โดยปกติแล้ว ผู้เขียนมักได้รับจดหมายจากคุณครูและผู้สนใจในการเรียนการสอนภาษาอังกฤษบ่อยๆๆ ในแต่ละวันมีจดหมายเข้ามาครั้งละมากๆๆ แต่ผู้เขียนจะเลือกตอบจดหมายที่เป็นประโยชน์แก่ครูที่สนใจจริงๆๆ ไม่อย่างนั้นก็ไม่ต้องทำอะไรกันพอดี ผู้เขียนได้รับจดหมายฉบับนี้เห็นว่ามีประโยชน์และคิดว่า อาจารย์ในมหาวิทยาลัยจำเป็นต้องปรับหลักสูตรการสอนแก่นิสิต นักศึกษาแล้ว ลองอ่านดูนะครับ
ข้อความ:
สวัสดีค่ะ... อาจารย์ขจิต
ดิฉันเป็นนักศึกษาที่เพิ่งสำเร็จการศึกษาระดับปริญญาตรี ครุศาสตร์บัณฑิต สาขาวิชาภาษาอังกฤษ จากมหาวิทยาลัยราชภัฏ……ค่ะ ดิฉันอยากจะรบกวนถามอาจารย์ว่าการที่จะเป็นครูสอนภาษาอังกฤษที่ดีนั้นเราต้องทำอย่างไรบ้างค่ะ เพราะดิฉันรู้สึกว่าการเรียนในห้องเรียนกับการนำไปใช้ในชีวิตจริงนั้นไม่เหมือนกันเลยเพราะเด็กบางคนไม่ให้ความสนใจในการเรียนภาษาอังกฤษ ส่งผลให้ผลสัมฤทธิ์ออกมาไม่ดีเท่าที่ควร รบกวนด้วยนะคะ
ขอบคุณล่วงหน้าค่ะ
คุณครูคนใหม่
ผมเลยตอบไปเท่าที่มีความรู้อันน้อยนิดว่า
เรียนคุณครูคนใหม่ที่เคารพ อยากให้คุณครูบูรณาการเรื่องที่เราเรียน เรื่องที่เราพบมาใช้สอนนักเรียน พยายามใช้สิ่งที่นักเรียนพบนักเรียนเห็นในชีวิตประจำวันมาประยุกต์ใช้ เช่นให้นักเรียนเขียนหรือพูดบอกการเดินทางมาโรงเรียนเป็นภาษาอังกฤษหรือให้นักเรียนลองช่วยกันเขียนกิจกรรมประจำวันของนักเรียนทำอะไรบ้างตั้งแต่เช้าจดเย็นหรือให้นักเรียนลองเขียนวิธีการทำอาหารที่นักเรียนชอบแล้วมานำเสนอเป็นภาษาอังกฤษในชั้นเรียนนอกจากนั้นคุณครูยังสามารถให้นักเรียนนำสิ่งของที่นักเรียนประทับใจเช่น ตุ๊กตา หรือของรางวัลที่ได้รับมา มานำเสนอในชั้นเรียนว่านักเรียนได้มาอย่างไร มีความประทับใจอย่างไร มาให้กำลังใจคุณครูมีอะไรพอช่วยได้บอกนะครับ ฝาก website และกิจกรรมสนุกๆๆมาให้ด้วยครับ
ผู้เขียนอยากได้คำแนะนำจากคุณครูและผู้ไม่ใช่คุณครูว่า ถ้าเป็นท่านจะแนะนำคุณครูท่านนี้ว่าอย่างไรครับ คุณครูท่านนี้จะได้มีกำลังใจในการสอนภาษาอังกฤษแก่นักเรียน ขอบคุณครับ ผมจะได้ส่งบันทึกนี้ไปให้คุณครูด้วยครับ....
ผมมีพี่สาวใจดีสอนอยู่ที่คุรุศาสตร์ ที่นั่นด้วยครับการเป็นครูที่ดีไม่ยากหรอกครับเราต้องหาสาเหตุหรือปัญหาของห้องเรียนที่เราจะสอนให้พบก่อนว่าสิ่งใดเป็นปัญหาหรือความต้องการของนักเรียนแล้วจัดการศึกษาและการเรียนให้แก้ปัญหาหรือสอดคล้องกับสิ่งนั้นๆๆบางทีการเรียนในชั้นเรียนของระดับอุดมศึกษาไม่ได้สอนเราแต่เราต้องเอาความรู้จากการเรียนมาประยุกต์ใช้ให้เกิดประโยชน์แก่นักเรียนและโรงเรียนของเราตอนแรกคุณครูคนใหม่จะรู้สึกว่าการสอนกับการเรียนในชั้นเรียนของคุณครูไม่ไปด้วยกันเพราะคุณครูมองแบบแยกส่วน
http://gotoknow.org/blog/yahoo/23041
English camp
http://gotoknow.org/blog/yahoo/28339
เพลง English Camp
http://gotoknow.org/blog/yahoo/28058
เกม Bird in the nest
http://gotoknow.org/blog/yahoo/27252
เกม collecting money
http://gotoknow.org/blog/yahoo/25173
เกมต่อคำ
http://gotoknow.org/blog/yahoo/18565
(Star fall) for children practice pronunciation
http://gotoknow.org/blog/yahoo/25457
(Story place) for listening
http://gotoknow.org/blog/yahoo/61932
websites for reading and listening
http://gotoknow.org/blog/yahoo/60494
Christmas
http://gotoknow.org/blog/yahoo/60309
Grammar
http://gotoknow.org/blog/yahoo/61015
writing
http://gotoknow.org/blog/yahoo/60068
Listening and pronunciation(good)
http://gotoknow.org/blog/yahoo/59648
Natures
http://gotoknow.org/blog/yahoo/62959
Vocabulary(Hangman)
http://gotoknow.org/blog/yahoo/58527
words and alphabet
http://gotoknow.org/blog/yahoo/58848
quizzes
http://gotoknow.org/blog/yahoo/58768
songs and close test
http://gotoknow.org/blog/yahoo/27736
English for adults
http://gotoknow.org/blog/yahoo/61341
Reading for adults and children
http://gotoknow.org/blog/yahoo/40416
Games (choose monkey) for writing and listening
http://gotoknow.org/blog/yahoo/37823
Vocabulary
http://gotoknow.org/blog/yahoo/27966
website for children(hippo)
ขอบคุณครับ
อาจารย์ขจิต ฝอยทอง
ขออนุญาตอ่านหลายๆ รอบ ก่อนนะครับ ขอบคุณมากครับ
สวัสดีค่ะ อ.ขจิต
ถ้าเป็นหนูคงตอบว่า ต้องดู หาหนังดีสักเรื่องค่ะ มาให้เด็ก แล้ววิจารณ์หนังค่ะ
สวัสดีครับ
ตอบยาวดี อิๆๆ
การให้ความรู้ไม่ใช่เรื่องยาก
แต่การทำให้นักเรียนสนใจ และได้ความรู้ไปจริงๆ นั้น ยากกว่ามากๆ
นอกจากการเตรียมตัวอย่างดีแล้ว ยังต้องเตรียม "ด้นสด" ด้วย
เพราะสถานการณ์อาจไม่ได้เป็นไปอย่างที่คาดเอาไว้ ;)
เรียนอ.ขจิต
สำหรับครูต้อยแล้วการสอนภาษาเป็นเรื่องที่สนุก ทำอย่างไรจะให้ผู้เรียนมีทัศนะคติที่ดีต่อการเรียนก่อน ให้รู้สึกออกมาจริงๆว่าภาษานั้นไม่ยาก และเป็นประโยชน์ในชิวิตประจำวันให้ได้ ดูแต่เสื้อนักเรียนสิค่ะ ทำไมเรียกเสื้อshirt ทำไมเรียกโทรทัศน์ว่า TV ทำไมคนชอบนำภาษาอังกฤษ ภาษาเกาหลี ภาษาจีน ญี่ปุ่น ฯลฯ มาใช้ในชีวิตประจำวัน ไม่ใช่เพราะดัดจริต หากเป็นเพราะอะไรน้องครูใหม่ต้องวิเคราะห์เอง แล้วจะเข้าใจ สังคมเด็ก
สิ่งเหล่านี้ครูผู้สอนต้องสะกิดให้นักเรียนคิด และค้นหาคำตอบเพิ่มเติมเองว่ามีอะไรอีกที่เข้ามาและทำให้ภาษามีอิทธิพลต่อการเรียนรู้ การใช้ชีวิตประจำวัน น้องครูใหม่มองว่าสิ่งที่เรียนมาไม่สามารถ นำมาใช้ในการปฏิบัติจริงได้
พี่อยากบอกว่าเพราะน้องยังไม่ได้ถอดบทเรียน การเรียนในมหาวิทยาลัยนั้น เรียนเพื่อพัฒนาตัวครูเองเพื่อให้รู้แนวทาง วิธีการมองปัญหา และคิดวิเคราะห์ปัญหา จนถึงการสรุปประมาณค่า และเลือกใช้ความรู้ที่เรียนมาได้อย่างลงตัว ฯลฯ
เมื่อน้องครูคนใหม่นำปัญหานั้นมาคิดหาวิธีการแก้ปัญหา ถึงตรงนี้แหละความรู้ทั้งหลายที่น้องร่ำเรียนมา ก็จะนำมาใช้พิจารณา การแก้ปัญหาโดยการลองผิดลองถูก การเลียนแบบ มากมายหลายวิธีที่น้องรู้มาสดๆ รวมทั้งการวิจัยที่น้องร่ำเรียนมาจากมหาวิทยาลัยก็จะถูกนำมาปรับใช้ให้เหมาะกับวัยและพัฒนาการของเด็กน้อยที่มีความแตกต่างกันทั้งด้านสมองและอารมณ์ สังคม กลับเป็นการท้าทายความสามารถของน้องครูใหม่ด้วยซ้ำไปที่สามารถเอาชนะปัญหาต่างๆที่เกิดขึ้น แต่ทั้งนี้ การเรียนรู้มิได้อยู๋ในตำราเท่านั้น น้องครูคนใหม่ต้องหมั่นเรียนรู้จากครูคนเก่า จากแหล่งเรียนรู้มากมายรอบตัวเราและต้องเรียนรู้จากเด็กน้อยด้วยแล้วปรับใช้ให้เหมาะกับบริบทแห่งตนเอง
อยากช่วยครูใหม่จังเลย
สวัสดีค่ะ
สวัสดีครับ อ.ขจิต
อ.ขจิตอีกทีครับ
อาจารย์คงไปตากแดดเก็บมะม่วงมากไปตัวเลยดำสนิท หิ ๆ ๆ
เป็นอีกคนที่ไม่เคยชอบเรียนภาษาอังกฤษกับครูไทยเลย ไม่ใช่ว่าครูไทยไม่เก่งนะค่ะเก่งมากด้วย แต่มีความรู้สึกบางอย่างในการเรียนภาษาอังกฤษคือ"กลัวตอบผิด"
"กลัวถูกดุ"และ"กลัวถูกต่อว่าต่อหน้าเพื่อน"
แต่จะชอบเรียนภาษาอังกฤษกับครูฝรั่งมากเพราะเขาไม่สามารถดุเราเป็นภาษาไทยได้ นี้เป็นเหตุผลส่วนตัวนะค่ะ
จากที่เคยสอนภาษาอังกฤษอยู่ช่วงหนึ่ง(ช่วงที่ครูภาษาอังกฤษที่โรงเรียนลาคลอด)ทุกชั่วโมงที่สอนภาษาอังกฤษเด็กที่เรียนด้วยจะเรียกชั่วโมงนี้ว่า "ชั่วโมงร้องเพลง" เพราะช่วงนั้นไม่รู้จะสอนอย่างไรทำได้แค่เพียงนำเพลงกับเนื้อหาที่จะสอนมาผูกกันเป็นเพลงทำให้นักเรียนรู้สึกสนุกกับการทำกิจกรรมเท่านั้น บางชั่วโมงเหมือนไม่ได้สอนแต่นักเรียนก็สามารถใช้ความรู้ที่ได้รับในชั่วโมงนั้นได้มากเลยทีเดียว
ก็ลองดูแล้วกันนะค่ะ เผื่อจะพอนำไปใช้ได้บ้าง
พี่ประกายอีกคนหนึ่งที่ไม่ชอบเรียนภาษาอังกฤษ แต่ก่อนครูสอนภาษาอังกฤษ เป็นนักบวช จะสอนให้ออกเสียง พูด อ่านให้ชัด พี่ทำไม่ได้ เลยไม่อยากเรียน พอโตขึ้นมาทำงาน มีฝรั่งมาสอนอีก เรียนได้อยู่ 5 ครั้ง ไม่ไปเรียนอีก ครูดุ ตามไม่ทัน เลยไม่อยากเรียน น่าจะเป็นข้อคิดนะคะ ทำอย่างไรการเรียนการสอนให้มีความสุขนะคะ
สวัสดีค่ะอาจารย์ขจิต
วันนี้หนูมาเล่นเน็ตที่บ้านเพื่อนค่ะ ตอนบ่ายจะไปสมัครสอบบรรจุครู
และจะไปนอนค้างที่บ้านป้าคิมค่ะ
ขอพรให้สอบได้เหมือนครูใหม่คนนี้ด้วยค่ะ
สวัสดีค่ะ
สวัสดีค่ะ อ.ขจิต ฝอยทอง
บันทึกมีประโยชน์มากค่ะ
ที่โรงเรียนดิฉันก็สอนภาษาอังกฤษค่ะ
และจะนำแนวทางที่อาจารย์บอกไปปฏิบัตินะคะ
โชคดี มีสุขค่ะ
สวัสดค่ะอาจารย์ขจิต แวะมาอ่านจดหมายจากคุณครูคนใหม่
เเต่จะให้คำเเนะนำอย่างไรดี ขอคิดก่อนนะคะ
อย่างที่อาจารย์แนะนำก็ดีนะคะ คือหาเเรงจูงใจให้เด็ก รางวัล
หรือเทคนิคอื่นๆที่จะไม่ทำให้การเรียนน่าเบื่อ
เหมือนชาวพยาบาลเราจะเเทงน้ำเกลือเด็กก็ต้องหาสิ่งเบี่ยงเบน
พูดคุยให้เขาผ่อนคลาย ไม่ให้กลัวหลอกล่อทุกวิถีทาง
เพื่อให้เด็กยอม คิดถึงอาจารย์อยู่เด้อไม่เห็นแวะไปทักทายเลยช่วงนี้
งอนเเล้ว
ผมอีกคนนึงที่เป็นครูสอนภาษาอังกฤษเหมือนกัน อยากจะปรับปรุง ให้เด็กได้มีความรู้ ในห้องเรียนมากขึ้น ต้องให้กิจกรรมเด็กให้มาก
อ.ขจิต ผมอยากจะเก็บ บล๊อคนี้ไว้จัง
สมัยเด็ก ครูเราให้เล่าเรื่องต่อกันเป็นภาษาอังกฤษก็สนุกดีนะ แบบคิดต่อกันไปเรื่อยๆ ขำมาก จากเรื่องหนึ่งโยงไปเป็นอีกเรื่องเพราะแล้วแต่ความเก่งภาษาของแต่ละคน พอแต่งคนละประโยคจนครบก็มาอ่านเป็นเรื่องรวมกัน ขำกลิ้ง จากนั้นครูก็มาแก้ไขจุดที่บกพร่องของรูปประโยคให้ว่าอะไรถูก อะไรไม่ถูก หรือถูกแต่ไม่สวยงาม ควรจะใช้อะไรที่ดีกว่า โหย...สนใจกันทั้งห้องเพราะช่วยกันแต่งไง จากนั้นเมื่อแก้ไขเสร็จก็เขียนใส่กระดาษไปแปะหน้าห้องให้ชั้นอื่นดู มาอ่านแล้วหัวเราะกันใหญ่เพราะเนื้อเรื่องติงต๊อง
อีกอย่างที่เราชอบมากก็คือครูสอนเพลง เอาเพลงที่มีความหมายดีและเพราะมาสอน เรียนจากเพลงทำให้เรารู้ศัพท์ที่มันสละสลวย หรือแสลง รวมถึงลักษณะคำที่ปกติภาษาประจำวันอาจจะไม่ได้ใช้
ที่ครูน่าจะสนับสนุนเด็กคือการอ่านหนังสือพิมพ์ภาษาอังกฤษ เราอ่าน Student Weekly ตั้งแต่เด็กจนจบมัธยมเลยนะ มี Pen Pals ต่างจังหวัดและต่างประเทศด้วย เขียนกันซี้ซั้วบ้างแต่ก็เข้าใจ มีแลกรูปถ่าย การ์ด ฯลฯ ยังเคยส่งของขวัญไปให้ด้วยเลย ทำให้ภาษาอังกฤษกลายเป็นเรื่องน่าสนใจ เวลาเพื่อนเขียนมาก็เอามาอ่านให้คนอื่นฟังในห้องเรียน (บอกเพื่อนปลายทางแล้ว)
สวัสดีค่ะอ.ขจิต
สวัสดีครับ
ขอร่วมด้วยคน
ผมคิดว่า น่าจะดู สภาพบริบทของโรงเรียน ว่า เป็นเช่นใด เราควรจะสอนในลักษณะใด
จึงจะเหมาะสม
และควรมั่นใจในตัวเอง คุรุ แปลว่า หนักแน่น
มันต้องทำได้ มันไม่ยากเกินความสามารถ ของครูหรอกครับ
สวัสดีครับพี่ขจิตที่เคารพ
เดย์ขอร่วมด้วยช่วยกันนะครับพี่ เผื่อจะใช้ได้ :)
อ่านดูความเห็นของทุกๆท่านแล้วก็พยักหน้า หงึกๆ เห็นคล้อยตามด้วยครับ ดูมีวิธีการดีมากๆๆ เลย
เดย์เรียนจบเอกภาษาอังกฤษมาครับผม เรียน 4 ปี จบมาก็ทำงานสายการบิน 4 ปี
ความรู้สึกแรกเลยคือ อยากกลับไปเรียนใหม่อีกรอบครับ :) ไม่ใช่เพราะเกิดช็อกอะไรหรอกครับพี่ แต่ว่า อยากกลับไปแสดงออกให้อาจารย์เห็นว่า นักเรียนที่ตั้งใจเรียนและให้ความร่วมมือในชั้นอย่างสนุกสนาน เพราะชีวิตจริงที่เจอมานั้น...มันเจ๋งกว่าในห้องเรียนตั้งเยอะๆๆๆๆๆ ^^
ต้องรีบอธิบายก่อนเดี๋ยวเข้าใจคลาดเคลื่อนครับว่า
เพราะเดย์รู้สึกว่าชีวิตทำงานจริงๆนั้นสนุกมากๆ มีอะไรให้เจอให้พบเยอะแยะ จึงอยากเอาประสบการณ์จริงกลับไปสร้างความหรรษาในห้องครับ :)
เพราะตอนเรียนนั้นน่ะ เรียนแบบงงๆว่า เรียนอันนี้เพื่อจะไปเจอกับความจริงอะไรนหนอ? จึงเรียนตามคำบอกไปก่อน...ตอนนี้เลยคิดเล่นๆครับว่า...ถ้ารู้งี๊นะ...จะเรียนในแบบการใช้ชีวิต จะเรียนแบบมีชีวิตชีวาเหมือนคนในสังคมเค้ามารวมตัวและคุยกัน :)
สรุปทั้งหมดคือ...
ในมุมนักเรียน/ เค้าไม่รู้ว่าจะเรียนไปเผื่ออะไร?(แต่สนใจและตั้งใจเรียนอยู่)
ในมุมอาจารย์/ อาจเป็นเพราะ อาจารย์ท่านนั้นเป็นคนเดียวกันกับ นักเรียนข้างบนหรือเปล่า? :) คือเพิ่งจบมาแล้วก็สอนเลยทันที
คุณเก้ง จิระ มะลิกุล ผู้กำกับคุณภาพชื่อด้งจาก 15 ค่ำ เดือน 11 ผมอ่านจากสัมภาษณ์ในนิตยสารเล่มหนึ่งครับจำไม่ได้ ขออภัยจริงๆ ได้สอนนักเรียนภาพยนต์ของท่านแบบหมดเปลือก สุดท้ายก่อนนักเรียนเหล่านั้นจะจบ คุณเก้งบอกนักเรียนคำหนึ่งว่า
"พวกเอ็งไม่ต้องคิดนะว่าจะรีบทำหนังทันทีที่เรียนจบ
จงออกไปใช้ชีวิตซะก่อน สัก 4-5 ปี, เพราะไม่อย่างงั้นหนังเอ็งจะไม่สมจริงและไร้ชีวิตชีวา " :)
ประมาณนี้นะครับพี่ขจิต คำพูดอาจจะไม่เป๊ะๆอย่างนี้ แต่เนื้อความถูกต้องแน่นอน :) ซึ่งผมชอบมากๆ
สำหรับอาจารย์ใหม่ท่านนั้นไม่ทราบว่าจะมีวิธียังไง แต่เดย์มองว่า เราเอาวิธีสอนที่เรียนมาไว้ใช้ แต่อาจจะต้องถอดร่างถอดวิญญาณอาจารย์ออกก่อน แล้วใส่ความจริงลงไปคนคนคนให้เข้ากัน...ลองดูนะครับ
แล้วมาสอนเค้าแบบรุ่นพี่ที่ผ่านชีวิตมาแล้ว...กลับมาเล่าให้น้องๆฟัง ดีมั้ยครับ :)
ไม่ได้ต้องการให้ลาออกก่อนหรืออะไรอย่างนั้นนะครับ แต่เราเอา ธรรมชาติมาสอนกันน่าจะใกล้ชิดกันมากขึ้น และไม่ยากอย่างที่คิด
เอารูปแบบมามัดรวมกับวิญญาณ แล้วหลอกหลอนให้เด็กๆหวีดร้องกันอย่างสนุกสนานและบ้าคลั่ง...อะไรอย่างนั้น 555
พี่ขจิตครับ เดย์ว่าเดย์จะเลอะเทอะเกินไปแล้ว ต้องขออภัยนะครับพี่ อิอิ ไม่เคยเม้นต์อะไรยาวขนาดนี้มาก่อนเลยครับจริงๆ ยาวกว่าบันทึกตัวเองบางอันซะอีก เหมือนได้ระบาย 555
หวังว่าจะไม่หลุดประเด็นนะครับพี่..ไปล่ะคร๊าบบบบ
คิดถึงครับผม ^_^
อ้อ...ลืมบอกครับ นักเรียนภาพยนต์ของคุณเก้งที่ได้รับคำสั่งเสียนั้นไป...แล้วนักเรียนทั้งหกคนนั้นก็ได้ออกไปใช้ชีวิต และกลับมาร่วมกันทำหนังให้คนไทยทั้งประเทศประทับใจไปแล้ว...
เรื่องนั้นชื่อว่า แฟนฉัน ครับ ^_^