สงกรานต์ปีนี้ แม้จะมีเหตุการณ์บ้านเมืองที่โกลาหล แต่ผม ภรรยาและลูกสาวก็ไม่เปลี่ยนแปลงโปรแกรมเดินทางไปเยี่ยมครอบครัวของภรรยาที่อำเภอประโคนชัย จังหวัดบุรีรัมย์
ปีนี้กิจกรรมหนึ่งก็คือ "สูบน้ำจับปลา" อย่างที่เคยทำเหมือนปีก่อนๆ ผมเข้าใจว่านี่คือวิถีชีวิตของคนต่างจังหวัด โดยเฉพาะครอบครัวที่ทำอาชีพเกษตร สิ่งที่พ่อ แม่ภูมิใจที่จัดแจง จัดการให้ลูกๆมากในช่วงเทศกาลก็คือ เรื่องอาหารการกิน ที่พอจะมี พอจะหาได้ และผมเชื่อว่าพ่อตาผมตั้งใจที่จะประคับประคองบ่อกักน้ำกลางทุ่งนาเอาไว้ ด้วยใจจดจ่อว่าจะเป็นของกำนัลให้ลูกๆ หลานๆในช่วงเทศกาล ผมถามว่าพ่อต้องซื้อปลามาใส่เพิ่มหรือเปล่า? พ่อตอบว่า "เปล่า!...ปลามันมาเอง" ก็คือปลาที่เหลืออยู่ตามธรรมชาติ พอเริ่มมีฝนน้ำก็เริ่มสะสมไปเรื่อยๆ ปลาก็โตไปตามธรรมชาติ โดยไม่ได้ให้อาหารอะไร ครบปีก็พอดีจับได้
ปีนี้ก็เช่นกัน วันสงกรานต์วันแรก คือ 13 เมษายน พ่อและหลานขับรถไถควายเหล็ก พร้อมมีรถพ่วงไม้ที่ใส่ภาชนะใส่ปลา และอุปกรณ์ที่จะต้องประกอบในการสูบน้ำ ตั้งแต่เช้าตรู่ก็ไปติดตั้งเครื่องสูบน้ำ เพราะปีนี้น้ำในบ่อมีเยอะ (ระดับน้ำท่วมหัวผมเห็นจะได้) สูบน้ำออกจากบ่อเข้าไปในแปลงนา ซึ่งมีพี่อีกคนหนึ่งเตรียมหว่านเม็ดข้าวไว้รอก่อนหน้านี้แล้ว ซักประมาณเที่ยง หลานก็มาตามที่บ้านบอกว่าน้ำลดพอลงจับได้แล้ว เราก็เตรียมตัวเดินทางไปทุ่งนากัน
ผมขับรถปิคอัพไปจอดกลางทุ่งนาและต้องเดินเท้าอีกประมาณ 200 เมตร เพื่อขนของ ไปริมสระน้ำ แล้วก็ลงมือถางหญ้าคาเพื่อทำที่นั่งพักที่กันแดด พอดีทำเสร็จ ก็ลงจับได้เลย
ที่จับได้ทีทั้ง ปลาช่อน ปลาดุก ปลาหมอ ปลาแขยง ปลาไหล ปลาตะเพียน ปลาขาว หอยขม หอยโข่ง จับไปปิ้งปลาขอบบ่อกินไปเรื่อยๆ จับกันจนประมาณ 4 โมงเย็น แล้วเราก็เก็บอุปกรณ์เดินทางกลับ
เย็นนี้ก็เลยกลายเป็นว่าทีมผู้หญิงต้องมีงานหนัก คือ ทำปลา แบ่งปลาให้ญาติๆ ที่มาช่วยกันจับ และทำอาหารเมนูปลา
แน่นอนครับงานเช่นนี้ ผมไม่เคยพลาดที่จะได้แผลเล็ก แผลน้อย หญ้าตำ หนามตำบ้าง ได้ไปพอกระเทินเช่นทุกปีครับ
เรียน ท่านอาจารย์ธวัช
อ่านบันทึกแล้ว..อุ่นอิ่มมากเลยครับ..
ขอบคุณครับ
แวะมาชมบรรยากาศสงกรานต์ด้วยคนค่ะ