจะเติบโตจากเหตุนั้น...คนไม่มีรากอ่านเรื่องของเพื่อนคุณศิลาแล้ว ไม่เศร้าเหมือนที่บางคนรู้สึก แต่กลับรู้สึกว่า เธอมีเหตุปัจจัยที่ผลักดันให้มาพบกับ...ธรรมะ...ปัจจุบันนี้ ศิลาพบเธอครั้งใด  เธอก็จะเต็มไปด้วยรอยยิ้มเช่นเดิม เสมือนเมื่อเธอยังมีความรักที่สดใส  หรือเสมือนว่าเธอยังมีเขาอยู่หากว่าสังเกตแววตาเธอดี ๆ จะเปลี่ยนแปลงไปมันไม่ใช่ความสุขของคนที่มีความรักเหมือนที่ผ่านมา  แต่เป็นความสุขของผู้ที่มองเห็นธรรมชาติแห่งชีวิตและสัมผัสการเรียนรู้ทุกข์เพื่อเข้าถึงธรรม  

ขอบคุณข้อคิดดี ๆ จากคุณศิลานะคะ

ลืมบอกไปว่า ความสุขเกิดขึ้นทุกวันภายในใจเราเอง และเมื่อได้คุยกับกัลยาณมิตรค่ะ....ใจยิ้ม มันเลยยิ้มหน้าบานทั้งวัน...

(^__^)

  • สวัสดีค่ะ คุณแสงแห่งความดี P คำที่คุณแสงแห่งความดียกมานี้ กลั่นมาจากหัวใจที่ผ่านมาหลายฤดูเลยนะคะ
  • เราต่างพึ่งพาอาศัยกัน

     เพราะหากมองไม่เห็นจุดอ่อน เราย่อมไม่รู้ว่ามีจุดแข็ง

    หากมองไม่เห็นสิ่งที่เลวร้าย ก็ย่อมไม่รู้ว่ามีสิ่งดี ๆ ที่ต้องรักษาไว้

  • ความรู้สึกที่เขียนในขณะนั้น  อยากบอกดัง ๆ ว่าทุกคนมีข้อดี ข้อด้อย  เราสามารถเรียนรู้เพื่อสะท้อนซึ่งกันและกันได้  เพราะเชื่อว่าทุกคนมีพื้นฐานจิตใจที่ดี แต่อาจมีกลไกการปกป้องตนเองที่แตกต่างกันออกไป การเปิดรับโดยไม่มีเงื่อนไข สำหรับผู้ที่ผ่านร้อนผ่านหนาวมามาก น่าจะทำได้

  • แต่หากตัดความสัมพันธ์ดี ๆ ที่น่าจะมีต่อกัน เราคงพลาดโอกาสเรียนรู้อะไรที่แตกต่างหลากหลาย...และเวลาก็แสนสั้นนัก...

  • คุณแสงแห่งความดี เก็บแก่นแท้ของเรื่องได้เก่งจังค่ะ

  • ขอบพระคุณนะคะ สำหรับกาแฟร้อนและของว่าง เวลาทานตอนว่างจากงานยุ่ง ๆ ดูโรแมนติคดีค่ะ

  • เรียนท่านอาจารย์ขจิต P  ชอบคำนี้มากค่ะ "ตามดูไม่ทันเลย งานยุ่งมากมาทักทายก่อนนะครับ"  
  • ให้ความรู้สึกว่าบันทึกของศิลาเสมือนเคลื่อนไหวได้ และเร็วมากด้วยจนตามดูไม่ทันเลย อิอิ

ขอแสดงความเสียใจกับเพื่อนศิลาค่ะ

Ofk9

  • ขอบพระคุณคุณคนไม่มีราก P ค่ะ แวะมาหาศิลาครั้งไร เรื่องเศร้า ทุกข์ใจก็กลายเป็นสุข สบายใจทุกครั้งไปค่ะ
  • รู้ทุกข์ รู้ธรรมจริง ๆ ค่ะ
  • ขอบพระคุณคุณเกศนี P ที่แวะมาเยี่ยมค่ะ
  • ตอนนี้ เพื่อนศิลาหายเศร้าแล้วค่ะ

ขอแสดงความเสียใจกับเพื่อนคุณศิลาที่สูญเสียคนรักไปค่ะ แต่ก็น่าดีใจที่เห็นรอยยิ้มเค้า กลับมาอีกครั้งค่ะ ... ด้วยเหตุที่เค้ามีเพื่อนที่รักและเข้าใจธรรมชาติแห่งชีวิตและสัมผัส การเรียนรู้ทุกข์เพื่อเข้าถึงธรรม น่ายกย่องค่ะ ..

ขอบคุณคุณศิลาที่แวะไปทักทายนะค่ะ ...

ดีใจที่คุณศิลาชอบรูปแบบการแต่งบล็อกค่ะ

  • ศิลาเพิ่งปรับแต่งบล๊อกและบันทึนี้ใหม่ว้นนี้ พอดี นับเป็นเกียรติมากค่ะที่ได้ต้อนรับคุณ NuiErnik P คนแรกเลย (หลังแต่งเสร็จ) ...
  • ชอบ code ที่นำเสนอไว้ในบันทึกคุณ   NuiErnik และได้นำไปใช้แล้วค่ะใน Blog "English Writing"
  • ขอบพระคุณค่ะ ที่ได้มีโอกาสแบ่งปันสิ่งดี ๆ ด้วยกัน

๓ ปีแล้ว บันทึกยังไม่เก่าเท่าคนเลย ;)...

ป.ล. นางเอก Full House สเป๊กเลยเนี่ย

ตามมาอ่านต่อค่ะคุณ sila รู้สึกซาบซึ้งในความรักที่เค้ามีกันและกัน แล้วดูเหมือนว่ามันจะไม่มีใครมาแทนที่สามีที่จากเธอไปได้อีกแล้วนะคะ เป็นเรื่องที่น่ายินดีค่ะ ที่ผู้หญิงคนนี้ได้เห็นทุกข์ จนเข้าถึงธรรม เห็นหลายรายที่ได้พระธรรม คำสอน เป็นธรรมโอสถ เยียวยานอกจากเวลา ในเรื่องของการพลัดพรากจากสิ่งอันเป็นที่รัก ถ้าหากคิดเล่นๆ ว่าเป็นตัวเราเอง ที่ประสพกับเรื่องแบบนี้ คงจะบวชชี อย่างนางปฐาจาราเป็นแน่ อิอิ

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท