paradigm อะไรที่อยู่ในหัวและหัวใจของราชภัฏขณะนี้


paradigm อะไรที่อยู่ในหัวและหัวใจของราชภัฏขณะนี้

" มีสถาบันอุดมศึกษาจำนวนหนึ่ง (เขาเอ่ยว่าส่วนใหญ่เป็นสถาบันราชภัฎ) เปิดหลักสูตรพยาบาลศาสตร์ โดยไม่ขออนุมัติหลักสูตรและการจัดการศึกษาจากสภาการพยาบาลเสียก่อนจนนักศึกษาใกล้จบก็ไปบีบสภาการพยาบาลว่าต้องอนุมัติเพราะรับนักศึกษามาแล้ว และนักศึกษาก็ใกล้จบแล้วบางแห่งใช้วิธีบอกนักศึกษาว่า หน่วยงานที่มีปัญหา ที่จะเป็นตัวกีดกันการจบปริญญา หรือทำให้ปริญญาได้รับการรับรองก็คือสภาการพยาบาล "

นี่เป็นส่วนหนึ่งของข้อความที่อยู่ในบันทึก ของอาจารย์หมอวิจารณ์ พานิช หากสนใจข้อความทั้งหมด โปรดอ่านโดยกดที่นี่

เหตุที่หยิบเรื่องนี้ ขึ้นมาไว้ในบันทึกนี้อีก เพราะในบันทึกระบุชัดเจนว่ามหาวิทยาลัยราชภัฏเป็นตัวการสำคัญ

วิธีการแบบนี้ น่าจะไม่ใช่สิ่งที่วิญญูชนพึงกระทำ

วิธีการแบบนี้ เป็นวิธีการที่ฉ้อฉล ซึ่งอาจารย์หมอวิจารณ์พูดด้วยภาษาสุภาพ ๆว่า

"สถาบันที่ทำเช่นนั้นเขาไม่ได้ทำเพราะรู้เท่าไม่ถึงการณ์แต่ทำด้วยเจตนาเบี้ยวและใช้วิธีการทางสังคมในการบีบบังคับหน่วยที่ทำหน้าที่ regulatory "

โดยเฉพาะ เมื่อมาดูวิธีการไปยุแยงนักศึกษา โดยให้ข้อมูลว่า "...หน่วยงานที่มีปัญหา ที่จะเป็นตัวกีดกันการจบปริญญา หรือทำให้ปริญญาไม่ได้รับการรับรองก็คือสภาการพยาบาล " ก็ยิ่งรู้สึกว่าราชภัฏไปเอาวิธีการของทรชนมาใช้ได้อย่างไร

ดู ๆแล้วปัจจุบัน ราชภัฏมีพฤติกรรมในการบริหารจัดการการศึกษา ในลักษณะ ทำลายสังคม ด้วยหลักสูตรด้อยคุณภาพ ปรากฏอยู่ทั่วทุกหัวระแหง

ดูเหมือน โลภะจริตน่าจะเป็นต้นเหตุที่สำคัญ

ทั้ง ๆที่ราชภัฏเองใช่ว่าจะไร้ทุนทางปัญญา หรือทุนทางสังคมอื่น ๆที่จะสามารถนำมาใช้ทำประโยชน์ให้สังคมได้

อาจารย์หมอวิจารณ์ บอกให้เปลี่ยน " paradigm " ในการแนะนำ สกอ./กกอ.เพื่อแก้ปัญหาหลักสูตรด้อยคุณภาพเหล่านี้

จึงขอยืมมาใช้แนะนำราชภัฏบ้างว่า พวกราชภัฏก็ต้องเปลี่ยน " paradigm " เหมือนกัน

ถ้าไม่ชิพ " paradigm " แล้วละก็ รับรองบ้านเมือง ฉิบ...แน่ !!!

paaoobtong
10/04/52
8:53

หมายเลขบันทึก: 260218เขียนเมื่อ 10 พฤษภาคม 2009 08:58 น. ()แก้ไขเมื่อ 27 ตุลาคม 2015 19:56 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (10)

หลาย ๆ อย่างเห็นด้วยกับราชภัฏ  แต่อีกหลาย ๆ อย่างก็เห็นด้วยกับที่ท่านอาจารย์ว่า  โดยเฉพาะการจัดการศึกษาในลักษณะ " เรียนง่ายจังถ้ามีตังค์...จบแน่ "  ทำให้บุคลากรที่จบออกมา  หาคุณภาพไม่เจอ ไม่สามารถพัฒนาตนและพัฒนางานได้เลย

สวัสดีค่ะ

  • มีความเห็นคล้าย ๆ กับนายก้ามกุ้งค่ะ
  • ที่ราชภัฏพิบูลสงครามพิษณุโลก..ใครจบ ป.โทที่นั่นแล้วควรภาคภูมิใจอย่างยิ่งค่ะ
  • ขอบอกว่า..หินและเหนียวแน่นมาก..มีคุณภาพค่ะ
  • และมีการติดตามผล..อย่างต่อเนื่อง

 

