ป้าเพ็ญที่จะพูดถึงนี้ ไม่เกี่ยวกับการเมืองนะคะ
และป้าเพ็ญก็ไม่ได้หนีความผิดไปที่ไหน ไม่ได้ทำร้ายคนอื่นด้วยคำพูดและการกระทำ...
ป้าเพ็ญอาศัยอยู่ที่บ้านเชียงพิณ หมู่ 9 คุ้มโนนแคน
ป้าเพ็ญ หญิงวัยทอง (อายุ 45 – 59 ปี) เป็นชาวบ้านธรรมดา หากินสุจริต ทำไร่ไถนา ไปตามประสาคนมีอันจะกิน......
ป้าเพ็ญเป็นผู้หญิงแกร่ง แข็งแรง ไม่มีโรคประจำตัว ปีที่แล้ว ป้าเพ็ญ มีอาการปวดศีรษะเรื้อรัง ไปขอยาที่สถานีอนามัยมากินอาการก็ไม่ดีขึ้น ป้าเพ็ญจึงไปโรงพยาบาล แพทย์ให้เอ็กซเรย์สมอง พบป้าเพ็ญมีก้อนที่สมองด้านขวา ต้องได้รับการผ่าตัด หลังผ่าตัดป้าเพ็ญมีอาการอัมพาตทั้งตัว ช่วยเหลือตัวเองไม่ได้ ...เมื่อมีอาการคงที่ ไม่มีภาวะแทรกซ้อนใด ๆ แพทย์จึงให้กลับบ้าน...
ป้าเพ็ญได้รับการดูแลที่บ้านจากน้องกายบุตรสาวคนเล็ก และหมออนามัยไปเยี่ยม (เปลี่ยนสายยางให้อาหารเดือนละครั้ง ..และแวะให้กำลังใจเมื่อผ่านไปดูแลผู้ป่วยคุ้มโนนแคน)
สงกรานต์ที่ผ่านมาป้าเพ็ญสูญเสียหลานสาวอายุ 4 ขวบ ที่ป้าเพ็ญเคยเลี้ยงมาเมื่อครั้งยังไม่ป่วย หลานสาวป้าพ็ญจมน้ำตาย หลังจากจัดการศพหลานสาวแล้ว อาการของป้าเพ็ญก็ทรุดลงเรื่อย ๆ
ป้าเพ็ญพูดไม่ได้ แต่สายตาบ่งบอกว่ารับรู้ทุกเรื่องราว
ช่วงกลางวันป้าเพ็ญจะน้ำตาไหลตลอด กลางคืนก็ไม่นอนดวงตาเหม่อลอย
เช้าวันที่ 21 เมษายน หลังอาบน้ำก่อนให้อาหารทางสายยาง ป้าเพ็ญก็จากไปอย่างสงบ....
เมื่อครั้งที่ผู้เขียนทำงานอยู่โรงพยาบาลอำเภอ มีโอกาสได้ไปงานศพบ่อย ๆ และเป็นงานที่ชอบไปช่วยเหลืออยู่เสมอ ๆ เวลาเปิดหน้ารดน้ำศพก่อนเผา ชอบยืนดูนาน ๆ หลังเผาศพแล้วก็จะมีภาพศพติดตาติดใจให้พิจารณาอยู่ประมาณ 2 - 3 วัน ....จนวันหนึ่งได้รดน้ำศพป้าของผู้เขียนที่เสียชีวิตเมื่อหลายปีก่อน มองเห็นเป็นภาพของตัวเองนอนสงบนิ่งอยู่ในโลงนั้น.....หลังจากนั้นมาเมื่อไปร่วมทำบุญงานศพ ผู้เขียนไม่รดน้ำศพก่อนเผาอีกเลย....(ไม่ได้กลัวนะคะแต่ถึงจุดที่บอกกับตัวเองว่าเลิกพิจารณาศพได้แล้ว..ผิว ผม ขน เล็บ เนื้อหนังมังสา กระดูก เอ็น..ความสวยงาม...ไม่เหลืออะไรเลย)
เมื่อวานผู้เขียนได้ไปร่วมส่งสการป้าเพ็ญที่วัดโนนแคน...เนื่องจากเป็นวัดป่ารึเปล่า..เมื่อเวลาจะเผาศพ จึงให้วางดอกไม้จันทน์ ในโลงศพ ผู้เขียนมีโอกาสยืนมองหน้าป้าเพ็ญเป็นครั้งสุดท้าย ป้าเพ็ญได้รับการแต่งตัวด้วยเสื้อผ้าไหมสีแดง ใบหน้าสงบนิ่งเหมือนนอนหลับ ...แต่ดูซูบกว่าตอนมีชีวิตอยู่เล็กน้อย....
เมื่อสิ้นป้าเพ็ญ น้องกายเล่าว่า จะขายที่ดิน ที่แม่มอบไว้ให้ เพื่อนำเงินมาแบ่งให้พี่ ๆ และพ่อ ที่นา 7 ไร่ ติดถนนใหญ่ท่าจะได้เงินมากโข ส่วนพ่อก็มี เจี๊ยบ ๆ ตั้งแต่แม่ไม่สบาย ....ส่วนน้องกายได้บ้านที่อยู่ปัจจุบัน เงินที่เหลือก็เก็บไว้ทำบุญให้แม่ ...ชีวิตคนเราก็เท่านี้...เอาอะไรไปไม่ได้เลย ...คงเหลือไว้แต่ความดี ให้คนกล่าวขานต่อไป
เช้านี้ ...ตื่นนอน ยืดเส้นยืดสาย ทำงานบ้าน ซักผ้า เปิดเครื่องเสียงบทสวดพระคาถาชินบัญชรเป็นเพื่อน ...ใบหน้าป้าเพ็ญลอยมาในความรู้สึก...น้ำตารื้น...คิดถึงเรื่องราว....ป้าเพ็ญ .....
สัพเพสัตตาอเวราโหตุ
สัพเพสัตตาอัพยาปัชชาโหตุ
สัพเพสัตตาอนีฆาโหตุ
สัพเพสัตตาสุขีอัตตานังปริหรันตุ
.....ขอดวงวิญญาณป้าเพ็ญสู่สุคติด้วยเถิด....สา..า..า..า.....ธุ
บ่ายนี้ต้องเดินทางไปร่วมประชุมสภาการพยาบาลสัญจรที่จังหวัดชัยภูมิ..อาจไม่ได้มาเยี่ยมพี่ ๆ เพื่อน ๆ สัก 2 - 3 วันนะคะ
ขอบคุณค่ะที่ติดตามอ่านจนจบ... ^_^...
ช่วยอวยพรให้ผู้เขียนและทีมงานเดินทางไป-กลับอย่างปลอดภัยด้วยนะคะ...*o*...ธุ