เรียนท่านอาจารย์

  • ผมเชื่อมั่นว่า บันทึก ของอาจารย์หมอวิจารณ์  พานิช  กดที่นี่ เป็นการติเพื่อก่อ แต่ก็อดเป็นทุกข์แทนอาจารย์ที่ท่านพยายามสร้างและพัฒนาราชภัฏมา
  • ผมว่าประเทศไทยคงต้องปรับ paradigm การให้งบประมาณสนับสนุนมหาวิทยาลัยให้เกิดความเป็นธรรมด้วยนะครับ คล้าย ๆ กับว่า ลูกคนไหนเลี้ยงตัวเองได้ ก็ให้เขาเลี้ยงตนเอง ลูกคนไหนยังไม่เข้มแข็งก็ควรดูแลให้การสนับสนุนเป็นพิเศษ
  • ไม่ใช่ งปม.ก็ให้น้อย แล้วใช้ไม้เรียวฟาด บ่น ด่า ให้หาเลี้ยงและพัฒนาตนเองให้เข้มแข็ง ไม่เช่นนั้น ....

สวัสดีค่ะ

มาเป็นกำลังใจค่ะ

 

สวัสดีครับ อาจารย์ :)

ประเด็นนี้แทงใจข้างหน้าทะลุข้างหลังครับ

ดูเหมือนวิธีคิดของผู้บริหารแบบทรชน อาจารย์แบบทรชนที่เป็นเจ้าของหลักสูตร คนเขียนหลักสูตรทรชน ยังมีอีกเยอะครับ

มีการร้องเรียนกันบ่อย ๆ หากเปิดหลักสูตรแล้ว ไม่ได้แจ้งให้ทางต้นวิชาชีพทราบและอนุมัติเสียก่อน แต่เอา "เด็ก" เป็นตัวประกันทางสังคม ว่า หากไม่อนุมัติ คือ ไม่จบ ไม่ได้การรับรอง ไม่มีงานทำ

หลายคนทำเพื่อหาเงินเข้าสถาบันเป็นธุรกิจที่คิดง่าย ได้ง่าย แต่ประเทศชาติพังทลาย

หลายคนทำเพื่อความอยู่รอดของตัวเอง ไม่ยุบสาขาวิชา ตัวเองมีวิชาสอน เผลอ ยิ่งรับภาคพิเศษ ก็มีตังค์เข้ากระเป๋าต่อไปอีก

มีโอกาสที่ CHIP .... เดินทางหนีจากไปได้ครับ

ขอบคุณครับ :)

สวัสดีครับ...

 P 1. นายก้ามกุ้ง P 2. ครูคิม P 3. เด็กข้างบ้าน ~natadee P 4. แดงP 5. Wasawat Deemarn

  • ในฐานะที่อยู่ราชภัฏก็ขอบอกว่าราชภัฏได้ช่วย ได้สร้าง อะไรให้กับสังคมไว้เยอะ
  • ปัจจุบันกำลังทำอะไรหลายอย่างที่อาจเป็นผลร้ายกับบ้านเมือง โดยเฉพาะการศึกษาแบบสุกเอาเผากิน ที่เน้น ดังที่ Wasawat Deemarn ว่า "หาเงินเข้าสถาบัน(ไม่ค่อยแน่ใจ) เป็นธุรกิจที่คิดง่าย ได้ง่าย แต่ประเทศชาติพังทลาย"
  • พฤติกรรมอย่างนี้ ไม่ได้มีเฉพาะสถาบันราชภัฏอย่างเดียว กระแสนี้ แม้มหาวิทยาลัยใหญ่ ๆในกรุงเทพฯ ทั้งของรัฐ และเอกชน บางแห่งหรือ เกือบทุกแห่ง มากบ้างน้อยบ้าง ก็อยู่ในกระแสนี้
  • ในท่านกลางการทำงานที่อาจเป็นผลร้ายอย่างที่ว่า ผมก็เห็นบางผู้บริหาร บางคณะ และบางคณาจารย์ ก็ตั้งหน้าตั้งตาทำหน้าที่ของตนเองอย่างเต็มความสามารถ ดังที่ ครูคิมว่า "ที่ราชภัฏพิบูลสงครามพิษณุโลก" เป็นต้น  ผมว่าแทบทุกที่ก็ยังมีความดีหลงเหลืออยู่
  •     -ในความเห็นของผมคิดว่าในปัจจุบันนี้ ผู้บริหารระดับสูงของราชภัฏน่าจะเป็นตัวการสำคัญที่สุด ที่จะนำให้สถาบัน เป็น และ ไปทางไหน อย่างไร 
        -โดยวัฒนธรรมของราชภัฏ ครูบาอาจารย์และเจ้าหน้าที่ เป็นเสียงเงียบที่ไร้พลัง 
        -บัญญัติว่าด้วย ที่ไป ที่มา ของผู้บริหารที่ตราไว้ มีส่วนอย่างมากที่ทำให้ได้ผู้บริหารที่มักจะชักนำสถาบันไปสู่กระแสธารแห่งความเสื่อม
  •     -เรื่องงบประมาณก็เป็นเช่น เด็กข้างบ้าน ~natadee ว่า
        -แต่โดยส่วนตัวผม อยากให้ราชภัฎหันหน้าเข้าหาท้องถิ่น ทำอย่างไรให้ท้องถิ่นอยากเข้ามาโอบอุ้ม มีความรู้สึกว่าเป็นของ ๆของท้องถิ่น  รักและหวงแหน 
        -ปัจจุบันผู้บริหารราชภัฏส่วนใหญ่ก็ลูกชาวบ้านทั้งนั้น  แต่ยังไม่เห็นลูกชาวบ้านคนไหนเดินไปหาชาวบ้านอย่างเคารพนับถือโคตรเหง้าของตนเอง
  • หวังว่าคำเตือนของ อาจารย์หมอวิจารณ์ คงมีน้ำหนักพอที่จะทำให้เกิดการฉุกคิดของสถาบันต่าง ๆ ที่คิดและกำลังประพฤติอย่างนี้อยู่  โดยไม่ต้องรอให้ สกอ./ กกอ. เปลี่ยน paradigmเพราะถ้ามัวรอถึงวันนั้น  งาคงไหม้หมดแล้ว


                                                               paaoobtong
                                                                 11/05/52
                                                                    2:12

ปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้นทั้งหมดนี้ น่าจะมาจากแนวคิด ธุรกิจการศึกษา

หากคิดว่า การศึกษา คือ การพัฒนา แล้วทุกอย่างคงไม่เกิดแน่นอน

  • ผมเห็นด้วยกับ ประุถม นะครับที่ว่า "ปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้นทั้งหมดนี้ น่าจะมาจากแนวคิด ธุรกิจการศึกษา หากคิดว่า การศึกษา คือ การพัฒนา แล้วทุกอย่างคงไม่เกิดแน่นอน"
  • เมื่อวานนี้ ตอนเย็น ๆ  ผมก็ได้เห็นป้ายประกาศโฆษณาเปิดสอนหลักสูตรนิติศาสตร์รุ่นพิเศษ โดยอิงหลักสูตรของมหาวิทยาลัยเปิดแห่งหนึ่ง  นัยว่าอยู่ภายใต้การกำกับดูแลของ รศ.ที่ปลดเกษียณราชการแล้วท่านหนึ่ง สถานที่เรียนเป็นห้องแถวข้างถนนในเมืองเพชร 
  • สถานที่อย่างนี้ มันจะเป็นUniversity ได้หรือ
  • ผลผลิตของสถานศึกษาแบบนี้จะเหลืออะไรให้ไว้วางใจได้บ้าง???????????

                                                                        paaoobtong
                                                                          11/05/52
                                                                             23:13

เดือนร้อนมากกกกค่ะเห็นด้วยราชภัฎสุราษฎร์มีทุกอย่างครบใครดูแลหน่วยงานไหนที่ดูแลลองมาดูความจริงที่ปรากฏต่อสายตาผู้คนในชุมชนขุนทะเลสถาบันที่นำความเสื่อม.....โทรมในทุกด้าน ศีล 5 ผิดทุกข้อผู้นำเป็นมีหรือผู้พบเห็นคนใกล้เคียง(สมองคิดไม่ทัน)

จะเป็นตาม เอออออ...ซึมซับโดยไม่รู้ตัวยิ่เยาวชนด้วยแล้ว

สรวรรธก์ ไชยาวรรณ sorrawat chaiyawan

อาจารย์ครับ ผมเห็นด้วยและขอเป็นอีกแรงที่จะช่วยกัน..#ยกระดับคุณภาพ... ยกระดับความคิดภายใต้คำที่ว่า # ราชภัฏ คนของพระราชา ข้าของแผ่นดิน ครับ ขณะนี้เรากำลังลืมรากเหง้าแห่งความเป็นวิทยาลัยครูและความเป็นราชภัฏไปแล้วเช่นนั้นหรือ..นั้นคือความคิดผม...แต่ภายใต้การบริหารจัดการเพื่อหารายได้หล่อเลี้ยงตัวเอง..การเปิดหลักสูตรใหม่เพื่อเรียกเด็ก..นั่นก็เป็นเรื่องที่ทำได้และแสดงให้เห็นถึงความตั้งใจของราชภัฏนั้นด้วย...แต่อย่าทำโดยไร้ความรับผิดชอบ..และอย่าคิดทำเพียงเพราะต้องการรายได้แต่ไม่ส้รางความเป็น...มืออาชีพให้ตัวเอง..ซึ่งจะเป็นการบ่อนทำลายความเป็นราชภัฏไม่เฉพาะเจาะจงว่าที่ใหน....แต่จะเสียหายในภาพรวมกับราชภัฏทั้งหมดครับ....ผมหามานานคนที่จริงใจกล้าที่พูดเพื่อความถูกต้อง เพื่อการเปลี่ยนแปลงที่ดีกว่าของราชภัฏ...นับถืออาจารย์และขอกราบคารวะด้วยหัวใจครับ...

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท